บทที่ 3 เอลิเซียมบาร์
Ink Stone_Fantasy
ทันใดนั้น เสียงของซูจื่อจวินก็ดังออกมาจากห้องตรวจ “คนถัดไปเข้ามาได้! อย่าให้เสียเวลา!”
พอลุงปีศาจหนูได้ยินก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวอย่างฉับพลัน พูดออกมาว่า “เอ่อ ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ วันนี้คงไม่ตรวจแล้ว!”
เห็นเพียงลุงปีศาจหนูทั้งโบกมือเป็นพัลวันทั้งถอยไปด้านหลัง ในตอนถอยไปถึงประตูด้านหลังแล้วก็เปิดประตูออกจากนั้นก็วิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
“เอ๋? ลุงปีศาจหนู! ยา! ยาบำรุงของซ้อปีศาจหนูละ! ลุงไม่เอาแล้วเหรอ!” เสียงของลั่วเพียนเซียนดังไล่หลังมา
“ไว้วันอื่น!” ลุงปีศาจหนูตอบกลับโดยไม่เหลียวหลัง
คงมีแต่ผีเท่านั้นที่กล้าอยู่ที่นี่นานๆ… ต้องถูกดูดเลือดเป็นถุงก่อนหรือไงถึงจะพอใจ คนโบราณกล่าวไว้ว่าไม่กลัวโจรขโมยของ กลัวก็แต่โจรจดจำและรังควาน ถ้าหากแจ็คพอตกรุ๊ปเลือดของตนถูกปากผีดิบตนนั้นเข้า ถูกกินจนเสพติด แล้วเขาจะทำยังไง!
ลุงปีศาจหนูไม่คิดว่าร่างกายเล็กๆ ของตนจะเพียงพอต่อความต้องการของผีดิบตนนั้น…แม้ว่าผีดิบตนนั้นจะมีสายเลือดผีดิบเพียงครึ่งเดียวก็เถอะ
…
…
“พ่อกลับมาแล้ว!”
ปีศาจหนูกลับถึงบ้านในตอนกลางคืน…สถานที่ไม่ใหญ่นัก แต่กลับตกแต่งได้เหมาะกับการอยู่อาศัย…และแน่นอนมันเป็นเพียงที่อยู่อาศัยที่เหมาะสำหรับปีศาจหนูเท่านั้น
เพราะว่าแต่เดิมที่นี่เป็นห้องใต้ดินที่ทั้งมืดและอับชื้น หากคนธรรมดาอาศัยอยู่ก็คงรู้สึกไม่สบายตัว แต่สำหรับพวกปีศาจหนูแล้วกลับเป็นสภาพที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด…เพราะว่าด้านล่างของห้องใต้ดินเป็นท่อระบายที่เชื่อมต่อไปทั่วทั้งเมือง
ภรรยาของปีศาจหนูแบกท้องกลมโตมารินน้ำชาให้ปีศาจหนู พร้อมให้เขานั่งลง “กินอะไรหรือยัง ตอนบ่ายฉันเก็บเนื้อกระป๋องที่ยังกินไม่หมดได้ด้วย!”
“เธอท้องโตขนาดนี้ อย่าออกไปเดินเหินส่งเดช!” ลุงปีศาจหนูมองภรรยาของตัวเองอย่างตำหนิ…แม้จะทำแบบนี้แต่ก็ไม่สามารถปิดซ่อนความอ่อนโยนในดวงตาได้
ในตอนนั้นเอง บรรดาลูกๆ ของลุงปีศาจหนูก็พุ่งกระโจนขึ้นมาบนตัวเขา ทั้งครอบครัวกลายเป็นสนุกสนานขึ้นมา
แต่เดิมนี่ควรเป็นเวลาชำระล้างความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาในหนึ่งวัน…ใช่แล้ว เดิมทีควรเป็นแบบนั้น
แต่ทว่าอารมณ์ของลุงปีศาจหนูกลับค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
“พ่อ! หนูอยากได้ของเล่นใหม่!”
“พ่อ พ่อ! หนูซื้อกล่องดินสอใหม่ได้ไหม อันเดิมใช้มาปีกว่าแล้ว…”
“พ่อ พ่อ…”
“นี่คุณ ค่าไฟเดือนนี้เพิ่มมาเยอะเลย…”
ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเช่นเดียวกับมนุษย์ชายวัยกลางคนเริ่มแผ่ขยายไปทั่วร่างของลุงปีศาจหนู ทำให้เขาอดถอนหายใจไม่ได้
แม้จะบอกว่าปีศาจหนูเป็นปีศาจที่เหมาะกับการอยู่ในเมือง…แต่ตามจริงแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าปีศาจชนิดอื่นๆ มากเท่าไร แต่ไหนแต่ไรมาพวกปีศาจหนูก็มีนิสัยขี้ขลาด พลังปีศาจมีจำกัด ถือเป็นชั้นล่างๆ ของพวกปีศาจมาโดยตลอด
ปีศาจหนูตนนี้ปฏิบัติตามกฎของหลงซีรั่วมาโดยตลอด ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอย่างสงบเสงี่ยม แม้จะหาเงินได้ไม่เท่าไร แต่ก็ยังทำให้หนึ่งครอบครัวของสิบกว่าชีวิตนี้สามารถใช้ชีวิตรอดมาได้
แต่ระยะนี้ลุงปีศาจหนูอดเริ่มกังวลไม่ได้…ไม่เพียงเพราะครอบครัวนี้จะมีสมาชิกเพิ่มเข้ามา แต่บรรดาลูกๆ ในครอบครัวก็เริ่มโตขึ้นแล้ว
ใช้จ่ายราวกับน้ำไหล…ลุงปีศาจหนูเริ่มรู้สึกว่าค่าจ้างอันน้อยนิดของคนงานดูแลท่อน้ำประจำเมืองดูท่าจะไม่พอแล้ว
…
ยามดึก ลุงปีศาจหนูนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ในใจรู้สึกว้าวุ่นมาก สุดท้ายจึงใส่รองเท้าออกจากบ้านไป
ด้านนอกฝนยังคงตก แต่สำหรับลุงปีศาจหนูแล้ว ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการออกข้างนอก…เพราะว่าเส้นทางที่เขาใช้คือท่อน้ำใต้ดินของเมือง
หลังจากนั้นไม่นาน ลุงปีศาจหนูก็มาถึงเขตโรงงานเก่าแห่งหนึ่งที่อยู่ในเมือง
ที่นี่ถูกทิ้งร้าง โรงงานจำนวนไม่น้อยย้ายออกไปแล้ว รวมถึงอะพาร์ตเมนต์ต่างๆ ที่สร้างเมื่อหลายปีก่อนก็ไม่ค่อยมีคนพักอาศัยอยู่แล้ว
ลุงปีศาจหนูเดินทะลุผ่านระหว่างโรงงานอย่างชำนิชำนาญ จากนั้นก็มาถึงสถานที่ที่ประตูหน้าต่างปิดสนิทแห่งหนึ่งแล้วก็เคาะประตูอย่างรวดเร็ว
ไม่นานประตูก็เปิดออก ชายร่างบางตากรีดอายไลเนอร์คนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของลุงปีศาจหนู
ต่อมาด้านในก็มีเสียงต่างๆ ผสมปนเปดังลอดออกมา พวกมันสั่นสะเทือนหูลุงปีศาจหนูจนอื้ออึง
เสียงเพลง แสงไฟดิสโก้และกลิ่นต่างๆ ด้านในผสมปนเปกันเต็มไปหมด ลุงปีศาจหนูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นคายไข่มุกเม็ดหนึ่งออกมาออกจากปาก วางลงไปบนมือของชายคนนั้น
ชายกรีดอายไลเนอร์เพ่งมองไข่มุกในมือครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มบางๆ: “ยินดีต้อนรับ”
ลุงปีศาจหนูเหมือนกับจะทนรอไม่ไหวก็ไม่ปาน เขาก้มหน้าเดินเข้าไป เพียงรู้สึกว่าอารมณ์ผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
ฟังเสียงเพลงดังกระหึ่มที่ราวกับสามารถสั่นกระแทกจิตวิญญาณแล้ว ลุงปีศาจหนูก็รู้สึกคล้ายกับกำลังถูกนวดตัว รู้สึกเหมือนว่าร่างกายเริ่มขยับเต้นไปตามท่วงทำนอง
สถานที่เหมือนที่มนุษย์ใช้เอาไว้ผ่อนคลายระบายอารมณ์ เหล่าปีศาจก็มีเช่นกัน
ดังนั้น ที่แห่งนี้ก็คือ…เอลิเซียมบาร์เป็นสถานที่ที่มีไว้เฉพาะให้พวกปีศาจได้ดื่มเหล้าสังสรรค์คลายเครียด
แน่นอนว่าลุงปีศาจหนูไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆ และสิ่งที่ใช้จ่ายกันที่นี่ก็ไม่ใช่เงิน แต่เป็นพลังปีศาจ ไข่มุกที่เขาคายออกมาตรงหน้าประตูเม็ดนั้นก็เป็นสิ่งที่ควบรวมมาจากพลังปีศาจ และก็เป็นค่าเข้าสถานที่แห่งนี้
สภาพแวดล้อมในเมืองไม่ดีนัก ทำให้การสั่งสมพลังปีศาจของพวกปีศาจยากลำบากมากขึ้น ลำบากยิ่งกว่าการหาเงินเสียอีก…ดังนั้นสถานที่แห่งนี้สำหรับลุงปีศาจหนูวัยกลางคนตนนี้แล้ว จึงเป็นสถานที่ที่สามารถมาได้เพียงหนึ่งครั้งในหนึ่งเดือนหรือสองเดือนเท่านั้น
ลุงปีศาจหนูเดินไปที่บาร์ เขาคิดจะมาดื่มเหล้าคลายเครียดที่นี่เท่านั้น ของอย่างอื่นที่นี่ เขาคงจ่ายไม่ไหว
บนเวทีใจกลางเอลิเซียมบาร์ในตอนนี้ มีผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังสะบัดสะโพกโยกส่ายร่างกายของตนเองอย่างเมามัน เธอใส่กางขาสั้นกับเสื้อกล้ามรัดรูป เสริมเข้ากับจังหวะดนตรีอันเร่าร้อน ทำให้ทุกท่วงท่าของเธอเต็มไปเสน่ห์เย้ายวนใจ
ด้านล่างเวที มีบรรดาปีศาจบางส่วนที่เผยเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่าปีศาจออกมาเพราะความเมามาย พร้อมกับโห่ร้องเป่าปากกันอย่างสนุกสนานลืมตัว
“ไฟร์ลิซาร์ดหนึ่งแก้ว” ลุงปีศาจหนูนั่งลงละสายจากเวที เขาเท้าแขนไปบนเคาน์เตอร์มองไปยังบาร์เทนเดอร์ปีศาจหมูป่า
“พริตตี้มาใหม่เหรอ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นมาก่อน มาจากไหนกัน?”
“เธอนะเหรอ” บาร์เทนเดอร์หมูป่าทั้งเทของเหลวสีแดงเพลิงลงไปในแก้วทั้งเอ่ยว่า “เธอไม่ใช่พริตตี้หรอก เธอเป็นเหมือนกับนายนั่นละที่มาที่นี่เพื่อหาความสนุก ส่วนที่ว่ามาจากไหนนั้น ฉันเองไม่รู้หรอก ตามกฎของที่นี่ พวกเราจะไม่ถามความเป็นมาของลูกค้า”
“งั้นเหรอ…” ลุงปีศาจหนูหยักไหล่ ดื่มเหล้าไฟร์ลิซาร์ดพร้อมหรี่ตาลง เอ่ยขึ้นอย่างชอบใจว่า “แต่ว่าหุ่นนี่เร้าร้อนสุดๆ!”
“อะไรนะ คนขี้กลัวอย่างนายก็กล้าเข้าไปยุ่งรึ” บาร์เทนเดอร์หมูป่าเอ่ยขึ้นอย่างดูแคลน “ไม่ใช่ว่าฉันอคติกับนายนะ นายลองดูข้างล่างเวทีก่อน ในสิบคนมีแปดคนที่สนใจเธอ แต่ว่าแต่ละคนกลับสงบเสงี่ยมเจียมตัว กล้าดู แต่ไม่กล้าแตะ!”
“หืม?” ชั่วขณะลุงปีศาจหนูก็ยื่นคอยาวเงี่ยหูไปฟัง เขาชอบฟังเรื่องซุบซิบนินทานักล่ะ
บาร์เทนเดอร์หมูป่าเขยิบเข้ามาใกล้ เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจังว่า “ฉันรู้แค่ว่าเธอเพิ่งจะโผล่มาเมื่อครึ่งปีก่อน และมาที่นี่เพียงแค่ครั้งสองครั้ง…หากนับวันนี้ก็คงเป็นวันที่สามมั้ง ที่นายไม่เคยเจอไม่แปลก แต่ถึงผู้หญิงคนนี้จะเร่าร้อนแค่ไหนก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วย ครั้งที่แล้วมีพวกไม่เจียมกะลาหัวเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธอ สุดท้ายนายรู้ไหมว่าเป็นยังไง”
“เป็นยังไง”
บาร์เทนเดอร์หมูป่าหยิบถังน้ำแข็งใต้เคาน์เตอร์กระแทกแรงๆ ลงตรงหน้าลุงปีศาจหนู แล้วชี้ไปที่น้ำแข็งข้างใน “ก็กลายเป็นแบบนี้ กลายเป็นน้ำแข็งอย่างเฉียบพลัน เพียงแค่สัมผัสโดนก็จะละเอียดกลายเป็นเศษซาก!”
ลุงปีศาจหนูหดคอในทันใด เขาเป็นพวกปีศาจชั้นล่างที่มีพลังปีศาจต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุด พอได้ยินถึงปีศาจร้ายกาจที่มาจากต่างถิ่น ก็ต้องรู้สึกกลัวเป็นธรรมดา “กลายเป็นก้อนน้ำแข็งอย่างเฉียบพลัน…เป็นปีศาจอะไรกัน”
บาร์เทนเดอร์หมูป่ายักไหล่เอ่ยว่า “ฉันก็ไม่รู้ แต่ได้ยินมาว่าชื่อหลีจื่อ”
ลุงปีศาจหนูพยักหน้า จำชื่อเอาไว้แล้วไม่ถามมากอีก ก้มหน้าลง เริ่มทำตามเป้าหมายที่ตนเองมาที่นี่ ‘ปีศาจตนหนึ่งกับเหล้าคลายเครียด’
“เอามาอีกแก้ว!”
ผ่านไปยังไม่ถึงสิบนาที ลุงปีศาจหนูเริ่มที่จะเมาแล้ว เหล้าไฟร์ลิซาร์ดห้าแก้วตรงหน้าถูกซดจนเกลี้ยง
“ดูเหมือนนายกำลังมีเรื่องอัดอั้นตันใจนะ” บาร์เทนเดอร์หมูป่าที่ตอนนี้กำลังเช็ดแก้วเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ
ลุงปีศาจหนูเงยหน้ายิ้มขึ้นมา เรอออกมาทีหนึ่ง “นาย… นายไม่เข้าใจหรอก นายไม่เข้าใจ…นายไม่เข้าใจหรอก…”
“ลองเล่ามาสิ”
ลุงปีศาจหนูส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้นว่า “ฉัน ฉันขอถามนายคำถามหนึ่งสิ นายว่า…เอิ๊ก…นายว่ามีวิธีอะไรที่จะหาเงินได้เร็วและปลอดภัยโดยไม่แหก…ไม่แหกกฎของท่านหลงไหม หาเงินได้เยอะ…เยอะๆ”
บาร์เทนเดอร์หมูป่าขยับเข้ามาใกล้ เอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า “วิธีที่หาเงินได้ทั้งเร็วและปลอดภัยมีอยู่เยอะแยะ แต่ว่าไม่อยากแหกกฎของท่านหลงด้วยคงเหลือไม่มากเท่าไร”
ลุงปีศาจหนูชะงักไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเมาๆ ว่า “ที่เหลือไม่เท่าไร…มันเท่าไร?”
บาร์เทนเดอร์หมูป่ามองไปรอบๆ ด้วยท่าทีดูลึกลับแล้วเอ่ยกระซิบที่ข้างหูว่า “นั่นก็ต้องดูที่ตัวนายเองแล้วว่ามีความกล้าไหม!”