บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน – บทที่ 955 จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัว!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 955 จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัว!

บทที่ 955 จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัว!

บรรยากาศพลันกลายเป็นเยือกแข็ง และแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบงันที่บีบคั้นซึ่งอันตรายถึงชีวิต

“ข้าน้อยต้องขออภัยต่อความยโสก่อนหน้านี้ด้วยขอรับ ข้าไม่ทราบว่ามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ข้าน้อยมีนามว่าชื่อชุยหรูอิ๋น และข้าหวังว่ามหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะปล่อยพวกเราไปเพื่อเห็นแก่บรรพบุรุษของตระกูลข้าน้อยด้วย” เด็กชายผมขาวทำลายความเงียบที่บีบคั้น และเสียงที่ชัดเจนของเขาก็ดังกึกก้องไปทั้งฟ้าดิน

“บรรพบุรุษของตระกูลชุยหรือ?? ฮึ่ม! กรมราชทัณฑ์ในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เลวร้ายและมีความขัดแย้งภายในที่ไม่มีที่สิ้นสุด และทั้งหมดนี้เป็นเพราะฝีมือของเศษสวะอย่างพวกเจ้าทุกคน แม้แต่สมบัติศักดิ์สิทธิ์อย่างเข็มทิศปกโลกก็ไม่สามารถปกป้องได้ หากข้าไม่มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ข้าจะไปถามชุยเจิ้นคงว่าเขาตั้งใจจะมอบกรมราชทัณฑ์ให้แก่ผู้อื่นหรือไม่”

เสียงทุ้มต่ำดังก้องกังวานออกมาอีกครั้ง และมันแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่กดดัน

ชุยเจิ้นคง!

บรรพบุรุษของตระกูลชุย ผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นยอดที่บ่มเพาะอย่างสันโดษ ด้วยการมีอยู่ของคนผู้นี้ ทำให้ตระกูลชุยสามารถควบคุมกรมราชทัณฑ์ได้อย่างมั่นคง แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดความขัดแย้งภายในที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ตาม

เนื่องจากเจ้าของเสียงกล้าที่จะเอ่ยนามของชุยเจิ้นคงโดยตรง จึงยิ่งตอกย้ำให้ชุยหรูอิ๋นและคนอื่น ๆ มั่นใจว่าเจ้าของเสียงนี้คือ ฉีซานเหอ มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกอย่างไม่ต้องสงสัย!

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ทุกคนเงียบสนิทดุจจักจั่นที่จำศีลในฤดูหนาว และพวกเขาก็ไม่กล้าขยับเขยื้อน

“บัดซบ! รีบไสหัวไปจากภูมิภาคน้ำพุยมโลกเดี๋ยวนี้!” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอีกครั้ง

“ท่านมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ สตรีผู้นี้คือ…” เด็กชายผมขาวชุยหรูอิ๋นได้รวบรวมความกล้าที่จะกล่าวออกมา

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้น ในขณะที่ร่างของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีอีกคนระเบิดและเสียชีวิต ณ จุดนั้น นี่เป็นคำเตือน และตราบใดที่ไม่ใช้คนโง่เขลาเบาปัญญา พวกเขาย่อมเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่เบื้องหลังได้

ชุยหรูอิ๋นไม่กล้าลังเลอีกต่อไป เขาจ้องไปยังเป้ยหลิงอย่างดุดัน ก่อนจะทะยานขึ้นฟ้าและจากไปอย่างเร่งรีบพร้อมกับคนอื่น ๆ

เป้ยหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นสิ่งนี้ จากนั้นนางก็กล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยข้าจากสถานการณ์นี้ ข้าจะจดจำความเมตตาครั้งนี้ตลอดไป”

“ฮึ่ม! ข้าไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเจ้า หืม?” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำแค่นเสียงเย็น จากนั้นเขาดูจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง และหายไปอย่างกะทันหัน

วูบ!

ในขณะนี้ ห้วงมิติแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อร่างสูงใหญ่ของเฉินซีก้าวออกมา และเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเป้ยหลิงปลอดภัยดี จากนั้นจึงกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเจ้าถึงทำลายยันต์ที่ข้าให้ไป?”

ขณะที่กล่าว ชายหนุ่มได้กวาดสายตาไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นกองเลือดสองกองบนพื้น ในขณะที่อากาศยังคงมีกลิ่นเลือดลอยอยู่ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เห็นได้ชัดว่ามีคนสองคนเสียชีวิตที่นี่ก่อนหน้านี้

เป้ยหลิงจัดความคิดของนาง ก่อนจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้แก่เฉินซีฟัง

ปรากฏว่าในช่วงบ่ายวันนี้ นางกำลังบ่มเพาะในฐานลับของตระกูลชุย ณ เมืองราหู ทว่ากลับมีคนบุกเข้าไปในนั้นอย่างกะทันหัน และพวกเขาประกาศความตั้งใจที่จะจับตัวชุยชิงหนิง

และเพราะไม่กล้าที่จะลังเล หญิงสาวจึงหนีไปพร้อมกับชุยชิงหนิงในทันที แต่น่าเสียดายที่นางยังคงถูกสกัดอยู่ที่นี่

เนื่องจากศัตรูมีพลังที่กล้าแกร่งเกินไป นางจึงต้องทำลายยันต์ที่ได้มาอย่างหมดหนทาง หลังจากนั้นมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกก็ปรากฏตัวเพื่อขับไล่ชุยหรูอิ๋นและคนอื่น ๆ ออกไป …

“มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกหรือ?” เฉินซีตกตะลึง เนื่องจากเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดเช่นนี้

“แม่นางชุยอยู่ที่ใดหรือ?” เฉินซีเอ่ยถาม

“ข้าซ่อนนางไว้ในสมบัติของข้า ดังนั้นตอนนี้นางจึงสุขสบายดี” เป้ยหลิงตอบ จากนั้นนางก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “แต่ข้ากังวลว่ากู่เทียนอาจจะประสบเคราะห์ร้าย มิฉะนั้น ชุยหรูอิ๋นและคนอื่น ๆ จะมาตามหานางก่อนเขาได้อย่างไร”

เฉินซีถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวว่า “ข้าก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ยังเหลืออีกเจ็ดวันก่อนจะถึงวันที่เราได้ตกลงกันไว้ เราควรอดใจรออีกนิด และภาวนาให้พี่กู่ปลอดภัย อย่าได้ประสบคราเคราะห์ใด ๆ…”

“แล้วถ้าเขาประสบเคราะห์ร้ายเล่า?” เป้ยหลิงอดไม่ได้ที่จะถาม

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะพาแม่นางชุยไปที่ภูมิภาคราชหกวิถีเอง” เฉินซีตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ไม่ว่ามันจะเป็นการตอบแทนบุญคุณหรือเพื่อให้ได้เบาะแสเกี่ยวกับเข็มทิศปรโลก ข้าก็ต้องทำสิ่งนี้”

เป้ยหลิงพยักหน้า

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะถาม “แล้วเจ้าล่ะ? เจ้ายังตั้งใจจะแสร้งเป็นสาวใช้ของข้า และติดตามอยู่เคียงข้างข้าหรือไม่”

เป้ยหลิงตอบกลับด้วยคำถาม “ทำไมจะไม่ล่ะ?”

จิตใจของสตรีคนนี้เย็นชาดุจน้ำแข็ง อีกทั้งยังไม่สามารถคาดเดาได้

อย่างไรก็ตาม เฉินซีไม่สามารถคาดเดาถึงการปรากฏตัวของชุยหรูอิ๋นและคนอื่น ๆ หรือชะตากรรมที่ทราบเป็นที่แน่ชัดของกู่เทียน ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายที่อธิบายไม่ได้ และไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น

“จงรับผลปารมิตาสี่ลูกนี้ไป เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการเป็นสาวใช้ของข้า” เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งผลปารมิตาที่เหลือให้แก่เป้ยหลิง

เห็นได้ชัดว่าเป้ยหลิงตกตะลึง นางจ้องมองเฉินซีอย่างแน่วแน่เป็นเวลานาน ก่อนจะรับพวกมันไปในที่สุด “ขอบคุณมาก ข้าจะแสดงบทบาทของข้าให้ดี”

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคิดจะพาอีกฝ่ายติดตามไปด้วยตลอด เพราะถึงอย่างไร ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนของยมโลก และเขาจะจากไปทันทีเมื่อพบกับชิงซิ่วอี้

“ท้องฟ้าสว่างไสวด้วยเปลวไฟและดอกปารมิตาลงมายังโลก พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นคนแรกที่ข้าได้พบในรอบหลายพันปี ที่สามารถบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาได้อย่างถ่องแท้” ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำได้ดังก้องในพื้นที่อีกครั้ง

เจ้าของเสียงนี้คือชายชราที่สวมอาภรณ์สีดำและมีร่างกายผอมแห้งประหนึ่งต้นไผ่ เขาเอามือไพล่หลังไว้ขณะที่กำลังก้าวเดินอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า สีหน้าของคนผู้นี้เย็นชา นัยน์ตาล้ำลึกราวกับหุบเหว แม้กลิ่นอายของเขาจะธรรมดา แต่กลับสามารถทำให้จิตวิญญาณสั่นสะท้านได้

มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลก!

เมื่อเห็นการปรากฏตัวของคนคนนี้ เป้ยหลิงกับเฉินซีก็รู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที ซึ่งพวกเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และไม่สามารถคาดเดาแรงจูงใจในการปรากฏตัวของอีกฝ่ายได้เลย

โดยเฉพาะเฉินซี เขาฆ่าคนของโถงน้ำพุยมโลกไปตั้งหลายคนเมื่อสามวันก่อน ดังนั้นชายหนุ่มจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ปกครองสูงสุดของโถงน้ำพุยมโลกในยามนี้

“ตามความเข้าใจของข้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาได้อย่างถ่องแท้ โดยอาศัยผลปารมิตาเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นข้าขอถามเจ้าหน่อยได้หรือไม่ว่า ตัวเจ้าหยั่งรู้ถึงเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตามาจากที่ใดกัน?” แม้ว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายจะราบเรียบ แต่ทุก ๆ คำพูดหรืออิริยาบถกลับมีพลังที่พุ่งตรงสู่หัวใจของทุกคน จนพวกเขาไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าการหมอบกราบลงตรงหน้า

นี่เป็นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อดวงวิญญาณและจิตสำนึกของผู้อื่นผ่านท่าทางของตนเอง อีกทั้งยังน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

“เรียนผู้อาวุโส ผู้เยาว์ได้เรียนรู้โดยบังเอิญเท่านั้น” เฉินซีสูดหายใจลึก ก่อนที่จะกล่าวออกมา

“เจ้าโกหก!” ในขณะที่มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกกะพริบตา มันเหมือนกับสายฟ้าสองสายได้พุ่งออกมาอย่างดุดัน มันจดจ้องเฉินซีอย่างเย็นชา ราวกับตั้งใจมองผ่านจิตใจของชายหนุ่มจากภายในสู่ภายนอก

ภายใต้การจดจ้องเช่นนั้น เฉินซีรู้สึกราวกับร่างกายของตัวเองแข็งทื่อ และสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่ธรรมดาซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจ …หากไม่ใช่เพราะดวงจิตแห่งเต๋าของชายหนุ่มได้บรรลุถึงระดับของวิญญาณดวงใจ เฉินซีอาจจะไม่สามารถทนมันไหว และเขาคงได้แต่ยอมศิโรราบอย่างเชื่อฟังไปแล้ว

ความประหลาดใจเล็กน้อยฉายวาบอยู่ในดวงตาของมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลก ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะคาดไม่คิด “ไม่ต้องกังวล แม้เจ้าจะฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่พวกมันก็ไม่ได้ตายอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นข้าจะไม่ถือสาเจ้าเพียงเพราะเหตุนี้”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา หัวใจของเฉินซีก็สั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับตกตะลึงอย่างมากในใจ เนื่องจากเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกจะทราบเรื่องทุกอย่างที่เขาได้กระทำในช่องเขาพระราหูแล้ว

“ช้าก่อน” ในช่วงเวลาถัดมา มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกดูจะตระหนักได้ถึงบางสิ่ง เขาจึงแหงนหน้าขึ้นอีกครั้งและจ้องมองไปทางเฉินซีราวกับว่ากำลังตรวจสอบวัตถุปริศนาที่ไม่รู้จัก ซึ่งท่าทางของเจ้าตัวก็สลับไปมาระหว่างขมวดคิ้ว กลอกตาครุ่นคิด และประหลาดใจ…

หลังจากผ่านไปนาน สีหน้าของฉีซานเหอจึงกลับคืนสู่ความสงบในที่สุด

การหายใจของเฉินซีในตอนนี้เกือบจะหยุดลง แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะแรงกดดันจากมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกนั้นรุนแรงเกินไป แม้มันจะดูเรียบง่ายธรรมดา แต่กลับน่าสะพรึงกลัวและน่าอึดอัดยิ่งกว่าตอนที่เขาเผชิญหน้ากับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับอย่างเหลียงปิงเสียอีก

ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงสามารถระบุได้ราง ๆ ว่า พลังของมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับเลยแม้แต่น้อย!

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของชายหนุ่มหนักอึ้ง ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้ว กรมราชทัณฑ์ที่ตระกูลชุยควบคุมนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าโถงน้ำพุยมโลกที่มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกควบคุมอยู่แม้แต่น้อย

และหากเป็นเช่นนั้น การบ่มเพาะของผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรมราชทัณฑ์จะน่าเกรงขามเพียงใด?

…แล้วมหาเสนาบดีแห่งวิถีวิญญาณ วิถีนรก และวิถีอสูรล่ะ? พวกเขาจะน่าเกรงขามเหมือนกันหรือไม่?

เฉินซีทราบดีว่า ตราบใดที่เขาต้องการหาเบาะแสเกี่ยวกับเข็มทิศปรโลก ชายหนุ่มก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกองกำลังอันยิ่งใหญ่ในนรกใต้พิภพได้ และบางทีอาจถึงขั้นเกิดความขัดแย้งกับตัวตนระดับสูงอย่างมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกก็เป็นได้!

ด้วยเหตุนี้ ข้อได้เปรียบของเขาจะหายไปโดยสิ้นเชิง

แต่โชคดีที่ชายหนุ่มไม่ได้โดดเดี่ยว เขาสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งของหม้อใบจิ๋วได้

เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น

“นี่คือตราคำสั่งน้ำพุใต้พิภพของข้า มันสามารถช่วยเจ้าได้เมื่อจำเป็น”

ทันใดนั้น มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกได้โพล่งออกมา พร้อมกับเงื้อมือขึ้นเพื่อสะบัดตราคำสั่งไปยังเฉินซี จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปยังชายหนุ่มอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะหันหลังกลับและจากไป

“ข้าหวังว่าข้าจะไม่ได้ดูคนผิดไป”

นี่เป็นคำพูดสุดท้ายที่มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกได้กล่าวทิ้งไว้ ก่อนที่เขาจะหายตัวไป

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกงุนงงและตกตะลึง เพราะไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงสิ่งใด แต่ตราคำสั่งที่อยู่ในมือได้ตอกย้ำชายหนุ่มอย่างชัดเจนว่า เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจริง!

ตราคำสั่งมีขนาดเท่าฝ่ามือ มันสว่างและเรียบเนียนเหมือนหยก มันอบอุ่นและสดชื่นเมื่อสัมผัส พื้นผิวของมันเผยให้เห็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พาดผ่านท้องฟ้าราวกับว่ากำลังลุกไหม้

ที่ด้านหลังของตราคำสั่ง มีเพียงอักษรสามตัวที่งดงามและเก่าแก่ประหนึ่งมังกรทะยานสู่สวรรค์ทั้งเก้า ซึ่งคำนั้นคือ ฉีซานเหอ!

เห็นได้ชัดว่านี่คือชื่อของมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลก

“ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจากเจ้า” เป้ยหลิงชำเลืองมองเฉินซี ขณะที่ประกายแห่งความงดงามที่ไม่ธรรมดาส่องผ่านดวงตาของนาง

“อย่างไรเสีย มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย” เฉินซีถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะเก็บตราคำสั่งอย่างระมัดระวัง

เฉินซีรู้สึกได้เช่นกันว่า มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกสังเกตเห็นความลับบางอย่างของเขา แต่ชายหนุ่มไม่กล้ายืนยันว่ามันเป็นความลับใด ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ เพราะเขามีความลับมากเกินไป

ตัวอย่างเช่น ระเบียนแดนมรณะ พู่กันพิพากษามาร ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ชะตากรรมของเขาที่ถูกปกปิดโดยความลับของสวรรค์ และการมีอยู่ของหม้อใบจิ๋ว ทั้งหมดนี้อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกสังเกตเห็น

แต่สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่ามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกจะไม่ได้มีเจตนาร้าย ดังนั้นเฉินซีจึงไม่ได้คาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป เพราะมีบางสิ่งที่คนเราจะเข้าใจได้เองเมื่อถึงเวลา และหากเสียเวลาไปกับการไตร่ตรองทั้งที่ไม่เข้าใจ มันจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับตนเองโดยไม่จำเป็น

“กลับเมืองราหูกันเถอะ ถ้าพี่กู่ไม่กลับมาภายในเจ็ดวัน เราจะออกเดินทางไปยังภูมิภาคราชหกวิถีกัน” เฉินซีหยุดลังเลและนำเป้ยหลิงไปด้วย ก่อนที่ตัวคนจะวาบหายไปจากจุดนั้น

แม้ว่าจะแค่เจ็ดวัน แต่ก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้กลับคืนสู่จุดสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์ ในเวลานั้น ชายหนุ่มสามารถรับมือกับอันตรายส่วนใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพากำลังของหม้อใบจิ๋ว

ยิ่งไปกว่านั้น ตราคำสั่งที่มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกมอบให้ ทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจมากขึ้นในการมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคราชหกวิถีเพื่อค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับเข็มทิศปรโลก!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท