เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 120 ชุมชนการผลิตหงซินได้รับการอวยพรแล้ว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 120 ชุมชนการผลิตหงซินได้รับการอวยพรแล้ว

บทที่ 120 ชุมชนการผลิตหงซินได้รับการอวยพรแล้ว

เปรียบเทียบในฐานะพี่ชายแล้ว เขารู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถ!

“แต่เธอเป็นพี่ใหญ่ ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ล่ะ” ซูฉางจิ่วกล่าวประโยคบีบคั้นหัวใจในทันใด

ยามที่แววตาคู่เล็กจ้องมองผ่านร่างซูโส่วเวิน มันมีแต่คำดูถูก…

ซูโส่วเวิน…

ถึงไม่อยากยอมรับแต่ก็พูดอะไรไม่ได้

เขาเคยคิดว่าตัวเองค่อนข้างมีความสามารถ พอเทียบแล้วก็รู้สึกอย่างที่หัวหน้าพูดจริง ๆ ว่าไร้ประโยชน์

ไม่ว่าจะแย่แค่ไหนก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถึงจะนับได้ว่าไม่มีประโยชน์อันใดจริง ๆ แต่มันก็ไม่สามารถยอมรับได้ใช่ไหมล่ะ?

“หัวหน้า ผมว่าผมไม่เป็นไรครับ!” ซูโส่วเวินพูดอย่างกล้าหาญ และยิ้มอย่างอึดอัด

ซูฉางจิ่วมองเด็กคนนี้อยู่นาน หากแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก

เห็นชัด ๆ ว่าเป็นเด็กที่โตมาอย่างสูงสง่า! แล้วจะโตมาอย่างไร้สมองได้อย่างไร? ซูโส่วเวินไม่รู้ว่าซูฉางจิ่วกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่งั้นสถานการณ์ตรงนี้คงยุ่งเหยิงแน่

หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ซูเสี่ยวเถียนและตู้ถงเหอก็ถอนทัพ

ถึงแม้จะเกลี้ยกล่อมใครไม่ได้ แต่พวกเขาก็หยุดโต้เถียงกัน

“เสี่ยวเถียน ไว้ครั้งหน้าค่อยมาคุยกัน เราจะหารือกันในครั้งต่อไป การลงมือปฏิบัติจะต้องทำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์สุดท้าย” ตู้ถงเหอหอบหายใจ

“ได้ค่ะ ไว้ค่อยคุยกัน” ซูเสี่ยวเถียนพูดอย่างชาญฉลาด

เมื่อทั้งสองเดินไปยังเบื้องหน้าซูฉางจิ่ว ตู้ถงเหอก็จำได้ว่าต้องทักทายอีกฝ่าย

“หัวหน้า คุณมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือ?”

“ผมแค่มาหาเฉย ๆ แต่ไม่คิดว่าพวกคุณจะโต้เถียงกันแรงขนาดนี้ ความรู้เปิดกว้างมาก” ซูฉางจิ่วยิ้มราวกับพระสังกัจจายน์

หนึ่งคนแก่ หนึ่งคนเด็ก ล้วนแต่เป็นคนทรงพลังทั้งนั้น ชุมชนการผลิตหงซินได้รับการอวยพรแล้ว!

“หัวหน้า อย่าหัวเราะเยาะพวกเราเลยนะ”

“ไม่ใช่เรื่องน่าขันเสียหน่อย แค่รู้สึกว่าสิ่งที่พวกคุณพูดมันค่อนข้างสมเหตุสมผลมาก” ซูฉางจิ่วหัวเราะ

เขาก็เองเป็นผู้ชำนาญด้านการปลูกพืชผลด้วย แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ แต่ส่วนอื่น ๆ ที่เรียบง่ายก็เข้าใจได้

แต่ไม่ว่าสองคนนี้จะเป็นคนสูงอายุหรือเป็นเด็ก กลับไม่ใช่ประเภทไร้ความสามารรถ

“เสี่ยวเถียนกับผมกำลังศึกษาเรื่องการเพาะเมล็ดข้าวโพด หัวหน้า เรื่องนี้อาจยังต้องถกเถียงกันอีกนาน และยังต้องลงมือปฏิบัติโดยเฉพาะด้วย”

ซูฉางจิ่วนิ่งอึ้งอยู่นาน อะไรคือการลงมือปฏิบัติ?

“อะไรคือการลงมือปฏิบัติ? มันเพิ่มผลผลิตได้ไหม?” เขาสนใจแต่คำถามนี้เท่านั้น

“มันปฏิบัติได้เฉพาะในไร่นาเท่านั้น”

หลังจากได้ยินคำพูดของตู้ถงเหอ ซูฉางจิ้วก็โบกปัดทันทีแล้วเริ่มหัวเราะ พื้นที่เพาะปลูกจะทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนั้นหรือ?

มันทำร้ายพืชผลน่ะสิ ไม่งั้นต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่

“ไม่ได้ ๆ พวกคุณอย่าคิดทำลายพืชผลของผมนะ”

“ลุงหัวหน้าคะ มันไม่ใช่การทำลายเสียหน่อย พวกเราใช้พื้นที่นิดเดียวก็พอแล้ว” ซูเสี่ยวเถียนใช้สองมือยืดออกเพื่อเปรียบเทียบระยะสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มกว้าง

“หัวหน้า พื้นที่ของชุมชนเรามีข้าวโพดเยอะมาก แบ่งส่วนเล็กน้อยให้เราสังเกตดูหน่อยได้ไหม?” ตู้ถงเหอพูดตรง ๆ “ถ้าปลูกเมล็ดพันธุ์ดี ๆ ได้ ปีหน้าพืชผลจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

พอซูโส่วเวินได้ยินก็ขบคิดว่าหัวหน้าคงไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

พืชผลดี ๆ แบบนี้ หัวหน้าจะยอมให้พวกเขาทดลองได้อย่างไร?

และพื้นที่ที่ใช้ก็เป็นพื้นที่หลักของหัวหน้าด้วย

ทว่าอีกฝ่ายกลับเห็นด้วย

และยังให้อีกสามเฟินด้วย

“แค่ให้พวกคุณทดสอบบนพื้นที่เล็ก ๆ สามเฟินก็พอแล้ว แต่มากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นจะส่งผลต่อการเก็บเกี่ยวพืชผล”

ตอนที่หัวหน้าพูดออกมามันรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

หากไม่ใช่การทดลองที่ผ่านการขบคิดของคนสูงวัยและเด็กเพื่อเพิ่มพืชผล ซูฉางจิ่วคงไม่ยินยอมแน่

“ขอบคุณค่ะ คุณลุงหัวหน้าไม่ต้องกังวลไปนะคะ ปีหน้าพืชผลชุมชนเราจะเก็บเกี่ยวได้มากขึ้นค่ะ” ตอนที่เด็กหญิงพูด ใบหน้ามีรอยยิ้มหวานประดับ

แต่เธอกลับคิดว่าที่พูดไปมันไม่ค่อยถูกต้องนักและพูดมันออกไปแล้ว ไม่สามารถคืนคำได้

โชคดีที่ซูฉางจิ่วไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ และคำพูดของเด็กคนนี้ไม่มีทางไร้จุดหมายแน่นอน

“ตกลง ลุงเชื่อในตัวเธอนะ สหายตู้ คุณได้ศิษย์ดี ๆ อีกแล้ว ในนามของชุมชนการผลิตหงซินรู้สึกขอบคุณคุณมาก!” ซูฉางจิ่วเอื้อมมือออกไปจับมือตู้ถงเหออย่างมั่นคง

สิ่งที่เขาคิดได้ทั้งหมดคือสหายตู้ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนซูเสี่ยวเถียน ไม่อย่างนั้นเด็กหญิงจะรู้เยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?

ช่วยให้พืชผลเพิ่มขึ้นแล้วอย่างไรล่ะ? การสอนให้มีศิษย์ดี ๆ คนหนึ่งได้ อนาคตพืชผลของพวกเราก็ได้รับประกันแล้วว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ซูเสี่ยวเถียนครุ่นคิดก่อนจะยิ้ม “คุณลุงหัวหน้าพูดถูกต้องมากค่ะ คุณปู่ตู้สอนหนูเยอะแยะเลย หนูจะเป็นเกษตรกรที่ดีในอนาคตแน่นอนค่ะ”

ตู้ถงเหอรู้สึกละอายใจ ความสามารถของเสี่ยวเถียนเยอะกว่าเขามาก

แม้ว่าความเข้าใจในเชิงทฤษฎีของเสี่ยวเถียนจะดีไม่เท่า แต่เมื่อพูดถึงการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติที่เจอจากพืชผล เขาไล่ตามซูเสี่ยวเถียนไม่ทันเลย

แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงเข้าใจความต้องการของพืชผลด้วย

ตู้ถงเหอไหนเลยจะรู้ว่าในมือเสี่ยวเถียนถืออาวุธหลักแหลมไว้อยู่ เลยสามารถเข้าใจรายละเอียดความต้องการอันหลากหลายของพืชผลได้เมื่อพวกมันโตขึ้น

แน่นอนว่าถึงจะได้ยินที่เด็กหญิงพูดกับต้นไม้ แต่ก็คงไม่เชื่ออยู่แล้ว

ล้อเล่นอะไรอยู่? ฟังพืชผลพูดหรือ? ทำไมไม่ขึ้นฟ้าไปเลยเล่า!

“ผู้เฒ่าตู้ ผมเข้าใจความคิดของคุณแล้ว ในนามของชุมชนการผลิตหงซิน ผมขอขอบคุณครับ!” ซูฉางจิ่วกล่าวขอบคุณ

ตู้ถงเหอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่กล้าหรอก ๆ หัวหน้าเช่นคุณจะเกรงใจเกินไปแล้ว”

น้ำเสียงของเขาเรียกได้ว่าอับอาย!

ทำไมจู่ ๆ ถึงมีคนมาขอบคุณแบบนี้ล่ะ?

ซูฉางจิ่วยิ้ม “ไม่ได้เกรงใจหรอก คุณวางใจเถอะ ตอนที่แจกจ่ายอาหารปีนี้ พวกคุณกับพวกสมาชิกจะได้ส่วนแบ่งที่เหมือนกัน ไม่มีทางน้อยด้วย”

ได้ยินหัวหน้าพูดแบบนี้ ตู้ถงเหอก็มีความหวังในจิตใจ

จากยอดธัญพืชของชุมชนการผลิตหงซินปีนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนได้กินอิ่มแน่นอน

คนที่คอกวัวยังกินได้อิ่มเลย เป็นเรื่องที่มีความสุขล้นหลามแล้ว

“สหายฉือเอ๋ย พวกเราก็จะได้ส่วนแบ่งอาหารเหมือนกัน!” ตู้ถงเหอร้องด้วยความดีใจ

พอเห็นผู้เฒ่าตู้เป็นเช่นนี้ จู่ ๆ เสี่ยวเถียนก็รู้สึกขมขื่นในใจ

เห็นคนแก่ร้องไห้โฮด้วยความดีใจที่ตนจะได้ส่วนแบ่งอาหารเหมือนกับสมาชิกในชุมชน จะไม่ทำให้เธอเศร้าได้อย่างไร?

“สหายตู้ จากนี้อาจจะต้องรบกวนคุณช่วยชุมชนการผลิตหงซินของเราให้ปลูกพืชผลดี ๆ มากขึ้นนะครับ”

ซูฉางจิ่วคิดว่ามันคงจะดีถ้าทุกคนสามารถปลูกพืชผลได้นะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท