บทที่ 125 มารังแกถึงหน้าประตูบ้าน
บ้านหลักตระกูลซูมีสมาชิกจำนวนมาก คนสิบกว่าคนมุ่งหน้าไปด้วยท่าทีทรงพลังดึงดูดความสนใจคนในชุมชนการผลิตหงซินได้ไม่น้อย
ย่อมเลี่ยงไม่ได้หากจะมีคนขอติดตามไปด้วย ถ้าเรื่องดีก็จะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ถ้าไม่ได้ดีเด่อะไรคอยดูความสนุกก็พอ
ครั้นมาถึงชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางก็มีคนทรงพลังสิบกว่าคน
หัวหน้าหลี่แห่งชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางได้รับข่าวคราวนี้ในไม่ช้า
แม้จะไม่อยากคุยกับคนบ้านหลักตระกูลหวังจอมคดโกงก็ตามที แต่อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นสมาชิกของชุมชนเรา
ถ้าคนของเราโดนคนนอกรังแก คงไม่ดีเท่าไรหากจะพูดออกไป
“ฉันว่าคุณอย่าไปเลย พวกบ้านหวังมันไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ!” ภรรยาหัวหน้าหลี่เกลี้ยกล่อม
“จะไม่ไปได้อย่างไร ถ้าวันนี้ไม่ไป คนบ้านซูได้ตบตีกับคนบ้านหวังแน่ จากนี้ไปใครจะฟังคำพูดของหัวหน้าแบบฉันล่ะ?” หัวหน้าหลี่ถอนหายใจ
“ไอ้บ้านหวังคนอ่อนแอ ปกติก็ไม่กระตือรือทำการทำงานอยู่แล้ว เอาแต่สร้างเรื่องอยู่ได้!”
พอนึกถึงพฤติกรรมเดิมของครอบครัวนี้ หัวหน้าหลี่ก็ชักจะเริ่มรำคาญ แทบรอไม่ไหวที่จะปิดประตูบ้านพวกเขา และระบายความโกรธด้วยด่าตลอดทั้งบ่าย
“ใครมันพูดกันนะว่าไม่ได้สร้างเรื่อง ตั้งแต่หย่าร้าง ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปมีครอบครัว แต่ทำไมถึงยังสร้างปัญหาอีก! หม่านซิ่วเป็นคนดีนะ แต่ชะตากรรมเลวร้ายที่ต้องมาพบเจอครอบครัวแบบนี้” ภรรยาหัวหน้าหลี่พูดด้วยแรงอารมณ์
“ตอนนี้หลุดพ้นมาได้แล้ว ได้ยินว่าหัวหน้าเฉินดีต่อหม่านซิ่วมาก มีผู้หญิงบริสุทธิ์ตั้งเยอะตั้งแยะกลับไม่ต้องการเสียได้ ทำไมถึงไปชอบหม่านซิ่วกันได้นะ”
หัวหน้าหลี่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
พูดก็พูดเถอะ หัวหน้าเฉินเป็นข้าราชการอยู่ดี ๆ จะหาผู้หญิงดี ๆ ก็ไม่เอา ทำไมถึงไปเอาหม่านซิ่วที่เคยหย่ามาแทนล่ะ แถมยังดูแลราวกับสมบัติล้ำค่าอีกด้วย
อย่าถามว่าทำไมถึงรู้ ลองคิดดูสิ ไม่ใช่ว่าผู้หญิงแบบซูหม่านซิ่วหายากจริง ๆ หรือ ที่ทำให้บ้านฝั่งตัวเองได้ประโยชน์ไปด้วยน่ะ?
“หากไม่ใช่เพราะคนบ้านหวัง พวกหงซินก็คงทนเห็นพวกเราโชคร้ายไม่ได้หรอก!”
สิ่งที่ภรรยาหัวหน้าหลี่ปวดใจที่สุดคือธัญพืชของชุมชนมีอยู่น้อยนิดเท่านั้น เสียไปตั้งหนึ่งถึงสองพันจิน อดกินแป้งสาลีไปตั้งหลายมื้อ
ครั้งนี้ชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางถือเป็นแห่งเดียวที่ประสบความสูญเสียมากที่สุดจากทั้งหมด ประเด็นหลักคือไม่มีคนนอกคอยช่วยเหลือ
หากไม่ใช่เพราะไอ้ปีศาจบ้านหวัง แม้แต่ชุมชนการผลิตหงซินก็คงทนมองพวกเราประสบกับความสูญเสียไม่ได้
พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาหัวหน้าหลี่ก็โกรธอีกครั้ง
หัวใจพลันเจ็บปวดเมื่อนึกถึงความสูญเสียของพวกเรา
“งั้นคุณก็รอก่อนเถอะ ให้พวกเขาระบายความโกรธไปก่อนแล้วค่อยไปพูด หัวหน้าเฉินคงไม่ดีใจหรอก คุณอาจจะหมดวาระการเป็นหัวหน้าก็ได้” ภรรยาของหัวหน้าหลี่รีบพูด
“ที่คุณพูดก็ใช่ งั้นรอสักครู่แล้วค่อยไปแล้วกัน ให้คนบ้านหวังทนทุกข์สักหน่อย โดยเฉพาะไอ้หมาหวังนั่น” หัวหน้าหลี่นั่งลงอีกครั้ง
เขานั่งอยู่นานสิบกว่านาที จากนั้นก็ค่อยลุกขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปบ้านหวัง
ตอนที่หัวหน้าหลี่มาถึงก็มีคนรายล้อมอยู่มากมาย โดยพี่น้องซูกำลังทุบประตูบ้านอยู่
“เป็นญาติกันแท้ ๆ ทำไมพุ่งใส่บ้านคนอื่นแบบนั้นเล่า” หัวหน้าหลี่รีบรุดขึ้นหน้า
“ถุย ใครเป็นญาติกับพวกเขากัน? พวกเราเป็นญาติกับคน ไม่ใช่กับสัตว์เดรัจฉาน” ซูเหล่าต้าสาปส่ง แล้วยังถ่มน้ำลายรดประตูบ้าน
“ซูเหล่าต้าฟังฉันสักประโยคเถอะ อย่าสร้างปัญหาเลย! ไม่เห็นหรือว่าคนเขากลัวพวกคุณกันหมดแล้ว?” หัวหน้าหลี่บุ้ยปากชี้ไปทางประตูบ้านหวัง
“หัวหดเป็นเต่า จะมากลัวอะไรตอนนี้? ทีตอนไปสร้างความวุ่นวานให้น้องสาวฉันที่อำเภอทำไมถึงเก่งนัก?” ซูเหล่าเอ้อร์หงุดหงิดงุ่นง่าน
“เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้ตระกูลหวังต้องมีคำอธิบาย พวกเราคนบ้านซูไม่ยอมโดนรังแกแบบนี้หรอกนะ” เสียงของซูเหล่าซานไม่ดังและไม่ได้ไว หากแต่หนักแน่น
ส่วนคนที่เหลือยืนอยู่ด้านหลังสามพี่น้อง ล้วนจับจ้องไปที่หัวหน้าหลี่
หัวหน้าพูดอย่างขลาดเขิน “สิ่งที่พวกคุณพูดก็ถูก เรื่องนี้เป็นเพราะไอ้หมาหวังที่ไม่ซื่อสัตย์ต่างหาก!”
ซูเหล่าต้าเบิกตามองไปที่หัวหน้าหลี่
“น้องซู ฉันจะให้ไอ้หมาหวังออกมาขอโทษครอบครัวคุณ เช่นนี้ดีไหม?”
“ขอโทษ?” ซูเหล่าต้าพ่นลมหายใจเย็นชา
ถ้าแค่ขอโทษก็เข้าทางไอ้สัตว์เดรัจฉานอย่างไอ้หมาหวังไปแล้ว
“แล้วพวกคุณยังมีคำขออะไรอีกไหม” หัวหน้าหลี่รีบถาม
“ผมก็ไม่ได้มีคำขอใดพิเศษหรอก พี่ชายแบบเราสามคนอยากทุบตีมันคนละชุด เพื่อช่วยน้องสาวระบายความโกรธก็พอแล้ว” ซูเหล่าต้าหัวเราะเสียงเย็น “หัวหน้าหลี่ อย่าพูดเรื่องอื่นอีกเลย นี่ก็เพื่อรักษาหน้าคุณนะ”
ประโยคนี้ขัดกับสิ่งที่หัวหน้าหลี่ต้องการจะพูดโดยสมบูรณ์
อีกฝ่ายอดกลอกตาไม่ได้ ต้องขอบคุณที่ช่วยรักษาหน้าด้วยไหมเนี่ย?
แต่ประโยคนี้หัวหน้าหลี่พูดออกมันไปไม่ได้ ถ้าพูดออกไปก็จะทำให้ขุ่นเคืองใจกันอีก
“ฉันก็แค่เป็นห่วง ถ้าพวกคุณสามพี่น้องทุบตีกันทีละคน เกรงว่าเขาจะตายก่อนน่ะสิ!” หัวหน้าหลี่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นล่ะ?”
“คำขออื่น ๆ หรือ อย่าแม้แต่จะคิดเลย!” ซูเหล่าเอ้อร์ซูค้านทันที
ซูเหล่าต้าส่งสัญญาณให้น้องรองใจเย็นก่อนจะว่า “ถ้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ คุณเอ่ยปากทั้งที แล้วพวกเราสามคนก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลด้วย”
นี่ก็เป็นหนี้บุญคุณอีกสิ่งเหมือนกัน
หัวหน้าหลี่ไม่รู้จะพูดอะไรด้วยซ้ำ!
แต่การที่ไม่ให้ทุบตีคนจะช่วยระบายความโกรธได้สักแค่ไหนกันเชียว
“งั้นก็มาดูกันว่า บ้านหลักตระกูลหวังจะยอมจ่ายอะไรเพื่อคนไร้ประโยชน์แบบนี้!”
ซูเหล่าต้าพูดอย่างเย็นชา ท่าทางหงุดหงิดแบบนั้นทำให้พูดไม่ออก
หากคราวนี้ไม่ให้ไอ้หมาหวังรู้ถึงความเก่งกาจของบ้านซู เขายอมใช้สกุลของไอ้หมาหวังเลย
หัวหน้าหลี่ก็นับว่าเป็นคนที่เติบโตมาด้วยกันกับซูเหล่าต้า รู้จักกันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอีกฝ่ายจะมีนิสัยแบบนี้เช่นกัน
แต่ตอนนี้นอกจากก้มหน้ายอมรับแล้วจะทำอะไรได้อีกล่ะ? อย่างไรก็เป็นความผิดไอ้หมาหวัง เขาจะไม่สนใจก็ไม่ได้
หัวหน้าหลี่เดินไปกระแทกประตูอย่างแรงอยู่สองสามครั้ง “ไอ้หมาหวัง ออกมาเดี๋ยวนี้นะ สร้างเรื่องเอาไว้ก็ต้องจัดการให้ชัดเจน อย่ามาสร้างความเดือนร้อนให้กับคนในชุมชนนะ”
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ประการแรกมันเป็นความรับผิดชอบของไอ้หมาหวัง และเพื่อเลี่ยงไม่ให้คนในชุมชนบอกว่าเขาไม่สนใจคนของตัวเอง
ประการที่สอง เพื่อให้คนในชุมชนจำได้ว่าที่ชุมชนนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดล้วนเป็นเพราะไอหมาหวัง และก็เพื่อไม่ให้เห็นใจคนสารเลวแบบนี้!
แน่นอนว่าทันทีที่พูดจบ ก็ได้ยินสมาชิกคนอื่นเริ่มหารือกัน!
ไอ้หมาหวังซ่อนตัวอยู่หลังประตูเพื่อฟังข่าวคราว ตอนที่ได้ยินเสียงหัวหน้าหลี่มา ไอ้หมาหวังมีความสุขมาก
แต่ไม่ว่าจะพูดอะไร อย่างไรหัวหน้าก็เป็นคนของฝ่ายเรา เขาจะต้องช่วยเราแน่นอน!
ทว่ากลับได้ยินหัวหน้าหลี่ให้ออกมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จึงได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ไอ้หมาหวังสาปแช่งอยู่ในใจเงียบ ๆ ไอ้คนไร้ประโยชน์ แม้แต่สมาชิกของตัวเองยังไม่ปกป้องเลย แล้วยังปล่อยให้คนอื่นมารังแกถึงหน้าประตูบ้านอีก คนแบบนี้ยังจะเป็นหัวหน้าของชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางได้อีกหรือ?
แต่คำพูดนี้ก็ทำได้แค่ด่าอยู่ในใจเท่านั้น เพราะว่าบ้านหวังไม่ได้พึ่งพาชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางแค่ครอบครัวเดียว
แต่ถ้าทำให้พวกหัวหน้าหลี่ขุ่นเคืองจริง ๆ จากนี้ไปชีวิตคงไม่สงบสุขแน่ แค่น้ำลายของคนอื่น ๆ ในชุมชนก็ทำให้เขาทั้งครอบครัวจมน้ำตายแล้ว
“ไอ้หมาหวัง แกอย่ามาแสร้งตายนะ รีบออกมาได้แล้ว อยู่ ๆ ก็ขี้ขลาดขึ้นมาหรือไง? แกทำอะไรไว้ตอนสร้างเรื่องน่ะ?”
เพราะความเกลียดชังในใจ เลยทำให้เขาสร้างปัญหาหรือ?
เขาแค่ไปหาภรรยาของตนเองมันผิดนักหรือไง?