เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 219 ผลคะแนน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 219 ผลคะแนน

บทที่ 219 ผลคะแนน

สิ่งที่เสี่ยวจิ่วคิดไว้นั้นถูกต้องจริง เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่แล้วหลานบ้านหลักตระกูลซูล้วนโชคดี

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับน้องเล็กบ้านเรา ดูเหมือนว่าโชคชะตาของพวกเขาจะไม่เหมือนกันสักเท่าไร

แต่โชคดีที่เหล่าพี่ชายเริ่มคุ้นชินกับความโชคดีของน้องสาวตนเองแล้ว

พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจหรอก

ซูเสี่ยวเถียนโชคดี และยังได้เจอของดี ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงสองปีที่ผ่านมา ของที่หาได้บนเขาพวกเราได้กินกันมาไม่น้อยเลย และมาตรฐานชีวิตก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไม่เห็นหรือว่าหลานบ้านตระกูลซูเติบโตมาดีมาก แก้มมีเนื้ออวบอิ่มเล็กน้อย

สองวันต่อมา บ้านหลักตระกูลก็ได้รับข่าวดีจากเฉินจื่ออันที่ส่งมา

พวกเด็ก ๆ ที่ไปในอำเภอ พวกเขาล้วนสอบได้คะแนนดีมาก

โส่วเวิน ซื่อเลี่ยง และซานกงได้ที่หนึ่งถึงสามตามลำดับในการสอบเข้ามัธยมปลายปีสองและปีสาม

แม้แต่เสี่ยวเหมยก็ยังได้ที่สี่ เสี่ยวเฉ่าแย่กว่าหน่อย แต่ก็ยังได้ที่เจ็ดมา ดีกว่าพวกที่เดิมเรียนในอำเภอเสียอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดาษคำตอบที่ได้คะแนนเกือบเต็มทำให้ครูทุกคนในโรงเรียนมัธยมต้นอันดับหนึ่งตกใจมาก

พอครูพวกนี้ได้ยินว่ามีมาสอบแทรกชั้น*[1] ก็เลยไม่ได้จริงจังมากนัก

พอได้ยินว่าเด็กพวกนี้มาจากชนบท หลายปีมานี้ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่เรียนเองอยู่ที่บ้าน

พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กพวกนี้แค่อยากได้ใบประกาศเพื่อที่จะได้มีโอกาสหางานทำ

แต่หลังจากผลออกมา พวกเขาก็รู้ว่าการเรียนด้วยตัวเองที่บ้านอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

ที่จริง มีครูบางส่วนเริ่มตั้งคำถามโดยเฉพาะด้วยว่า ในปีที่เร่งรีบเช่นนี้ บางทีการเรียนด้วยตัวเองที่บ้านอาจจะทำให้มีใจเรียนหนังสือจริง ๆ ก็ได้

พอเทียบกับพวกพี่ ๆ เด็กคนอื่นก็ไม่แย่สักนิด นี่คือสิ่งที่ครูในโรงเรียนมัธยมต้นอันดับหนึ่งรู้

เสี่ยวซื่อและเสี่ยวอู่ที่เข้าร่วมการสอบมัธยมปลายคว้าอันดับหนึ่งและอันดับสองตามลำดับ และคะแนนก็ทิ้งห่างไปไกล

แต่ถึงเสี่ยวกังจะเข้าร่วมการสอบด้วย แต่คะแนนกลับน่าผิดหวังเล็กน้อย

ซูเสี่ยวกังเป็นเด็กที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ และอยากเป็นทหารมาโดยตลอด

และคราวนี้ก็เข้าร่วมการสอบเข้าโรงเรียงมัธยมอันดับหนึ่งของอำเภอด้วย แต่ว่าคะแนนแต่กลับต่ำกว่าพี่น้องคนอื่น

เสี่ยวลิ่วและเสี่ยวชีที่เข้าร่วมการสอบมัธยมต้นปีที่หนึ่งและสอง เมื่อเทียบคะแนนกับพวกพี่ ๆ แล้วไม่ได้ตามหลังกันมากนัก และทั้งคู่ก็ได้ที่หนึ่งที่สองตามลำดับ

ส่วนคนที่เหลืออย่างเสี่ยวเถียน เสี่ยวปา และเสียวจิ่วที่เข้าร่วมการสอบเข้ามัธยมต้น

ผลลัพธ์ของพวกเขาทั้งสามคนทำให้ครูตกใจมากจนพูดไม่ออก

เพราะทั้งสามคนนี้ได้ที่หนึ่งทุกคนเลย วิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ได้คะแนนเต็ม

ครั้งนี้มีนักเรียนย้ายมาไม่มาก แต่คะแนนดีมากจนทำให้ครูตกใจ และในไม้ช้าพวกเขาก็พบว่าชื่อของแต่ละคนมีความคล้ายกัน

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมาจากที่เดียวกันอีก ราวกับว่ามีคนพาให้มาสอบด้วยกันโดยเฉพาะ

พอกัวหงอวิ๋นครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมต้นอันดับหนึ่งได้เห็นรายชื่อที่แสนงดงามพวกนี้ พลันรู้สึกหัวหมุนยิ่งนัก

เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง และมีความสงสัยอยู่ลึก ๆ บางทีเขาอาจจะคิดผิดก็ได้

บางทีคงเพราะรีบร้อนอยากจะได้นักเรียนที่มีความสามารถมากเกินไปจึงอ่านผิด

ในยุคเช่นนี้ คะแนนพวกนี้มีจริง ๆ งั้นหรือ?

ครูที่ส่งใบคะแนนผลการสอบให้ก็ประหลาดใจที่เห็นครูใหญ่กัวกะพริบตาปริบ ๆ

เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีอะไรมีอะไรน่าสะดุดตาในกระดาษแผ่นนี้?

ไม่งั้นที่ครูใหญ่กัวทำอยู่หมายความว่าอย่างไร?

“ครูใหญ่กัว คุณดูอะไรอยู่ครับ?” เขาอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย

“ครูหลี่ ใบคะแนนผลการสอบพวกนี้เป็นของจริงใช่ไหม? เด็กพวกนี้ไม่ได้โกงใช่ไหม?”

ครูใหญ่กัวหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากแน่ใจว่าอ่านถูกแล้ว ในที่สุดเขาก็ถามออกมา

ครูหลี่ยิ้ม หลังจากนั้นรอยยิ้มก็ขมขื่น

ถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อน คะแนนแบบนี้คงไม่มีหรอก แต่ตอนนี้มันเกินจริงไปหน่อย

จากมุมมองของเขา การสอบในครั้งนี้ง่ายมาก

น่าเสียดายที่เกือบสามสิบเปอร์เซ็นต์ของนักเรียนสอบตกกันหมด

เด็กพวกนั้นไปเรียนทุกวัน และเมื่อเทียบกับคะแนนที่เด็กพวกนี้ทำได้ ก็อดมองเทียบไม่ได้

“จริงสิครับ ครูใหญ่!”

ครูใหญ่กัวตื่นเต้นมากจนแทบพูดไม่ออก

“ครูใหญ่ ผมได้ยินว่าเด็กที่ได้คะแนนดีพวกนี้มาจากชุมชนเดียวกันครับ”

ครูใหญ่กัวดูใบคะแนนผลการสอบ ในนั้นมีรายชื่อ ซูซื่อเลี่ยง ซูซานกง ซูซื่อเจี่ยน ซูอู่ร่าง ซูลิ่วจง ซูชีเซี่ยว ซูปาเหลียน ซูจิ่วเหลียน ซูเสี่ยวเหมย ซูเสี่ยวเฉ่า และซูเสี่ยวเถียน

ไม่มีอะไรผิดปกติ ชื่อพวกนี้แค่มองก็รู้แล้วว่ามาจากตระกูลเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปได้มากว่าพวกเขามีความใกล้ชิดกันทางสายเลือดด้วย

น้ำเสียงของเขาตื่นเต้น “ครูหลี่ คุณรู้ไหมว่าเด็กพวกนี้มาจากที่ไหน?”

เขาสงสัยว่าต้องเป็นที่แบบไหนถึงให้กำเนิดเด็กที่ฉลาดและขยันเรียนขนาดนี้ออกมา

“ดูเหมือนว่าจะเป็นชุมชนการผลิตหงซินนะครับ”

พอครูหลี่เห็นใบคะแนนก็ตกใจเช่นกัน

เช่นเดียวกับครูใหญ่กัว ครั้งแรกที่เห็นก็คิดเหมือนกันว่าสภาพแวดล้อมแบบไหนที่เลี้ยงดูเด็กกลุ่มนี้ขึ้นมา

เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ชุมชนการผลิตหงซิน?

ครูใหญ่กัวรู้จักที่แห่งนี้จริง ๆ สภาพแวดล้อมไม่นับว่าดีมาก อยู่ไม่ใกล้จากอำเภอด้วย

แต่ที่แห่งนั้นกลับมีเด็กที่น่ารักเยอะขนาดนี้!

“ครูหลี่ หายากมาก หายากเหลือเกิน!” ครูใหญ่กัวพึมพำ

เขาน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

หลายปีมานี้ต้องทุกข์ทนโดนพวกเด็ก ๆ ทรมานหลายครั้ง มันไม่ง่ายเลยที่จะอดทนเอาไว้

ปีแล้วปีเล่าสถานการณ์ไม่เห็นว่าจะดีขึ้นเลย การเรียนของนักเรียนก็แย่ลงเรื่อย ๆ

เขาหมดหวังกับนักเรียนรุ่นนี้แล้ว

ทั้งยังมีความคิดที่จะยอมล่าถอยด้วยซ้ำ

เขาไม่อยากเห็นนักเรียนโง่เขลาลงทุกวัน แล้วก็ง่วนอยู่กับการต่อสู้จากทุกทิศทาง

ไม่คิดเลยว่าในตอนนั้นเองที่จู่ ๆ ก็มีเด็ก ๆ พวกนี้ปรากฏตัวขึ้น มันทำให้เขามีความหวังทันที

ใช่แล้ว ความหวัง

“ฉันต้องการไปที่หงซินด้วยตัวเอง!” ครูใหญ่กัวกล่าวด้วยความมุ่งมั่น “ฉันต้องการประกาศข่าวดีให้กับเด็ก ๆ เหล่านี้ด้วยตัวเอง!”

พอว่าจบ ครูหลี่กลับหยุดไว้เสียก่อน “ครูใหญ่กัวอย่าไปดีกว่า ผลคะแนนออกมาแล้วน่าจะกระจายไปในไม่ช้า ถึงตอนนั้นอาจจะมีเหตุการณ์นองเลือดก็ได้!”

พอได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนี้ ครูใหญ่กัวหมดแรงไปชั่วขณะ ใช่แล้ว ยังมีเหตุการณ์นองเลือดที่ต้องเผชิญอีก

ที่โรงเรียนยังมีพวกเด็ก ๆ ที่ไม่คิดเรียนทั้งวันและอยากจะระบายความไม่พอใจใส่ครูพวกเขาอยู่

พวกเขาง่วนกับเรื่องนี้จนล่วงเลยผ่านไปหลายปี ไม่คิดสักนิดว่าตัวเองบกพร่องตรงไหนไป!

ครูใหญ่กัวขยับริมฝีปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา!

*[1] สอบแทรกชั้น คือ การสอบเข้ามาตอน ม. 5 ม. 6 ไม่ได้เข้าตั้งแต่ ม. 4

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท