สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 6 ตอนที่ 47

บทที่ 6 ตอนที่ 47

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 47 ลูกค้ากับลูกค้า
ตระกูลจง แต่ไม่รู้ชื่อ…ชายหนุ่มอายุไม่ถึงสามสิบตรงหน้าคือประธานของบริษัทเฟยอวิ๋น เอนเทอร์เทนเมนต์ จำกัด?

เฉิงอี้หรานมองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึงและรับรู้ถึงความกดดันที่แผ่ออกจากตัวของท่านประธานหนุ่มคนนี้

เขาลอบพูดในใจว่าผู้ชายคนนี้ดูทรงอำนาจมาก เขาค่อยๆ นั่งลงในตอนที่เฉิงอวิ๋นแนะนำสั้นๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่ห้องส่วนตัวของไนต์คลับหรูหราอะไร และก็ไม่ใช่ห้องส่วนตัวในร้านอาหาร แต่เป็นคลับดนตรีอันหรูหราที่ชื่อว่าคลับ K&C

เฉิงอี้หรานเคยได้ยินถึงชื่อคลับ K&C นี่เป็นสถานที่รวมตัวของพวกคนรวย และก็เป็นสถานที่ที่หลายคนยอมทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้เข้ามา

เพราะที่นี่มักจะมีนักดนตรีชื่อดังหรือคนในวงการบันเทิงมาปรากฏตัวอยู่เสมอ

“ผ่อนคลายหน่อย ให้เหมือนคุยกันธรรมดาก็ได้” ท่านประธานสกุลจง ซึ่งก็คือคุณชายรองตระกูลจงจากเมืองหลวง จงลั่วเฉิน

ด้วยเห็นว่าเฉิงอวิ๋นชื่นชมเขามาก จงลั่วเฉินจึงอยากเห็นว่าคนที่ทำให้เฉิงอวิ๋นเอ่ยปากชมได้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เขารู้จักคนอย่างเฉิงอวิ๋นดี เฉิงอวิ๋นมักจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอ หากไม่มั่นใจจริงๆ เขาจะไม่พูดรับรองต่อหน้าตนเองอย่างเด็ดขาด

“อา…ฮา คุณจงบอกให้ผ่อนคลาย พวกเราก็ผ่อนคลายหน่อยแล้วกัน! มาๆ เฉิงอี้หราน คุณอยากดื่มอะไรไหม?” เฉิงอวิ๋นเริ่มสร้างบรรยากาศ

ก่อนที่หลี่จื่อเฟิงจะคลำนิสัยของท่านประธานผู้อยู่เบื้องหลังคนนี้ได้ เขาจะไม่พูดกับใคร รวมถึงเฉิงอี้หรานด้วย

“ผมไม่ค่อยรู้จักเครื่องดื่มหรอกครับ” เฉิงอี้หรานส่ายหน้า “ผู้อำนวยการเฉิง คุณตัดสินใจเถอะ”

“อืม…ดี งั้นผมเลือกเอง” เฉิงอวิ๋นหัวเราะ นี่เป็นการให้เกียรติเขา

เขาชอบคนให้เกียรติเขา

แน่นอนว่าเครื่องดื่มส่วนมากล้วนแต่หาได้ที่นี่ เพราะคนที่มาที่นี่ก็มาเพื่อดื่มเหล้าและพูดคุย แน่นอนว่าดนตรีก็เป็นส่วนสำคัญ…ส่วนของกินส่วนมากก็จะเป็นพวกผลไม้และของทานเล่น

ต่อมาเฉิงอี้หรานก็พบว่าคุณจงผู้นี้พูดน้อยมาก เขาเงียบ…เงียบจนดูสูงส่งเกินเอื้อม

เป็นคนหนุ่มเหมือนกัน แต่เฉิงอี้หรานกลับรู้สึกต่างกันราวฟ้ากับดิน

เวลานี้เอง เฉิงอวิ๋นก็หยุดพูดเรื่องน่าสนใจและพูดขึ้นทันทีว่า “จริงสิ เฉิงอี้หราน ถึงยังไงก็มาถึงที่นี่แล้ว ลอง…โชว์ฝีมือหน่อยเป็นไง!”

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ!

เฉิงอี้หรานคิดในใจ นับตั้งแต่เข้ามาในคลับ K&C แล้ว เขาก็รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น พูดว่าดีอย่างไรก็ไม่สู้มาเห็นเอง ท่านประธานคนนั้นคงอยากจะทดสอบเขาสักหน่อย

แต่เขาก็มั่นใจมากพอ!

พูดมากไม่สู้ปฏิบัติให้เห็นเลย งั้นก็เอาสิ! เฉิงอี้หรานพยักหน้าอย่างมั่นใจและยิ้มออกมา เขาเตรียมตัวเอาไว้แล้ว หรือจะพูดว่านับตั้งแต่เขาได้กีตาร์มาจากมือของพ่อค้าลึกลับ เขาก็ไม่เคยให้มันห่างกายเลย แม้จะเป็นตอนที่เข้ามาในคลับ K&C เขาก็เอามันมาด้วย

“มั่นใจดีนี่”

เมื่อเห็นเฉิงอี้หรานขึ้นเวทีจงลั่วเฉินก็ยิ้ม ตามที่หลี่จื่อเฟิงมอง รอยยิ้มนี้ดูเกือบจะสมบูรณ์แบบ…สมบูรณ์แบบจนคล้ายกับภาพมายา

ไม่ใช่รอยยิ้มจากใจ แต่เป็น…รอยยิ้มของนักแสดงที่มีทักษะการแสดงสูงส่ง ท่านประธานคนนี้กำลังตั้งใจแสดงเป็นตัวเองอยู่?

ความคิดนี้วาบผ่านใจของหลี่จื่อเฟิง แต่ก็ละความสนใจอย่างรวดเร็ว…จำเป็นต้องแสดงเป็นตัวเองด้วยเหรอ?

งั้นก็พูดได้เพียงแต่ว่า ผู้ชายคนนี้ช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกิน

ตอนนี้เฉิงอวิ๋นยิ้มและพูดว่า “คุณจง คุณควรดูการแสดงของเขาจริงๆ”

จงลั่วเฉินไม่พูดจา เพียงแค่โบกมือ จากนั้นก็หันหน้าไปรอคอยเงียบๆ ตอนนี้เฉิงอี้หรานกำลังพูดคุยกับคลับ K&C

เขาไม่ได้เรียกนักแสดงชั่วคราวคนอื่นๆ ขึ้นมาร่วม เพราะหากไม่ใช่คนที่เคยทำงานมาด้วยกันแล้วไม่มีทางแสดงด้วยกันได้ ดังนั้นหลังจากเขาเสียบสายลำโพงและปรับเสียงแล้ว เฉิงอี้หรานก็ขึ้นไปนั่งเก้าอี้สูงบนเวที

เขามีประสบการณ์การแสดงจึงไม่ตื่นเวที กีตาร์ที่เขาถืออยู่มอบความมั่นใจให้เขา

เฉิงอี้หรานจับไมโครโฟนตรงหน้าของเขา หัวเราะและพูดว่า “บรรยากาศของที่นี่ดีมาก ผมขอร้องสักเพลง…หวังว่าทุกคนคงจะชอบเพลง Hotel-California นะครับ”

เสียงของเฉิงอี้หรานแตกต่างจากต้นฉบับ เสียงของเขาดูหนุ่มแน่นกว่า หลังจากผ่านการเรียนร้องเพลงและแก้ไขจุดผิดพลาดไปแล้ว ท่อนแรกของเฉิงอี้หรานก็ดูนุ่มและรื่นหูกว่าแต่ก่อน

ในพริบตาที่เสียงกีตาร์ดังขึ้นก็คว้าจับบรรดาแขกที่อยู่ในคลับ K&C ได้แล้ว ภายในคลับ K&C มีคนในวงการอยู่ไม่น้อย และบางครั้งก็มีคนใหญ่คนโตในวงการมาด้วยเช่นกัน

ดังนั้นคนที่อยู่ที่นี่จึงมีความรู้ทางด้านดนตรีอยู่บ้าง ส่วนเมื่อคนที่มีความรู้เหล่านี้ได้ยินเสียงกีตาร์ดังขึ้นมาแล้ว ก็เหมือนได้รับการโจมตีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เห็นได้ชัดว่าเป็นการเริ่มต้นที่เรียบง่ายและไม่ได้ใช้เทคนิคมาก แต่โน้ตตัวแรกกลับเหมือนทรายดูดที่ค่อยๆ ดึงคนเข้าไปในน้ำวนอันอ่อนนุ่ม อีกทั้งยังจมลึกลงเรื่อยๆ…ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

บรรดาแขกผู้หญิงเริ่มมีอาการมึนเมา

ทันใดนั้นคลับ K&C ก็เงียบลง…เหมือนผู้คนกำลังอยู่ในยามค่ำมืดดึกดื่นและถูกคนพาไปหน้าโรงแรมอันแปลกใหม่ มองดูความมืดรอบตัวมัน

จงลั่วเฉินก็ฟังเหมือนกับที่แขกทุกคนฟัง แต่ขณะที่ฟังเขายังสามารถสังเกตดูปฏิกิริยาของคนรอบด้านได้ อารมณ์ การเคลื่อนไหวและสายตาของพวกเขาไม่มีอย่างไหนรอดไปจากสายตาของคุณชายรองแห่งตระกูลจงได้

เขารู้ได้อย่างชัดเจนว่าคนเหล่านั้นถูกชายหนุ่มที่ดีดกีตาร์บนเวทีสยบเอาไว้แล้ว…มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ยังสงบได้

ไม่มีความสนใจ

จงลั่วเฉินค้นพบปัญหาของตนเองได้อย่างรวดเร็ว เขาสูญเสียความสนใจไปแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น เขายังสูญเสียความรู้สึกรัก ความรู้สึกเป็นสุขและอื่นๆ อีกมากมายด้วย

ความรู้สึกเดียวที่รักษาเอาไว้ได้คือความรู้สึกของความสำเร็จที่สามารถกระเพื่อมความกระตือรือร้นของเขาขึ้นมาได้ การฟังเฉิงอี้หรานร้องเพลงไม่ได้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จเลย

ทว่าบางทีหลังจากชายหนุ่มคนนี้โด่งดังในวงการบันเทิงแล้ว เขาที่เป็นผู้ผลักอยู่เบื้องหลังอาจจะรู้สึกถึงความสำเร็จ…และอาจจะรู้สึกดีใจด้วยก็ได้

ไม่มีใครคาดเดาความคิดของจงลั่วเฉินได้…และแขกรอบด้านก็จมดิ่งเข้าไปในการแสดงของเฉิงอี้หรานจนไม่มีใครสังเกตเขา

แม้แต่เฉิงอวิ๋น…

แม้แต่เฉิงอวิ๋น เขาในตอนนี้ไม่ได้สนใจจงลั่วเฉินเลย เมื่อค้นพบจุดนี้แล้วก็ทำให้จงลั่วเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขารู้ความคิดของผู้ติดตามคนนี้ดี และรู้ว่าเขามักจะคอยประจบประแจงเอาใจตนเองอยู่เสมอเพื่อแสดงความจงรักภักดี

แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนลืมเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว สิ่งนี้ดูผิดปกติ…จากนั้นจงลั่วเฉินก็สังเกตท่าทางของบรรดาแขกอย่างละเอียด และรับรู้ถึงความแปลกประหลาดขึ้นมา “…เหมือนถูกครอบงำ?”

ทันใดนั้นเฉิงอี้หรานก็เคาะไมโครโฟนและพูดเบาๆ ว่า “ขอบคุณทุกท่านที่รับฟัง”

เพียงพริบตาเดียวเฉิงอี้หรานก็ร้องเพลงจบ ส่วนบรรดาแขกในคลับ K&C ก็เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา จากนั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาชั่วขณะ

ที่นี่เทียบไม่ได้กับเสียงปรบมือของผู้ชมในคอนเสิร์ต แต่ก็ทำให้แขกทุกคนในที่นี้ปรบมือขึ้นพร้อมกัน

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในคลับ K&C มาก่อน

นักกีตาร์หนุ่มคนนี้สยบหูของทุกคนที่นี่!

ความต้องการของบรรดาแขกยังไม่สิ้นสุด มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นร้องขอให้เฉิงอี้หรานร้องอีกสักเพลง เมื่อมีคนเริ่มพูดก็มีคนร้องขอตามขึ้นมา

เฉิงอี้หรานทำตัวไม่ถูกจึงมองไปทางโต๊ะของพวกหลี่จื่อเฟิงแวบหนึ่ง เขาพบว่าหลี่จื่อเฟิงพยักหน้าให้เขา

“งั้นผมจะร้องอีกสักเพลงนะครับ” เฉิงอี้หรานยิ้ม

ความรู้สึกเหมือนถูกติดตามแบบนี้ เหมือนกับดอกลำโพง…ที่ชวนให้คนเมาเคลิ้ม

บรรดาแขกจมอยู่ในความมึนเมาอีกครั้ง ส่วนจงลั่วเฉินก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีกครั้งเพราะเขาไม่ได้มึนเมาเช่นคนอื่น ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าตนเองเหมือนเป็นคนนอก

ดังนั้นเขา…เริ่มมีความคิดบางอย่างขึ้นมา อาจจะเป็นเพียงการคาดเดา!

“จากคนไร้ชื่อเสียง…เพียงแค่คืนเดียวอย่างนั้นหรือ?” จงลั่วเฉินหรี่ตาลง นี่ทำให้เขานึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง…เจ้าของสมาคมผู้หนึ่ง

เขาสามารถหาสถานที่แห่งนั้นพบผ่านตระกูลจางได้ แล้วทำไม…คนอื่นถึงจะทำไม่ได้ล่ะ?

“ทุกท่านๆ! สวัสดีครับ! ผมชื่อหลี่จื่อเฟิง บางทีอาจจะมีหลายคนในที่นี้รู้จักผมแล้ว ผมมองเห็นคนคุ้นเคยอยู่หลายคนเลย!”

หลังจากเฉิงอี้หรานร้องเพลงต่อกันสี่เพลงรวดแล้วถึงลงจากเวทีเอง เขารู้สึกว่าหากเขาไม่ลงมาจากเวทีเองแล้ว คนที่อยู่ที่นี่ก็จะฟังต่อไป อาจจะต้องร้องจนเขาคอแห้งไปเลยก็ได้

แต่แบบนี้มันไม่ปกติแล้ว…อาจพูดได้ว่ากีตาร์ตัวนี้ทรงพลังมากเกินไป ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เฉิงอี้หรานรู้สึกกังวลใจ

หลังจากเขาลงไปแล้ว หลี่จื่อเฟิงก็รีบขึ้นไปบนเวทีทันที “คนเมื่อสักครู่ก็คือเฉิงอี้หราน หวังว่าทุกท่านจะจดจำชื่อของเขาไว้ เพราะต่อไปเฉิงอี้หรานจะเป็นคนใหม่ที่บริษัทเฟยอวิ๋น เอนเทอร์เทนเมนต์ จำกัดผลักดัน! ขอให้เพื่อนๆ ทุกท่านช่วยดูแลด้วย”

มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากบรรดาแขก…และแน่นอนว่าผู้คนได้จดจำชื่อของเฉิงอี้หรานเอาไว้แล้ว

“คนคนนี้โฆษณาเก่งจริงๆ” จงลั่วเฉินยิ้มและพูดกับเฉิงอวิ๋น

เฉิงอวิ๋นเห็นว่าจงลั่วเฉินพึงพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้จึงพูดว่า “หลี่จื่อเฟิงคนนี้อยู่ในวงการมานานจึงมีความสามารถและฝีมือ หากคุณชายรองรู้สึกว่าเขาใช้ได้ พวกเราก็จะให้ความสำคัญหน่อย”

เฉิงอวิ๋นจะไม่พูดจาให้ร้ายใครต่อหน้าจงลั่วเฉิน…เพราะเขารู้ว่าคุณชายรองผู้นี้ไม่ชอบคนขี้นินทา

“นายจัดการเองเถอะ” ทันใดนั้นจงลั่วเฉินก็ยืนขึ้นมา ติดกระดุมสูทและพูดว่า “ฉันมีธุระต้องกลับก่อนแล้ว นายไม่ต้องมาส่งฉัน เฉิงอี้หรานคนนี้ใช้ได้ เพาะเลี้ยงให้ดี…เป็นคนเหมาะสม”

“คุณชายรองเดินทางกลับระมัดระวังด้วยครับ”

เฉิงอวิ๋นพูดอย่างนอบน้อม…ตอนนี้หลี่จื่อเฟิงและเฉิงอี้หรานไม่อยู่ เขาจึงสามารถเรียกว่าคุณชายรองได้

ในตอนที่เฉิงอี้หรานกลับมานั้นสวนทางกับจงลั่วเฉินซึ่งกำลังจะจากไปพอดี เฉิงอี้หรานสบตากับจงลั่วเฉินและเมื่อมองเห็นรอยยิ้มมีเลศนัยในดวงตาของเขาจึงชะงักไป

พริบตาเดียวที่จงลั่วเฉินเดินผ่านก็พูดขึ้นเบาๆ ว่า “ต้องรู้จักปกปิดตัวเองให้มากกว่านี้”

‘หมายความว่าอะไร?’

เฉิงอี้หรานหันหน้าไปในทันที แต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของจงลั่วเฉินค่อยๆ จากไป ซึ่งทำให้เขารู้สึก…ไม่สบายใจ

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

มีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อคุณมีความปรารถนาอันแรงกล้า สถานที่แห่งหนึ่งจะปรากฏสู่สายตาของคุณ

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่ตำนานเล่าขาน แต่มันมีอยู่จริง…ที่นี่

เมื่อคุณได้ก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นอะไร ที่แห่งนี้พร้อมจะบันดาลให้มันเป็นจริง

แต่เราไม่ได้ให้คุณเปล่าๆ ทุกความปรารถนาย่อมมีสิ่งแลกเปลี่ยน ถ้าคุณไม่รู้จะแลกกับสิ่งไหน เราก็มีตัวเลือกให้คุณ…ความสุข อิสรภาพ หรืออายุขัย?

คุณพร้อมจะแลกเปลี่ยนกับเราแล้วหรือยัง?

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ดยินดีต้อนรับ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท