สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 6 ตอนที่ 53

บทที่ 6 ตอนที่ 53

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 53 ผู้หญิงเคี้ยวหมากฝรั่ง
ที่จริงแล้วช่วงชีวิตส่วนมากจะไม่ค่อยมีคลื่นลมในชีวิตสักเท่าไร หรืออาจจะพูดได้ว่า ชีวิตของพวกเราจะเกิดคลื่นขึ้นในบางช่วงเวลาของชีวิตอันราบเรียบ หลังจากมันสงบลงแล้วก็จะทำให้คนคิดว่าแท้จริงแล้วชีวิตของคนเราไม่ได้สงบเหมือนน้ำตายจริงๆ

เพราะผ่านคลื่นมาดังนั้นในยามที่สงบถึงจะมองเห็นความงามสดใสดุจกระจกของแม่น้ำ และก็คือความใส่ใจในชีวิตอันแสนสงบมากขึ้น?

หงก้วนไม่เคยรอลูกคลอดออกมาได้อย่างใจเย็นเลยแม้แต่ครู่เดียว เขารู้สึกว่าเวลาชีวิตของเขานั้นเต็มเปี่ยม

เขายังคงทำงานในโรงซ่อมรถ แต่ก็มักจะหาเวลาว่างในช่วงกลางวันยืมรถจักรยานไฟฟ้าขี่มาโรงพยาบาลอยู่เสมอ

เขาจะใช้แอลกอฮอล์ล้างน้ำมันออกจากมือให้สะอาดก่อนเลิกงานเสมอ ไม่ใช่เพราะกลัวถูกหัวเราะเยาะเมื่อปรากฏตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยชั้นสูงในโรงพยาบาลด้วยท่าทางที่ดูสกปรก แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากให้ภรรยารู้ว่าตนเองเหนื่อยแค่ไหน

เขาไม่ได้เจอหลี่จื่อเฟิงอีกและก็ไม่ได้ไปหาเขา เขารู้เพียงว่าโรงพยาบาลไม่เคยถามเขาเรื่องค่าใช้จ่าย

จินจื่อเหยาบอกว่าต้องขอบคุณเพื่อนที่ดีคนนั้นของเขาให้มากๆ

แต่หงก้วนบอกว่าตอนนี้เขายุ่งมากไม่มีเวลา ต่อไปหากมีโอกาสค่อยว่ากัน

ถึงอย่างไรเขาก็เซ็นสัญญาฉบับนั้นไปแล้ว และตัดสินใจจะรักษามัน ดังนั้นโอกาสต่อไปคงต้องรอไปอีกนาน

ภรรยาก็ตอบแค่ว่า ‘ได้’ แต่หากลูกคลอดออกมาแล้วต้องให้พ่อบุญธรรมได้เห็นหน่อย เพราะเรื่องพ่อบุญธรรมนี้เป็นเรื่องที่คุยกันเอาไว้นานแล้ว

หงก้วนทำได้เพียงยิ้มเท่านั้น เพราะเขากลัวว่าจินจื่อเหยาจะกระทบกระเทือนครรภ์

“เดินอยู่ท่ามกลางสายลมเย็นยามค่ำคืนฤดูหนาวด้วยความฝันที่ล่องลอยและแตกกระจาย…”

ตอนเย็นภายในลานอันคึกคัก หงก้วนยังคงเปิดแผงเล็กๆ ของเขา ซึ่งรายได้ในแต่ละวันไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าได้มาบ้าง

แต่เขาไม่ได้พบเจอคนหนุ่มที่เคยมาประจำคนนั้นอีกแล้ว…นับตั้งแต่ครั้งที่คนหนุ่มคนนั้นไม่ได้ให้รางวัลเขา

มีบางครั้งที่หงก้วนอดคิดไม่ได้ ว่าบางทีคนหนุ่มที่นิ่งฟังเพลงเขาจนจบคนนั้นอาจจะเข้าใจสิ่งที่เขาร้องจริงๆ

‘เป็นเพราะผิดหวังถึงไม่มาอีกอย่างนั้นเหรอ?’

หงก้วนรู้สึกว่าถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป ถึงแม้เขาจะไม่มาอีก แต่ชีวิตของตนเองก็ยังต้องเดินไปข้างหน้า

บนหน้าจอโฆษณาขนาดใหญ่ในลานกว้างกำลังเล่นโฆษณาในโทรทัศน์ …บนนั้นฉายตัวอย่างของรายการหนึ่ง

หงก้วนไม่ได้มองดู แต่เขาก็รู้ว่าเป็นตัวอย่างของเขาคนนั้น

เป็นภาพของคนหน้าใหม่ในวงการ

‘อาจจะกำลังบันทึกวิดีโออยู่?’

“อะไรทำให้คุณเริ่มเล่นดนตรีครับ”

บนหน้าจอสีเขียวหน้าห้องสตูดิโอ พิธีกรกำลังสัมภาษณ์เฉิงอี้หราน บางช่วงของการสัมภาษณ์จะถูกตัดเอาไปวางหน้ารายการที่จะออนแอร์คืนแรก

“ผมชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กครับ”

นี่เป็นบทพูดที่หลี่จื่อเฟิงให้คนเขียนเอาไว้

เพราะได้พูดคุยกันก่อนแล้ว เฉิงอี้หรานจึงไม่ตื่นกล้องในครั้งแรก

บริษัทเฟยอวิ๋น เอนเทอร์เทนเมนต์ทุ่มเงินมาเยอะ ดังนั้นพิธีกรจึงสัมภาษณ์เฉิงอี้หรานอย่างดี…ในสังคมที่เงินเป็นใหญ่แบบนี้ บรรดาคนที่ปรากฏตัวอยู่บนหน้าจอก็ยิ่งรู้จักจังหวะในการพูดดีกว่าใคร

สิ่งนี้เป็นเหมือนศิลปะการพูด

“กดดันไหมครับ? ในรายการครั้งนี้มีคุณเป็นหน้าใหม่เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ สำหรับคุณแล้วเป็นรุ่นพี่ทั้งนั้น”

“ก็กดดันอยู่บ้างครับ แต่ตื่นเต้นมากกว่า”

เฉิงอี้หรานตอบคำถามอย่างรื่นไหล “โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่มาในครั้งนี้มีแต่เป็นคนที่ผมชื่นชม มีโอกาสได้ขึ้นเวทีเดียวกันกับนักดนตรีที่ชื่นชอบมากมายขนาดนี้ สำหรับผมแล้วเป็นโอกาสหาได้ยากจริงๆ”

“คุณเฉิง ได้ยินมาว่าก่อนที่บริษัทเฟยอวิ๋น เอนเทอร์เทนเมนต์ไปเจอตัวคุณ คุณร้องเพลงอยู่ในไนต์คลับตลอดเลยใช่ไหมครับ?”

“ใช่ครับ”

เฉิงอี้หรานพยักหน้า นี่ก็เป็นคำถามที่เตรียมเอาไว้แล้ว “ผมรู้สึกขอบคุณบริษัทมาก ถ้าบริษัทไม่พบตัวผม เกรงว่าตอนนี้ผมคงเป็นแค่เด็กน้อยที่ได้แต่ฝันกลางวันอยู่”

“เป็นทองก็ต้องเปล่งประกายอยู่วันยังค่ำ”

พิธีกรหัวเราะและพูดต่อว่า “ขอแค่ไม่ละทิ้งความฝันด้านดนตรี ผมเชื่อว่าไม่เพียงแต่คุณเฉิงเท่านั้น ยังมีพวกคุณอีกมากมายเช่นกันที่จะหาเส้นทางของตัวเองพบ…คุณเฉิง ขอบคุณที่มาในวันนี้นะครับ!”

“ไม่ต้องเกรงใจครับ”

“เอาล่ะครับ ‘ท้าทายหน้าใหม่’ ในครั้งนี้ก็จบลงแล้ว สัปดาห์ถัดไป พวกเราจะสัมภาษณ์…”

พิธีกรทำสัญลักษณ์ ‘โอเค’ แล้วรายการถึงได้จบลง ภายในสตูดิโอ หลี่จื่อเฟิงมาถึงข้างกายของเฉิงอี้หรานด้วยความพอใจ แล้วเริ่มพูดคุยอย่างสุภาพกับพิธีกร

จากนั้นหลี่จื่อเฟิงก็เอ่ยว่า “ไปเถอะ ผมช่วยคุณนัดบรรณาธิการหลักสาขาบันเทิงของ ‘วันจันทร์ใหม่’ วันนี้คุณยังต้องสัมภาษณ์เพื่อเขียนข่าวบันเทิงอีก”

เฉิงอี้หรานไม่ได้กินข้าวเลย หากพูดจริงๆ แล้ว วันนี้เขาได้กินเฉพาะข้าวเช้า ถึงระหว่างทางจะได้กินพวกขนมปังบ้าง แต่ก็ไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยจริงๆ

ชีวิตของคนที่กำลังจะเป็นหน้าใหม่ ยุ่งวุ่นวายกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนัก

เฉิงอี้หรานพบว่าเป็นเวลาสองวันแล้วที่เขาไม่ได้ดีดกีตาร์

ส่วนพรุ่งนี้เขายังต้องเข้าร่วมกิจกรรมอุ่นเครื่องอีก รอจนถึงวันถัดไปที่จะบันทึกซิงเกิ้ลแรกของเขา เขาถึงจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเครื่องดนตรีอีกครั้ง

ฟู่!

หมากฝรั่งสีชมพูถูกเป่าออกมา หลังจากหมากฝรั่งถูกเคี้ยวจนหมดรสความหวานแล้ว ก็ถูกเป่าออกมาจนมีขนาดใหญ่เท่าใบหน้า

และก็ทำซ้ำอีกครั้ง ส่วนคนเป่าหมากฝรั่งก็กำลังมองหน้าจอขนาดใหญ่ในลานกว้าง

คนที่เป่าหมากฝรั่งเข้าใจภาษาจีนไม่น้อย นอกจากฟังเข้าใจแล้วยังพูดได้ดีอีกด้วย “ที่แท้ที่นี่ก็มีรายการด้วย ดูเหมือนจะชื่อรายการ ‘นักร้อง’ ใช่ไหม? ได้ยินมาว่าประเทศนี้ชอบ ‘แนะนำ’…ดูแล้วคงจะจริง…

…นี่เป็นรายการดนตรีชั้นหนึ่งที่โด่งดังมากในประเทศนี้…‘กาลครั้งหนึ่งในแผ่นดินเกิด’? หลังจากเสร็จภารกิจแล้วจะไปดูดีไหมนะ?”

เธอพูดกับตัวเองโดยไม่สนใจสายตาจากคนรอบข้างที่จ้องมองมา…เพราะเธอดูแปลกมาก

ผมสั้นสีขาว สวมเสื้อคลุมหนังสีดำแขนเสื้อถึงข้อมือ…แต่ไม่ใช่เสื้อคลุมหนังแบบธรรมดา และยังสวมกางเกงขายาวและรองเท้าที่ไม่ค่อยพบเห็นได้โดยทั่วไปอีก ทุกอย่างของเธอดูแปลกตาไปหมด…เหมือนกำลังแต่งตัวแบบ ‘คอสเพลย์’

หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปีแต่งตัวคอสเพลย์…ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ? หากไม่ใช่การแต่งตัวแบบคอสเพลย์แล้วก็คงผิดปกติเกินไป

หญิงสาวแบกกระบอกยาวอันหนึ่ง ดูคล้ายกับกระบอกที่พวกนักเรียนศิลปะใช้ใส่อุปกรณ์วาดภาพ

บางทีอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่แถวนี้ กำลังถ่ายวิดีโออยู่งั้นเหรอ?

“ไม่มีจุดบอด ถ่ายไปก็เป็นวอลเปเปอร์…” แสงแฟลชสว่างขึ้นในพริบตา เสียงที่ดังขึ้นก็ไม่ได้มาจากช่างภาพซึ่งอาจจะซ่อนตัวอยู่ตรงไหนสักแห่ง แต่กลับมาจากคนเดินผ่านไปผ่านมาที่อดใจถ่ายรูปไม่ไหว

เพียงแต่เมื่อคนเดินผ่านเปิดอัลบั้มรูปในโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างมีความสุข และตั้งใจจะชื่นชมรูปถ่ายเมื่อกี้ เขาก็พบว่าตัวเองถ่ายได้เพียงเงาคลุมเครือภาพหนึ่งเท่านั้น

“แปลกจริง ฉันถ่ายภาพนางแบบเมื่อกี้ชัดๆ…”

แต่หญิงสาวผมขาวสวมชุดคอสเพลย์คนนั้นได้หายตัวไปแล้ว

ช่วงเย็น คุณหนูสาวใช้กำลังจัดเก็บทำความสะอาดนอกสมาคม นี่น่าจะเป็นงานสุดท้ายที่เธอทำทุกวัน

แต่หลังจากเธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง โยวเย่ก็หยุดมือและหันหน้าไป

เธอเห็นเพียงหญิงสาวผมขาวสวมชุดประหลาดคนหนึ่งค่อยๆ เดินออกมาจากมุมอับ

สองมือของหญิงสาวคนนั้นอยู่ในกระเป๋าเสื้อหนัง ส่วนปากก็เป่าหมากฝรั่ง “ที่นี่ปิดหรือยัง?”

โยวเย่ยิ้มและตอบว่า “ที่นี่พร้อมเปิดสำหรับลูกค้าที่ต้องการเสมอ”

หญิงสาวที่เป่าหมากฝรั่งเอ่ยว่า “งั้นฉันขอเข้าไปดูหน่อยสิ”

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

มีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อคุณมีความปรารถนาอันแรงกล้า สถานที่แห่งหนึ่งจะปรากฏสู่สายตาของคุณ

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่ตำนานเล่าขาน แต่มันมีอยู่จริง…ที่นี่

เมื่อคุณได้ก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นอะไร ที่แห่งนี้พร้อมจะบันดาลให้มันเป็นจริง

แต่เราไม่ได้ให้คุณเปล่าๆ ทุกความปรารถนาย่อมมีสิ่งแลกเปลี่ยน ถ้าคุณไม่รู้จะแลกกับสิ่งไหน เราก็มีตัวเลือกให้คุณ…ความสุข อิสรภาพ หรืออายุขัย?

คุณพร้อมจะแลกเปลี่ยนกับเราแล้วหรือยัง?

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ดยินดีต้อนรับ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท