เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 414 ไม่มีความรับผิดชอบแล้วหรือ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 414 ไม่มีความรับผิดชอบแล้วหรือ?

บทที่ 414 ไม่มีความรับผิดชอบแล้วหรือ?

ช่างเป็นคนที่กล้าหาญเหลือเกิน

โดนต่อยจนมีสภาพน่าสมเพชขนาดนี้ยังพูดจาไร้สาระได้อีก! ควรชื่นชมว่ากล้าหาญหรือด่าว่าเขาโง่ดี?

“พวกแกสบายใจเหลือเกินนะ!” เสี่ยวเถียนกดเสียงต่ำ

ทว่าคนที่รู้จักเสี่ยวเถียนดี พอเห็นเด็กสาวแสดงสีหน้าแบบนั้นก็รู้ว่าเจ้าตัวโกรธแล้วจริง ๆ

ปกติเธอเป็นเด็กดี แต่เวลาโกธรขึ้นมา แม้แต่พี่ ๆ ก็ไม่กล้าเข้าไปยั่วยุ

ทว่าไอ้อันธพาลมันไม่รู้ไง

เลยไม่ได้สนใจเด็กหญิงตัวน้อย ๆ แบบเสี่ยวเถียนเลยสักนิด

พวกมันยังพูดจาไร้สาระบอกให้เราปล่อยตัวมันสักที

ถ้าไม่รีบปล่อยโดยไว จะกลับมาล้างแค้นแน่นอน

“ถ้าจะให้ปล่อยพวกแกไปง่าย ๆ ก็เอาชนะฉันให้ได้สิ” เสี่ยวเถียนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ

พวกอันธพาลมองเสี่ยวเถียนขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา! ก็แค่เด็กคนหนึ่งเอง ต่อยเธอสักทีมันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ? นิ้วเดียวก็ขยี้ได้แล้ว

“เจ็บขึ้นมาอย่ามาร้องไห้นะ” หนึ่งในนั้นพูดจาไม่คิดเกรงใจ

“ใครกันแน่ที่จะร้องไห้หาแม่”

ว่าจบเสี่ยวเถียนก็พุ่งเข้าใส่ สะบัดมือแล้วตวัดขายกขึ้น การเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก

พริบตาเดียว สามในเจ็ดก็โดนจัดการ

คนที่เหลืออยู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรรพวกของพวกเขาล้มลงได้อย่างไร

จึงได้แต่ตกตะลึง นี่มันทักษะอะไรกัน?

กลุ่มเมื่อครู่พวกเขายอมรับเลยว่าเอาชนะไม่ได้

เพราะอีกฝ่ายมีคนเยอะกว่า

แล้วตอนนี้ล่ะ?

เด็กผู้หญิงคนเดียว แต่พวกเขาเอาชนะไม่ได้?

แถมยังโดนจัดการสามคนรวด

“แกใช้ลูกเล่นสกปรกอะไรน่ะ?” หนึ่งในนั้นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

“การจะเอาชนะพวกแกยังต้องใช้ลูกเล่นพวกนี้ด้วยหรือ?”

เสี่ยวเถียนไม่รอช้าแล้วพุ่งเข้าไปจัดการทันที จากนั้นอันธพาลทั้งสองก็ล้มลงพื้น

ในที่สุดคนที่เหลือก็ตระหนักได้เสียทีว่าเสี่ยวเถียนไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายขนาดนั้น

ผู้หญิงที่ภายนอกดูบอบบางอาจจะไม่จำเป็นต้องไม่รู้ทักษะการต่อสู้ก็ได้

สาวน้อยคนนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่าวัยรุ่นกลุ่มก่อนหน้านี้ก็ได้

ไม่เห็นหรือว่าตอนที่เธอลงมือ วัยรุ่นกลุ่มนั้นถอยห่างออกไปเป็นโยชน์เลยน่ะ?

“อยากจะสู้ต่อไหม? หรือจะยอมรับความพ่ายแพ้ดีล่ะ?” เสี่ยวเถียนถามเสียงเย็นพร้อมกับกอดอก

ทว่ายังไม่ทันได้ตอบ ฉับพลันนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนของฝูงชนว่าตำรวจมาแล้ว!

เมื่อได้ยินว่าตำรวจกำลังมา ทุกคนก็เกิดอาการร้อนรนขึ้นมา เพราะเราเป็นฝ่ายไปต่อยเขา ต่อให้เป็นอันธพาลก็เถอะ การต่อยคนอื่นมันไม่ถูกต้อง

ถ้าพวกเขาโดนหางเลขก็ไม่เป็นไรหรอก แต่จะให้น้องเล็กโดนไปด้วยไม่ได้นะ

ตอนนั้นเด็กบ้านซูลืมไปเสียสนิทว่าถ้าพวกเขามีประวัติเคยทำร้ายคนอื่นมาก่อน จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง และอนาคตอาจจะถูกทำลายเลยก็ได้

ทว่าพวกเขาตัดสินใจในทันทีที่จะไม่บอกให้ตำรวจให้รู้ว่าน้องสาวมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย

“เสี่ยวเถียน กลับเข้าไปบ้านก่อน!” ฉืออี้หย่วนเป็นฝ่ายพูด

เขาคิดเหมือนเด็กบ้านซูเลย ถ้าตำรวจถามก็จะยอมรับไปตรง ๆ ว่าคนพวกนี้เขาทำเอง

พอมีคนหนึ่งเอ่ย พี่น้องคนอื่น ๆ ก็เกลี้ยกล่อมเสี่ยวเถียนเหมือนกัน

มีหรือที่เสี่ยวเถียนจะฟัง? ไม่ฟังหรอก!

ทว่าพวกเขาไม่เห็นน้องกลับเข้าบ้าน แต่วิ่งไปอีกทางหนึ่งแทน

และทิศทางนั้นเป็นฝั่งที่มีคนตะโกนว่าตำรวจมาด้วย

“ลุงตำรวจ พวกคุณมาสักที ฮือ ๆ คนไม่ดีพวกนี้มาจะทุบร้านเราค่ะ!”

ทุกคนเห็นเสี่ยวเถียนร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลเต็มไปหมด ท่าทางน่าสงสารยิ่งนัก

พี่ ๆ ได้แต่สับสน มีแบบนี้ด้วยหรือ?

ฉืออี้หย่วนก็สับสนเหมือนกัน รู้มาตั้งนานแล้วว่าเด็กคนนี้เป็นจอมวางแผน แต่ไม่เคยเห็นเธอทำแบบนี้มาก่อนเลย

คนที่โดนซ้อมยังนอนอยู่บนพื้น แต่คนที่ซ้อมพวกเขาไปแจ้งตำรวจเนี่ยนะ

นี่มันอะไรเนี่ย? สาวน้อยคนนี้กล้าขนาดนั้นเลยหรือ?

เขาหัวหมุนไปหมด กำลังคิดอยู่ว่าจะปกป้องเสี่ยวเถียนอย่างไรดี

ตำรวจที่เพิ่งวิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามาเห็นเด็กหญิงวิ่งร้องได้เข้ามาหาพวกเขา

น้ำตาไหลพรากแบบนี้ ตำรวจรับรู้โดยจิตใตสำนึกและเลือกที่จะเชื่อว่าเธอเป็นเหยื่อจริง ๆ

“สาวน้อย พูดช้า ๆ หน่อย มีเรื่องอะไรบอกคุณลุงหน่อยซิ”

ตอนนั้นเองที่มีตำรวจอายุประมาณสี่สิบถึงห้าสิบปีและมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพูดกับเสี่ยวเถียนด้วยความอ่อนโยน

ถ้าคนไม่รู้ก็คิดว่าตำรวจกับเสี่ยวเถียนเป็นญาติกันจริง ๆ

“คุณลุงคะ คุณต้องช่วยเรานะคะ อยู่ ๆ คนพวกนี้ก็วิ่งเข้ามาในร้าน แล้วก็บอกว่ามีคนจ่ายเงินให้พวกเขามาทำลายร้านเราค่ะ”

“เดิมทีพวกเราเป็นชาวนาค่ะคุณลุง เพื่อให้พี่ ๆ ได้เรียนหนังสือในสภาพแวดล้อมดี ๆ เราเลยเข้าเมืองมาเปิดร้านอาหาร ฮือ ๆ คุณลุงจะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้นะ ไม่งั้นเขาจะทำลายร้านเรา ทำร้ายครอบครัวเราด้วย!”

“ถ้าร้านเราโดนทำลายขึ้นมา พวกเราคงไม่มีเงินเรียนหนังสือแล้ว ฮือ ๆ คุณลุงตำรวจ หนูชอบเรียนหนังสือ พี่ ๆ ก็ชอบเหมือนกัน…”

ฉืออี้หย่วนเกือบหัวเราะออกมา เด็กคนนี้แสดงเก่งตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?

เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเด็กสาวร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทั้งยังได้ยินว่าครอบครัวของเธอทำธุรกิจเพื่อเอาเงินมาให้หลานเล่าเรียน จู่ ๆ ก็เกิดความประทับใจขึ้นมาและพยักหน้าอย่างหนัก

“สาวน้อยไม่ต้องห่วงนะ ตำรวจของประชาชนจะจัดการให้เอง!”

“ลุงตำรวจ พวกเราก็เป็นประชาชนนะ คุณช่วยเราด้วยสิ!”

ในที่สุดหนึ่งในอันธพาลที่ลงไปนอนเพิ่งตอบสนองได้ เด็กคนนี้เป็นคนร้ายนะ

เธอต่อยคนอื่น แต่ไปฟ้องตำรวจเฉยเลย

ถ้าเหยื่อแบบพวกเราไม่พูดอะไร ตำรวจจะเชื่อยัยเด็กนี่แน่นอน!

“ลุงตำรวจ ดูสิ สาวน้อยคนนี้ต่อยเรานะ เราโดนซ้อมหนักมาเลย คุณต้องช่วยเรานะ”

อันธพาลคนนั้นบอกเล่าความทุกข์ยากของตัวเอง แต่ไม่รู้เลยว่าตอนที่เด็กบ้านซูคนอื่น ๆ ลงมือกัน เสี่ยวเถียนได้ทำร้ายพวกเขาตรง ๆ ด้วย มองข้างนอกไม่เห็นหรอก เลยไม่รู้สึกเจ็บไง

ตำรวจมองอันธพาลคนนั้น นอกจากสิ่งสกปรกบนร่างกายก็ไม่เห็นบาดแผลอื่นเลย เขาเลยขมวดคิ้ว

เสี่ยวเถียนก้มหน้านิ่งงันไม่พูดอะไร ได้แต่ยืนสะอื้น ไหล่เล็กสั่นเทาทำให้คนดูรู้สึกสงสารมาก

ตำรวจชำเลืองเด็กสาว จากนั้นก็ละสายตาไปยังอันธพาลแล้วขมวดคิ้ว

“แกจะบอกว่าเด็กคนนี้ทำร้ายแกหรือ?” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ใช่ครับลุงตำรวจ เธอไม่ได้ทำแค่พวกผมนะ แต่ทำร้ายพี่น้องคนอื่น ๆ ของผมจนล้มลงด้วย”

ตอนนั้นเขาไม่กลัวเสียหน้าแล้วบอกไปตรง ๆ

“อย่ามาเรียกฉันว่าลุง ฉันไม่มีหลานอายุเท่าแก!” ตำรวจคนนั้นรีบห้ามไม่ให้อีกฝ่ายทำตัวสนิทสนม

เพราะได้ยินว่าเสี่ยวเถียนเรียกอีกฝ่ายว่าลุงก่อน เขาก็เลยเรียกด้วย แต่ไม่คิดว่าจะปฏิบัติต่างกันขนาดนี้

“ลุงตำรวจครับ อ่า คุณตำรวจ…”

“หุบปากไปซะ! แกคิดว่าเราโง่หรือ? เด็กตัวแค่นี้จะเอาชนะพวกแกได้หรือไง? ถ้าบอกว่าพวกแกเอาชนะเด็ก ๆ ฉันอาจจะเชื่อก็ได้”

เดี๋ยวนี้ไอ้พวกอันธพาลมันเป็นอะไร?

หลายปีก่อนหน้านี้ พวกสร้างความวุ่นวายยังมีความรับผิดชอบเลย เรื่องทำร้ายคนอื่นก็พอยอมรับได้

แต่ตอนนี้กลับไม่มีความรับผิดชอบสักนิด? แล้วคิดว่าการลงมือทำร้ายคนอื่นจะยอมกันได้หรือ?

แถมยังกล่าวหาคนอื่นด้วย?

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท