บทที่ 418 คนที่ตื่นเต้น
บทที่ 418 คนที่ตื่นเต้น
ณ เวลาเดียวกันที่ห้องหลัก
เสี่ยวกังกำลังคุยเรื่องนี้กับคุณปู่ซู ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเปลี่ยนแซ่แล้ว แต่เสิ่นจื่อเจินกับเถาฮวาไม่อนุญาต
แต่เสี่ยวกังเป็นเด็กที่ถ้าได้ตัดสินใจอะไรแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด ตั้งแต่ที่บอกว่าจะเปลี่ยนแซ่ แสดงว่านั่นคือสิ่งที่เขาคิดทบทวนมาดีแล้ว เพราะงั้นวันนี้ที่ได้เดินทางมา จึงตั้งใจจะใช้โอกาสนี้พูดออกไป
ถ้าจะพูดเรื่องนี้ก็ต้องพูดกับคุณปู่คุณย่าซูเท่านั้น เพราะครอบครัวของเราที่อยู่เมืองหลวงไม่มีผู้อาวุโสคนอื่นอีกแล้ว
เขาจึงทำได้เพียงขอให้คุณปู่ซูช่วยกล่อมพ่อแม่เขาเท่านั้น
“เสี่ยวกัง หลานตัดสินใจแล้วจริง ๆ หรือ?” คุณปู่ซูดูดกล้องยาสูบ แล้วจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจัง
การที่เด็กชายพูดแบบนี้ออกมา ทำให้ทุกคนประหลาดใจกันมาก
เสิ่นจื่อเจินมองเขาโดยไม่พูดอะไร ก่อนหน้านี้คิดว่าแค่พูดเฉย ๆ แต่ไม่คิดว่าจะใช้โอกาสนี้ออกมาพูด
“ใช่ครับ ผมตัดสินใจดีแล้วครับคุณตา” เสี่ยวกังพยักหน้าอย่างแน่วแน่
เขามองเสิ่นจื่อเจินด้วยรอยยิ้มมีความสุข
“จากนี้ไปพ่อจะเป็นพ่อแท้ ๆ ของผม ผมมีพ่อแค่คนเดียว พ่อที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก รอผมโตขึ้นเมื่อไรจะเลี้ยงพ่อยามแก่เฒ่าเองครับ!”
หลี่ฉางหมิงคือคนที่ทำร้ายแม่ของเขา เสี่ยวกังไม่อยากจะพูดถึงคนแบบนี้อีก และไม่อยากเป็นลูกของคนแบบนี้อีกต่อไป!
เสี่ยวกังพูดเสียงดังกึกก้องด้วยความเด็ดเดี่ยว คุณปู่ซูสัมผัสได้ถึงความรักอันลึกซึ้งจากคำพูดของเขาที่มีแต่เสิ่นจื่อเจินได้เลย
แล้วเขาก็รู้อีกว่า เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่ปรารถนา แต่ยังตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วด้วย
“เสี่ยวกัง ถึงฉันจะไม่ใช่ตาแท้ ๆ ของเธอ แต่ก็เฝ้ามองเธอเติบโตมาตลอด ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กยังไง ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็ทำเลย”
“แต่แม่ผมไม่เห็นด้วย พ่อก็เหมือนกันครับ!” เสี่ยวกังไม่พอใจ
ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขาล่ะ!
“เดี๋ยวตาไปพูดกับแม่เอง แม่เธอต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน” คุณปู่ซูตอบตกลงทันที
เขาเป็นผู้ใหญ่และมองการณ์ไกลกับเรื่องต่าง ๆ ด้วย และการพูดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ถึงเถาฮวากับจื่อเจินจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่พวกเขาก็ไม่มีลูกด้วยกัน มันเลยเหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไปเสมอ
ถ้าเสี่ยวกังได้ใช้แซ่เสิ่นเมื่อไร ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะต้องดีขึ้นอีกแน่นอน!
เสี่ยวเหมยนั่งอยู่ข้างเสี่ยวเถียน ทำให้พวกเธอได้ยินบทสนทนานนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
เห็นน้องชายเป็นเช่นนี้ เธอพลันสับสนไปครู่หนึ่ง
เสี่ยวเหมยรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเธอนับถือเสิ่นจื่อเจินเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เรียกเขาว่าพ่อ
ทว่าเธอไม่คิดเลยว่าเลยว่าวันหนึ่งน้องชายจะเป็นฝ่ายเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ออกมาเอง ซึ่งการกระทำของเขามันทำให้ทุกคนตกใจมาก
แล้วไหนจะมาขอเข้ามาใช้แซ่เสิ่นอีก
เธอไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในอารมณ์ไหน มีความสุขกับสิ่งที่น้องทำไหม? หรือโชคดีที่มีพ่อแบบเขา?
หลี่ฉางหมิงล้มเหลวในฐานะพ่อแท้ ๆ อย่างไม่มีข้อกังขา ล้มเหลวมากถึงขนาดลูกยอมใช้แซ่ของคนอื่น
แต่เสี่ยวเหมยยังห่วงว่าสิ่งที่น้องคาดหวัง วันหนึ่งอาจจะเสียใจก็ได้
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พ่อผู้ให้กำเนิดก็ยังเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดอยู่ดี ความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่สามารถเปลี่ยนกันได้เพียงเพราะคนคนนั้นจะดีหรือชั่วหรอกนะ
ตอนนี้เสี่ยวกังยังเด็ก แม้เขาจะชิงชังพ่อแท้ ๆ มากแค่ไหน แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าในภายภาคหน้าความคิดนี้จะไม่เปลี่ยนไป
เสี่ยวกังไม่รู้เลยว่าพี่สาวจะคิดมากแบบนี้ หลังจากได้ยินตาพูดเช่นนั้น เขาก็มีความสุขมาก
“คุณตาซูสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยผมเกลี้ยกล่อมแม่น่ะ?” เสี่ยวกังยิ้มจนหุบปากไม่ลง
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคล้ำแดด แม้จะอยู่เมืองหลวงมานาน ทว่าสีผิวของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
เสิ่นจื่อเจินกระแอมไอ “เสี่ยวกัง ไม่ว่าเธอจะแซ่อะไร ในใจของฉันเธอก็ยังเป็นลูกของฉันนะ และสิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนด้วย”
มันสำคัญหรือว่าจะเป็นลูกแท้ ๆ หรือเปล่าน่ะ?
ลูก ๆ ของเถาฮวาเป็นเด็กดีอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้เลี้ยงมาเอง แต่ถ้าเขาได้ปฏิบัติด้วยใจแล้ว มันจะเป็นแบบนี้ต่อไปแน่นอน
เสิ่นจื่อเจินยึดมั่นมาตั้งแต่ต้น
เขารู้สึกว่าตัวเองอาจถูกกำหนดมาให้ไม่มีลูกเป็นของตัวเองก็ได้ เพราะงั้นความปรารถนาของเขาคือการเลี้ยงดูเสี่ยวเหมยและเสี่ยวกังให้เป็นคนเก่ง
“ลุงครับ ในใจผมนับเสี่ยวกัง เสี่ยวเหมย และเสี่ยวเหลียงเป็นลูกของผมอยู่แล้ว และไม่เคยคิดจะให้พวกเขาใช้แซ่ของผมด้วย”
เสี่ยวกังส่ายหัวอย่างเด็ดเดี่ยว
“ตั้งแต่ที่ผมเรียกคุณว่าพ่อ คุณได้กลายเป็นพ่อแท้ ๆ ของผมไปแล้ว ถ้าแบบนั้นมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ผมใช้แซ่ของคุณครับ?”
เสี่ยวกังเป็นเด็กที่มุ่งมั่น ในเมื่อตัดสินใจแล้ว เขาก็จะมุ่งไปยังเป้าหมายของตนให้ได้
“ในเมื่อเป็นความตั้งใจของเด็ก เธอกับเถาฮวาก็ยอมรับเถอะ” คุณปู่ซูคลี่ยิ้มบาง
ทว่าจื่อเจินยังลังเล “แต่ว่า…”
ชายชราโบกปัด “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแล้ว เสี่ยวกังโตแล้วนะ เขาตัดสินใจได้ว่าตัวเองต้องการอะไร นอกเสียจากว่าเธอจะไม่ชอบเด็กคนนี้?”
เสิ่นจื่อเจินไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจะไม่ชอบเสี่ยวกังได้อย่างไร?
เขาชอบเด็กคนนี้จากใจจริง
ในบรรดาลูกทั้งสามของเถาฮวา เสี่ยวเหมยเป็นเด็กผู้หญิง ตัวเขาเป็นทั้งพ่อเลี้ยงและครูของเธอ จึงไม่อยากใกล้ชิดกันเกินไป ส่วนเสี่ยวเหลียงยังไม่เคยได้เจอกันสักครั้ง แล้วก็เสี่ยวกังคนสุดท้องที่สนิทกับเขามากที่สุด
รอจนกระทั่งเถาฮวาและคุณย่าซูมาก่อน จะได้รู้ว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว
เถาฮวาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอไม่เคยตัดสินใจในเรื่องนี้ได้เลย ทว่าตอนนี้มันจบลงและทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว
เสี่ยวกังได้เปลี่ยนชื่อเป็นเสิ่นเฉิงกังต่อหน้าของทุกคน
เรื่องบ้านเสิ่นจบลงแล้ว ตกดึกคุณปู่คุณย่าซูนอนคิดบนเตียงเตา อดรู้สึกไม่ได้ว่าคนดี ๆ สมควรได้รับสิ่งดี ๆ จริงนะ
เสิ่นจื่อเจินดีกับเด็ก ๆ และพวกเด็ก ๆ ก็สัมผัสได้ และจริงใจต่อพ่อเลี้ยงคนนี้
“ไม่รู้ว่าเสี่ยวเหลียงจะรู้สึกยังไงตอนกลับมา”
เสี่ยวเหลียงโตสุด เขาจะยอมรับครอบครัวใหม่ของแม่และเรื่องที่น้องชายเปลี่ยนชื่อไหม?
“เสี่ยวเหลียงรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วล่ะ เขายอมรับได้อยู่แล้ว เราไม่ต้องไปห่วงหรอก” ชายชราปลอบหญิงชรา “พักผ่อนกันเถอะ!”
ผู้อาวุโสทั้งสองไม่ได้พูดอะไรอีก และในขณะเดียวกันฝั่งบ้านเสิ่นก็ตื่นเต้นกันมาก
เสี่ยวกังเปลี่ยนชื่อ ทั้งยังเรียกเสิ่นจื่อเจินว่าพ่อ เขาอดตื่นเต้นไม่ได้เลย
ตอนนี้ชายวัยกลางคนนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา รู้สึกเหมือนตอนได้เป็นพ่อครั้งแรกเมื่อหลายสิบปีก่อน
ตอนนั้นเขาคิดว่าตนมีลูกแฝดชายหญิง เขาตื่นเต้นมาก ๆ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ลงแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มี แต่ไม่คิดเลยว่าตอนสุดท้ายมันจะเละเทะแบบนี้
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างดีแล้ว เขามีลูกชายหนึ่งคน แม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรักระหว่างพ่อลูกอยู่ดี