บทที่ 436 ส่งบัตรผ่านทาง
บทที่ 436 ส่งบัตรผ่านทาง
กรรมวิธีในการทำยาของเสี่ยวเถียนยุ่งยากและละเอียดอ่อนมาก ถึงจะได้รับความช่วยเหลือจากพี่ชาย แต่ก็ยังต้องใช้เวลามากอยู่ดี
และในตอนนั้นเองที่ต่งหยวนจงส่งคนมาหาพวกเขาอีกรอบ คราวนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยพบหน้าพบตามาก่อน อายุประมาณสิบห้าสิบหก
บรรยากาศรอบตัวเปล่งประกายและมีท่าทางสุภาพ มองแล้วทำให้รู้สึกสบายใจจริง ๆ
พอพบกับคนบ้านซู เด็กหนุ่มคนนั้นแนะนำตัวเองและแสดงตัวตนออกมาทันที
“ผมชื่อถงซิงอันครับ เป็นบอดีการ์ดของผู้นำต่งครับ”
“สวัสดีสหายถง หัวหน้าของคุณส่งคุณมาที่นี่ มีธุระอะไรหรือเปล่า?” คุณปู่ซูรีบถาม
เขารู้สึกเกรงขามเสมอเวลาที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับต่งหยวนจง เวลาที่พูดเลยระมัดระวังอยู่ตลอด
“สวัสดีครับคุณปู่ซู วันนี้ที่ผมมาหาเพราะหัวหน้าต่งให้ผมมาส่งบัตรผ่านทางให้พวกคุณครับ!”
ถงซิงอันพูดด้วยความเคารพอย่างจริงใจ จากนั้นก็ยื่นบัตรผ่านทางให้ชายชรา
คุณปู่ซูมองดูเด็กหนุ่มผู้มีอายุไล่เลี่ยกับหลานชายตนเอง แถมยังเป็นเด็กหนุ่มที่มาท่าทีสุภาพ เขาจึงรู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
เด็กคนนี้ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจคนบ้านนอกอย่างพวกเราเลย
“ลำบากเธอแล้วสหายถง รีบนั่งก่อนเถอะ พักดื่มน้ำผิวแอปริคอตที่เราทำเองสักถ้วย”
ขณะที่คุณปู่กำลังง่วนกับหาน้ำให้ แต่อีกฝ่ายกลับรีบโบกมือปฏิเสธอย่างว่องไว
“ไม่ครับ ๆ ผมแค่มาส่งของแล้วก็จะกลับแล้วล่ะ” ท่าทางของถงซิงอันดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
เสี่ยวเถียนลอบมองจากข้าง ๆ สีหน้าของถงซินอันเหมือนสัตว์ร้ายในน้ำโคลนเลย เขาทำเหมือนอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มแก่แล้ว
อันที่จริงเด็กหนุ่มก็ทำแบบนั้นจริง ๆ เขาใช้ประโยชน์ตอนที่คุณปู่เผลอแล้วกะฉวยโอกาสเผ่นออกไปจากที่นี่
“เอ่อ พ่อหนุ่ม…” ชายชราอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเด็กหนุ่มที่กำลังลนลาน
ถงซิงอันที่รีบร้อนเดินมาประตู ทว่าก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน เขาตับหัวอย่างแรง ก่อนจะหันหลับมา “คุณปู่ซูครับ หัวหน้าฝากข้อความมาให้คุณด้วยครับ”
ฝากข้อความมาให้? มีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ?
ชายชรามองอีกฝ่ายด้วยสายตาประหม่า
“หัวหน้าบอกว่า เมื่อความสัมพันธ์อันดีก่อตัวขึ้น ทั้งสองครอบครัวจะยิ่งใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม คุณปู่จะไม่ยอมมาเยี่ยมเพียงเพราะสถานะของเขาไม่ได้ เขาจะรอคุณอยู่ที่บ้านครับ!”
ไม่รู้ทำไมเสี่ยวเถียนจึงรู้สึกว่าถงซิงอันถึงพร้อมจะวิ่งหนีทุกครั้งที่พูดตลอด เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความแปลกใจ
วันนี้ทุกอย่างก็ปกติดีนี่ ไม่มีอันตรายอะไรเลยนะ?
เด็กหนุ่มว่าจบก็มองด้วยความประหม่าอีกแล้ว เขากำลังรอคำตอบอยู่
หัวหน้าพูดด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังว่าคนบ้านซูจะมาเป็นแขกที่บ้าน
ชายชราพูดไม่ออก และไม่รู้จะตอบออกไปยังไง
ให้ไปเยี่ยมที่บ้านหรือ?
เขาละอายใจนัก!
แต่เขาจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ?
ต่งหยวนจงจริงใจขนาดนี้ เขาสามารถมองออกอยู่แล้ว แล้วถ้าปฏิเสธไปก็มีแต่จะทำร้ายจิตใจกัน แบบนี้คงไม่ดีแน่
บรรยากาศก็กลายเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที คนแก่และเด็กหนุ่มยืนมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย
ซูเสี่ยวเถียนมองไปที่ทั้งสองอย่างช่วยไม่ได้
นี่ทั้งสองจะจ้องหน้ากันไปตลอดเลยงั้นหรือ?
ถึงจะมองกันแค่กันสองคน แต่กลับรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“รบกวนพี่ซิงอันฝากข้อความกลับไปหาคุณปู่รองนะคะว่า รอเตรียมยาเสร็จเมื่อไรพวกเราจะไปหาค่ะ”
ถงซิงอันมีความสุขมากเมื่อในที่สุดได้รับคำตอบเสียที ก่อนที่เขาจะมาทำงานกับหัวหน้า เขารู้อยู่แล่วว่าครอบครัวซูสำคัญกับหัวหน้ามาก
บอดีการ์ดคนเก่าที่ชื่อเสี่ยวหยวนถูกส่งตัวกลับเพราะทำให้คนบ้านนี้ขุ่นเคืองใจ และวันนี้หัวหน้าให้เขาเอาบัตรผ่านทางมาส่งให้ เขาเลยรู้สึกอึดอัดมาตลอดทาง
ก่อนเข้าบ้านยังกังวลอยู่เลยว่าถ้าพวกเขารับมือยากจำทำยังไงดี?
เขาจะกลายเป็นเสี่ยวหยวนคนที่สองไหม ทำให้พวกเขาไม่พอใจแล้วก็โดนไล่ออกน่ะ?
วันนี้เลยมาด้วยความรู้สึกที่ว่าจะไม่หาเรื่องใครทั้งนั้น
เขายังคิดอีกว่าต่อให้อีกฝ่ายพูดจาหยาบคาย เขาก็จะไม่โต้เถียง เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่เสียโอกาสในการทำงาน
แต่ตอนนี้ทำไมถึงคิดว่าพวกเขาต่างไปจากที่ตนคิดนะ?
ตั้งแต่คนแก่ไล่มาจนถึงเด็กล้วนสุภาพกับเขาทั้งนั้น แถมยังให้ดื่มน้ำด้วย
ต่างจากที่หมออู๋พูดโดยสิ้นเชิง
หมออู๋เข้าใจผิดหรือเปล่า?
ถ้าเป็นแบบนี้ต้องกลับไปบอกแกสักหน่อยแล้ว จะได้ไม่เข้าใจผิดกันอีก เพราะเป็นครอบครัวที่หัวหน้าให้ความสำคัญ ดังนั้นจะต้องเริ่มด้วยความสัมพันธ์ที่ดี
ส่วนคนที่ชื่อเสี่ยวหยวนคงเพราะทำอะไรผิดและทำให้หัวหน้าไม่พอใจสินะ?
เสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นอีกฝ่ายจากไปอย่างเร่งรีบ
เขากลัวอะไรเนี่ย? บ้านเราเป็นคนดีกันทั้งนั้น ไม่ได้มีวิญญาณชั่วร้ายเสียหน่อย
วันหน้าเจอกันจะได้ถาม
คุณปู่ซูมองบัตรแผ่นบาง เขารู้สึกว่ามันยุ่งยากมาก
ถึงจะสัญญาไว้แล้วว่าจะเป็นพี่ชาย แต่ก็ไม่คิดจะเข้าใกล้ตระกูลต่งมากเกินไป
เขามองเสี่ยวเถียนด้วยสายตาตำหนิติเตียน ทำไมเด็กคนนี้ถึงตอบตกลงเสียได้ล่ะ? แล้วพวกเขาจะไปยังไง ของขวัญก็ไม่มีให้
ครั้งที่แล้วที่อีกฝ่ายมาหาก็เอาบุหรี่ สุรา น้ำตาล ชา เสื้อผ้า และม้วนผ้ามาให้ด้วย
เขาคำนวณแล้วว่ามันใช้เงินพอสมควรเลย
“เสี่ยวเถียน หลานคิดจะไปบ้านตระกูลต่งหรือ?”
“เดินไปดูไปก็ได้ค่ะปู่ ปู่ต่งอยากให้ปู่เป็นพี่ชายของเขานะ การที่เราจะไปมาหาสู่กันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนนี่ค่ะ” เสี่ยวเถียนพูดด้วยท่าทางผ่อนคลาย อันที่จริงเธอคิดว่ามันไม่เห็นจะผิดปกติตรงไหน
“มันก็เหมือนบ้านเรากับบ้านปู่ฉือ ปู่ตู้ไงคะ ไม่เยี่ยมหากันเป็นเรื่องปกติ?”
บอกตามตรง บ้านเราห่างชั้นกันมาก
แต่กับบ้านอื่นเราไปหากันอยู่บ่อย ๆ เลยเกิดความสนิทกัน
แต่บ้านต่งไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว เลยก่อให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา เสี่ยวเถียนตัดสินใจว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าเรารักษาความสัมพันธ์กับบ้านต่งเอาไว้
“แล้วเราจะให้อะไรพวกเขาล่ะเสี่ยวเถียน?” คุณปู่ซูแย้งขึ้นมา
เด็กสาวยิ้ม “คุณปู่มีหนูอยู่นะ ยังต้องกลัวอะไรอีกคะ?”
“อีกอย่างนะ ยาเม็ดที่หนูทำให้ก็มีค่ามากเลยนะ”
เธอพูดจริงนะ ปู่ก็รู้ว่าวัตถุดิบใช้เงินหลายสิบหยวนนะ มากกว่าเงินเดือนคนอื่นเยอะเลย
แต่ปัญหาคือ ยาเม็ดพวกนี้มีประโยชน์กับต่งหยวนจงจริงหรือ?
แล้วยามันดีจริงหรือ?
เพราะเขาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาส่งยาให้ใครเลย เสี่ยวเถียนยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจ