สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 59 สายพันธุ์ใหม่
เสียงโหยหวนดังอยู่ในท่อระบายน้ำจึงดังก้องเป็นพิเศษ …ชีสถูกทรมานจนร้องโหยหวนออกมา
“ฮ่าๆๆ!!! ร้องไปเลย!! ฉันชอบเสียงร้องที่สุด! นี่เป็นอาหารที่ดีที่สุด! ฮ่าๆๆๆ…อ้าก!!”
แต่เพียงพริบตาเดียว
ร่างกายของปีศาจหนูขนาดใหญ่ก็ลอยกลับไปชนเข้ากับท่ออีกข้างและดูเหมือนว่าร่างกายขนาดใหญ่จะตกเข้าไปในนั้น!
ชีสที่เผชิญหน้ากับความใกล้ตายและสิ้นสิ้นหวังรู้สึกเพียงว่าร่างกายขนาดใหญ่ที่กดทับตนเองอยู่หายไปอย่างกะทันหัน แขนก็เป็นอิสระแล้ว
เขารีบลุกขึ้นมาจากพื้น เห็นเพียงแผ่นหลังปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา!
นี่…ช่วยเขาไว้อย่างนั้นหรือ?
ชีสไม่แน่ใจว่าเจ้าของแผ่นหลังนี้มีที่มาอย่างไร เขารู้เพียงว่าบนร่างกายของอีกฝ่ายไม่มีกลิ่นอายปีศาจเลย
แต่กลับมีหางยาวหนาใหญ่ ร่างกายเป็นสีเขียวเข้ม…ส่วนหัวกลับเหมือนหัวของแมลง
ร่างกายไม่ได้เหยียดตรง เป็นเหมือนกับคนแก่หลังค่อม แต่กลับให้ความรู้สึกแข็งแกร่งมาก
ชีสเคยดูหนังของพวกมนุษย์ และหากใช้คำในหนังมาอธิบาย ‘ของ’ นี้ก็จะเรียกว่า เอเลี่ยน!
แต่เอเลี่ยนตัวนี้กลับมอบความรู้สึกที่ยากจะอธิบายให้กับชีส เป็นความรู้สึกคล้ายกับรู้จักกันมานาน
“นายเป็น…ใคร?” ชีสลองถาม
‘ของ’ นั้นหันหน้ามามองเขา แต่กลับไม่พูดกับเขา…ทันใดนั้น ‘ของ’ นั้นก็หันหน้ากลับไปมองยังปีศาจหนูตัวใหญ่!
ปีศาจหนูคลานออกมาจากกำแพงและพุ่งเข้ามาโจมตีในพริบตา ด้วยท่าทางอ้าปากกว้าง กางกรงเล็บ!
“แกเป็นตัวอะไร! กล้ามาลอบโจมตีในเขตของฉันเหรอ!! รนหาที่ตาย!!”
ชีสหลับตาลงตามสัญชาตญาณ พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวน!
ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมาด้วยร่างกายสั่นเทา เขาก็เห็นแขนขาของปีศาจหนูขนาดใหญ่ถูกฉีกออกแล้ว!
ส่วนบนข้อมือของ ‘บางอย่าง’ ที่ช่วยเขามีเขาอันแหลมคมโผล่ออกมาและบนนั้นยังมีเลือดหยด!
“อ้ากกก! อย่าเข้ามา! อ้ากกก!”
แต่ ‘บางอย่าง’ นั้นกลับไม่สนใจ เพียงพริบตาก็มาถึงตรงหน้าของปีศาจหนูตัวใหญ่!
มันคว้าหัวของปีศาจหนูตัวใหญ่ และยกร่างของปีศาจหนูขึ้นมาฟาดไปบนผนังท่อ!
ปัง!
เสียงดังสนั่นมาพร้อมกับผนังที่สั่นสะเทือนจากการฟาด!
หัวของปีศาจหนูตัวใหญ่ติดชะงักอยู่ในกำแพง ปีศาจหนูสูญสิ้นสติลงในพริบตา…ไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาอีก!
ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ ‘บางอย่าง’ นั้นก็ยังบีบหัวของปีศาจหนูอย่างไม่ยั้งไมตรี!
ใช่แล้ว บีบไปโดยตรง!
เลือดผสมกับสมองพุ่งออกมา…ใส่หน้าของชีสและดูเหมือนจะทำให้ชีสเกิดภาวะสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ ฉากสยดสยองเกินกว่าที่เขาจะรับไหว
ส่วนในตอนนี้ ‘บางอย่าง’ นั้นก็อ้าปากของตนเอง ขณะเดียวกันก็กดร่างของปีศาจหนูลงไป ก่อนย่อลงไปขบกัดอย่างบ้าคลั่ง!
มัน…มันกำลังกลืนซากของปีศาจหนูตนนี้!
ชีสหวาดกลัวเหลือคณา เขานั่งลงไปบนพื้น มือและขาเย็นเฉียบ ขยับไม่ได้…ดูเหมือนจะผ่านไปได้ไม่นาน ร่างกายของปีศาจหนูขนาดใหญ่ก็ถูก ‘บางอย่าง’ นั้นกลืนเข้าท้องไป
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ร่างกายของ ‘บางอย่าง’ นี้ก็ไม่ได้ขยายออกมา
มันย่ออยู่บนพื้นและหันกลับมากะทันหัน ส่วนหางยาวหนาด้านหลังของมันก็เริ่มกวัดแกว่งไปมากลางอากาศ
อย่างไรก็แล้วแต่ตอนนี้มันได้มองมาทางชีสแล้ว!
“อย่า…อย่า…เข้า…มา…”
มันคลานมาถึงตรงหน้าของชีว ปากที่ยังมีเลือดเนื้อของปีศาจหนูมาอยู่หน้าจมูกตัวเอง ร่างกายของชีสพลันก็แข็งทื่อขึ้นมา!
เขาคิดว่าจุดจบของตัวเองคงเป็นแบบปีศาจหนูตัวใหญ่ ซึ่งกลายเป็นอาหารของเอเลี่ยน
แต่คิดไม่ถึงว่าหางของ ‘บางอย่าง’ ที่แปลกประหลาดจะม้วนเอาอาหารที่ชีสขโมยมาและหล่นบนพื้นมาไว้ตรงหน้าของชีส
“นี่คือ…ให้ฉันงั้นเหรอ?” ชีสมองฉากตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ!
ดูเหมือน ‘ของ’ ประหลาดจะไม่มีเจตนาร้าย แต่มันกลับไม่ได้พูดจาและไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา หลังจากม้วนของมาให้แล้วมันก็หายตัวไปภายในท่อระบายน้ำอันซับซ้อนเพียงชั่วพริบตา
ชีสหวาดกลัวมาก เขารีบเก็บสิ่งของขึ้นมา แล้ววิ่งหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยไม่หันกลับมามองอีก…เขาไม่กล้ามาที่นี่อีกแล้ว!
…
…
เจ้าของสมาคมคนปัจจุบัน อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเจ้าของสมาคมที่ไม่เป็นมืออาชีพที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมมา สำหรับเจ้าของสมาคมลั่วแล้ว คนที่เขาเปรียบเทียบได้นั้นก็มีเพียงเจ้าของสมาคมคนก่อนเท่านั้น
แต่อย่าลืมว่าเจ้าของสมาคมมีอำนาจสูงสุดในสมาคมแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่เป็นมืออาชีพอย่างไร แต่บรรดาภูตดำก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
และก็ไม่ต้องพูดถึงคุณหนูสาวใช้ที่ไม่ว่าเจ้าของสมาคมจะขออะไรก็ไม่เคยขัดเลย
ดังนั้นการไม่อยู่ในสมาคม และพาโยวเย่ออกมาเดินเล่นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นบางครั้ง ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรกับเจ้าของสมาคมลั่ว
เดิมทีลั่วชิวก็มักจะมาเดินเล่นในซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่แล้ว เพราะที่บ้านมีผู้ใหญ่พึ่งไม่ค่อยได้อย่างเริ่นจื่อหลิง ดังนั้นข้าวของภายในบ้านจึงได้ลั่วชิวเป็นคนจัดการเกือบทั้งหมด
“อืม…อันนี้ลดราคา ดูเหมือนจะใช้ได้”
เจ้าของสมาคมลั่วถือกล่องเนื้อวัวเทียบกันสองกล่อง ท้ายที่สุดเขาก็เลือกกล่องที่ลดราคา แม้ว่าจมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม
“นายท่าน ดูเหมือนกล่องนี้จะไม่ค่อยสดสักเท่าไรนะคะ” แต่คุณหนูสาวใช้ผู้เป็นคนเตรียมอาหารให้นายท่านกลับเห็นต่าง
“ไม่เป็นไรหรอก”
ลั่วชิวหัวเราะ “ฉันเชื่อถือฝีมือเธอ ถึงไม่ใช่ของสดก็ทำออกมาได้อร่อย อีกอย่างถ้าไม่ได้ซื้อของลดราคาในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วก็ไม่สบายใจน่ะ แต่ถ้าเป็นพวกผักแล้วต้องสดหน่อยถึงจะดี”
โยวเย่ยิ้มเล็กน้อย
แต่ทันใดนั้นเจ้าของสมาคมลั่วที่กำลังเข็นรถเข็นก็หยุดลงกะทันหันที่หน้าชั้นวางของ และมองลงไปใต้ดิน
ตอนนี้ลั่วชิวที่มองลงไปใต้ดินก็พูดเบาๆ ว่า “โยวเย่ เธอว่าฉันเป็นคนที่ไปที่ไหน…ที่นั่นก็มักจะเกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่า?”
“ก็เพราะว่าเป็นนายท่านค่ะ”
คำตอบของคุณหนูสาวใช้ทำให้ลั่วชิวรู้สึกว่ามีความหมายอย่างอื่น เฮ้ยๆ นี่หมายความว่าฉันเป็นร่างของเทพแห่งความตายงั้นเหรอ…
ทันใดนั้นพื้นก็สั่นสะเทือนขึ้นมา
ครั้งนี้เจ้าของสมาคมโบกมือขึ้น พวกขวดกระป๋องบนชั้นวางจึงไม่ได้ตกลงมาจากแรงสั่นสะเทือน
มีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุเพิ่งได้ห้าหกปีกำลังเบิกตากว้างมองกระป๋องด้านบน…เมื่อกี้ของกำลังจะตกลงมาไม่ใช่เหรอ?
เด็กหญิงเอียงคออย่างสงสัย จากนั้นดูเหมือนว่าเธอจะมองเห็นพี่ชายและพี่สาวสวยคนหนึ่งเดินผ่าน…แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้เดินผ่าน
เพราะเพียงพริบตาก็มองไม่เห็นตัวแล้ว
แต่แล้วเธอก็ถูกแม่ของเธอโอบกอดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นถึงพบว่าคนในซูเปอร์มาร์เก็ตดูวุ่นวายและกำลังพูดจ้อกแจ้กถึงเรื่องอะไรสักอย่าง
“เมื่อกี้พื้นสั่นๆ หรือเปล่า?”
“ดูเหมือนจะใช่นะ”
“คงไม่ใช่แผ่นดินไหวอีกใช่ไหม?”
“ไม่หรอกมั้ง? ไม่กี่วันก่อนเพิ่งเกิดมาครั้งหนึ่งแล้วนี่ ที่นี่ไม่ใช่เขตแผ่นดินไหวสักหน่อย!”
“เฮ้! น้องสาวเจ้าสิ! อย่าแซงแถว! ไปข้างหลังโน่น!!”
…
หลังจากพื้นสั่นผ่านไปไม่นาน เจ้าของสมาคมกับคุณหนูสาวใช้ก็ไปเดินเล่นอยู่ในโซนผัก ลั่วชิวถือหัวหอมสีขาวอยู่ในมือ ก่อนถามออกมาอย่างสงสัยว่า “รูปร่างต่างกันนิดหน่อยหรือเปล่า?”
“ค่ะ นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกคุณหนูนีโรทำร้ายแต่สุดท้ายรอดไปได้” คุณหนูสาวใช้รับหัวหอมสีขาวมาจากมือของเจ้าของสมาคม จากนั้นก็ดึงส่วนที่แห้งแล้วออกอย่างระมัดระวังถึงวางลงในรถเข็น “แน่นอนว่าคุณหนูนีโรฆ่าให้ตายได้ แต่ดูแล้วเธอคงขี้เกียจเกินไป”
“สงสัยเพราะไม่เกี่ยวกับตัวเองจึงไม่สนใจหากเรื่องมันจะใหญ่โตขึ้น?” เจ้าของสมาคมหัวเราะ ทันใดนั้นก็ถามขึ้นว่า “แต่ก่อนพวกเราเคยขายเทคโนโลยีแบบนี้ไหม?”
คุณหนูสาวใช้ครุ่นคิดและตอบว่า “สามสิบปีก่อนเคยขายเทคโนโลยีฟิวชั่นของยีนทางชีวภาพค่ะ”
“ไม่ใช่สัตว์ประหลาด…เป็นสายพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่ง” ทันใดนั้นเจ้าของสมาคมลั่วก็มองคุณหนูสาวใช้และยิ้ม “จะว่าไปในห้องทดลองของเธอมีอดัมนิ”
มันก็ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกัน
“ไม่รู้ว่าปัญญาอิเล็กทรอนิกส์แบบนั้น ต่อไปจะพัฒนาเป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตใหม่ได้หรือไม่”
โยวเย่ส่ายหน้า “ฉันไม่ได้เข้าร่วมในชุดคำสั่งแบบนั้น จึงไม่สามารถทำได้ค่ะ”
ลั่วชิวเลือกแครอทสองสามหัว วางลงในรถเข็นและไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้อีก “ไปเถอะ พวกเรายังมีของต้องซื้ออีก…จริง วันเสาร์นี้ เธอมาทานข้าวที่บ้านฉันสิ”
“ได้ค่ะ”