บทที่ 558 ถึงเวลาแข่งความอดทนแล้ว
บทที่ 558 ถึงเวลาแข่งความอดทนแล้ว
ทุกคนพยักหน้า อันที่จริงฉืออี้หย่วนคาดเดาได้ยอดเยี่ยมมาก ถ้าพวกนั้นเริ่มลงมือตอนกลางดึก แล้วเรารอจนถึงตอนเช้าก็คงไม่เจอใครแล้ว
ช่วงใกล้รุ่งสางคนในรถจะนอนหลับสนิท อาจจะมีคนสองคนที่เห็นเหตุการณ์บ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยแล้วพวกเขาจะไม่เข้ามาช่วยเราหรอก
“ไม่งั้นเราก็รอให้เขาลงมือก่อนดีกว่านะ!” เสี่ยวเถียนยิ้มหวาน
นานแล้วที่ไม่ได้ทะเลาะกับใครเลย ตอนนี้คันไม้คันมือไปหมดและไม่คิดเลยว่าโอกาสจะมาในคืนนี้ ไว้จับได้เมื่อไรจะจัดการให้สาสม แค่คิดเฉย ๆ ก็พร้อมจะสู้แล้ว ทั้งยังหวังอีกว่าถือเป็นการฝึกไปในตัว
ฉืออี้หย่วนเข้าใจสิ่งที่น้องพูด นั้นมันทำให้เขาพูดไม่ออก เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนหวานและนุ่มนวลนะ ทำไมถึงใช้ความรุนแรงขนาดนี้?
เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะสวดภาวนาให้พวกหัวขโมย
ยิ่งเห็นรอยยิ้มตื่นเต้นบนใบหน้าเธอยิ่งต้องถอนหายใจ เมื่อไรเด็กคนนั้นจะอยู่ข้างหลังอย่างเชื่อฟัง และปล่อยให้พี่ชายแบบเรา ๆ ปกป้องนะ?
และความแข็งแกร่งของเธอทำพวกเราดูไร้ความสามารถไปเลย แต่พอเทียบกันแล้วมันก็จริงอย่างที่ว่า
เด็กสาวไม่สนว่าใครกำลังคิดอะไร เพราะสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือตนจะต้องทำยังไงจึงจะสามารถเอาชนะศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว?
ฉืออี้หย่วนหมดคำจะพูด “งั้นก็ไม่ต้องเฝ้าระวังแล้ว นอนเลย!”
ถึงจะบอกให้ทุกคนนอน แต่ใครจะไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงแสร้งหลับ
“ทุกคนต้องนอนจริง ๆ นะ เราเดินทางอีกหลายวัน จะไม่ยอมพักผ่อนเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้” เสี่ยวเถียนเข้าใจที่พวกเขาหมายถึงจึงรีบเตือน
แต่ถึงพวกเขาจะเห็นด้วยกับเหตุผลนั่นแต่ถ้าทุกคนหลับไปจริง ๆ แล้วการเคลื่อนไหวของคนพวกนั้นเบาจนเราไม่ตื่นล่ะ จะทำยังไง?
“ไม่เป็นไรหรอก หนูจะสะดุ้งตื่นแน่ ต้องตื่นแน่นอน”
เสี่ยวเถียนติดต่อกับระบบแล้ว มันบอกว่าถ้าเป็นในช่วงระยะใกล้สามารถเตือนให้เสี่ยวเถียนรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา
แต่ไม่มีใครเชื่อในคำพูดนั้นเลย
มีใครในบ้านบ้างที่ไม่รู้ว่าเสี่ยวเถียนเป็นพวกต่อให้ฟ้าผ่าก็ไม่ตื่น แล้วมาบอกว่าตัวเองจะสะดุ้งตื่น?
เด็กสาวเกิดเขินขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาแปลก ๆ ของคนที่บ้าน
“ไม่งั้น เราให้สองคนเฝ้าของ แสร้งทำเป็นหลับจนถึงเที่ยงคืนกว่าไหมล่ะ?” เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตนพูดไม่มีใครยอมรับเลย จึงเอ่ยต่อ
ถ้าหลับกันหมด ฝ่ายนู้นจะสงสัยไหม?
“ซานกงกับพี่จะเฝ้ายามเอง ทุกคนนอนเถอะ!” ซื่อเลี่ยงเอ่ยอย่างใจเย็น
ตั้งแต่เขาเริ่มเรียนวาดภาพ นิสัยอยู่ไม่สุขของเขาเหมือนจะเบาลงไปเยอะ มีความสุขุมขึ้นทุกวัน
ในไม่ช้า คนอื่น ๆ ก็เอนหลังพิงเก้าอี้และผล็อยหลับไป
พอเห็นคนบ้านซูเริ่มหลับ พวกหัวขโมยตื่นเต้นกันมาก นอนแล้วหรือ นอนไปเลยนะ จะได้ลงมือเสียที
แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ กันนะ?
คนพวกนี้ซื้อสินค้ามาไม่ใช่หรือ ไม่ระวังเลยหรือไง?
หลับกันหมดเลยหรือ?
กระทั่งเห็นคนสองคนกำลังสนทนา ยังไม่ได้หลับ ก็ได้แต่คิดว่าเจ้าพวกนี้เจ้าเล่ห์นัก และคนที่อยู่เฝ้าก็ไม่ได้อยู่ในที่สว่างด้วย เขาอยู่ตรงที่มืด
เราเริ่มปรึกษากัน
“ถ้าถึงเวลาแล้วสองคนนั้นยังไม่หลับเราต้องหาวิธีอื่นแล้วนะ”
“อาจจะล่อออกไป แล้วที่เหลือคอยย้ายของ”
“ได้นะ แต่ตอนนี้ฉันง่วง ๆ ยังไงก็ไม่รู้!”
หนึ่งในนั้นว่าก่อนหาว
ชายหัวเกรียนที่เป็นหัวหน้ามองชายอ้วนไร้ประโยชน์คนนั้น ก่อนเอ่ยด้วยความรังเกียจ “งั้นแกก็งีบซะ รอฉันเรียกแล้วกัน”
ชายอ้วนที่ทั้งเหนื่อยทั้งหิวผล็อยหลับไปในไม่ช้า
“ไอ้อ้วนนี่ รอเสร็จงานเมื่อไร เอามันออกไปซะ ฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์!” ชายหัวเกรียนด่า
ส่วนอีกสองคนไม่ได้พูดว่าเห็นด้วยหรือไม่ เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อย ๆ ถึงจะนานแต่เพิ่งจะเที่ยงคืนเอง
ซื่อเลี่ยงหาว “ซานกงช่วยเฝ้าให้พี่ทีนะ พี่ง่วงมาก อยากพักสายตาหน่อย”
ว่าจบก็เอนหัวพักแล้วหลับทันที
ซานกงก่นด่า ก่อนมองไปรอบ ๆ แล้วเอ่ยกับตัวเอง “ไม่ค่อยมีคนตื่นเท่าไรเพราะไม่มีอะไรให้เฝ้าสินะ พวกเราไม่ได้เอาของดีอะไรสักหน่อยนี่! นอนสักทีเถอะ”
หลังจากพึมพำ ๆ เขาก็ผล็อยหลับตามไป
ใบหน้าพวกหัวขโมยเต็มไปด้วยความปรีดาในทันที
เผลอแป๊บเดียวก็หลับกันหมดแล้ว ก่อนจะนอนไอ้หนุ่มนั่นยังบอกอีกด้วยว่าไม่ได้เอาของดีอะไรมา หลอกกันหรือเปล่าเนี่ย?
“ลูกพี่ ถ้าในนั้นไม่มีของดีจริง ๆ พวกเราจะไม่ซวยเอาหรือครับ?”
“ไอ้เด็กนั่นมันฉลาด เขาจงใจหลอกเรา!” รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของชายหัวเกรียน แต่เพราะมืดจึงมองเห็นไม่ค่อยชัด
ได้ยินเช่นนั้นคนอื่น ๆ ก็เข้าใจทันที ที่แท้ตนก็เกือบตกหลุมพรางเสียแล้ว!
คนพวกนั้นในสายตาเราตอนนี้เป็นแค่พวกโง่ที่มีเงินก็เท่านั้น ไม่รู้ว่าตอนตื่นขึ้นมาแล้วหาของไม่เจอจะเป็นบ้ากันไปหรือเปล่า แต่มันไม่สำคัญเสียหน่อย เพราะยังไงเราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับของพวกนั้นแล้ว
ชายหัวเกรียนผลักชายอ้วน
“ใครผลักฉันเนี่ย ฉันกำลังกินซาลาเปาเนื้ออยู่นะ!” ไม่ทันได้เอ่ยจบประโยค เขารีบหุบปากฉับเมื่อเห็นสีหน้าน่าเกลียดของหัวหน้า
ส่วนอีกคนรีบปรามสถานการณ์ “ลูกพี่ พวกเราเอากระเป๋าเขาไปหมดเลยไหม หรือว่า…”
“เอาไปให้หมด อย่าให้เหลือ!” หัวหัวหน้าตอบตรง ๆ
ทุกคนหลับกันหมดแล้วนะ ถ้าไม่ทำตัวให้ร้ายกาจเข้าไว้แล้วจะสมเป็นพวกเราได้ยังไง?
“ลูกพี่ เราลงมือเลยดีไหม? ใกล้จะถึงเวลาแล้ว รถไฟไปถึงสถานีตอน 02:25 น. นะ”
ชายอ้วนคงกำลังนึกถึงเงินก้อนโตที่กำลังจะได้ จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“รออีกครึ่งชั่วโมงเถอะ รอให้พวกนั้นหลับสนิทก่อน” หัวหน้าว่าด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
สมาชิกบ้านซูบางคนหลับจริง ๆ แต่บางคนแค่แสร้งเป็นหลับ
เสี่ยวเถียนหลับไปเกือบสองชั่วโมงก่อนระบบปลุกขึ้น
หากอยู่ฝั่งเดียวกับเธอ เวลาลืมตาเราจะเห็นกลุ่มคนที่มีเจตนาร้ายอยู่ตรงนั้น แต่ถ้านอนไม่ถึงสองชั่วโมง เสี่ยวเถียนจะไม่มีทางตื่นเลย
เด็กสาวได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ ทำไมพวกนั้นไม่ทำอะไรสักที อดทนรออะไรอยู่?
ถ้ารอต่อไปแบบนี้ คืนนี้คงไม่ได้พักแล้วนะ
แถมยังต้องอยู่บนรถไฟอีกสองวันอีก ถ้าไม่นอนได้ง่วงตายแน่
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ง่วงพอ ๆ กัน แต่พวกเรากำลังแข่งกันอดทนอยู่