เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 568 ให้คำแนะนำที่ดี

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 568 ให้คำแนะนำที่ดี

บทที่ 568 ให้คำแนะนำที่ดี

ตอนฮวางเหวินป่ายได้รับเรื่อง เขาไม่อยากเชื่อว่าเสี่ยวเถียนจะเก็งกำไร*[1]เลย

เพราะความเป็นนักเรียนดีเด่นของเธอฝั่งอยู่ในจิตใจพวกเราทุกคน แต่ฉากที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน

นักเรียนดีเด่นในสายตาเขา ในสายตาของทุก ๆ คน แท้จริงกำลังทำเรื่องเก็งกำไรอยู่

ฮวางเหวินป่ายที่เสียใจอย่างหนัก และมองเสี่ยวเถียนด้วยสายตาที่เสียใจที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้า*[2]

“นักเรียนซูเสี่ยวเถียน ช่วยเก็บข้าวของแล้วมาหาครูที่ห้องทำงานด้วย” ฮวางเหวินป่ายเอ่ยเสียงเย็น

บรรยากาศในห้องเข้าสู่บรรยากาศเงียบสงบทันใด

รอยยิ้มสดใสของพวกเด็ก ๆ จางหายไป แต่ใบหน้าซ่งหลิงหลิงกลับมีรอยยิ้มแย้มขึ้น

ตั้งแต่ที่เกิดความขัดแย้งขึ้นเมื่อช่วงเริ่มเรียน ซ่งหลิงหลิงทำตัวดีมาตลอดตั้งแต่ที่เสียเปรียบ

แต่ตู้หย่งเฮ่อเอาแต่เกาะแกะเสี่ยวเถียนอยู่ตลอด ถึงขนาดมีความสัมพันธ์อันดีกับเสี่ยวปาเสี่ยวจิ่วเพื่อที่จะผูกมิตรเสี่ยวเถียน และมันทำให้ซ่งหลิงหลิงไม่ยินดีเอามาก

แต่จากบทเรียนของโจวหรุ่ยซู ทำให้เธอกลัวว่าถ้าทำเสี่ยวเถียนขุ่นเคือง จะนำพาโชคร้ายมาสู่ครอบครัวได้จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

คราวก่อนที่ซูเสี่ยวเถียนเอาเครื่องประดับมาขายที่โรงเรียน ซ่งหลิงหลิงคิดจะรายงานเรื่องนี้แล้ว แต่หลังจากนั้นอีกฝ่ายไม่เคยเอามาอีกเลย จึงได้แต่ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ

ทว่าแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่จริง ๆ ตนมีนิสัยดื้อรั้น ช่วงที่ผ่านมาเลยได้แต่จ้องเขม็งอยู่ตลอด

ซ่งหลิงหลิงยิ้มอย่างมีชัย

ในใจลอบคิด ‘มาดูตอนที่เราจับจุดอ่อนแกได้กัน’

เสี่ยวเถียนมองท่าทางไม่สบายใจของครู โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในฐานะที่เป็นนักเรียนดีเด่น เธอมีฮวางเหวินป่ายคอยคุ้มกะลาหัวให้ในหลาย ๆ เรื่อง

เด็กสาวมองไปที่โต๊ะ มันก็ไม่มีอะไรให้เก็บนี่นา สุดท้ายก็ได้แต่เดินตามออกไป

เสี่ยวปาเสี่ยวจิ่วเห็นสีหน้าครูแปลก ๆ จึงลุกตามน้องสาวไปด้วย แต่ตอนฮวางเหวินป่ายเห็นเด็กชายทั้งสองก็ได้แต่ตกใจ

“ทำไมพวกเธอไม่ไปเข้าเรียนกันล่ะ? ตามครูมาทำไม?”

พวกเขามองเสี่ยวเถียน เราตามครูมาหรือ?

ไม่ใช่สักหน่อย ตามน้องมาต่างหาก!

“ครูครับ ทำไมต้องให้น้องผมไปที่สำนักงานด้วย?” เสี่ยวปาเป็นคนแรกที่ถาม

“น้องสาวพวกเธอกำลังเก็งกำไรกันในห้องเรียนนะ รู้บ้างไหมว่าปัญหานี้ร้ายแรงขนาดไหนน่ะ!” ฮวางเหวินป่ายปวดหัวมาก

เด็กบ้านซูเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมและเป็นนักเรียนที่เขาชอบด้วย

เลยไม่อยากให้นักเรียนพวกนี้สร้างปัญหาจนส่งผลกระทบต่อการเรียน

แต่อีกฝ่ายเอาไปแจ้งครูใหญ่ที่สำนักงานแล้ว ถ้าจัดการได้ไม่ดีปัญหาอื่นได้ตามมาอีกแน่

ก่อนหน้าที่ครูประจำชั้นจะพูด เสี่ยวเถียนไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรผิดสักนิด ทำไมครูต้องเชิญมาห้องทำงานด้วย?

แต่พอได้ยินคำตอบก็ประหลาดใจ

อาชญากรรมร้ายแรง?

แต่จู่ ๆ ก็คิดว่าถ้ามีความผิดฐานเก็งกำไร เธอจะต้องลำบากแน่ ไม่ได้การแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะยอมรับข้อหานี้ไม่ได้

“ครูฮวางคะ หนูไม่กล้ายอมรับข้อหานี้หรอกค่ะ เรื่องเก็งกำไรอะไรนั่นหนูกล้าทำที่ไหนกันคะ?

น้ำเสียงเธอเรียบนิ่ง ต่างจากจิตใจที่กำลังวุ่นวาย

“แต่ครูเพิ่งเห็นว่าเธอรับเงินไปนะ”

คนอื่น ๆ ที่ผ่านมาเดินเข้าไปในห้องแล้ว ฮวางเหวินป่ายจึงเอ่ยได้ไม่เกรงใจ

“ครูฮวาง มันคือเครื่องประดับที่หนูเอากลับมาจากบ้านตอนปีใหม่ค่ะ ตอนนี้เห็นอากาศอุ่นขึ้นแล้วเลยอยากเอามาแบ่งเพื่อน มันผิดตรงไหนหรือคะ?”

“การแบ่งปันเป็นเรื่องที่ถูก แต่การเก็บเงินเป็นเรื่องที่ผิด” คนเป็นครูปวดหัวกว่าเดิม

“งั้นคงเป็นการกล่าวหาแล้วค่ะ หลังจากที่เลือกให้พวกเจียงหงแล้ว อันที่เหลือก็มีคนมาขอค่ะ ไม่ใช่คนที่หนูชอบด้วย หนูจะให้ไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้ เลยเก็บเงินตามราคาที่ซื้อมาค่ะ แล้วมันจะไปเก็งกำไรได้ยังไง?”

อีกอย่าง ใครมันจะไปทำกะอีแค่เครื่องประดับไม่กี่ชิ้นเนี่ย?

อย่าสร้างปัญหาให้มากจะได้ไหม?

แต่ประโยคนี้เสี่ยวเถียนไม่ได้พูดออกไปอยู่แล้ว

“เธอบอกว่าเป็นราคาตามที่ซื้อมา แต่มันไม่มีใครพิสูจน์ได้นี่!” ฮวางเหวินป่ายทุกข์ใจอย่างมาก

ต่อให้บอกว่าขายออกไปในราคาเท่าทุน แต่คุณไม่สามารถแสดงหลักฐานพิสูจน์ได้นี่ และสุดท้ายก็ถูกกำหนดให้ยอมรับเท่านั้น ตั้งแต่มาดูแลห้องเรียนนี้ ฮวางเหวินป่ายเหนื่อยมาโดยตลอดเลย

ไม่รู้ว่าทำไมเด็กวัยรุ่นถึงมีอะไรในใจเต็มไปหมด

อาจเป็นเพราะฉลาดเกินไปหรือเปล่า?

ถ้ารู้เร็วกว่านี้คงไม่มาเป็นครูประจำชั้นห้องนี้หรอก แค่สองปีเขาดูแก่ขึ้นกว่าเดิมหลายปีเลย

“หนูเองก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าถ้าฝ่ายนั้นบอกว่าหนูเก็งกำไร งั้นให้เขาเอาหลักฐานที่ว่าหนูทำมาให้ดูได้ไหมล่ะ?” เสี่ยวเถียนกลอกตาก่อนจะว่า

เธอจะไม่นอนอยู่ ๆ รอความตายหรอกนะ ถ้าฝ่ายนั่นบอกว่าเครื่องประดับของเธอราคาสูง ก็เอาหลักฐานที่ว่าเธอขายแพงมาให้ดูกันเลย

แต่ถ้าการรายงานครั้งนี้ประสบผล จากนี้ไปชีวิตคงลำบากขึ้นแน่นอน

“ครูฮวางครับ ตอนเสี่ยวเถียนซื้อของพวกนี้มาก ก็บอกว่าจะเอามาให้เพื่อน ๆ นะ ราคาที่ซื้อก็เท่ากับที่ขายให้เลยด้วย ถ้าหลักฐานใช้การไม่ได้งั้นพวกเราก็ไม่ซื้อมาแล้ว” เสี่ยวปาเอ่ยทันที

เสี่ยวจิ่วเสริม “ครูฮวางครับ น้องเล็กของเราเป็นนักแปลภาษาเยอรมันกับภาษาฝรั่งเศสเลยนะ จะมาขาดเหลือเงินไม่กี่เหมาได้ยังไง?”

“ถ้าครูฮวางรู้สึกว่ามันยากไป งั้นลองหาในเมืองหลวงก็ได้ค่ะ ถ้าหาราคาที่ต่ำกว่าที่หนูขายได้ก็สามารถอธิบายปัญหาได้ค่ะ” เสี่ยวเถียนเอ่ยต่อ

ฮวางเหวินป๋าย “…”

เด็กบ้านซูเก่งก็จริงแต่รับมือยากกันทุกคน

“ครูว่าวิธีที่หนูคิดดีไหมคะ?”

ดีหรือ? ดีน่ะสิ!

แต่เขาเป็นครู แถมยังเป็นครูประจำชั้นด้วย จะไปมีเวลาว่างมากถึงขนาดเดินสอบถามราคาเครื่องประดับของเด็กผู้หญิงตามตรอกได้ยังไง?

“ครูเองก็รู้ว่าหนูเป็นพวกไม่ยอมคน ถ้าวันนี้หาราคาที่ต่ำกว่าของหนูได้หนูจะยอมรับผิดค่ะ แต่ถ้าหาไม่ได้อย่ามาโทษหนูก็แล้วกัน”

เรื่องกล่าวหากันผิด ๆ เกิดขึ้นมาแล้ว ย่อมมีครั้งที่สองแน่ ๆ

แต่เธอไม่ใช่คนที่นั่งอยู่เฉย ๆ หรอกนะ เสี่ยวเถียนไม่คิดจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปอีกด้วย

หตุการณ์ในวันนี้ต้องมีซ่งหลิงหลิงอยู่เบื้องหลังแน่นอน ยัยเด็กกัดไม่ปล่อยจริง ๆ

ครึ่งปีที่ผ่านมาเรายังเข้ากันไม่ได้เลย ถ้าครั้งนี้ไม่ทำให้หล่อนได้รู้ฤทธิ์ของเธอ วันหน้าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ ๆ

เห็นเสี่ยวเถียนเป็นแบบนั้น คนเป็นครูรู้ได้ทันทีว่านักเรียนคนนี้มีแผนการอื่นอยู่ในใจ

ไม่รู้ว่าซ่งหลิงหลิงฉลาดหรือโง่กันแน่? ไม่มีอะไรเกี่ยวกับตัวเองชัด ๆ แล้วทำไมถึงยังทำตัวแบบนี้? ถ้าใส่ใจกับการเรียนบ้าง อันดับคงจะสูงขึ้นกว่านี้เยอะ

“ครูจะจัดการเอง นักเรียนซูไม่ต้องทำอะไรเกินเลยหรอกนะ”

ฮวางเหวินป่ายกลัวเด็กคนนี้จะไปจัดการกับซ่งหลิงหลิง

และถึงเขาไม่ได้พูดอะไร เสี่ยวเถียนก็เดาได้อยู่แล้ว

“ครูฮวางไม่ต้องห่วงค่ะ หนูไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายหรอก” เสี่ยวเถียนยิ้มอย่างมั่นใจ “ก็เหมือนกับการหาเงินนั่นแหละค่ะ หนูก็หาภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น!”

“…” ฮวางเหวินป่าย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนพูดเรื่องหาเงินอย่างโจ่งแจ้ง

มันผิดหรือเปล่าที่เด็กคนนี้สนใจแต่เรื่องหาเงินน่ะ?

เขาไม่คิดแสดงความเห็น

ช่วงเวลาเปลี่ยนผัน อะไร ๆ หลายอย่างก็เปลี่ยนไปจากเดิมเช่นกัน เขาเคยได้ยินว่าบางที่มีเหตุการณ์ล้านครัวเรือนมีเงินเป็นหมื่นเกิดขึ้นแล้วด้วย แถมรัฐบาลท้องถิ่นก็วางแผนที่จะยกย่องพวกเขาอีก

แถมที่เสี่ยวเถียนคิดหาเงิน ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ถูกด้วย

“นักเรียนเสี่ยวเถียน เธอเป็นนักเรียนนะ ไม่ว่าจะยังไงตอนนี้ควรตั้งใจเรียนก่อน

เด็กสาวยิ้ม “ครูฮวางคะ ผลการเรียนของหนูดีมาตลอด และเรื่องที่หนูชอบอ่านหนังสือ ใคร ๆ ในโรงเรียนก็รู้กันทั้งนั้น”

ฮวางเหวินป่ายพูดไม่ออกอีกครั้ง

ก็จริง อันดับสินะ เสี่ยวเถียนสมควรจะได้รับมันอยู่แล้ว

เพราะงั้นเรื่องหาเงินมันไม่ส่งผลกระทบต่อผลการเรียนเธอหรอก ไม่ต้องห่วงไป

*[1] การเก็งกำไร ในช่วงปี 1960-1970 ของจีนถือเป็นอาชญกรรมอย่างหนึ่งในช่วงนั้น

*[2] ไม่พอใจที่คนที่เราคาดหวัง ไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท