บทที่ 618 ผลสอบออกแล้ว
บทที่ 618 ผลสอบออกแล้ว
ผลสอบของพวกพี่ชายในบ้านต่างออกมาดีมาก ซูเสี่ยวลิ่วและซูเสี่ยวชีทั้งสองคนจึงกดดันไม่น้อย สุดท้ายแล้วพวกพี่ชายก่อนหน้านี้ก็ล้วนเรียนหนังสืออยู่ที่อำเภอ และตอนนี้พวกเขาก็ยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมที่เมืองหลวง
หากพวกเขาที่เรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมแต่ยังสอบได้ไม่ดีเท่าพวกพี่ชาย พวกเขาคงไม่มีหน้าไปเจอคนอื่น หลังจากผู้อำนวยการหลี่ยืนยันแล้วว่าคุณปู่ซูไม่ได้ตั้งตารอเรื่องนี้มากนัก ความตื่นเต้นที่มีพลันลดลง
“คุณปู่ หลานชายสองคนของคุณปู่คะแนนสอบไม่เลวเลย พวกเขาได้อันดับที่ห้าและอันดับที่เจ็ด”
รวมกับฉืออี้หย่วน ครั้งก่อนหน้านี้ก็ถือว่ามีสามคนติดอันดับสิบอันดับแรก พูดได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความจริงแล้วไม่กี่ปีมานี้ที่เมืองหลวงล้วนเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่ดอกไม้ผลิบาน
ในสิบอันดับแรก หากติดอันดับสักสองคนก็นับว่าไม่เลวแล้ว ถือว่าเป็นแนวหน้าของแต่ละโรงเรียน แต่ครั้งนี้ปรากฏว่าพวกเขาสามคนแม้จะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่คะแนนก็ถือว่าดีมาก
ตอนที่คุณปู่ซูได้ยินผลสอบก็ยังแปลกใจอยู่บ้าง
ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้พวกหลานชายก็ไปสอบที่ซีเป่ย จะได้คะแนนดีก็ไม่น่าแปลกใจ แต่ซูเสี่ยวลิ่วและซูเสี่ยวชีอยู่ที่เมืองหลวงมาตลอด
ในตอนนี้ซูเสี่ยวลิ่วและซูเสี่ยวชีก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อันดับในการสอบครั้งนี้พวกเขาพอใจเป็นอย่างยิ่ง ควรบอกว่าดีกว่าที่พวกเขาคาดไว้เสียอีก ทั้งสองสบตากันในสายตามีความปีติ
คุณปู่ซูยิ้มให้หลานทั้งสองคนครู่หนึ่ง ไม่เลวจริง ๆ ที่นำเกียรติมาให้แก่ตระกูลผู้เฒ่าซูได้
ผู้อำนวยการหลี่มองคุณปู่ซูตอนที่ได้รู้ผลสอบของหลานชายทั้งสองคน แต่ยังนิ่งเฉยได้ขนาดนี้ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
สถานการณ์นี้คืออะไรกัน?
คุณปู่มั่นใจในตัวหลานชายของบ้านเป็นอย่างมาก จึงรู้อยู่แล้วว่าหลานชายทั้งสองคนจะสอบได้คะแนนดีหรือ?
“คุณปู่ยินดีด้วย หลานชายทั้งสองคนติดสิบอันดับแรกนับว่าไม่ง่ายเลยจริง ๆ!”
ผู้อำนวยการหลี่มีท่าทีตื่นเต้นมากกว่าคุณปู่ซูเสียอีก
“ทั้งหมดเป็นเพราะในโรงเรียนมีเหล่าอาจารย์ที่สั่งสอนเป็นอย่างดี หากไม่มีเหล่าอาจารย์คอยอบรมสั่งสอน ก็ไม่มีเจ้าเด็กแสบสองคนในวันนี้หรอก” คุณปู่ซูพูดอย่างสุภาพ
คุณปู่ซูคิดในใจว่าแม้เด็กแสบสองคนนี้จะสอบได้ไม่เลว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งรอปีหน้าก่อนเถอะ ไม่แน่ปีหน้าหลานรักของบ้านตนอาจจะชิงที่หนึ่งกลับมาเป็นเกียรติแก่บ้านหลักตระกูลซูก็เป็นได้
ซูเสี่ยวเถียนที่อยู่ไกลออกไปจามออกมาครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
คุณปู่ซูทักทายผู้อำนวยการหลี่ และถือโอกาสถามอย่างเป็นห่วง
“ผู้อำนวยการหลี่ การสอบของอี้หย่วนเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อนึกถึงฉืออี้หย่วน คุณปู่ซูก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าจะผลการสอบดีมาก
ใบหน้าของผู้อำนวยการหลี่ยิ้มอย่างเบิกบาน
“คุณปู่ผมลืมบอกไปว่าฉืออี้หย่วนเด็กคนนี้ผลการสอบดีมาก ได้อันดับสองจากทั้งเมืองเยี่ยมมากจริง ๆ เกือบจะได้ที่หนึ่งแล้วขาดอีกแค่ศูนย์จุดห้าคะแนนเท่านั้น”
เรื่องคะแนนสอบนี้ผู้อำนวยการหลี่พอใจเป็นอย่างมาก เขาเข้าใจฉืออี้หย่วน รู้ว่าฉืออี้หย่วนอยู่ที่หมู่บ้านกับคุณปู่ฉือมานานมาก กลับไปไม่ถึงสองปีก็สามารถสอบได้คะแนนดีแบบนี้ ถือว่าไม่เลวเลยจริง ๆ
แต่คุณปู่ซูกลับรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง ขาดไปอีกแค่ศูนย์จุดห้าคะแนน ทำไมไม่เพิ่มข้อสอบอีกสักหน่อย ถ้าเพิ่มอีกหนึ่งคะแนนก็จะเป็นที่หนึ่งแล้ว รอจนเด็กคนนั้นกลับมาคงจะผิดหวังมากทีเดียว? คุณปู่ซูกำลังครุ่นคิด ตู้ถงเหอและภรรยาก็มาด้วยกัน
ตอนที่มองไปยังผู้อำนวยการหลี่ ทั้งสามคนก็ยังประหลาดใจอยู่บ้าง
“คุณปู่ฉือ ผมยังว่าจะไปแจ้งข่าวดีให้คุณรู้ แต่คุณอยู่ที่นี่พอดี” ตอนที่ผู้อำนวยการหลี่มองคุณปู่ฉือ เบื้องหน้าก็กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
คุณปู่ฉือตกใจ
“คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกแล้วหรือ?” ตู้ถงเหอคาดเดา
“ทำให้ผู้อำนวยการหลี่มาด้วยตัวเองแบบนี้ คะแนนสอบของทั้งสามคนคงไม่เลวเลย!” อวี่รุ่ยหยวนยิ้มพูด
“เป็นเรื่องธรรมดา เด็ก ๆ บ้านพวกเราไม่ด้อยอยู่แล้ว!” คุณย่าซูพูด หลังเธอออกมาจากห้องครัวก็ได้ยินหัวข้อสนทนานี้พอดี
เมื่อได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของคุณย่าซู ทุกคนก็ล้วนยิ้มออกมา
ถูกต้อง นี่เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ เด็กของตระกูลซูไม่มีใครด้อย มีแต่คนที่ยอดเยี่ยม!
“เป็นอย่างที่คุณพูด เด็ก ๆ ในบ้านของคุณเก่งมาก!” ผู้อำนวยการหลี่หัวเราะเสียงดัง ราวกับเป็นคนของตระกูลซูด้วย
คุณย่าซูมีความสุข “เย็นนี้มากินข้าวบ้านพวกเราเถอะ ฉันจะทำของอร่อยให้พวกคุณกิน! พอดีเลย พวกเด็ก ๆ อยากกินซี่โครงหมู่ตุ๋นน้ำแกง ฉันตุ๋นไว้หม้อใหญ่เลย!”
คะแนนสอบของพวกเด็ก ๆ ออกมาดี คุณย่าซูก็ดีใจ ไม่กี่ปีมานี้เพราะผลกระทบจากซูเสี่ยวเถียนทำให้ค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง คุณย่าซูให้ความสำคัญกับการเรียนของเด็กในบ้านมาก แม้จะรู้ว่าเจ้าพวกเด็กแสบจะเรียนอย่างไรก็สู้ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้ แต่พอได้ยินว่าคะแนนสอบของพวกเขาออกมาดี คุณย่าซูก็ยังดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้อำนวยการหลี่เดินทางมาด้วยตัวเองแบบนี้ ก็เพื่อมากินอาหารฝีมือคุณย่าซู พอได้ยินว่าคุณย่าซูทำซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง ผู้อำนวยการหลี่ก็คิดว่าครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวแล้ว
คุณย่าซูทำอาหารไปอย่างมีความสุข คนอื่น ๆ ก็นั่งพูดคุยกัน และทักทายแขกเป็นครั้งคราว
คนมากมายที่มากินข้าวที่หออีหมิงก็ล้วนแต่เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา เมื่อได้ยินว่าเด็กทั้งสองคนของตระกูลซูทำคะแนนสอบออกมาดีถึงเพียงนี้ ก็ล้วนยิ้มและแสดงความยินดีกับคนตระกูลซู
เพียงชั่วพริบตาในหออีหมิงก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
“ฉันคิดว่าพวกเรามารวมตัวกันแบบนี้ดีทีเดียว ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กเสี่ยวกังจะเป็นยังไงบ้าง!”
คุณปู่ซูนึกถึงเสิ่นเฉิงกังขึ้นมา เด็กคนนี้คะแนนสอบสู้พวกเด็กในบ้านตนไม่ได้ แต่ก็น่าจะยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อยู่หรือเปล่า?
ผู้อำนวยการหลี่แม้จะเป็นผู้อำนวยการของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ก็มีเพียงเด็กไม่กี่คนที่ตนให้ความสนใจเป็นพิเศษ อย่างเสิ่นเฉิงกังผู้นี้เขาไม่ค่อยได้สนใจ จึงจดจ่ออยู่กับการดื่มชา
“ไว้ค่อยไปถามทีหลังเดี๋ยวก็รู้!” ฉือเก๋อดื่มชาไปอึกหนึ่งก็พูด “จื่อเจินทุ่มเทแรงกายแรงใจให้เสี่ยวกังไปไม่น้อยเลย”
“ผมจะลองโทรไปดูครับ!” ซูเสี่ยวซานพูดอย่างอดไม่ได้
เมื่อโทรออกแต่ไม่มีคนรับสาย ทำให้ซูเสี่ยวซานยิ่งร้อนใจ
“คงไปที่แปลงทดลองแล้ว ช่วงนี้พวกเขายุ่งมากทีเดียว” ฉือเก๋อพูด “จื่อเจินบอกว่าถ้าหากการทดลองครั้งนี้สำเร็จ จะเพิ่มรายได้ขึ้นสามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เลย”
คุณปู่ซูได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักไป ทั้งข้าวโพดและข้าวเปลือกล้วนสามารถเพิ่มกำไรได้มากถึงเพียงนี้ แบบนี้จะแก้ปัญหาปากท้องของคนได้มากแค่ไหนกัน?
“จื่อเจินทุ่มเทกับการทำงานมากจริง ๆ!” ตู้ถงเหอพูด “ตอนนั้นที่พวกเราอยู่ชุมชนการผลิตหงซิน จื่อเจินก็จับทางได้ สองปีนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขาดูซีดเซียวไปทั้งตัวเลย!”
ถ้าหากจื่อเจินไม่ได้ไปที่ชุมชนการผลิตหงซินตั้งแต่ต้น บางทีเป้าหมายแรกของเขาอาจสำเร็จไปแล้ว
แต่บนโลกนี้ก็มีคำที่ว่าถ้าหากตั้งมากมายไม่ใช่หรือ?
ทุกคนเงียบสงัด
ตู้ถงเหอพูดอีกครั้ง “จื่อเจินบอกเสมอว่าน่าเสียดาย ที่ไม่มีเสี่ยวเถียนไปทำเรื่องนี้กับเขา ยังบอกอีกว่าถ้ามีเสี่ยวเถียนไปร่วมด้วยคงสำเร็จไปนานแล้ว!”
คุณปู่ซูหัวเราะเหอเหอ เสี่ยวเถียนรู้อะไรตั้งมากมาย ไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำอะไรอีก!