บทที่ 654 เกิดความโกลาหล
บทที่ 654 เกิดความโกลาหล
ไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็นเสียหน่อย
รัฐมนตรีต้วนตบหน้าผาก สมองคิดอะไรอยู่เนี่ย?
เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว พวกที่มาพังร้านมันผิดจริง แต่ลูกน้องเราใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ส่วนไอ้พวกที่ไม่รู้จักทำงานทำการกินเงินเดือนไปวัน ๆ ต้องจัดการให้สิ้นซาก ไม่งั้นคงสร้างปัญหาใหญ่ในเร็ววันเป็นแน่
ตอนนั้นเองคนที่โดนจัดการเกิดจำต่งหยวนจงได้
คนที่เคยเห็นในโทรทัศน์กลับมาปรากฏตัวตรงหน้า ได้แต่อ้าปากกว้างจนแทบกลืนไข่เข้าไปได้ทั้งลูก
“ละ ลูกพี่ คนนั้นน่ะ…” เขาตกใจจนพูดไม่ออก
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
ทำไมคนแบบนี้ถึงมาร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้ได้ล่ะ?
เดี๋ยวนะ?
เขาคือปู่รองที่เด็กคนนั้นเรียก? ถ้าเป็นปู่รองจริง พวกนั่นถึงคราวซวยแล้วล่ะ
ตัวหัวหน้าไม่รู้จักต่งหยวนจง แต่รู้จักรัฐมนตรีต้วน ตอนนี้จึงได้แต่คิดอยู่ว่าทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานถึงมาด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ล่ะ?
รัฐมนตรีต้วนเป็นถึงผู้นำระดับใหญ่ไม่ใช่หรือ? ต้องลงทุนถึงขนาดนี้เลยหรือ?
แต่เพราะเขาเป็นคนฉลาดจึงระวังตัวแต่แรก ส่วนใหญ่แค่ทำลายข้าวของเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรกับคนในร้าน เพราะกลัวเกินจะรับมือไหว
“ต้องพูดติดอ่างด้วยหรือไง?” เขาด่า
“ลูกพี่ ผู้ชายคนนั้นน่ะ ที่ออกโทรทัศน์บ่อย ๆ ไงครับ”
ในที่สุดลูกน้องที่จำได้ก็พูดปร๋อออกมา
ปู่รองที่เด็กคนนั้นเรียกเป็นผู้นำยศใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เห็นรู้เลยล่ะว่าจะมา?
เรื่องใหญ่แล้วสิ ทำยังไงดี?
ไอ้พวกอันธพาลที่ไม่เคยกลัวกลัวรัฐมนตรีต้วนนั้น ตอนนี้เกิดกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว
ฮือๆๆ …
อยากกลับบ้านไปหาแม่จังเลย!
ในที่สุดต่งหยวนจงก็ปลอบใจหลานเสร็จ หลังจากมั่นใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรก็ผละออกมาแล้วเดินไปหาไอ้พวกอันธาลด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ตอนพบกับอีกฝ่ายในระยะใกล้ ๆ ก็มั่นใจว่าเป็นคนที่เห็นในโทรทัศน์
เราก้มหน้าทันที ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ผมผิดไปแล้วครับท่านผู้นำ ผมผิดจริง ๆ ผมมันหน้ามืดตามัวเอง!”
“การที่มีคนแบบนี้อยู่ในเมืองหลวงเนี่ย มันเป็นเพราะคุณละเลยหน้าที่นะ”
ต่งหยวนจงเอ่ยกับรัฐมนตรีต้วน
คนได้ยินแทบแข้งขาอ่อนแรง
“บ่ายวันนี้ผมจะเริ่มจัดการให้สิ้นซากเลยครับ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีชีวิตมั่นคงในเมืองหลวงครับ” เขาไม่คิดจะอธิบายมาก แต่ยอมรับผิดตรง ๆ เพื่อแสดงความกระตือรือร้น
“งั้นฉันจะรอดูผลงานนะ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ต้องให้พวกเจ้าหน้าที่จัดการนะ คุณต้องเป็นคนจัดการเอง!” ต่งหยวนจง
รัฐมนตรีต้วนเหงื่อแตกพลั่ก ได้แต่แอบด่าเจ้าพวกนั้นในใจ
ต่งหยวนจงถูมือหลังจากเอาชนะได้
แล้วถ้าเป็นไอ้พวกอันธพาลจะทำยังไงล่ะ? และถ้าเขาลงมือจริง ๆ เรื่องราวจะใหญ่โตมาก
ด้วยสถานะของเขาสามารถทำให้อีกฝ่ายตายได้เลยด้วย!
ต่งหยวนจงขบคิดอย่างไม่ชอบใจ
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีฉางถือโอกาสขอโทษต่อครอบครัวของเสี่ยวเถียน
เมื่อเด็กหญิงเห็นเขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร
จากนั้นก็รีบยกยิ้ม “สวัสดีค่ะรัฐมนตรีฉาง หนูไม่เป็นไรค่ะ แต่คุณปู่โดนผลักจนล้ม เอวของเขาเจ็บมากเลยค่ะ”
พอได้ยินว่าชายชราโดนทำร้าย สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไปทันที
ไอ้พวกอันธพาลคิดทำร้ายคนอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไร?
“ไม่ต้องห่วง มันจะต้องมีคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างแน่นอน!”
“หลัก ๆ คือมีคนอยู่เบื้องหลังค่ะ ครอบครัวเราเป็นลูกหลานชาวนามาหลายชั่วอายุคน ไม่มีทางทำร้ายพวกเขาได้หรอกค่ะ!” เสี่ยวเถียนพึมพำ
ก่อนหน้านี้ครอบครัวเราอยู่กันเงียบ ๆ แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไป อย่างน้อยก็ทำให้ไอ้พวกหมาแมวรังแกได้แล้วกัน
ตอนนี้ร้านเรายังเป็นแค่ร้านทั่วไปเลยไม่มีคนสนใจ ทว่าหากผ่านไปอีกสักพักจนเติบใหญ่ก็คงโดนรังแกเป็นแน่
เสี่ยวเถียนกะว่าคราวนี้จะทำให้ทุกคนไม่สามารถดูถูกครอบครัวเราได้อีกต่อไป
“มีคนอยู่เบื้องหลังหรือ? จะสักเท่าไรกันเชียว?” รัฐมนตรีฉางร้องเหอะ
แล้วไอ้คนนั้นมันยศใหญ่กว่าผู้นำต่งอีกหรือ?
ถ้าไอ้อ๋องหม่านั่นมันกล้าฉี่รดหัวจริง ๆ ก็คงเป็นพวกไม่กลัวตายแล้วล่ะ
“เป็นผู้อำนวยการโรงงานค่ะ แซ่เฉียน ไม่รู้ว่าใหญ่ขนาดไหน!”
ดีจริง ๆ เป็นเรื่องที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเลย
ยอมไม่ได้แล้วแบบนี้ หลังจากนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าใครกันที่มันทำตัวอวดดี
เดี๋ยวก่อนนะ บรรดาโรงงานในเมืองมีแค่โรงงานฝ้ายเท่านั้นที่ผู้อำนวยการมีแซ่ว่าเฉียน ที่จริงครอบครัวก็มีภูมิหลังอยู่บ้างนะ
เคยได้ยินมาว่าเป็นพวกอวดดีด้วย
หรือจะเป็นเขา?
“เสี่ยวเถียน แล้วเธอรู้ไหมว่าผู้อำนวยการชื่ออะไร สังกัดโรงงานไหน?” รัฐมนตรีฉางไม่อยากให้ต่งหยวนจงถามจึงทำเองเสียเลย
“หนูทราบแค่ชื่อค่ะ เขาคือเฉียนเต๋อไฉ่ เป็นผู้อำนวยการโรงงานฝ้าย”
เธอไม่เคยสู้กับคนอื่นโดยไม่ค้นข้อมูลมาก่อน ต่อให้ผู้อำนวยการเฉียนไม่ได้ทำอะไรมาก เขาก็ยังทำการบ้านมาก่อนอยู่ดี
และตอนนี้ก็รู้เรื่องของอีกฝ่ายอย่างชัดแจ๋ว
นอกจากตระกูลเฉียนแล้ว ครอบครัวทางฝั่งภรรยาก็ยังค้นมาด้วย
“ใช่เลย เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!”
ตระกูลเฉียนมีปูมหลังอยู่บ้าง แต่ที่จริงมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย
แต่เมืองหลวงนะ เป็นสถานที่ที่มังกรซ่อนพยัคฆ์หมอบ*[1]นะ
ไม่เห็นหรือว่า หัวหน้าต่งยังยืนอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้?
เสี่ยวเถียนสะอื้น “ผู้อำนวยการเฉียนบอกให้หนูไปกับเขา…”
เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็เอ่ยต่อ
“รัฐมนตรีฉาง ทำไมหนูต้องไปกับเขาด้วยคะ?”
จู่ ๆ รัฐมนตรีฉางก็รู้สึกไม่ดีเลยสักนิด
ไอ้เฉียนเต๋อไฉ่มันคิดจะทำอะไร?
เด็กขนาดนี้ยังคิดจะแตะต้องเธออีกหรือ?
ไม่ต่างไปจากสัตว์เลย!
เสี่ยวเถียนที่ยุให้เขาโกรธได้ยกยิ้มพึงพอใจ
ปู่รองมาที่นี้ด้วยตัวเองไม่พอ ยังพาคนยิ่งใหญ่มาอีกสองคน ที่น่าตกใจคือรัฐมนตรีฉางนี่แหละ
พอเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้พิพากษาระดับอำเภอถึงไม่ดีเท่าคนปัจจุบัน
งั้นควรจะเอาโรงงานแห่งนี้กลับไปให้ใครดูแลล่ะ?
ก็ให้รัฐมนตรีฉางไปสิ!
คราวนี้เฉียนเต๋อไฉ่ต้องชดใช้ ได้ยินว่าพวกเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายด้วย กลับไปส่งข้อมูลที่หามาได้ก่อนดีไหมนะ?
สุดท้ายต่งหยวนจงก็ยั้บยั้งชั่งใจความคิดที่จะลงไม้ลงมือได้แล้ว และรีบส่งคนให้พาคุณปู่ซูไปโรงพยาบาล
จากนั้นก็เรียกรัฐมนตรีต้วนไปคุยโดยเฉพาะ
อันที่จริงต่อให้เขาไม่บอก รัฐมนตรีต้วนก็คิดดูแลร้านและครอบครัวนี้เป็นพิเศษอยู่ดี
[1] มังกรซ่อนพยัคฆ์หมอบ หมายถึง พรสวรรค์ที่ซุกซ่อนอยู่