บทที่ 672 หลานสะใภ้ก็ทำได้เหมือนกัน
บทที่ 672 หลานสะใภ้ก็ทำได้เหมือนกัน
ผู้หญิงในหมู่บ้านแปลกใจมากที่คุณย่าซูให้หลานสะใภ้ทำกับแกล้ม หญิงสาวท่าทางอ่อนแอแบบนี้ มีแรงถือกระทะด้วยหรือ?
เธอทำอาหารเป็นใช่ไหมนะ?
พวกผู้หญิงในหมู่บ้านอิจฉาที่คุณย่าซูได้แต่สะใภ้เก่ง ๆ
ตั้งแต่หวังเซียงฮวาจนถึงเหลียงซิ่ว ทุกคนเก่งกันทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะงานในบ้าน นอกบ้าน หรือในครัวก็ทำได้ทั้งนั้น แต่หลานสะใภ้คนนี้ ตั้งแต่ได้พบครั้งแรกก็รู้เลยว่าไม่มีความสามารถ คุณย่าซูเองก็รู้ว่าหลินหลินดูอ่อนแอ ไม่เป็นไปตามรสนิยมของชาวบ้าน เพราะเชื่อว่าคนที่หุ่นอ้วนท้วมสมบูรณ์จะเหมาะแก่การอุ้มลูกมากกว่า
แกเองก็คิดแบบนั้น แต่หลินหลินคือคนที่หลานชายคนโตชอบ เธอจึงชอบด้วย และเพราะแข็งแกร่งมาตลอด หญิงชราจะให้คนอื่นมาดูแคลนสมาชิกบ้านเราไม่ได้
หลานสะใภ้เก่งแค่ไหนเธอรู้ดี
เพราะงั้นจึงให้หลินหลินเข้าครัวไปเตรียมกับแกล้มมานั่นเอง
เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้คนในหมู่บ้านเห็นว่าหลานสะใภ้ตระกูลซูมีความสามารถขนาดไหน!
หลินหลินเรียนรู้การทำอาหารจากคุณย่าซู ทำได้ทุกอย่างเลย นับประสาอะไรกับของกินเล่นล่ะ
หลินหลินไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วลงมือทำกับแกล้มอย่างฉับไว เสี่ยวเฉ่าและคนอื่น ๆ ตามไปช่วยในครัวคอยปอกหัวหอมและกระเทียม
ในไม่ช้าก็เตรียมกับแกล้มสี่อย่างเสร็จเรียบร้อย
เวลาทำอาหาร หลินหลินไม่ได้ให้ความสำคัญแค่รสชาติ แต่ยังใช้เทคนิคบางอย่างด้วย
นั่นคือการให้ความสำคัญของการจับคู่สี
หากทำแบบนี้ จะทำให้แตงกวาธรรมดา ๆ ออเดิร์ฟเย็น กะหล่ำปลีฝอยผัดและเห็ดหูหนูคลุกหัวหอมดูหรูหรามาก
ปกติเวลาพวกผู้หญิงในหมู่บ้านทำอาหาร ขอแค่กินได้ ใครจะไปสนใจเรื่องอื่นกันล่ะ?
พวกเธอเข้าไปมุงดูตอนเห็นอีกฝ่ายออกมาพร้อมกับอาหาร
ก็แน่นอนอยู่แล้วว่ามาดูหลานสะใภ้บ้านนี้ทำอาหารเป็นหรือเปล่า ผลที่ได้คือ ตอนที่ยังไม่เห็นก็ไม่เท่าไรหรอก แต่หลังจากได้เห็นแล้วก็ต้องทึ่ง
“พี่สะใภ้ หลานสะใภ้พี่ทำอาหารเก่งจังเลยค่ะ แค่อาหารเรียกน้ำย่อยไม่กี่อย่างก็ทำฉันหิวแล้ว” พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนิทกับคุณย่าซูยิ้มชม
“ตอนเย็นมากินข้าวที่บ้านฉันนะ เดี๋ยวให้หลินหลินแสดงฝีมืออีกนะ” หญิงชรายิ้ม
ถึงงานเลี้ยงจะถูกกำหนดไว้เป็นวันมะรืน แต่ความจริงเราเตรียมตัวกันตั้งแต่วันนี้
เราต้องนึ่งซาลาเปาไว้ก่อน ในยุคนี้ไม่มียีสต์เลยต้องใช้วิธีการทิ้งแป้งให้ขึ้นฟูแบบดั้งเดิม และเย็นวันนี้เราก็จะทำขั้นตอนนี้
ไหนจะบะหมี่เส้นยาวที่ต้องม้วนอีก ถ้าไม่ทำตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้จะวุ่นวายเอาได้
แล้วก็เนื้อก้อนทอดที่ต้องทำวันนี้
ถึงบ้านเราจะจัดการกันได้ แต่คนอื่นก็ขอมาช่วยด้วย บอกได้ว่าบ้านนี้เป็นที่นิยมจริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้คุณย่าซูก็คงขี้เหนียวเรื่องอาหารไม่ได้แล้ว
“เกรงใจจังเลย เรามีกันตั้งหลายคน”
ผู้หญิงที่เอ่ยขึ้นชื่อหลี่ชุ่ยฮวา (คนละคนกับหลี่ชุ่ยฮวาที่เป็นพี่สะใภ้ของเหลียงซิ่ว) แกเป็นเพื่อนกับคุณย่าซูมาหลายปี และตอนนี้รู้สึกละอายใจมาก
“มีอะไรต้องรู้สึกแบบนั้นเล่า มีพวกเธอมาช่วยดีกว่าเดิมอีก ฉันเตรียมขนมจากเมืองหลวงมาด้วยนะ ไว้กลับไปจะให้ลูกเอาไปให้”
ได้กินข้าวไม่พอ ยังจะได้ขนมอีกด้วย ผู้หญิงในหมู่บ้านมีแรงใจกว่าเดิม บางคนถึงกับกลับไปหยิบอุปกรณ์ทำอาหารของตัวเองมาช่วย บางคนก็สับฟืน หรือหาอย่างอื่นทำ
มือไม้ยุ่งกันทุกคน
คุณย่าซูเอ่ยเรื่องหมูที่ว่าจะซื้อด้วย แถมยังบอกจะไปที่ฟาร์มเสียหน่อย
แต่คนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยสีหน้าแปลก ๆ
หวังเซียงฮวาสงสัยมาก เธอรู้จักฟาร์มหมูดี มันต้องมีหมูสวย ๆ แน่นอน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ เชือดหมูในฟาร์มไปหมดแล้วหรือ?
“เซียงฮวา หลังจากที่เธอไป หมูในฟาร์มแย่ลงทุกวันเลย สองเดือนก่อนก็ป่วยตายไปสิบกว่าตัว ส่วนที่เหลืออยู่ก็ไม่ได้ดีเท่าไร!”
นั่นหมายความว่าไม่มีหมูจริง ๆ
“ถ้างั้นเราไปดูในตำบลกัน” คุณย่าซูรีบเอ่ย
ถ้าเนื้อหมูไม่พอ น้ำมันสำหรับทำอาหารงานเลี้ยงจะไม่พอด้วย
“คุณป้าคะ ที่บ้านฉันมีหมูรอเชือดตัวหนึ่งค่ะ ก่อนหน้านี้พ่อบอกจะเชือดมาขายอยู่” สะใภ้สาวคนหนึ่งเอ่ยเสียงเบา
เพราะกลัวคุณย่าซูจะปฏิเสธ
หญิงชราตบเข่า “ดีเลย เดี๋ยวบ่ายนี้พวกเราเชือดหมูมาทำกัน!”
“เดี๋ยวฉันกลับไปถามพ่อให้จ้ะ” เธอรีบวิ่งออกไป
บางคนนึกเสียใจ ที่บ้านมีหมูสวย ๆ อยู่ รู้แบบนี้น่าจะพูดก่อน
บ้านซูไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเขาร่ำรวยและไม่ขี้จุกจิก เพราะแบบนี้แหละ ราคาที่พวกเขาเสนอให้สูงกว่าในตลาดถึงห้าเฟิน แม้กระทั่งเครื่องในยังขอซื้อเลย
จากนั้นพวกเขาก็ให้เงินเรามาอย่างมีความสุข และให้คนในบ้านที่รู้วิธีชำแหละหมูจัดการ พร้อมล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนแจกจ่าย
อาหารเย็นวันนี้เป็นข้าวผสม แต่สำหรับในหมู่บ้านเราข้าวสีเหลืองเยอะข้าวสีขาวน้อยเป็นความแตกต่างอย่างยิ่ง และส่วนใหญ่ในจานนี้เป็นข้าวขาวด้วย
ภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือปลูกข้าวขาวไม่ได้ ทั้งยังมีขายในราคาสูง คนส่วนมากจึงไม่อยากกินกัน
พอเห็นบ้านนี้หุงออกมาเป็นข้าวผสมสองสีที่สีขาวเยอะกว่า ก็รู้สึกสะเทือนใจไม่ได้
อาหารเย็นวันนี้ส่วนใหญ่เหลียงซิ่วและหลินหลินเป็นคนทำ
เนื้อหมูที่จะเอาไปปั้นทอด และทำเคาหยกต้องรอพรุ่งนี้
คุณย่าซูเตรียมมันคอหมูและเครื่องในเพิ่มอีกหน่อย
ส่วนมันคอถูกหั่นเป็นชิ้นใหญ่ไว้ตุ๋นกับผักกาดขาวตอนเย็น เครื่องในที่เหลือหลินหลินและเหลียงซิ่วปรึกษากันว่าจะทำหัวใจหมูผัดน้ำแดง ไส้ใหญ่ตุ๋น ตับหวาน และปอดหมูผัด
ความสามารถของทั้งสองดีเยี่ยม ผู้หญิงในหมู่บ้านเทียบไม่ได้เลยสักนิด
กอปรกับชีวิตคนในหมู่บ้านไม่ค่อยดีเท่าไร พวกอาหารมัน ๆ ที่กินในช่วงปีใหม่ก็ไม่มีอีกแล้ว
พอได้กลิ่นหอม ๆ ความกระหายพลันกำเริบ
นึกภาพว่ากำลังกินเนื้อสัตว์อร่อย ๆ กับข้าวเย็นนี้ ผู้หญิงในหมู่บ้านมีแรงใจกว่าเดิม
ฝ่ายรับผิดชอบหั่นเนื้อสับอย่างไวว่อง หั่นออกมาเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็กกว่าเม็ดถั่วเหลืองอีก
ส่วนการนวดแป้งต้องใช้แรงเป็นอย่างมาก และคนส่วนใหญ่เป็นคนซื่อสัตย์ จึงไม่มีใครละความพยายามเพื่อที่จะได้กินข้าวเย็นฝีมือคนบ้านซู
ยามกลิ่นหอมจากครอบครัวรุนแรงขึ้น คนอื่น ๆ เอ่ยชมฝีมือหลินหลิน
เอาเป็นว่าคนอย่างคุณย่าซูเก่งในการเลือกสะใภ้ เธอจะคว้าผู้หญิงแย่ ๆ มาเป็นหลานสะใภ้ได้ยังไง ถึงหลานสะใภ้คนแรกจะดูอ่อนแอ แต่ก็มีความสามารถนะ!