เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 736 ฉันสอนเอง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 736 ฉันสอนเอง

บทที่ 736 ฉันสอนเอง

หลังจากรีบร้อนกินข้าว เสี่ยวเถียนและรูมเมทรีบมุ่งหน้ากลับหอพักทันที

การฝึกทหารกำลังจะเริ่มในตอนบ่ายสองครึ่ง แต่เรายังไม่ได้แจกยูนิฟอร์มให้เพื่อนเลย และตอนนี้ 12:40 น. แล้ว ไม่ว่าจะรีบแค่ไหนก็ไม่มีเวลาพอให้พักเที่ยงอยู่ดี

เสี่ยวเถียนมีใบรายชื่อเพื่อนอยู่ เรามีผู้หญิงทั้งหมด 35 คน พักอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ห้อง

โดย 24 คน แบ่งเป็นห้องละ 8 คนอยู่ด้วยกันนับเป็นสามห้อง ส่วนเศษ 11 คน อยู่กระจาย ๆ กันในอีกสามห้องที่เหลือ

เสี่ยวเถียนมีหน้าที่แจกเสื้อผ้าให้พวกเธอ

งานไม่มาก แต่ไม่น้อย

“เสี่ยวเถียนไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพวกเราช่วยเอง” ฉู่เยว่มองเห็นความกังวลเพื่อนเลยพูดออกมา

ด้วยขนาดร่างกายเล็ก ๆ นั่น ถ้าต้องทำทั้งหมดด้วยตัวเองคงเหนื่อยแย่

ตอนพวกเสี่ยวเถียนกลับมาถึงห้อง อิ่นหรูอวิ๋นได้กลับมาถึงก่อนแล้ว และตอนนี้ก็กำลังนอนเหล่ตามองมา

“เสี่ยวเถียน ฉันกับเสี่ยวเป่ยจะไปชั้นสี่นะ ส่วนห้อง 319 ให้หงเหมยกับเจี้ยนหงไปจัดการ แล้วก็เยี่ยนอันกับเสี่ยวฟางไปห้อง 220 ตกลงไหม?”

ฉู่เยว่จัดแจงทันที

เสี่ยวเถียนรู้สึกขอบคุณมากที่คิดเผื่อเธอ แต่กำลังห่วงอยู่ว่าเสี่ยวฟางจะเต็มใจช่วยไหม

ฉีเสี่ยวฟางกลับประหลาดใจมากกว่าที่ฉู่เยว่เห็นว่าเธอสามารถช่วยเหลือได้

จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก

อิ่นหรูอวิ๋นที่นอนอยู่ชั้นบนสีหน้าพลันเปลี่ยน และกำหมัดแน่น เธอมองกองเสื้อผ้าอย่างมีนัย และยิ้มอย่างนึกสนุก

นอกจากคนที่นอนบนเตียงก็ไม่มีใครในห้องที่ให้ความช่วยเหลือได้อีกแล้ว

เสื้อผ้ามีสามเบอร์ ตัวเลือกไม่เยอะนัก

“ตอนเอาไปส่งให้ก็บอกพวกเธอด้วยนะว่าชุดฝึกทหารใส่พอดีตัวไม่ได้ ต้องเผื่อขนาดไว้ด้วยน่ะ”

เสี่ยวเถียนกลัวพวกผู้หญิงจะเลือกตัวเล็ก ๆ เพื่อที่เวลาใส่จะได้ดูดี แต่สำหรับการฝึกทหารมันทำแบบนั้นไม่ได้

“เข้าใจแล้ว”

ทีมทำหน้าที่ต่างนำเสื้อผ้าไปแจกตามจุดหมาย

ตอนนี้จึงเหลือเพียงเสี่ยวเถียนกับอิ่นหรูอวิ๋นในห้อง

เสี่ยวเถียนไม่คิดจะคุยกับคนคนนี้อยู่แล้ว เธอพลิก ๆ กองเสื้อผ้าที่เหลือ แล้วตั้งใจจะวางไว้บนเตียงเพื่อนแต่ละคน พอกลับมาจะได้เปลี่ยนชุดทันที

ขนาดเสื้อผ้าทั้งสามเบอร์ไม่ต่างกันมากนั้น เสี่ยวเถียนมองแวบเดียวก็แจกจ่ายทันที

เธอยังเด็กอยู่ ถึงหุ่นจะไม่ได้เล็กแต่ใส่เบอร์ไหนไม่ได้เลย ก็เลยเลือกตัวเล็กสุดมาแทน

ส่วนอิ่นหรูอวิ๋นตัวผอมสูง เด็กสาวจึงเลือกขนาดกลางมาให้ใส่

“เสี่ยวเถียน ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบฉัน แต่จะปฏิบัติแบบนี้ต่อกันไม่ได้นะ ปกติฉันมักจะใส่เสื้อผ้าเบอร์เล็ก แล้วเธอเอาตัวใหญ่แบบนี้ให้กันฉันจะใส่ได้ยังไง?” อีกฝ่ายกางเสื้อผ้าออกมาทาบบนร่างกายเพื่อเทียบ แล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ

จากนั้นแววตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่รู้ตัว ราวกับถูกรังแก

เสี่ยวเถียน “…”

บ้าบอจริง ๆ หยุดทำตัวน่ารังเกียจสักหน่อยไม่ได้หรือไง?

“อิ่นหรูอวิ๋น นี่มันชุดฝึกทหารนะ ต้องใส่ใหญ่กว่าหุ่นเบอร์หนึ่ง!”

เสี่ยวเถียนไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงอะไรด้วยสักนิด ทำได้แค่เอ่ยอย่างมีน้ำอดน้ำทน

“ฉันแค่อยากได้เบอร์เล็ก มันผิดด้วยหรือไง?”

แต่อิ่นหรูอวิ๋นเหมือนไม่ฟังกันเลย ทั้งยังพูดด้วยท่าทางอ่อนแออีก

เสี่ยวเถียนไม่มีทางเลือกนอกจากส่งของตัวเองให้ แล้วหยิบตัวนั้นกลับคืนมา

ใหญ่ไปก็ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหน สายรัดมีก็ใช้มันเสียสิ

จะเล็กใหญ่หรือสั้นยาว สำหรับเสี่ยวเถียนเธอไม่ได้สนใจสักนิด

อันที่จริงอิ่นหรูอวิ๋นไม่ได้สนใจหรอกว่าตัวเองใส่ได้ไหม แค่ไม่อยากเห็นซูเสี่ยวเถียนมันอารมณ์ดีเท่านั้น

เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเจรจาด้วยยาก แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมเปลี่ยนให้กันง่าย ๆ แบบนี้

อิ่นหรูอวิ๋นอารมณ์เสียมาก ก่อนโยนเสื้อผ้าลงเตียงแล้วดึงผ้าห้มขึ้นมาคลุมโปงนอน

เสี่ยวเถียนคลี่เสื้อผ้าออกมาทาบตัว มันใหญ่กว่าเดิมเยอะเลย

ตอนนั้นเองที่รูมเมทคนอื่น ๆ กลับมาจากการทำหน้าที่

“เพื่อนได้พูดอะไรบ้างหรือเปล่า?”

เหมือนอย่างอิ่นหรูอวิ๋น เสี่ยวเถียนไม่สงสัยเท่าไรก็คนจะฉวยโอกาสนี้สร้างปัญหา กับคนอย่างถังหมิ่นหมิ่นเผลอ ๆ คงจะทำด้วยซ้ำ

“ไม่หรอก ทุกคนดีกันมากเลย ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แถมยังบอกอีกว่าเปลี่ยนที่หอพักเลยก็ได้ด้วย”

ฉู่เยว่ว่าแล้วหยิบเสื้อผ้าบนเตียงขึ้นมาทาบบนตัว

บอกตามตรงว่าดูไม่จืดสักนิด ใส่ ๆ ไปก็พอ จะไปขออะไรได้อีกล่ะ?

ต่งเยี่ยนอันเห็นขนาดเสื้อผ้าในมือเสี่ยวเถียนก็หัวเราะ “เสี่ยวเถียน เธอตัวแค่นี้ทำไมเอาตัวใหญ่มาล่ะ?”

อิ่นหรูอวิ๋นที่ได้ฟังเผลอกำมือแน่น เพราะกลัวเสี่ยวเถียนจะแฉเรื่องที่เธอขอเปลี่ยนชุด

เสี่ยวเถียนตอบตรง ๆ “มันคาดเข็มขัดได้นี่นา ไม่เห็นเป็นไรเลย”

แต่แล้วจู่ ๆ จ้าวหงเหมยก็คร่ำครวญออกมา

“หงเหมย เป็นอะไรไปเนี่ย?” ฉู่เยว่รีบถาม

“ฉันทำไม่เป็น ทำยังไงดี?”

ว่าจบทุกคนก็เงียบทันที จริงด้วย ชุดนี้ต้องใส่ผ้าพันขาเพราะเป็นกิจกรรมฝึกทักษะ แต่เราไม่รู้วิธีพันผ้าเนี่ยสิ

เสี่ยวเถียนไม่ได้ห่วงอะไรเท่าไร เพราะเรื่องพวกนี้ กับคนที่เติบโตมากับการฝึกทหารตั้งแต่เด็กแบบเธอไม่ได้กลัวเลยสักนิด

ตลกแล้ว ตอนที่เริ่มฝึกมวยทหาร เธอเรียนทุกอย่างมาหมดเลย

แม้กระทั่งเรียนวิธีการพันขาด้วย

แต่เราก็แค่ฝึกฝนเอง ไม่ได้ไปเข้าร่วมกองทัพเสียหน่อย เธอเชื่อว่าต่อให้ฝึกครึ่งเดือนก็สบายเป็นอย่างยิ่ง

เทียบกับท่าทีสงบของเสี่ยวเถียน คนอื่น ๆ ดูเป็นกังวลมากกว่า เพราะกลัวว่าจะมีการฝึกโดยที่ยังไม่ได้เตรียมใจ

“เสี่ยวเถียน ฉันได้ยินว่าปีก่อนมันไม่มีการฝึกทหารนี่ ทำไมปีนี้ถึงมีล่ะ?”

จ้าวหงเหมยเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วยพูดไปด้วย

เธอไม่รู้เรื่องสักนิด แต่มันก็แค่สายรัดใช่ไหม? เดี๋ยวก็ทำได้เองแหละ!

“เดี๋ยวฉันสอนเอง!” เสี่ยวเถียนคิดอยู่พักหนึ่ง เที่ยงนี้คงไม่ได้นอนแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดทหารเลยแล้วกัน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท