บทที่ 744 คนวิ่งนำกลุ่ม
บทที่ 744 คนวิ่งนำกลุ่ม
อินหรูอวิ๋นพร่ำบ่น ครูฝึกคนนี้นิสัยแย่จริง ๆ คณะอื่น ๆ ในโรงเรียนก็ยืนท่าทหารเหมือนกัน ทำไมไม่ปล่อยให้เราทำบ้างล่ะ? การวิ่งมันเหนื่อยมากเลยไม่ใช่หรือไง? จะดีกว่าไหมถ้ายืนอยู่เฉย ๆ? ทำไมต้องวิ่งด้วยล่ะ?
แรงก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ใจก็ไม่พร้อมอีก ทำให้เธอพาลไม่อยากวิ่งไปซะหมด และนั่นเป็นผลทำให้ความเร็วในการวิ่งของอิ่นหรูอวิ๋นช้าลง ช้าลง ช้าลงเรื่อย ๆ
เดิมทีเธออยู่รั้งท้าย และเพราะความแรงในการวิ่งที่เบาลงจะค่อยๆ แยกห่างไปจากกลุ่มหลัก
เหมือนจะตามไม่ทันเสียแล้ว หญิงสาวทำท่าเป็นหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก*[1] แล้วเริ่มวิ่งส่ายไปมาช้า ๆ
แน่นอนว่าซูอู่ร่างเห็นทุกอย่าง เขาทำได้แค่ขมวดคิ้วหากแต่ไม่ได้พูดกระตุ้นอะไร
หลังจากทำแบบนี้ไปสักพัก อิ่นหรูอวิ๋นก็แสดงท่าทีเหมือนจะล้มลง และเดินโซซัดโซเซต่อหน้าซูอู่ร่าง
“ครูฝึก หนูร่างกายไม่แข็งแรงค่ะ วิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว! ไม่งั้นจะเป็นลมเอา!”
ซูอู่ร่างขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ โตขนาดนี้ถ้าวิ่งด้วยความเร็วเท่านั้นต้องใช้เวลาเท่าไรหรือ?
พอมองไปยังใบหน้าที่ไม่จริงจังกับการวิ่ง อีกทั้งใบหน้ายังเป็นปกติและหอบหายใจน้อย จึงรับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายแค่เสแสร้งเท่านั้น
เห็นว่าเขาโง่หรือไง?
“วิ่งต่อไป!”
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ และปฏิเสธไปตรง ๆ
อิ่นหรูอวิ๋นเอ่ยเสียงสั่น แล้วพูดจาน่ารักน่าเอ็นดู “ครูฝึกคะ~~”
เวลาจะคุยกับผู้ชาย อิ่นหรูอวิ๋นมักจะใช้น้ำเสียงนี้เข้าสู้เสมอ และมันไม่เคยล้มเหลวเลยสักครั้งแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ผู้ชายที่เจอคือซูอู่ร่าง
“วิ่งต่อไป!”
ว่าจบ เขาก็เร่งฝีเท้าตามกลุ่มข้างหน้าไป
อิ่นหรูอวิ๋นกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ? ก็มีแต่ต้องวิ่งต่อไปเท่านั้น ยืนนิ่งไม่ได้แล้ว!
เธอมีลางสังหรณ์ว่าหากยืนอยู่ตรงนี้โดยไม่ขยับไปไหน ผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการเห็น
เนื่องจากเป็นผลงานของอิ่นหรูอวิ๋น ทุกคนในคณะเลยได้วิ่งยาวแปดกิโลเมตร
เสี่ยวเถียนนึกห่วงอยู่เหมือนกัน
แปดกิโลเมตรสำหรับเธอและนักศึกษาบางส่วนที่สมรรถภาพทางกายดีอาจไม่เหลือบ่ากว่าแรงหากไม่ใด้ใช้ความเร็วที่มากเกินไป
แต่พวกผู้หญิงคนในเมืองเนี่ยสิ ไม่รู้ว่าร่างกายจะรับไหวหรือเปล่ากับจำนวนรอบมากมายเช่นนี้ แล้วถ้าบางคนร่างกายไม่แข็งแรงก็ยิ่งลำบากอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเราจะทำยังไง?
แล้วเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับอนาคตพี่ห้าด้วย แต่ครูฝึกเขาไม่สนใจสภาพร่างกายผู้ฝึกด้วยซ้ำ เผลอ ๆ ให้เพิ่มน้ำหนักทางกายด้วย หลังจากสังเกตดูแล้วเธอไม่พูดดีกว่า
ยิ่งหลังจากได้เห็นพฤติกรรมของอิ่นหรูอวิ๋นด้วยแล้ว เธอสัมผัสได้เลยว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าเลย
คนอย่างอิ่นหรูอวิ๋นน่ะ เราไม่รู้หรอกว่าเธอจะจงใจสร้างเรื่องเมื่อไร และหากนางทำแบบนี้กับพี่ห้าแล้วละก็ คงสร้างความลำบากให้พี่ชายเธอไม่น้อย
เสี่ยวเถียนคิดไปด้วยวิ่งไปด้วย
คงเพราะตกอยู่ในห้วงความคิดมากไปน้อย ฝีเท้าจึงเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้เธอวิ่งนำหน้า คนอื่น ๆ ข้างหลังจึงตามมาด้วย
ตอนแรกก็ช้าดีอยู่หรอก ทุกคนจึงไล่ตามได้ทัน
แต่ในการวิ่งรอบที่สาม เสี่ยวเถียนกลับเร่งความเร็วขึ้นจริง ๆ และมันเกินกว่าที่นักศึกษาที่ไม่ได้ออกแรงจะรับไหว
ส่วนพวกผู้ชายไม่อยากโดนเปรียบเทียบกับเด็กผู้หญิง จึงกัดฟันจำทนวิ่งตามเสี่ยวเถียนไป แต่สมรรถภาพร่างกายของผู้หญิงกลับไม่ดีเอาเสียเลย พวกเธอเอาแต่ก้มหน้าเรียนงุด ๆ จึงละเลยเรื่องการออกกำลังกายกันหมด
ตอนนี้จึงวิ่งตามไม่ทันสักคน!
ทุกคนในคณะรู้ว่าปีนี้เสี่ยวเถียนเพิ่งอายุ 13 ปีเท่านั้น ว่ากันตรง ๆ เแล้วก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งอยู่ อีกทั้งเด็กคนนี้ยังคงพยายามวิ่งต่อไป เราจึงรั้งท้ายไม่ได้
ซูอู่ร่างเห็นปัญหานี้อย่างชัดเจน เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความเอ็นดู
สมรรถภาพทางกายของน้องเล็กดีเยี่ยมมาก ถ้านักศึกษาที่เหลือเอาแต่วิ่งตามแบบนั้น ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นแน่นอน
เขาวิ่งขนาบข้างกลุ่มนักศึกษา แล้วเป็นฝ่ายนำแทน
คนที่สูญเสียจังหวะเพราะการเร่งความเร็ว สามารถกลับมาปรับจังหวะให้ตรงกับซูอู่ร่างได้ทันท่วงที
อิ่นหรูอวิ๋นอยากพักมาก แต่คนอื่น ๆ เอาแต่วิ่งไม่รู้จักเหนื่อย แต่เพราะครูฝึกไม่เห็นด้วยจึงทำได้แค่วิ่งต่อไป โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตนถูกแซงไปแล้วหนึ่งรอบ สองรอบ…
บางคนอยากบอกเธอให้เร่งฝีเท้ากว่านี้ แต่ตอนนี้คอแห้งผากไปหมด จะพูดออกได้ยังไง?
แถมการแสดงของอิ่นหรูอวิ๋นเมื่อเช้านี้ ที่จงใจสร้างความเข้าใจผิดในตัวซูเสี่ยวเถียนอีก หลังจากโดนเด็กคนนั้นเปิดโปง หลาย ๆ คนจึงไม่ชอบเธอ
แถมการที่เราต้องมาวิ่ง 8 กิโลเมตรเป็นผลงานเธอทั้งนั้น แล้วแบบนี้ใครจะไปชอบลง
อิ่นหรูอวิ๋นไม่รู้เรื่อง เอาแต่ตะโกนให้คนอื่น ๆ วิ่งช้าลงหน่อย
แน่นอนว่าไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์คนอื่นหรอกนะ แต่ห่วงว่าหลังจากเพื่อนวิ่งเสร็จแล้ว จะมีรายการการฝึกเพิ่มอีก
เด็กสาวผู้น่าสงสารไม่รู้สักนิดเลยว่า รายการการฝึกกำหนดไว้ก่อนแล้ว หลังจากเราวิ่งเสร็จจะยังมีฝึกทหารอีกด้วย
แต่คนอื่นรู้เรื่องนี้
ต้องบอกเลยว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ
ครูฝึกหน้าตาดีก็จริง แต่เขาจริงจังมาก เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะล้มเลิกการฝึกเพราะพวกเราวิ่งช้า
พวกเขากำลังเสียเวลา และอาจพลาดอาหารเย็นในวันนี้ด้วย
สถานการณ์นี้ก็เหมือนกับคณะอื่น ๆ มีคนมาตรงเวลา แต่ก็มีคนมาสายเช่นกัน
เพราะงั้นหลาย ๆ คณะจึงได้รับการลงโทษพิเศษ
ตอนนี้ยังไม่มีใครหยุดเลย
หลังจากเสร็จสิ้นรายการฝึก ก็จะถึงช่วยทดเวลาพิเศษ
“ทุกคน เราวิ่งกันถึงรอบที่ห้าแล้วนะ เหลืออีกสามรอบก็จะเสร็จการวิ่งของวันนี้แล้วละ!”
เสี่ยวเถียนตะโกนลั่นหมายจะหันไปบอกเพื่อน ๆ ทว่าก็พบว่าเธอทิ้งห่างพวกเขามาไกลแล้ว
ตอนนี้กลุ่มคนข้าง ๆ มีพี่ห้าเป็นคนนำอยู่
เธอรู้สึกอายเหลือเกิน
จริง ๆ แล้วก็อยากรอพวกเขานะ แต่ดูจากระยะทางเธอวิ่งตามทางต่อไปดีกว่า หลังจากคิดเสร็จ ฝีเท้าก็เร่งความเร็วขึ้น หลังจากนั้นก็ไล่ตามกลุ่มเพื่อน ๆ ทัน
“ทุกคนสู้ ๆ นะ รีบวิ่งให้เสร็จไว ๆ จะได้ไปพักหลังจากเสร็จการฝึกแรก!”
เสี่ยวเถียนเห็นเพื่อน ๆ หดหู่ จึงอดทนต่อความเจ็บแสบในลำคอแห้งผากเพื่อตะโกนออกมา
ทุกคนตกใจมากตอนได้ยินเสียงให้กำลังใจของเสี่ยวเถียน
[1] ไม่มีความยำเกรงอะไรทั้งนั้น