เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 747 น่ารังเกียจ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 747 น่ารังเกียจ

บทที่ 747 น่ารังเกียจ

พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ อิ่นหรูอวิ๋นใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ใช่แล้ว นี่แหละคือโอกาสของฉัน คราวนี้จะได้ไม่ต้องเข้าร่วมการฝึกแล้ว เพราะแบบนี้จึงหวีดร้องดังขึ้น

เธอตะโกนซ้ำ ๆ ขณะสะอึกสะอื้นว่าขาหักอยู่อย่างนั้นหลาย ๆ คนช่วยไม่ได้ ถ้าไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ใคร ๆ ก็คิดว่าเธอขาหักกันทั้งนั้น

คนรอบข้างเริ่มเป็นกังวลกว่าเดิม ถ้าฝึกวันแรกแล้วมีคนขาหัก เรื่องนี้คงยุ่งยากเสียแล้ว เนื่องด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ทางฝั่งเสี่ยวเถียนตื่นตระหนก

อิ่นหรูอวิ๋นบอกว่าอยู่คณะภาษาจีน

ผู้ชายที่มาแจ้งข่าวสอบถามกระทั่งได้รู้ตำแหน่งคณะนี้

เสี่ยวเถียนผงะตอนได้ยินว่าเพื่อนร่วมคณะได้รับบาดเจ็บ

เรายืนท่าทหารอยู่นะ แล้วทำอีท่าไหนขาหัก? ตอนนั้นเองถึงนึกได้ว่านอกจากพวกเราแล้ว ยังมีอิ่นหรูอวิ๋นที่กำลังวิ่งในสนามอยู่ด้วย แต่พอมองไปรอบ ๆ กลับไม่พบเจ้าตัวเลย

“ขอบคุณนะเพื่อน เดี๋ยวฉันไปดู!” เสี่ยวเถียนตอบกลับอย่างสุภาพ

ชายที่มารายงานรู้ข่าวมาเหมือนกันว่า หัวหน้าคณะภาษาจีนเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 13 ปี

ก่อนจะมายังกลัวเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจไหม แต่ครั้งแรกที่ได้คุยกันรู้สึกได้เลยว่า ไม่แปลกใจถ้าเธอได้รับตำแหน่งนี้

เขาชื่นชมมากกว่าเดิม

เสี่ยวเถียนมองชายคนนั้นจากไป จากนั้นก็หันไปหาพี่ชาย

น่าสมเพชจริง ๆ อิ่นหรูอวิ๋นไม่คิดให้ชาวบ้านเขาอยู่อย่างสงบสุขบ้างเลยหรือ?

ซูอู่ร่างขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไมแต่เขาไม่ชอบผู้หญิงผอมแห้งคนนั้นเลย แน่นอนว่าหญิงสาวเก่งสร้างปัญหามาก เพิ่งจะผ่านมาได้เท่าไรก็สร้างสารพัดเรื่องแล้ว!

“เดี๋ยวผมไปกับคุณด้วย!” ซูอู่ร่างเอ่ยอย่างไม่มีทางเลือก

เสี่ยวเถียน “ครูฝึกต้องดูการฝึกของเพื่อน ๆ นะคะ เดี๋ยวหนูพารองหัวหน้าไปแล้วกันค่ะ!”

ไม่รู้ว่ามันผิดกฏหรือเปล่าที่ให้พวกนักศึกษาออกจากการฝึกก่อนเวลา แต่เขาไม่อยากให้น้องรับผิดชอบเรื่องนี้

ซูอู่ร่างรีบวิ่งไปกลุ่มข้าง ๆ ที่กำลังฝึกท่ายืนอยู่เช่นกัน เขาบอกให้ครูฝึกกลุ่มนั้นได้ฟังแล้วรีบกลับมา

“ครูให้คนอื่นมาช่วยดูแทนแล้วน่าจะสะดวกช่วงหนึ่ง!”

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอิ่นหรูอวิ๋นจะทำตัวเองขาหักได้ หรือสะดุดมดบนพื้นตอนที่เขาไม่เห็น?ถ้าวิ่งเร็วขนาดนั้นแล้วขาหัก ป่านนี้คนบนโลกก็คงไม่มีขากันแล้วล่ะ!

ซูเสี่ยวเถียน ซูอู่ร่าง และฉางจงหยวนรีบไปยังจุดที่กลุ่มคนล้อมไว้

เด็กหญิงรู้ทักษะทางการแพทย์ แต่ระดับความสามารถไม่ได้อยู่ในระดับปานกลางเสียหน่อย แค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่าแสร้งทำทั้งนั้น

อยากจะบอกให้รู้แล้วเปิดเผยอุบายจริง ๆ แต่คิดดูอีกทีไม่เอาดีกว่า ถ้าทำแบบนั้นอีกฝ่ายได้สร้างปัญหาไม่รู้จบอีกแน่ อาจจะคิดไปถึงขั้นย่างตัวเองบนเตาเลยก็ได้

พาไปโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยดีกว่า พวกเขาจะได้วินิจฉัยให้

“รองหัวหน้า ช่วยฉันพาอิ่นหรูอวิ๋นไปโรงพยาบาลที”

ต่อให้ใช้นิ้วเท้าคิดเสี่ยวเถียนก็รู้ว่าอิ่นหรูอวิ๋นแสร้งบาดเจ็บเพื่ออะไร ไม่ใช่หนีการฝึกทหารหรอกหรือ? ถ้าการพาไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วตัวอิ่นหรูอวิ๋นสามารถขอให้พวกแพทย์ช่วยโกหกได้ ถือว่านั่นคือความสามารถหล่อนแล้วละ

แต่ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยินยอม เจ้าตัวก็ต้องกลับมาฝึกต่ออยู่ดี

ซูอู่ร่าง “เดี๋ยวผมไปกับพวกคุณด้วยแล้วกัน!”

ยังไงเขาก็มอบหมายหน้าที่ให้สหายตนช่วยจับตาดูนักศึกษาให้แล้ว เขาจึงไม่มีอะไรต้องห่วงอีก กลับกันนั้นรู้สึกว่าท่าทางผู้หญิงคนนี้มันไม่น่าเชื่อถือเสียเลย

เขาห่วงด้วยว่าน้องเล็กจะโดนรังแกเอา ถึงน้องจะปฏิเสธ แต่เขายังไม่วางใจอยู่ดี

“ขอบคุณค่ะครูฝึก”

ทุกคนตัดสินใจสิ่งที่จะทำทันที ไม่คิดขอความเห็นจากเจ้าตัวต้นเรื่องด้วยซ้ำ เพราะใครต่อใครก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ไม่เห็นหรือว่าเธอคนนี้ขาหักน่ะ? การพาไปส่งที่โรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าตัวน้อยคนนี้จะเด็ดขาดมาก ดีกว่าผู้หญิงที่เอาแต่นั่งร้องไห้อีก

ทว่าอิ่นหรูอวิ๋นไม่อยากให้ซูเสี่ยวเถียนพาไป หากเป็นได้ก็ไม่อยากไปด้วยซ้ำ

ร่างกายเธอปกติดี ขาไม่ได้หักด้วย แต่หาเหตุผลมาปฏิเสธไม่ได้ ถ้าไม่อยากให้เสี่ยวเถียนช่วยพยุงก็พูดไม่ได้อีก และถ้าไม่ให้เพื่อนช่วย จะเดินไปเองก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?

“ขาฉันน่าจะหักแล้วก็เลยเดินไม่ได้ เสี่ยวเถียน ฮือ ๆ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ?” อิ่นหรูอวิ๋นร่ำไห้

คนรอบข้างมองผู้ใหญ่คนหนึ่งทำตัวเป็นเด็กให้เด็กอายุ 13 ปีดู รู้สึกเหมือนสายตาจะเสียเลย

บางคนถึงกับคิดด้วยซ้ำว่า สมองอิ่นหรูอวิ๋นไม่ปกติหรือเปล่า?

ต่อให้ขาหักจริง ๆ ก็คงไม่ได้หวังให้เด็กคนนี้พาไปส่งถึงโรงพยาบาลหรอกมั้ง?

“เดี๋ยวฉันพาเธอไปเอง!” ฉางจงหยวนไม่มีทางเลือก

ขาที่อ่อนปวกเปียกของเขาในตอนนี้ไม่ได้ดีไปกว่าเส้นบะหมี่เลย แต่เพื่อนบอกขาหัก เขาจะปล่อยให้หัวหน้าแบกไปไม่ได้! หลังจากขบคิดก็รู้สึกว่าตนเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มขื่น สงสัยเหลือเกินว่าจะพาไปส่งถึงที่หมายราบรื่นไหม เกิดหกล้มกลางทางขึ้นมา จะทำยังไงล่ะ?

เสี่ยวเถียนรู้ความแข็งแกร่งทางกายของฉางจงหยวนดี มีความเป็นไปได้มากที่จะแบกไปไม่รอด

เธอหันหน้ามามองผู้เป็นพี่ชาย

ซูอู่ร่างร้องเหอะ

จะให้พี่แบกยัยผู้หญิงน่ารังเกียจขึ้นหลังไปส่งโรงพยาบาล?

น้องคิดอะไรอยู่เนี่ย?

ถ้ายัยคนนี้มีเจตนาไม่ดี โทษเขาขึ้นมาจะทำยังไง?

เสี่ยวเถียนรับรู้ถึงความคิดพี่ชายแล้ว

ไม่ไปก็ไม่ไป!

ส่วนทางอิ่นหรูอวิ๋น ให้ฉางจงหยวนแบกขึ้นหลัง แล้วเราช่วยพยุงอยู่ข้างหลังก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ!

อิ่นหรูอวิ๋นไม่นึกเลยว่ารองหัวหน้าจะลุกขึ้นยืน แล้วบอกว่าจะพาขึ้นหลังไปส่งเอง

เธอเหลือบมองอีกฝ่าย

สภาพเขาในตอนนี้ไม่สามารถบอกว่าดูดีได้เลย ถ้าจะบอกว่าสกปรกก็คงไม่เกินจริง

ทั้งเสื้อและใบหน้าชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ เธอขยะแขยงจนพูดไม่ออก

สกปรกมาก เหงื่อเต็มไปหมด แถมตัวก็เหม็น

ตอนนั้นเองที่ร่างของฉืออี้หย่วนมาปรากฏในกรอบสายตา

เด็กสาวเกิดความคิดขึ้นในใจ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท