บทที่ 761 งานเลี้ยงอันโอชะ
บทที่ 761 งานเลี้ยงอันโอชะ
“ซาลาเปาเนื้อ ซาลาเปาเนื้อ!”
จ้าวหงเหมยยัดซาลาเปาเข้าปากคำโต พลางพร่ำบอกว่ามันคือซาลาเปาเนื้อ ท่าทางนั้นทำเอาทุกคนหัวเราะลั่น
ฉู่เยว่มาถึง ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของเหล่ารูมเมท ได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมวันนี้ทุกคนคึกคักกันจัง
“มีเรื่องน่ายินดีอะไรเหรอ?” ทันทีที่เอ่ยจบก็แทบเป็นลมล้มพับกับอาหารบนโต๊ะ
“เริ่มกินแล้วเหรอ? ไม่รอฉันเลย”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาถึงตอนไหนนี่นา แถมเราหิวแล้วด้วย ก็เลยกินก่อน!” จ้าวหงเหมยตอบกลับโดยไม่ได้ใส่ใจอะไร
“ฉันเอาพวกน้ำพริก ผักดองมาจากบ้านด้วยนะ แล้วก็มีผลไม้ด้วย ไว้กินข้าวเสร็จค่อยมากินผลไม้กันนะ” เสี่ยวเถียนชวน
ฉู่เยว่วางกระเป๋าไว้ข้างโต๊ะ รีบร้อนหยิบตะเกียบกับกล่องข้าวออกมาเตรียม การกระทำทุกอย่างรวดเร็วฉับไวมาก
เด็กสาวเป็นคนกระฉับกระเฉงอยู่แล้ว พอได้จับตะเกียบก็ลงมือทันที ราวกับกลัวว่าหากชักช้าจะโดนคนอื่นแย่งกินเสียหมด
“ฮือ ๆ เสี่ยวเถียน เนื้ออร่อยจังเลยยย”
“เยว่เยว่ มันไม่ได้อร่อยแค่เนื้อนะ ซาลาเปาก็อร่อย อร่อยกว่าเนื้ออีก!” จ้าวหงเหมยรีบบอกเพื่อน
เสี่ยวเถียนสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับซาลาเปาหรือเปล่า? รสชาติมันก็ไม่ได้อร่อยอะไรขนาดนั้นแท้ ๆ
ฉู่เยว่มองเพื่อนที่กินซาลาเปาด้วยความรังเกียจ คิดว่าเธอโง่หรือไงกัน?
“ฉันอยากกินเนื้อก็ต้องกินเนื้อสิ” เธอตอบ จากนั้นก็คีบชิ้นเนื้อที่มีไขมันแทรกขึ้นมา
“ฉันคิดมาตลอดว่าเนื้อที่แม่ทำอร่อยที่สุด แต่ไม่นึกเลยว่าของบ้านเธอจะอร่อยกว่า!”
หลังจากได้กัดเข้าปากก็ชมจ้อไม่หยุด
เสี่ยวเถียนมั่นใจฝีมือการทำหมูตุ๋นของหมู่บ้านมาก พ่อรองแม่รองก็ใช้สูตรนี้ทำ นี่คือรสชาติที่ผู้คนล้วนยอมรับ และโรงงานของเธอก็จะเพิ่มอาหารตุ๋นทุกชนิดเข้าไปในภายภาคหน้าด้วย
“ซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานอร่อยจนอยากกัดลิ้นตายเลย!” เฉียนเสี่ยวเป่ยเอ่ยเสียงเบา
คนอื่น ๆ กินหมูตุ๋นก่อนเพราะคิดว่าเนื้อชิ้นโต ๆ รสชาติดีอยู่แล้ว มีเพียงตัวเธอที่เลือกซี่โครงก่อนเพราะชอบรสชาติแบบเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ
ตอนแรกลังเลที่จะแนะนำให้เพื่อน แต่หลังจากใช้ความกล้าบอกออกไป คนอื่น ๆ ก็เบนความสนใจมาที่ซี่โครงทันที
หลังจากได้กิน ยิ่งรู้สึกว่ารสชาติมันสุดยอดจริง ๆ ราวกับได้กินอาหารอันโอชะ
“วิเศษเหลือเกิน ทำรสชาติแบบนี้ออกมาได้ยังไงนะ?” แววตาฉู่เยว่เป็นประกาย
“เสี่ยวเถียน ฉันรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า โดดเด่นท่ามกลางผู้คน!” จ้าวหงเหมยวางซาลาเปาลงในที่สุด แล้วเริ่มกินซี่โครงต่อ
“เสี่ยวเถียน บ้านเธอเปิดร้านได้เลยนะ เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแน่นอน!” ต่งเยี่ยนอันว่า
…
สาว ๆ พูดคุยกันสนุกครื้นเครง บรรยากาศดีมาก
คนอายุน้อยที่สุดเม้มปากยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ
“ฝีมือคุณย่าฉันดีมาก ๆ เลยล่ะ!”
“คุณย่าสุดยอดมากเลย!” จ้าวหงเหมยชม
ท่าทางของเพื่อนคนนี้ ทำให้สาวน้อยนึกถึงภาพที่คริสติน่าออดอ้อนให้ย่ารับตัวเองเป็นหลานสาว
“เพื่อนชาวเยอรมันคนหนึ่งก็พูดแบบนี้เหมือนกัน แถมยังบอกอีกว่าอยากเป็นหลานสาวย่าฉันด้วยนะ!”
คนอื่น ๆ มองเสี่ยวเถียนด้วยความประหลาดใจตอนได้ยินเรื่องเพื่อน
เพื่อนชาวเยอรมันเหรอ?
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเริ่มสงสัยแล้วว่า ซูเสี่ยวเถียนเป็นลูกสาวจากตระกูลไหนกันแน่ คงไม่ใช่ตระกูลนักการทูตในตำนานใช่ไหม?
ไม่งั้นด้วยวัยของเธอจะมีเพื่อนชาวต่างชาติได้สักกี่คนล่ะ?
แถมยังดูสนิทกันอีกด้วย?
เสี่ยวเถียนไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากพูดให้เพื่อนฟังเฉย ๆ
จากนั้นก็นึกหัวข้อต่อไปออก
“ย่ายังพูดด้วยนะว่าจะให้ฉันพาพวกเธอไปกินข้าวที่บ้านเมื่อไหร่ดี”
ได้กินทั้งอาหารของเสี่ยวเถียน แถมเจ้าภาพยังชวนไปกินข้าวที่บ้านอีก สาว ๆ รู้สึกละอายใจนัก
“เสี่ยวเถียน แค่นี้พวกเราก็กินกันเยอะแล้วล่ะ จะไปกินข้าวที่บ้านเธออีกได้ยังไง?” หลี่เจี้ยนหงเอ่ยคนแรก
ตอนอยู่บ้านเกิด มีโอกาสไปเป็นแขกบ้านคนอื่น ทำให้รู้ว่า ถ้าไม่ใช่เครือญาติเราเขาไม่ให้เรากินอาหารของเขาง่าย ๆ หรอกนะ
“ไว้รอเราฝึกทหารเสร็จค่อยหาเวลาไปก็แล้วกันนะ ถ้าจะไปตอนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ”
เสี่ยวเถียนไม่สนใจสิ่งที่เพื่อนคิด เอ่ยปากจัดแจงเสียเอง
อันที่จริงเสี่ยวเถียนเป็นคนที่รักอะไรเกลียดอะไรจะชัดเจนมาก ชอบคือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
อิ่นหรูอวิ๋นกลับมาพร้อมกับอ้ายอวี้ที่เดินตามหลัง
คนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจคนมาใหม่สักนิด และคนมาใหม่ก็ไม่ได้เข้าไปร่วมวงด้วย
คนทั้งสองนั่งกินขาหมูน้ำแดงอยู่ข้าง ๆ
นั่งฟังเสียงหัวเราะจากอีกฝั่ง อิ่นหรูอวิ๋นได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง รู้สึกว่าขาหมูของโปรดเธอมันไม่อร่อยเลยสักนิด โดยเฉพาะเมื่อต้องฟังคำชมอาหารคนอื่นจากคนนู้นทีคนนี้ที ราวกับว่าเนื้อที่พวกนั้นกินมันอร่อยกว่าเนื้อในกล่องข้าวตนมากโข
กลับกัน อ้ายอวี้กำลังนั่งกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะเดิมทีเป็นคนไม่ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว และไม่คิดมากเรื่องอื่น ๆ ด้วย
ตอนนี้เธอกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
“หรูอวิ๋น ขาหมูจากร้านอาหารรัฐรสชาติดั้งเดิมมาก ฉันเคยกินเมื่อปีที่แล้ว รสชาติควรค่าแก่การนึกถึงจริง ๆ มันคือรสชาติแบบนี้เลย”
อ้ายอวี้พูดไปด้วยแล้วคีบขาหมูชิ้นโตขึ้นมากินอีกครั้ง อิ่นหรูอวิ๋นมองคนตรงหน้ากำลังเอร็ดอร่อย มือเธอกำแน่นขึ้นจนตะเกียบจวนหักอยู่รอมร่อ แต่ยังคงเอ่ยอย่างสุภาพ
“ถ้าเธอชอบก็กินให้เยอะอีกหน่อยเถอะ ครั้งนี้ฉันเอามาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ”
อ้ายอวี้น้ำตาแทบไหล
ในโลกใบนี้มีแค่หรูอวิ๋นที่รักเธอมาที่สุด
ไอ้คนในห้อง 314 นี่มันแย่จริง ๆ เอาแต่ยกยอปอปั้นเสี่ยวเถียนกันทุกคน ทำให้คนดี ๆ อย่างหรูอวิ๋นคับอกคับใจ พวกเรารออยู่นะ รอวันที่พวกนั้นต้องเสียใจมาโดยตลอด เมื่อถึงเวลานั้น คนพวกนี้มันต้องมาขอโทษหรูอวิ๋น
โดยเฉพาะฉีเสี่ยวฟางไอ้คนไร้ประโยชน์ ตอนแรกก็มาเอาใจหรูอวิ๋น แต่ตอนนี้กลับพยายามเอาใจซูเสี่ยวเถียนเสียอย่างนั้น
คนทรยศ!
พวกเสี่ยวเถียนไม่รู้หรอกว่าใครจะได้ยินบทสนทนาของพวกเธอไหม และถึงได้ยินพวกเธอก็ไม่ได้สนใจ
ในขณะเดียวกันทางฝั่งซูอู่ร่าง เนื้อที่เขาเอากลับมาโดนเพื่อน ๆ กวาดล้างราวกับโดนพายุหมุน แม้กระทั่งเศษซุปหยดสุดท้ายก็ยังมีคนเอาหมั่นโถวมากวาดจนเกลี้ยง
ซูอู่ร่างคิดว่ากล่องข้าวของตนล้างเสร็จแล้วเสียอีก
“อู่ร่าง ฝีมือการทำอาหารของคุณย่าแกเหลือเชื่อมาก!”
ลู่หยางว่าพลางจ้องไปยังส่วนแบ่งที่เจ้าภาพเก็บไว้ให้เฉียวกวางหย่วนโดยเฉพาะ โดยที่ใจหวังว่าจะได้กินส่วนนั้นบ้าง
ซูอู่ร่างพยายามรักษาส่วนที่แบ่งเอาไว้เยี่ยงชีพ และดีใจที่ตัวเองมองการณ์ไกลแบ่งเก็บไว้ให้ผู้บังคับกองร้อยสุดที่รักก่อน!