บทที่ 774 การแข่งขันอันดุเดือดเริ่มขึ้นตั้งแต่คืนนี้
บทที่ 774 การแข่งขันอันดุเดือดเริ่มขึ้นตั้งแต่คืนนี้
การบังคับให้เลิกเกรงใจนับว่าได้ผลอยู่บ้าง เหล่าเด็กสาวแต่ละคนเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบคนละเล่ม ในตู้หนังสือใหญ่นี้มีเพียงหนังสือไม่กี่เล่มที่สามารถอ่านได้ ในใจของเหล่าเด็กสาวรู้สึกสุขปนทุกข์จริง ๆ
“เสี่ยวเถียนเธอเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่สองขวบเหรอ?” จ้าวหงเหมยอดถามไม่ได้
จากอายุของซูเสี่ยวเถียนกลับอ่านหนังสือมากมายขนาดนี้จบแล้ว หากไม่ใช่ว่าเริ่มอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่อายุสองขวบถึงอย่างไรก็ไม่อาจทำให้คนเชื่อได้
ซูเสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพรืดออกมาครั้งหนึ่ง
จ้าวหงเหมยคนนี้ในหัวคิดอะไรแปลก ๆ อยู่กัน?
สองขวบอ่านหนังสือ?
จะไปเข้าใจได้อย่างไร?
“ไม่ใช่ ฉันไปโรงเรียนตอนเจ็ดขวบ!” ซูเสี่ยวเถียนพูดอย่างจริงจัง
ไปโรงเรียนตอนเจ็ดขวบ
คำตอบเหล่านี้ทำให้เหล่าเด็กสาวยากที่จะเชื่อ
กล่าวได้ว่าเรียนมาจนถึงตอนนี้แค่หกเจ็ดปีเท่านั้น
“เธอใช้เวลาอ่านหนังสือนาน ๆ ทุกวันเลยหรือ?” ฉู่เยว่ถามหยั่งเชิง
หากไม่ใช่ว่าอ่านหนังสือตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือใช้เวลาในการอ่านหนังสือนานมาก
ซูเสี่ยวเถียนพยักหน้า
“ช่วงหลายปีมานี้ตั้งแต่ฉันเริ่มเข้าใจตัวอักษรก็อ่านหนังสือขั้นต่ำวันละสิบชั่วโมง!” ซูเสี่ยวเถียนพูด
สิบชั่วโมง?
ตั้งแต่เข้าใจตัวอักษร?
เหล่าเด็กสาวมองหน้ากันไปมา
พวกเธอไม่สงสัยเลย แม้ทุกคนล้วนตั้งใจเรียน แต่อ่านหนังสือวันละสิบชั่วโมงทุกวันก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
และยังเริ่มตั้งแต่เจ็ดขวบ
เด็กเจ็ดขวบจะเข้าใจอะไรแล้วหรือ?
ฉีเสี่ยวฟางนึกถึงวันแรกที่มารายงานตัว เธอก็เห็นภาพซูเสี่ยวเถียนอ่านหนังสืออยู่ใต้ตึกหอพัก
นึกถึงวันที่ฝึกทหารทุกวันขอเพียงมีเวลาซูเสี่ยวเถียนก็จะหยิบหนังสือออกมาตั้งใจอ่าน
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเด็กสาวตัวน้อยไม่ใช่ว่าเก่งกาจขนาดนี้โดยไม่มีเหตุผล
เหล่าเด็กสาวหลังจากสบตากันก็ตัดสินใจ
พวกเด็กสาวพูดคุยกันอยู่ในห้องนอนของซูเสี่ยวเถียน
และซูอู่ร่างกับเหล่าสหายร่วมรบก็นั่งพูดคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ในลาน เพลิดเพลินไปกับเวลาว่างอันหาได้ยาก
หัวข้อสนทนาของพวกเขากว้างกว่าเหล่าเด็กสาวมาก ตั้งแต่เรื่องที่ว่าทำไมตระกูลซูจากทางตะวันตกเฉียงเหนือจึงมาที่เมืองหลวง จนถึงเรื่องที่ซูเสี่ยวเถียนอายุยังน้อยขนาดนี้ก็สามารถเป็นนักศึกษาหัวกะทิของมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงได้แล้วและเรื่องอื่น ๆ
ในตอนนี้เองที่พวกเขาตระหนักได้ว่าเด็กตระกูลซู ไม่เพียงแต่ซูอู่ร่างและซูเสี่ยวเถียนเท่านั้นที่โดดเด่น
ในครอบครัวมีพี่น้องสิบคนแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลซูยังไม่เหมือนตระกูลมากมายที่สืบทอดกันมา
เด็กทั้งสิบคนประสบความสำเร็จในขอบเขตแขนงที่ต่างกันออกไป แม้แต่ซูเสี่ยวเถียนที่อายุน้อยที่สุดก็ไม่เว้น
ทุกคนทอดถอนใจอีกครั้ง สวรรค์ติดค้างน้องสาวคนหนึ่งให้พวกเขา น้องสาวที่มีความสามารถยอดเยี่ยม! ช่วงเวลาในการพูดคุยสัพเพเหระมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกะพริบตาครั้งเดียวพระอาทิตย์ก็ตกลงทางทิศตะวันตกแล้ว
เฉียวกวางหย่วนเห็นว่าเวลาเหลือไม่มากจึงเสนอให้ไปบอกลาและกลับกันได้แล้ว
“ผู้บังคับกองร้อยในบ้านเตรียมเนื้อเสียบไม้ไว้ไม่น้อยเลย เสี่ยวเถียนบอกว่าอีกสักครู่พวกเราสามารถกินปิ้งย่างกันได้ครับ”
ซูอู่ร่างรีบบอกทุกคนให้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันต่อก่อน
แต่เหล่าสหายร่วมรบมีหรือจะไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน
“อู่ร่างพวกเรากลับก่อนดีกว่า กินอาหารบ้านนายไปมื้อหนึ่งก็เสียเงินไปมากแล้ว” เฉียวกวางหย่วนกล่าว
“เนื้อเสียบไม้ล้วนเตรียมไว้แล้วครับ หากไม่กินพอถึงพรุ่งนี้คงต้องทิ้งอย่างเสียเปล่าแล้ว” ซูอู่ร่างพูด
ทุกคนทำได้เพียงอยู่ต่อ
กระดูกผัดซอสที่เหลือเมื่อกลางวัน ปลาผัดเปรี้ยวหวาน และเนื้อตุ๋น ซูเสี่ยวเถียนเอากลับมาอุ่นในหม้ออีกสักหน่อย ก่อนจะเพิ่มอาหารปิ้งย่างเข้ามา คนหลายสิบคนก็สามารถกินได้มื้อหนึ่ง
กลุ่มคนที่กินข้าวบ้านตระกูลซูสองมื้อต่างรู้สึกละอายอยู่ไม่น้อย
ตอนพวกเขามาก็ไม่ได้นำสิ่งของอะไรมาเท่าใดนัก แต่วันนี้ทั้งวันกลับได้กินจนอิ่มหมีพีมัน
ตระกูลซูเลือกต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี
“อู่ร่างนี่ก็ดึกแล้วพวกเราควรไปได้แล้ว แต่พวกคุณปู่คุณย่าคุณลุงคุณป้าจะกลับเมื่อไหร่หรือ” เฉียวกวางหย่วนถาม
กินข้าวบ้านตระกูลซูอยู่ทั้งวันแม้แต่หน้าของผู้อาวุโสก็ยังไม่เจอยิ่งรู้สึกละอายใจจริง ๆ
เฉียวกวางหย่วนพูดความในใจของเหล่าสหายร่วมรบออกมา ทุกคนก็พยักหน้ากันอย่างเห็นพ้องยิ่ง
“เสี่ยวเถียนพวกเราก็จะรอผู้อาวุโสในบ้านด้วย!” ฉู่เยว่พูดอย่างละอายใจเป็นอย่างมาก
“ได้ คนเยอะแบบนี้ฟ้ามืดสักหน่อยก็ไม่ต้องกลัวหรอก” ซูเสี่ยวเถียนยิ้มพูด
คืนนี้พวกเขาต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัย ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะเข้าเรียนไม่ทัน แต่หากเวลาดึกมากเกินไปคาดว่าคงต้องเดินกลับแล้ว
ระยะห่างจากบ้านตระกูลซูไปถึงมหาวิทยาลัยไม่นับว่าไกลเกินไป แต่ความจริงก็ไม่ได้ใกล้นัก ใช้เวลาเดินเท้าประมาณหนึ่งชั่วโมงได้
“ไม่เป็นไรพวกเรามีคนเยอะ วันนี้ก็กินไปเยอะพอดีจะเดินกลับก็ไม่เป็นไรถือเสียว่าได้ย่อยอาหาร” จ้าวหงเหมยพูดพลางยิ้มอย่างมีความสุขยิ่ง
พวกเธอทั้งหมดคิดว่าเดินกลับได้ไม่มีปัญหายิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าพี่ทหารเลย
ขณะที่กำลังพูดคุยกันเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซูก็กลับมาแล้ว
คุณย่าซูเข้าประตูมาเห็นคนหนุ่มสาวในลานก็มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
หญิงชราจับมือเหล่าชายหนุ่มเด็กสาวอย่างกระตือรือร้น
เฉียวกวางหย่วนเห็นคุณย่าซูกระตือรือร้นเช่นนี้ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่เพียงครู่เดียวก็สามารถเข้าไปคุยกับคุณย่าซูได้ตามปกติ
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีความสามารถเอาอกเอาใจผู้อาวุโสเป็นอย่างมาก หลังพูดไม่กี่ประโยคคุณย่าซูก็ถูกเขาเกลี้ยกล่อมจนพอใจ
คุณย่าซูพูดซ้ำไปซ้ำมาว่าหลังจากมาเมืองหลวงแล้วไม่ว่าอย่างไร ให้เฉียวกวางหย่วนมาเป็นแขกของบ้านตนด้วยอย่าได้เกรงใจเกินไป
แน่นอนว่าในขณะที่คุณย่าซูพูดคุยด้วยความกระตือรือร้นกับเฉียวกวางหย่วน ก็ไม่ได้เพิกเฉยคนอื่น ๆ
คุณย่าซูมองดูแล้วว่าเด็กเหล่านี้ล้วนเป็นเด็กดี
อีกทั้งเด็กเหล่านี้ในอนาคตอีกไม่กี่สิบปี อาจกลายเป็นเพื่อนหรือสหายร่วมรบที่สำคัญที่สุดของพวกหลานชายหลานสาวในบ้าน
มืดมากแล้วจริงๆ หลังเหล่าคนหนุ่มสาวพูดคุยกับคุณย่าซูไม่กี่ประโยคก็พากันตัดใจบอกลา
คนตระกูลซูมาส่งพวกเขาหน้าประตู ซูเสี่ยวเถียนกลับไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่
เพราะต้องเดินกลับมหาวิทยาลัยซูเสี่ยวเถียนจึงไม่ได้เอาสิ่งของอะไรมาด้วย
ก่อนเดินทางเฉียวกวางหย่วนและซูอู่ร่างก็ตกลงเวลาและสถานที่นัดเจอกันที่สถานีรถไฟในวันรุ่งขึ้น
ตอนที่พวกซูเสี่ยวเถียนกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เป็นเวลาสี่ทุ่ม
อีกไม่นานประตูหอพักก็เกือบจะปิดแล้ว
หลังมาถึงเหล่าหญิงสาวรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำก่อนจะมาเข้านอนที่หอพัก
ในตอนนี้ไฟของหอพักปิดไปแล้ว
ตอนนี้เองที่ทุกคนพบว่าดูเหมือนอิ่นหรูอวิ๋นจะไม่ได้กลับมา แต่คิดว่าเดิมทีเธอก็เป็นคนเมืองหลวงอาจจะกลับเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
ซูเสี่ยวเถียนดึงหนังสือออกมจากระบบอ่านหนังสืออยู่สองชั่วโมงก่อนจะจับฉลากและเข้านอน
เธอมักจะรู้สึกว่าหลังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเวลาในการอ่านหนังสือนับวันยิ่งน้อยลง เมื่อก่อนรับรองได้ว่าจะสามารถอ่านหนังสือได้วันละสิบชั่วโมงทุกวัน แต่ตั้งแต่เปิดเทอมคาดไม่ถึงว่าไม่มีสักวันที่ทำสำเร็จ
ถึงขั้นที่ช่วงนี้จับฉลากแล้วไม่ได้ของดีเลย
ซูเสี่ยวเถียนแอบตัดสินใจว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะต้องหาโอกาสอ่านหนังสือทุกที่
ความคิดเช่นนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่ซูเสี่ยวเถียนที่คิด แต่เหล่าเด็กสาวคนอื่นในหอพักก็ล้วนคิดเช่นกัน
ความรู้ลึกซึ้งไม่ใช่ว่าจะหล่นมาจากฟ้าแต่ได้มาจากการตั้งใจเรียนหนังสือ
พวกเธอต้องเรียนรู้จากน้องสาวคนเล็กซูเสี่ยวเถียน เพื่อให้เป็นคนรักการเรียน เพื่อให้เป็นคนที่มีความรู้ลึกซึ้งถูกคนอื่นมองอยู่ในระดับสูง
ซูเสี่ยวเถียนไม่รู้ว่าการแข่งขันอันดุเดือดของห้องพัก 314 ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่คืนนี้
เหล่าเด็กสาวถูกเธอกระตุ้นให้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว!