บทที่ 781 รสชาติการเดินซื้อของ
บทที่ 781 รสชาติการเดินซื้อของ
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อฉืออี้หย่วนมาถึงบ้านตระกูลซูกลับไม่พบเสี่ยวเถียน อีกทั้งประตูบ้านก็ล็อคไว้ด้วย
“หลานไม่ได้บอกเสี่ยวเถียนหรือว่าจะมา?” ฉือเก๋อมองหลานชายด้วยรอยยิ้ม
“…” ฉืออี้หย่วน
ก็สาวน้อยใจร้ายหนีไปตอนแยกย้ายกัน จะมีเวลาบอกได้ยังไงล่ะ
“ไปหออีหมิงกันเถอะครับ พวกเขาอาจจะไปที่นั่น!”
ชายชรามองสีหน้าบิดเบี้ยวของหลานชายมีหรือจะไม่เข้าใจ? ฉะนั้นจะเห็นแก่หลานก็แล้วกัน วันนี้เลยยอมออกมาดื่มชาที่หออีหมิง แต่ไม่คิดจะบอกหรอกนะว่าเขาชอบชาที่นี่มากเลยมาบ่อย ๆ
อาหารร้านนี้อร่อยอยู่แล้ว
คนที่นั่นก็จิตใจดีด้วย
สองปู่หลานเดินทางมาถึงในไม่ช้า แต่พบว่าห้าหน่อกลุ่มเสี่ยวลิ่วไม่ได้อยู่ที่ร้าน
“อี้หย่วน ถ้าจะมาทำไมไม่บอกให้ไวกว่านี้หน่อยเล่า? พวกเสี่ยวเถียนไปบ้านปู่ถานกันนู่น!”
“…” ฉืออี้หย่วน
ทำไมมีแต่คนบอกว่าเขาไม่ได้พูดเนี่ย? ให้เวลาเขาพูดหน่อยซี่!
ฉืออี้หย่วนผู้ไม่พอใจทำได้แค่อยู่ช่วยที่ร้านเท่านั้น
“อี้หย่วน ธุรกิจช่วงนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ?” คุณปู่ซูถาม
เด็กคนนี้ทำธุรกิจมานาน แต่ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยุ่งเท่าเมื่อก่อนแล้ว พอเป็นคนเฒ่าคนแก่เห็นเด็ก ๆ ทำงานหนักก็ทุกข์ใจ แต่พอเห็นพวกเขาว่างก็ห่วงว่าธุรกิจจะล้มเหลวหรือเปล่า
“ยังพอไหวครับ ผมมาถูกทางแล้ว แค่หาเงินสู้เสี่ยวซื่อไม่ได้เท่านั้นครับ!” ฉืออี้หย่วนยิ้ม
เสี่ยวซื่อเก่งจริง ๆ นะ ความเร็วในการหาเงินของตนเองเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้เลย
“เสี่ยวซือหรือ ปู่ห่วงว่าเขาจะเอาแต่หาเงินจนเรียนช้ากว่าเพื่อนน่ะสิ!” คุณปู่ซูกังวลใจ
เด็ก ๆ ที่บ้านตั้งใจเรียนกันมาก แล้วทำไมเสี่ยวซื่อถึงดูไม่สนใจการเรียนเลย?
“คุณปู่ซูครับ สิ่งที่เสี่ยวซื่อเล่าเรียนก็คือวิธีการหาเงินไงครับ”
ฉืออี้หย่วนรีบช่วยแก้ตัวให้ กลัวชายชราจะโกรธแล้วกลับไปทุบหลานชายด้วยไม้เท้า!
ซึ่งคุณปู่ซูรู้เรื่องนี้ดีอยู่ แต่แล้วยังไงล่ะ? มันไม่ได้ขัดขวางความคิดเขาเสียหน่อย แต่ว่าการที่นักเรียนมาทำงานหาเงินแบบนี้มันทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง!
เสี่ยวซื่อที่ง่วนอยู่กับบัญชีของหรงฟาจามขึ้นหนึ่งที ก่อนจะมองออกไปข้างนอก อากาศก็แจ่มใสแท้ ๆ เขาจะเป็นหวัดได้ยังไง?
ทางฝั่งกลุ่มพี่น้องทั้งห้าเดินทางไปบ้านถานจื่อสืออย่างเพลิดเพลินท่ามกลางแสงแดดสดใสและสายลมยามเช้า
สองสามีภรรยาถานได้จ้างคนมาทำก๋วยเตี๋ยวเย็นและเฉาก๊วยแปรรูปเป็นพิเศษ หลังจากพัฒนาสูตรมาได้ระยะหนึ่งมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ตั้งแต่เดินทางมาถึงเมืองหลวงหลังจากขับไล่เมียน้อยและลูกชายออกไป ก็ขยันทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ
ได้ยินว่าพวกเขายุ่งจนหัวหมุน แม้แต่หออีหมิงยังไม่ค่อยโผล่หน้ามาให้เห็น
เสี่ยวเถียนไม่ได้เจอพวกท่านมาระยะหนึ่งแล้ว เลยนัดกับพี่ ๆ ว่าวันหยุดนี้จะมาหาพวกเขากันเพราะทรัพย์สินในตอนนี้ของเรามันเกี่ยวกับพวกเขาทั้งคู่ด้วย
สองสามีภรรยาถานหาเงินได้ พวกเราเองก็เช่นกัน
ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย จึงไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก อากาศในเมืองไม่ค่อยร้อน การได้เดินแบบนี้ให้ความรู้สึกดีมาก มันคือความคิดของเสี่ยวเถียนระหว่างเดิน ตั้งแต่มาถึงเมืองหลวงเราก็ยุ่งมาตลอด ยุ่งจนไม่มีเวลาสำรวจเมืองหลวงเลย
ตอนนี้เธอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ชะตาชีวิตได้เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เธอจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีก ตอนนี้ขอใช้ชีวิตแบบเอื่อยเฉื่อยสักหน่อยก็แล้วกัน
ถนนคนเดินมีขนมหลากหลายชนิดตั้งแผงขาย ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมพลันคึกคักขึ้นมากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าหรือคนหาบเร่มีให้เห็นอยู่ทั่วทั้งเมือง แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่ทำเงินได้ไม่น้อยเลย
หลาย ๆ คนยังคิดอยู่เลยว่าการค้าขายเป็นอาชีพที่มั่นคง ต่อให้จะมีคนจำนวนหนึ่งรังเกียจมันก็ตาม แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าอีกหลายปีให้หลัง คนกลุ่มนี้จะเป็นร่ำรวยก่อนใคร
เสี่ยวเถียนรู้หนทางการเปลี่ยนแปลงคนรุ่นต่อไปดี จึงมุ่งมั่นที่จะหาเงิน ชื่นชมเหล่านักธุรกิจรายย่อยและพ่อค้าแม่ค้ามาเสมอ
ด้วยความทรงจำที่มีอยู่ ตนจึงสามารถพาครอบครัวให้กลายเป็นคนในกลุ่มนั้นได้ ทั้งยังไต่เต้าขึ้นมาด้วยสมองอันเฉียบแหลม
“พี่หก มันเหมือนตอนที่พวกพี่ไปเดินเร่ขายของหรือเปล่า?”
เสี่ยวเถียนรู้ว่าพวกพี่ ๆ เริ่มทำธุรกิจด้วยการเดินขายไปตามท้องถนน แต่ไม่รู้ว่ามันลำบากมากแค่ไหน
พอเห็นแผงขายของจึงอดถามไม่ได้
เสี่ยวลิ่วยิ้ม “ส่วนใหญ่ก็ตั้งขายที่เดียวนะ แต่ตอนแรกเราวิ่งไปทั่วเลย”
ว่ากันตรง ๆ ตอนนั้นลำบากมากนะ แต่พวกเรายืนกรานที่จะทำ
คือมันมีคนคอยสนับสนุนอยู่ด้วยน่ะ
“เสี่ยวเถียน พี่จะบอกอะไรให้นะ ถ้าตอนแรกไม่ได้เห็นเงินพวกนั้นพี่ก็คงทำต่อไม่ไหวหรอก!” เสี่ยวชีรู้สึกเขินเล็กน้อย
เขาวิ่งจนขาบวมเลย แต่ไม่ได้คิดจะยอมแพ้ พอเป็นเรื่องเงิน ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ต่างคุ้มค่าทั้งนั้น ยิ่งมีความคิดที่ว่าผู้ใหญ่ในบ้านยังหาเงินอย่างยากลำบาก พวกเราจึงพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้ และความคิดเหล่านี้จึงทำให้พวกเด็ก ๆ อดทนต่อไปได้
หลีอวี๋เหนียงก็เช่นกัน
สุดท้ายแล้วมันเป็นสถานการณ์ที่วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย ทุกคนจึงเลือกเดินตามเส้นทางที่ตัดสินใจ
ตอนนั้นเสี่ยวเถียนเหลือบไปเห็นถังหูลู่สีแดงฉานถึงกับชะงักไป เมื่อเห็นแววตาลุกเป็นไฟของน้องสาว เสี่ยวลิ่วก็รีบเดินเข้าไปซื้อมาให้น้องสาวสุดที่รักอย่างรวดเร็ว
ถังหูลู่ในยุคนี้ราคาถูกมาก ไม้ละ 0.2 หยวนเอง
เสี่ยวลิ่วจ่ายไปหยวนนึง ก่อนที่ในมือทุกคนจะได้ถือกันคนละไม้
เด็ก ๆ บ้านซูพื้นฐานหน้าตาดีอยู่แล้ว ทั้งยังแต่งตัวดี จึงเป็นที่สนใจของคนบนท้องถนน เหล่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเด็ก ๆ ด้วยความอิจฉา
เสี่ยวเถียนกัดถังหูลู่เข้าไปหนึ่งคำ รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ฟุ้งกระจายในปาก ทำให้เธอมีความสุขจนต้องยิ้มกว้างออกมา
ท่าทางของน้องสาวทำพี่ชายยิ้มตาม สาวน้อยน่ารักคนนี้คือน้องเล็กของเราเอง!
เด็กทั้งห้าเดินถือของกินของใช้ไปตลอดทาง เพลิดเพลินเป็นอย่างมาก บางอย่างก็ซื้อให้ตัวเอง บางอย่างก็เตรียมไว้ให้คุณปู่คุณย่าถาน ในมือเสี่ยวเถียนเต็มไปด้วยของอร่อย ส่วนเหล่าพี่ชายถือของอย่างอื่น
พวกเราเดินกันอย่างมีความสุข หัวเราะเสียงดัง บรรยากาศกลมกลียวอย่างบอกไม่ถูก!