บทที่ 813 พร้อมออกเดินทาง
บทที่ 813 พร้อมออกเดินทาง
กำหนดออกเดินทางคือในอีกสองวันต่อมา นั่นคือวันศุกร์ ถ้าคำนวณจากตอนนี้ นี่คือเวลาที่เหลืออยู่ หญิงชราไม่เต็มใจสักนิดเมื่อได้ยินว่าหลานสาวต้องเดินทางไปทำธุระที่อื่น แถมครั้งนี้ยังไปนานกว่าปกติ
แกก็เลยรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา
“ไอ้เด็กเวร แกไปคนเดียวสิ ทำไมต้องพาน้องไปด้วย น้องเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง อีกอย่างเสี่ยวเถียนก็เป็นผู้หญิงด้วย ไม่รู้เลยหรือไง?”
คุณย่าซูเหวี่ยงทัพพีอย่างแรง
ซานกงสงสัยจริง ๆ เลยว่า ย่าจะฆ่าหลานตัวเองเพราะเรื่องแค่นี้จริงเหรอ แกลืมหรือไงว่าเมื่อก่อนเสี่ยวเถียนก็เคยไปนู่นไปนี่บ่อยมาก ตอนนั้นไม่เห็นจะโกรธอะไรเลย ฮึกฮือ หลานสาวคือสมบัติล้ำค่า ส่วนหลานชายเป็นแค่เศษหญ้าสินะ!
“ซานกง ดูแลเสี่ยวเถียนให้ดีนะ” คุณปู่ซูเอ่ยย้ำ
ชายชราเองก็ไม่อยากให้หลานสาวไป แต่เด็ก ๆ ต้องโตขึ้น ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องออกจากอ้อมอกเราเราในสักวันอยู่ดี
ยิ่งเด็กคนนั้นเก่งมากเท่าไร ยิ่งไปไกลบ้านเท่านั้น! ถึงจะไม่เต็มใจให้หลานไปแต่ก็ยังหวังว่าหลานชายหลานสาวจะมีอนาคตที่ดี!
“ซานกง ถ้าเสี่ยวเถียนช่วยงานไม่ได้จะไม่วุ่นวายใช่ไหม?”
เหลียงซิ่วเอ่ยเป็นกังวล เธอเองก็หวังว่าจะได้อยู่กับลูกไปตลอด แต่ในเมื่อลูกโตขึ้นแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้! ไม่ว่ายังไง ลูกสาวกับซานกงก็ต้องไปอยู่ดี
คนในบ้านช่วยเตรียมกระเป๋าให้เสี่ยวเถียน เสื้อผ้าต้องเอาไปด้วย ทางใต้ร้อนกว่าทางเหนือควรใส่เสื้อบาง ๆ ซึ่งเหลียงซิ่วเตรียมไว้ให้ลูกสาวเรียบร้อย
พวกเขาห่วงว่าลูกสาวตนจะไม่ชินกับอาหารที่นั่น จึงคิดว่าจะเอาหมูรวนเค็มกับน้ำมันพริกไปให้ด้วยดีไหมนะ อีกอย่างต้องอยู่บนรถไฟสามวัน เราควรเตรียมตัวให้พร้อม
ตอนนี้คุณย่าซูพร้อมแล้ว!
คุณปู่ซูมองซ้ายมองขวา เหมือนจะไม่มีอะไรให้ตัวเองทำเลย ช่างเถอะ ดูเฉย ๆ ก็ได้! ทันใดนั้นก็เหมือนคิดอะไรบางอย่างออก อ้าว เหมือนจะลืมไปว่ายังมีหลานชายอีกคนไปด้วยนะ ไม่รู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า
ไปดูหน่อยแล้วกัน!
…
ซานกงก็จะเดินทางไปเหมือนกันแต่ไม่มีใครสนใจเลย กระทั่งได้ยินเสียงปู่จึงได้รู้ว่าตัวเองก็เป็นหลานกับเขาด้วย
คุณย่าซูทวนข้าวของทุกอย่างทั้งหมด และรู้สึกสบายใจขึ้น
“เรามีเงินเก็บอยู่นะ ต้องเตรียมให้เสี่ยวเถียนไปสักหน่อยไหม?”
หญิงชรานอนไม่หลับ เอาแต่คุยเรื่องสำคัญกับสามี คุณปู่ซูมองคนข้างกายท่ามกลางแสงจันทร์ พลางนึกสงสัยว่าภรรยาโง่เขลาหรือเปล่า
เสี่ยวเถียนดูขาดเงินเหรอ?
ไม่อยู่แล้ว!
คิดกลับกัน ยายเฒ่าให้แค่เงินเหรอ?
ไม่นะ
สิ่งที่มอบให้คือความรักทั้งใจต่างหาก
เสี่ยวเถียนเตรียมของใกล้เสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังนอนนึกอยู่ว่าขาดอะไรไปอีกหรือเปล่า เธอต้องไปอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือน เลยต้องเอาหนังสือเรียนทั้งหมดไปด้วย และกลับมาเธอต้องสอบทันที
ข้างเตียงเสี่ยวเถียนตอนนี้มีกระเป๋าใบใหญ่สำหรับใส่อุปกรณ์การเรียน แน่นอนว่ามันมีเอาไว้เพื่อตบตาคนอื่น
หนังสือหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าแบกขึ้นหลังจะหนักขนาดไหนกัน แต่เธอไม่คิดจะเทียวไปเทียวมาในสภาพนี้หรอกนะ เพราะงั้นก็เลยยัดเข้าในไปช่องเก็บของของระบบแทน
หลังจากอัปเกรดอยู่หลายรอบ ถึงช่องที่มันให้มาจะไม่ได้เยอะแต่ก็มีพอให้ใส่ของพวกนี้เข้าไปอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวคนอื่นสงสัย เสี่ยวเถียนคงจะยัดทุกอย่างไว้ในนั้นแล้ว
ทางฝั่งเหลียวซิ่วกำลังคุยกับสามีเรื่องควรให้ลูกเอาเงินติดตัวไปบ้างหรือเปล่า ก่อนจะนึกไปถึงซานกง สุดท้ายก็ตกลงกันว่าจะให้ลูกไปคนละร้อยหยวน น่าจะพอแล้ว
เสี่ยวเถียนตื่นแต่เช้า และได้รับซองแดงสองซอง
คุณย่าใจป้ำมาก แกใส่ซองให้หลานสาวสองร้อย ส่วนเหลียงซิ่วให้ลูกทั้งสองร้อยนึง แต่เสี่ยวเถียนไม่อยากได้เงินนี้ เพราะเธอมีเงินอยู่แล้ว
เด็กสาวไม่กล้าพูดอะไร ตอนนี้ตนถือว่าเป็นคนรวยอยู่ เพราะคนอื่น ๆ ต้องดิ้นรนหาเงินหมื่นแต่เธอมีเงินแสน ซึ่งใช้ลงทุนไปหมดแล้ว จึงเหลือเก็บอยู่ไม่มาก
“คุณย่า แม่ หนูมีเงินนะ!” เสี่ยวเถียนคืนซองแดงให้พวกท่าน
คนในครอบครัวหาเงินด้วยความยากลำบาก ไม่ได้ง่ายดายเหมือนเธอเองนะ
“ย่ารู้ว่าหลานมีเงิน แต่ไม่ว่าจะมีเท่าไรหลานก็ยังเป็นลูกบ้านเรานะ!” หญิงชราจ้องเขม็งแล้วบ่น
หลานสาวเห็นย่าไม่พอใจจึงรีบเอาเงินมาเก็บไว้
รับเงินย่ามาแล้วก็ต้องรับของแม่ด้วย
เด็กสาวกำซองในมือด้วยรอยยิ้ม ซานกงมองซองแดงอันโดดเดี่ยวในมือตัวเองและเกิดความสงสัย แต่แล้วมันก็หายไป
ซานกง “เสี่ยวเถียน ถ้าไปถึงแล้วอยากกินอะไรให้บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่จ่ายให้!”
เสี่ยวเถียนกระพริบตาปริบ ๆ จริงเหรอ?
ได้เงินแล้วยังไม่ต้องเสียเองอีก?
เย้!
ซานกงหยิบกระเป๋าเมื่อใกล้ได้เวลา
ส่วนเสี่ยวเถียนมีกระเป๋าสะพายหลังใบเดียว
สภาพเหมือนหญิงสาวกุลีกุจอออกจากบ้าน
คุณย่าซูเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เสี่ยวเถียน บนหลังหลานคือกระเป๋าหลังใส่หนังสือใช่ไหม? หนักหรือเปล่า? ถ้าหนักให้พี่สามเขาถือสิ พี่เขาแข็งแรงนะ!”
ซานกงมองกระเป๋าที่ถือเต็มมือสองข้าง จู่ ๆ ก็รู้สึหดหู่ นี่คือความต่างระหว่างหลานสาวกับหลานชายสินะ?
“เสี่ยวเถียน พี่ว่าพี่ต้องแบกให้แล้วล่ะ!” เขากระซิบ
“หนูก็ว่าแบบนั้นค่ะพี่สาม ไว้เจอพ่อใหญ่แม่ใหญ่ เดี๋ยวหนูบอกให้พวกเขาช่วย!” เสี่ยวเถียนเอ่ยอย่างเริงร่า
ตลกแล้ว พูดแบบนี้ออกไปได้ที่ไหน?
ถ้าพ่อแม่ได้ยิน เผลอ ๆ ตีเขาขาหักแน่ ๆ
“ยกโทษโทษให้พี่ด้วยนะ!” ซานกงรีบขอความเมตตา
เด็กสาวยิ้ม
“ลำบากพี่สามแล้ว ไว้รอย่าไม่เห็นเดี๋ยวหนูถือเองนะ!”
เสี่ยวเถียนกระซิบตอบ
ย่าต้องอยากเห็นพี่สามดูแลเธอแน่นอน เลยทำตามความปรารถนาของแกซะหน่อย แต่เราจะปล่อยให้พี่เขาดูแลไปตลอดไม่ได้ ยังไงก็ต้องทำด้วยตัวเองอยู่ดี
ตอนนี้ที่หออีหมิงยุ่งมาก ย่าเลยไม่มีเวลาไปส่งเราที่สถานีรถไฟ
“ไม่ต้องหรอก พี่เป็นพี่ จะไม่ดูแลเธอได้ยังไง?” คนพี่รีบส่ายหัว
ถึงกระเป๋าทั้งสามจะหนักกว่าหน่อยแต่มันไม่ได้ถือลำบากอะไร และเขาเองก็ฝึกมาตั้งหลายปีแล้ว!
เหลียงซิ่วได้ยินบทสนทนาทั้งหมดระหว่างทั้งสองเข้าพอดี