บทที่ 866 ทำงานในวันหยุด
บทที่ 866 ทำงานในวันหยุด
หลังจากทราบข่าว เสี่ยวเถียนรีบตรงกลับบ้านทันที ก่อนจะรู้ว่าอีกฝ่ายเดินทางออกจากประเทศไปแล้ว การจากลาครั้งนี้ทำให้เสี่ยวเถียนรู้สึกไม่ดีเลย เพราะคิดว่าฉืออี้หย่วนจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
เธอไปทำธุระที่อื่นมา ทำไมอีกฝ่ายจึงจากไปเสียแล้วล่ะ?
หนึ่งอาทิตย์ที่เด็กสาวอยู่ในภาวะสับสน คนที่รอมากินข้าวใต้หอทุกวันกลายเป็นซูซื่อเลี่ยง และคนคุ้นเคยอย่างฉืออี้หย่วนไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย
บางครั้งเธอก็อยากร้องไห้
หลังจากรับจดหมายที่ฉือเก๋อเอามาให้ เธออ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันมีเนื้อหาแค่บรรทัดเดียวที่เขียนเอาไว้
‘เสี่ยวเถียน พี่จะรีบกลับให้ไวที่สุดนะ!’
เธอไม่เข้าใจเลย เขียนเพิ่มอีกสักสองสามคำมันไม่ได้เลยหรือไง? มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เธอไม่ได้รู้เลยว่าฉืออี้หย่วนคิดจะเขียนจดหมายมากมายให้เธอ แต่พอเอาเข้าจริงความคิดกลับสับสนวุ่นวายไปหมด
สุดท้ายปริมาณหลายพันคำก็เหลือเพียงประโยคเดียว
เธอนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ของมหาวิทยาัลยเพื่อบอกเล่าความในใจให้ต้นไม้รอบข้างฟัง เธอไม่ได้คุยกับพวกมันมานานแล้ว ตัวเธอในตอนนี้และเมื่อก่อนไม่เหมือนกันอีกต่อไป
ตอนนั้นเธอใช้สกิลลมพิสุทธิ์เพื่อสนทนากับพวกมันบ่อยครั้ง พอโตขึ้นกลับรู้สึกว่ามันเป็นการกระทำที่แปลกนิดหน่อย ทว่าในตอนนี้มันมีหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ จึงทำได้เพียงพูดให้ต้นไม้ได้ฟัง
ถึงพวกมันจะคุยกับเธอได้ แต่ไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกได้หรอกนะ
ยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกมนุษย์ได้นี่เนอะ
โชคดีที่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเข้าใจเช่นกัน แค่อยากหาคนระบายความขุ่นเคืองในใจด้วยเฉย ๆ
พวกพี่ ๆ ในห้องเห็นเสี่ยวเถียนเป็นแบบนี้ก็รู้สึกแย่ จึงพยายามใช้เวลาอยู่กับน้องให้มากที่สุดเพื่อที่เธอจะได้มีความสุขขึ้นบ้าง
จู่ ๆ คนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดก็จากไปไกลหลายพันลี้โดยไม่บอกกล่าว ไม่ว่าใครก็ทำใจไม่ได้ทั้งนั้น
ด้วยความรักและความเอาใจใส่ที่เสี่ยวเถียนมีให้ เรามองเห็นได้ด้วยตาและสัมผัสได้ด้วยใจ
ตอนนี้ห้อง 314 มีสมาชิกอยู่แค่ 7 คนเท่านั้น หลังจากคนที่ไม่ลงรอยกับเราจากไป คนที่เหลือต่างมีความสัมพันธ์กลมเกลียวแน่นแฟ้น ห้องอื่น ๆ มีทะเลาะกันบ้าง แต่ห้องของเราไม่เคยมีเลยสักครั้ง
แม้จะมีนิสัยที่ต่างกันมาก แต่พวกเธอเป็นคนจิตใจดี
“พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันไม่เป็นไร แค่ยังรับไม่ได้เรื่องที่เราต้องแยกจากกันน่ะ”
“เดี๋ยวรุ่นพี่ฉือก็กลับมา เขาแค่ลาพักการเรียนเฉย ๆ”
“ใช่ ๆ ถึงรุ่นพี่ฉือสุดหล่อจะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว แต่ก่อนไปเขาเลี้ยงข้าวพวกเราด้วยนะ บอกให้ดูแลเธอดี ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแน่ะ” ฉู่เยว่
ฉืออี้หย่วนเป็นคนรอบคอบ พอรู้ว่าจะต้องไปต่างประเทศก็ขอให้รูมเมทเสี่ยวเถียนช่วยดูแลน้องหน่อย เขากลัวว่าน้องจะกินไม่ได้นอนไม่หลับน่ะ
เสี่ยวเถียนได้ฟังก็เริ่มเสียใจอีกครั้ง ส่วนจ้างหงเหมยจ้องเพื่อนเขม็ง ยัยคนนี้ พูดทำไมเนี่ย?
มันไม่ได้ไปแทงใจดำเสี่ยวเถียนหรอกใช่ไหม?
“เสี่ยวเถียน ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้เข้าร้านเลยใช่ไหม? ตอนนี้ร้านเธอขายดีมากเลยนะ”
หลี่เจี้ยนหงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ฉันกับเสี่ยวเป่ยกะว่าถ้าวันหยุดไม่ได้กลับบ้าน จะไปทำงานที่ร้านเธอน่ะ”
เสี่ยวเถียนได้ฟังก็เข้าใจ เพื่อน ๆ ทั้งสองมีเจตนาดี และไม่อยากให้ตนเองลำบากใจ
“แต่ถ้าพวกเธอทำงานที่ร้านช่วงวันหยุดจะขาดทุนเอานะ ทุกคนกลับบ้านกันหมด ทำธุรกิจไม่ได้น่ะสิ!”
“พวกเราคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากวันหยุดหารายได้มาจ่ายค่าเทอมน่ะ” เฉียนเสี่ยวเป่ย
“ถ้าไม่ได้กลับบ้านจริงๆ งั้นวันหยุดไปช่วยงานที่หออีหมิงสิ หรือจะไปทำงานที่หรงฟาของพี่ชายฉันก็ได้นะ”
สองแห่งนี้เป็นสถานที่ทำธุรกิจได้ดีมากในช่วงวันหยุด คิดว่าเพื่อนน่าจะหาเลี้ยงชีพจากการทำงานจริง ๆ เพราะฐานะทางบ้านพวกเธอไม่ค่อยดี
ทั้งสองมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะทำให้เสี่ยวเถียนมีความสุขจริง ๆ แถมยังหาที่ทำงานให้พวกเราด้วย!
“วันหยุดมันไม่ค่อยเยอะ รวมค่าอาหารค่าที่พักแล้ว 70 หยวน พวกเธอตกลงหรือเปล่า?”
เสี่ยวเถียนรู้ว่าเพื่อนจะทำงานช่วงวันหยุดจริง ๆ จึงเอ่ยข้อเสนอ
ทำงานวันหยุดได้ 70 หยวน เด็กสาวทั้งสองแทบช็อค
คนทำงานประจำเดือนนึงเพิ่งจะได้เท่าไรเอง แต่พวกเราทำงานแค่ช่วงวันหยุดทำไมถึงได้เงินเยอะขนาดนั้น?
แต่แล้วความสุขมันก็อยู่เพียงชั่วครู่เมื่อเราตระหนักได้ว่าเสี่ยวเถียนกำลังดูแลเราอยู่
“เสี่ยวเถียน ไม่ต้องให้ขนาดนั้นหรอก เงินเดือนขนาดนั้นมันสูงมากเลยนะ พวกเราไม่สบายใจเลย!” หลี่เจี้ยนหงรีบบอก เธอไม่สามารถรับความช่วยเหลือโดยไม่มีเหตุผลได้หรอกนะ
แล้วมันก็เป็นเงินของบ้านเสี่ยวเถียนด้วย มันไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
เฉียนเสี่ยวเป่ยเอ่ยสนับสนุนเช่นกัน
บางครอบครัวในปีนึงเพิ่งจะหาได้เท่านี้เอง พวกเรารู้สึกละอายใจที่ได้เงินเยอะมากแค่ในช่วงวันหยุด
“พวกเธอไม่ได้เอาเปรียบหรอกนะ ร้านเราเปิดต่อเนื่องเจ็ดวันเลยนะ แล้วพวกเธอก็ต้องทำงานตลอดทั้งวันหยุดเกือบสี่สิบวันเลย เงินเดือน 70 หยวนก็ใกล้เคียงกับที่พนักงานทั่วไปได้นะ” เสี่ยวเถียนเอ่ยเข้าประเด็น
ใช่ว่าไม่เคยคิดจะให้เงินเป็นการช่วยเหลือนะ แต่ช่วยในยามฉุกเฉินนั้นมันดีกว่าน่ะ แถมเงินที่ให้ก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งด้วย
เด็กสาวทั้งสองดีใจมากแล้วรีบตอบตกลง
“ถ้าทำงานได้ดี ช่วงปีใหม่ได้อั่งเปาด้วยนะ!” เสี่ยวเถียนกล่าวเสริม
มันเป็นกฎของร้านเราโดยจะดูจากความสามารถในการทำงาน พอถึงช่วงปีใหม่ปุ๊บก็จะแจกเงินอั่งเปาให้พนักงาน
ทั้งสองตื่นเต้นดีใจยิ่งกว่าเดิม
เสี่ยวเถียนลืมความทุกข์ใจไปชั่วคราว
ฉีเสี่ยวฟางมองรูมเมทด้วยความอิจฉา
เธออยากหางานทำเหมือนกัน แต่เป็นคนกินเยอะ เงินที่ได้คงไม่พอค่ากินเธอด้วยซ้ำ
“เสี่ยวเถียน ฉันไปด้วยได้ไหม? แค่ขอเงินเดือนน้อยลงกว่าหน่อยก็ได้”
เธอทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยความในใจออกมา
เด็กสาวดูเขินอายเพราะกลัวเด็กคนนี้จะล้อเลียน
เสี่ยวเถียนได้ฟังก็สับสน ก่อนจะเข้าใจในที่สุด