บทที่ 927 คำสารภาพ
บทที่ 927 คำสารภาพ
ซานกงไม่แปลกใจเรื่องที่น้องช่วยฟื้นชีวิตต้นไม้หรอก แต่แปลกใจที่ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงเอามาปลูกเป็นสิบกระถางขนาดนี้ต่างหาก
ถ้าอยากดูดอกไม้จริง ๆ ควรมีที่มันหลากสีสันกว่านี้ไหม
ดอกที่เอามาไม่ได้สวยเท่าไร โบตั๋นหรือแปะเจียกอะไรนั่นไม่สวยกว่าหรือ?
ความเข้าใจของซานกงที่มีต่อเสี่ยวเถียนยังไม่แน่ชัดเท่าไร
ก็เด็กคนนี้ไม่เคยจะสนใจดอกไม้ใบหญ้าเท่าไรนี่
ถึงมันจะสวยแต่ดูเฉย ๆ ก็พอแล้วหรือเปล่า ถ้าสนใจจริง ๆ สู้ไปศึกษาเมล็ดพันธุ์ใหม่ไม่ดีกว่าหรือ
เพราะยังไงธัญพืชที่ต้องใช้กินยังอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วงไปอีกหลายปี
มีแค่เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงเท่านั้นที่ช่วยเราแก้ปัญหาเพิ่มแปลงปลูกไม่ได้ เพราะภาวะขาดแคลนอาหารจึงยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ
เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับแนวคิดของเสิ่นจื่อเจินโดยสิ้นเชิง
แต่เสี่ยวเถียนไม่ได้มีจิตวิญญาณในการค้นคว้าขนาดนั้น
เธอมีระบบห้องสมุดที่สามารถเรียนรู้วิชาทุกแขนง ทั้งยังมีเนื้อหาครอบคลุมในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ฝั่งมหาวิทยาลัย
ความรักที่ซื่อเลี่ยงมีต่อเจี้ยนหงชัดเจนมากขึ้น และความเร็วในการไล่ตามจีบก็ไวขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่จริงหญิงสาวมีความประทับใจต่อฝ่ายชายนะ แต่ด้วยความเป็นเลิศของเจ้าตัวจึงไม่อยากคิดเยอะ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป
แต่ไม่คิดว่าซื่อเลี่ยงจะสารภาพรักอย่างเป็นทางการกับเธอ
“เจี้ยนหง เธอรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า?”
เธอมองชายหนุ่มแก้มแดงตรงหน้า จึงอดไม่ได้ที่จะตบหัวตัวเองเบา ๆ
เธอกำลังฝัน กำลังฝันอยู่แน่ ๆ
ทุกคนในจิ่งเฉิงต่างก็รู้กันทั้งนั้นว่าซูซื่อเลี่ยงเป็นคนแบบไหน
เขาเป็นจิตรกรหนุ่มผู้มากความสามารถ ประดิษฐ์ตัวอักษรได้งดงาม ได้รับการเสนอชื่อและยกย่องจากนักอักษรวิจิตรและจิตรกรชั้นนำของประเทศ
บอกได้เลยว่าตัวเขาในตอนนี้ยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุดและกำลังมองลงมาที่พวกเราอยู่
ชายที่โดดเด่นแบบนี้เธอคงไม่มีโอกาสได้พบหรอกหากไม่ได้อยู่หอเดียวกับน้องสาวของเขา
แล้วเจ้าตัวจะมาสารภาพรักกับสาวบ้านนอกแบบเธอได้ยังไง?
ซื่อเลี่ยงเป็นกังวลยามเห็นอีกฝ่ายตบหน้าตัวเธอเอง
ตอบรับก็ดี ไม่ตอบรับก็ไม่เป็นไร ขอแค่ตั้งใจต่อไปก็พอแล้ว แล้วทำไมเจี้ยนหงถึงตบหน้าแบบนั้นล่ะ?
“เจี้ยนหง ถ้าเธอรู้สึกว่าฉันไม่ตรงตามที่เธอต้องการขอแค่บอกมา ฉันจะเปลี่ยนให้เอง แต่เธอต้องไม่ทำร้ายร่างกายตัวเองแบบนี้สิ” น้ำเสียงอ่อนโยนรีบเอ่ยออกมา
เจี้ยนหงรู้สึกว่าตัวเองประสาทหลอนจริง ๆ ไม่งั้นจะได้ยินอีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นได้ยังไง?
“ฉันกำลังฝันอยู่แน่เลย ฝันแน่ ๆ ฉันไปนอนต่อดีกว่า อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่านเลย!”
เธออยากสงบสติอารมณ์สักหน่อย นอนสักตื่นทุกอย่างอาจจบลงก็ได้
ซื่อเลี่ยงตกใจเมื่อได้ยินเสียงพึมพำ
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
หรือเธอไม่ชอบเขา ตอนนี้ก็เลยกดดันที่โดนล้ำเส้น?
“ฉันจริงจังนะเจี้ยนหง และหวังว่าจะได้แต่งงานสานสัมพันธ์กับเธออย่างเป็นทางการด้วย” ซื่อเลี่ยงลดเสียงลง
“ไม่ว่าฉันจะฝันหรือพี่ฝันอยู่ เราไม่เหมาะกันเลยค่ะ!” เจี้ยนหงยังปฏิเสธที่จะเชื่ออยู่ดี
เธอตัดสินใจว่าจะรีบกลับห้องไปนอนซะ ความฝันแบบนี้ง่ายต่อการลุ่มหลงอยู่ในนั้นเหลือเกิน
เกิดอยากอยู่ในนี้ตลอดไปจะเป็นยังไง?
ซื่อเลี่ยงมองหญิงสาวอย่างวิตกอีกครั้ง ก่อนหมุนตัวหมายจะจากไป
ยังพูดไม่ทันรู้เรื่องเลย ทำไมจะไปแล้วล่ะ?
เขารีบคว้าแขนเธอไว้
แต่ด้วยจังหวะที่ฝ่ายหนึ่งรีบก้าว อีกฝ่ายหนึ่งก็แรงเยอะ จึงทำให้เจี้ยนหงรู้สึกเจ็บแขน
คราวนี้แน่ใจแล้วว่าตนได้ยินคำสารภาพรักจากซูซื่อเลี่ยง ชายหนุ่มพราวเสน่ห์ที่สาว ๆ ในมหาวิทยาลัยล้วนหมายปอง
เธอหันไปมองด้วยสายตาว่างเปล่า ได้แต่สงสัยว่าทำไมคนแบบนี้ถึงมาสารภาพรักกับเธอด้วย?
ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
“ทำไมถึงไม่เหมาะล่ะ?” ซื่อเลี่ยงเป็นกังวล
ทำไมถึงพูดแบบนั้น?
อายุเราก็ไล่ ๆ กัน มีอะไรที่ไม่เหมาะอีก?
“เราไม่เหมาะกันสักอย่างเลยค่ะ!” เจี้ยนหงยืนกราน
“เราสองคนอายุไล่เลี่ยกัน ฉันแก่กว่าเธอห้าปี ถึงจะเยอะไปนิด แต่ยังอยู่ในวัยที่เหมาะสม ครอบครัวเราก็มาจากชนบทจากตะวันตกเฉียงเหนือ หัวอกเดียวกัน เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงเหมือนกัน ถึงตอนนี้ฉันจะเรียนระดับบัณฑิตศึกษา แต่อนาคตเธอก็จะได้เรียนเหมือนกันนะ”
เจี้ยนหงแทบไม่อยากเชื่อ บ้านเธอกับบ้านซูเนี่ยนะ?
ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกัน!
พวกเราเป็นเกษตรกรจากตะวันตกเฉียงเหนือก็จริง แต่บ้านซูร่ำรวยมากเลยนะ ถึงจะมีลูกหลานเยอะ แต่ทุกคนล้วนมีบ้านในเมืองหลวงเป็นของตัวเอง แถมที่บ้านยังมีทรัพย์สมบัติอีก
ถึงบ้านเธอจะทำอาชีพเดียวกัน แต่นอกจากที่ดินไม่กี่ไร่ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
และแม้เราจะเป็นนักศึกษาจิ่งเฉิง แต่สุดท้ายก็ยังมีความแตกต่างหัวแถวกับท้ายแถวใช่ไหมล่ะ?
“แต่…”
เจี้ยนหงหมายจะพูด แต่อีกฝ่ายหยุดเอาไว้
“ไม่มีแต่ เราสองคนเหมาะสมกัน!”
“คนที่บ้านพี่ก็คิดว่าเราเหมาะกันหรือคะ?” เธอถามด้วยความลังเล
เมื่อได้ยินแบบนี้ ซื่อเลี่ยงก็รู้ว่าเรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว
“พี่บอกปู่กับย่าแล้ว พวกเขาชอบเธอนะ!” ก่อนจะรีบร้อนตอบ
อันที่จริง พวกท่านชอบเจี้ยนหงมากเลยนะ เธอน่ะเป็นมาตรฐานหลานสะใภ้ตัวอย่างเลย
ไม่รู้พ่อแม่จะคิดยังไง ขอแค่ปู่กับย่าเห็นด้วย พ่อแม่ก็คงไม่คัดค้านมั้ง?
เมื่อเจี้ยนหงเห็นด้วย เขาจะโทรไปขอความเห็นกับพ่อแม่ทันที แล้วถ้าเจ้าตัวไม่เห็นชอบด้วย เขาก็จะโน้มน้าวให้ได้
——————————————————-