เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 935 น่าเกลียดเหมือนลิง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 935 น่าเกลียดเหมือนลิง

บทที่ 935 น่าเกลียดเหมือนลิง

ใบหน้าของเสี่ยวเถียนปรากฏรอยยิ้มทันที

“เข้าใจแล้วค่ะ หนูตุ๋นไก่ให้พี่สะใภ้ใกล้เสร็จแล้วนะ ให้เธอดื่มบำรุงร่างกาย”

เมื่อสิ้นประโยคนั้น คุณย่าซูก็พรวดพราดออกมาทันที

ท่าทางดูไม่เหมือนคนสูงวัยสักนิด

“คุณย่าไม่ต้องรีบ เดี๋ยวชนขึ้นมาจะทำยังไงคะ?” เสี่ยวเถียนเห็นความตื่นเต้นของแก จึงรีบเข้าไปพยุง

คุณย่าซูยิ้มจนตาปิด

“เด็กคนนี้รู้เรื่องจริง ๆ เก่งกว่าเจ้าพวกเหลือขอที่บ้านอีก รู้จักเตรียมอาหารให้พี่สะใภ้ด้วย”

“ย่ายังคิดกับแม่หนูอยู่เลยว่ากลับมาค่อยทำ แต่กว่าจะเสร็จคงเย็น ไม่คิดเลยว่าหนูตุ๋นไว้แล้ว”

เหลียงซิ่วตกใจที่แม่สามีพูดออกมารวดเดียว

ลูกสาวเธอเตรียมเองเลยหรือ? เก่งมาก!

“ผมว่าอยู่ทำไมน้องเข้าครัว ที่แท้ก็ทำให้พี่สะใภ้นี่เอง”

ซางกงยิ้ม

เด็กคนนี้โตมาพร้อมกับที่บ้านเอาอกเอาใจ แต่นิสัยไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ยังคงดูแลสมาชิกในบ้านมาตลอด

ไม่รู้ว่าถ้าบ้านเราไม่มีน้องเล็กคอยดูแล ชีวิตจะดำเนินไปในทางไหนกันแน่

“หนูแค่เตรียมไว้ล่วงหน้าค่ะ เผื่อย่ากลับมามันก็คงเสร็จพอดี หนูอยากเจอหลานชายด้วย”

“งั้นเดี๋ยวย่าทำไปเพิ่ม จะได้เอาไปเผื่อแม่ใหญ่กับพี่ใหญ่ของหนูด้วย”

หญิงชราหมุนตัวเข้าครัว

เสี่ยวเถียนเห็นแม่กับย่าไปโรงพยาบาลมาทั้งวันคงจะเหนื่อย เลยช่วยอีกแรง

“หลานรักย่าเก่งจริง ๆ ดูเจ้าพวกนี้สิ ดีแต่กินงานการไม่ช่วย” คุณย่าซูบ่น

ซานกง “…”

เอาเถอะ ทำใจให้ชินซะ อย่างน้อยก็ได้ขัดหม้อแล้วกัน

ไม่นานอาหารเย็นก็พร้อมเสิร์ฟ

ทีแรกเสี่ยวเถียนว่าจะไปส่งข้าวก่อน แต่ย่าบอกให้เธอกับพี่รองกินข้าวก่อนไป ส่วนคุณแม่ต้องพักผ่อนถึงจะกินได้

เด็กสาวทำได้แค่ตอบตกลงเท่านั้น

ทางฝั่งโรงพยาบาล โส่วเวินขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจขณะมองลูกชายนอนหลับตาพริ้มในห่อผ้า เนื้อตัวเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่

“แม่ ทำไมเจ้าเด็กคนนี้น่าเกลียดจัง? ผมกับหลินหลินก็ไม่ได้หน้าตาแย่อะไรนะ”

เขามองภรรยา แล้วเบนสายตามาที่ลูก

“โรงพยาบาลไม่ได้พามาผิดคนใช่ไหม?” หลังจากมองอยู่นาน เขาก็ถามด้วยจิตใจว่างเปล่า

หวังเซียงฮวาที่ง่วนอยู่กับการห่อผ้าให้หลานถึงกับตวัดสายตามอง “ใครบอกเหลนฉันน่าเกลียด? ตอนแกเด็ก ๆ ก็น่าเกลียด หน้าอย่างกับลิง”

ลิงโส่วเวินถึงกับเงียบกริบ “…”

เขาหล่อขนาดนี้เอาอะไรมาเหมือนลิง?

“ถึงจะคนละรุ่น แต่ผมก็เป็นลูกแม่แท้ ๆ เลยนะ แม่พูดแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?”

“เหอะ เด็กที่นอนอยู่ก็หลานชายแท้ ๆ ของฉันเหมือนกัน หลบไป หุบปากเน่า ๆ ของแกไปซะ อย่ามาพ่นใส่หลานชายฉัน!”

หวังเซียงฮวาเอ่ยโดยไม่มองหน้าลูกชายคนโตสักนิด

โส่วเวินรู้สึกหดหู่นัก!

“ช่างเถอะครับ ผมไม่ถือสา!” เขาถูจมูก

ทีแรกจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ถือสาเจ้าเด็กคนนี้หรอก*[1]

แต่หวังเซียงฮวาดันได้ยินเสียได้

“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ? ไหนพูดอีกรอบซิ!”

ผู้เป็นแม่โมโหขึ้นมา

ไอ้เด็กนี่นับวันใจกล้าเหลือเกิน

“แกหมายถึงใครเป็นผู้น้อย? บอกให้แม่แกฟังอีกรอบซิ!”

ถ้าไม่ห่วงว่าเสียงจะไปปลุกหลานเข้า เธอคงตะโกนออกมาแล้ว

ตอนนี้ก็เลยพยายามควบคุมเสียงเอาไว้ แล้วลดเสียงคุยด้วยแทน

โส่วเวินเพิ่งรู้ว่าพูดผิดไป โนเวล-พีดีเอฟ

เขาจึงรีบขอโทษ “ผมหมายถึงเจ้าเด็กคนนี้ต่างหาก ไม่ใช่แม่สักหน่อย!”

แต่คนเป็นแม่ไม่เชื่อ

“เจ้าเด็กคนนี้คือหลานฉัน แกไสหัวออกไปเลย ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก รำคาญ!”

หลินหลินมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนล้า

แม่สามีเป็นคนไม่คิดเยอะ แต่ท่านดีมากเลยนะ

“ผมอยากอยู่กับเมียผม!”

ช่างมัน ไม่พูดแล้วอยากอยู่ก็อยู่ไป

ตอนนั้นเองที่พวกเขาได้ยินเสียงเคาะประตู

พอเปิดออกก็เจอซานกงกับเสี่ยวเถียน

“เสี่ยวเถียน มาได้ยังไงกันเนี่ย?”

เด็กสาววางกล่องอาหารอุ่น ๆ บนโต๊ะข้างเตียง “หนูมาหาเจ้าตัวน้อยค่ะ”

หวังเซียงฮวารีบคว้าแขนของหลานสาวทันที “มาดูเร็ว เจ้าตัวเล็กน่ารักน่าชังเชียวเนอะ”

“น่ารัก? แม่ก็เห็นอยู่ตำตาว่าน่าเกลียดขนาดไหน!” โส่วเวินทำพลาดอีกแล้ว

แม้จะพยายามพูดด้วยเสียงอันเบา แต่คนเป็นแม่ยังได้ยินอยู่ดี

หวังเซียงฮวาจ้องลูกชายด้วยความโมโห ก่อนจะชี้หลานชายให้เสี่ยวเถียนดู “เสี่ยวเถียน หนูเห็นไหมว่าหลานน่ารักขนาดไหนน่ะ มีแต่พี่ใหญ่โง่เง่าของหนูคนเดียวที่เอาแต่พูดว่าลูกชายตัวเองน่าเกลียด”

ชาติที่แล้วเสี่ยวเถียนเคยเห็นเด็กแรกเกิดอยู่ ที่จริงก็ไม่ได้น่ารักน่าชังอะไรขนาดนั้นหรอก

เดี๋ยวพอโตขึ้นก็น่ารักเอง

“บอกพี่หน่อย เด็กคนนี้น่ารักตรงไหน? ทำไมไม่เห็นจะน่ารักเลย?” ก่อนจะใช้เหตุผลมาพูดกับผู้เป็นแม่ “ต้องแบบเสี่ยวเถียนนี่ต่างหากถึงจะบอกว่าน่ารัก แต่เจ้าเด็กคนนี้น่าเกลียดมาก!”

เสี่ยวเถียนมองพี่ชายคนโต จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ต่างไปจากทารกเสียเท่าไรเลย!

“แกออกไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะ!” หวังเซียงฮวาโกรธหนักกว่าเก่า

“ทารกก็แบบนี้แหละค่ะ พวกรอยแดง ๆ สองวันก็ดีขึ้น” เธออธิบาย “ในหนังสือก็บอกนะ พี่ไม่รู้หรือ?”

อะไรนะ? ในหนังสือบอกด้วยหรือ?

โส่วเวินฟื้นความทรงจำ เหมือนว่าตนจะจำเรื่องนี้ไม่ได้เลย

แต่เขาเชื่อน้องสาวมาก แสดงว่าเธอต้องเคยอ่านเจอมาจริง ๆ ถึงได้พูดแบบนี้

ถือเสียว่าตนไม่ได้อ่านเยอะแล้วกัน

ไม่ว่าคนในบ้านจะเรียนสูงขนาดไหน แต่เสี่ยวเถียนก็เป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะที่สุดแล้ว

“จริงหรือ? จะน่ารักได้ใช่ไหม?”

ถ้าได้ก็ดี ถ้าต้องอุ้มลิงตัวนี้ออกไปข้างนอกจะไม่โดนคนเขาหัวเราะเยาะเอาหรือไง?

โชคดีที่หวังเซียงฮวาอ่านใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงพุ่งเข้ามาทุบเขาแล้ว

[1] เล่นคำมาจากสำนวน ‘ผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อย’

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท