มันที่อยู่ตรงหน้า มีความสูงเพียงแค่ประมาณหนึ่งเมตรหกเซนติเมตร แม้จะดูเล็กมากในสายตาของมนุษย์…แต่ใบหน้าเช่นนี้ก็ซ้อนทับกับผู้ที่ชอบเอาเปรียบเล็กๆ น้อยและชอบจ้องมองบรรดาลูกค้าของโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
แต่หลงซีรั่วก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ซูโย่วที่แท้จริง
“เจ้าไม่ใช่ซูโย่ว”
หลงซีรั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ และลุกขึ้นมา “เจ้าไม่ใช่ ซูโย่วที่ข้ารู้จักจะไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ ทำไมพวกเราถึงต้องการฆ่าเจ้างั้นหรือ ทำไมเจ้าไม่ถามตัวเจ้าเองว่าฆ่าปีศาจกับมนุษย์ไปกี่คนแล้ว ถ้าหากไม่ฆ่าเจ้า ข้าจะมีหน้าไปพบปีศาจที่ตายอยู่ในปากของเจ้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร”
ดวงตาของมันขยายขึ้นมาก ปากก็ฉีกออก ดวงตาจ้องเขม็งไปที่หลงซีรั่ว พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าล่ะ พวกเจ้าก็เหมือนกัน ที่พวกเจ้ากินนั้นไม่เหมือนกันงั้นเหรอ มนุษย์กินสัตว์ พวกเจ้าปีศาจก็กินสิ่งมีชีวิตต่างๆ นานา…พวกเจ้าล่ะ ทำไมพวกเจ้าทำได้ แต่ข้ากลับไม่ได้ บอกข้ามา”
“เจ้าต้องการมีชีวิตอยู่ นั่นเป็นความต้องการของเจ้า ข้าต้องการฆ่าเจ้าก็เป็นความต้องการของข้า” กุยเชียนอียืนขึ้นมาอย่างทุลักทุเล พูดเสียงเข้มว่า “เจ้าต้องการให้ข้าตอบเจ้า ข้าสามารถตอบเจ้าได้เพียงว่าเพราะความเห็นแก่ตัวเท่านั้น”
ถึงจะโซเซ แต่การเคลื่อนไหวของกุยเชียนอีก็ไม่ได้เชื่องช้า กระบี่ไม้เท้าถูกชักออกในพริบตา แสงอันเย็นยะเยือกกวาดออกไปทั่วทิศ
มันถอยออกไปสองก้าวอย่างหวาดกลัว หวั่นเกรงกระบี่คมในมือของกุยเชียนอีมาก “เห็นแก่ตัว…เห็นแก่ตัว…เห็นแก่ตัว…ข้าไม่อยากตาย”
ร่างกายของมันกลายเป็นของเหลวอีกครั้งและหนีไปทางท่อระบายน้ำของห้องน้ำในพริบตา…กุยเชียนอีไม่ขยับเพียงแต่มองดูมันจากไปอย่างนั้น
หลังมันจากไปแล้วเขาถึงได้กระอักเลือดสีดำออกมาและล้มลงพื้น
ที่แท้ก็แสร้งทำเป็นแข็งแรง
“กุยเชียนอี เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจสิ”
กุยเชียนอียิ้มอย่างขมขื่นและเอ่ยว่า “ข้าไร้ความสามารถ…กลับถูกพิษเล็กน้อยเช่นนี้ทำให้หมดสภาพถึงขนาดนี้ได้”
หลงซีรั่วถอนหายใจและพูดว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าใช้วิชาลับทำให้ถูกสะท้อนกลับ อาการบาดเจ็บระดับนั้นไม่น่าจะหายดีได้ไวนัก…เกรงว่าพิษชนิดนี้คงเป็นพิษที่ฆ่าปีศาจแมงมุม เดิมทีเจ้าก็บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว แต่ยังต้องมาข่มพิษอีก สามารถพูดได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว”
กุยเชียนอี…เขาแก่เกินไปจริงๆ
ในใจของหลงซีรั่วรู้สึกขมขื่นมาก…กี่ปีแล้ว เขามีชีวิตมานานกี่ปีแล้ว แม้จะมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้แต่ก็ไม่อาจแข็งแกร่งองอาจได้เช่นเดิมอีกแล้ว เสนาบดีกุยผู้เคยลูบหัวของตนเองและเรียกตนเองว่าองค์หญิงน้อย
ดวงตาของกุยเชียนอีเปลี่ยนเป็นมืดมัวขึ้นมา พูดเบาๆ ว่า “องค์หญิงน้อย…หลายปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้เห็นท่านเป็นอย่างนี้อีกครั้ง องค์หญิง…หลายปีมานี้ ลำบากท่านแล้ว”
“เจ้าอย่าพูด กุยเชียนอี” ดวงตาของหลงซีรั่วแดงฉาน
กุยเชียนอีพูดอย่างอ่อนแรงว่า “เป็นราชวงศ์เซวียนหยวนผิดต่อท่าน…องค์หญิงน้อย ข้าผิดต่อท่าน…ตอนนั้นท่านยังเล็กเป็นข้าเองที่ส่งท่านไปสถานที่ของมังกรแท้จริงเพื่อรับการสืบทอด ท่านยังเล็ก…แต่พวกเรากลับให้ท่านรับภาระหนัก องค์หญิงน้อย…ท่านโทษข้าเถอะ…ขอโทษด้วย แต่ขอ…ขอให้มีสักวัน…สักวันที่ท่านสามารถ…วาง…วางภาระ…ที่ไม่สมควรให้ท่าน…ต้องรับผิดชอบนี้ลงได้…”
“กุยเชียนอี ข้าขอสั่งเจ้า ห้ามพูดอีก เจ้าลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมา คำสั่งจากมังกรแท้จริง ข้าขอสั่งเจ้า ให้ลุกขึ้นมา”
“องค์หญิงน้อย…องค์หญิงน้อย…” ดวงตาของกุยเชียนอีมืดทึบ “องค์หญิงน้อย…วันนี้ท่านมาช้าอีกแล้วใช่ไหม…ต้องลงโทษแล้วใช่ไหม…องค์หญิง…เมื่อวาน…เมื่อวานที่ให้ท่านท่อง…ท่องตำรับยา…ท่านท่องได้หรือยัง…ท่าน…แอบ…แอบหนี…อีกแล้ว…ใช่…ไหม…”
สิ้นสุดลงตรงนี้ เขาค่อยๆ หลับตาลง
“กุยเชียนอี! กุยเชียนอี! ท่านปู่กุย!”
หลงซีรั่วร้องเรียกอย่างบ้าคลั่ง กอดร่างกายของกุยเชียนอี ความเจ็บปวดในใจเพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อสูญเสียพลังแห่งมังกรแท้จริง เธอก็ไม่สามารถสงบนิ่งมองเรื่องทุกอย่างได้
เหมือนได้เดินทางก่อนครึ่งหนึ่งของชีวิตอีกครั้ง ภายในระยะเวลาสั้นๆ เธอผ่านอารมณ์สิ้นหวังไร้ซึ่งความช่วยเหลือมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง…ความคิดไม่นิ่งเหมือนหินเช่นเคยและจิตใจก็ไม่เข้มแข็งดั่งที่เคยเป็น
ตอนนี้หลงเอ๋อร์มีน้ำตานองหน้าและร้องไห้ฟูมฟาย “ท่านปู่กุย”
ตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่หลงเอ๋อร์
“ข้าไม่อยากให้ท่านตาย…ท่านปู่กุย หลงเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านตาย ท่านปู่กุย ท่านปู่กุย…”
หลงเอ๋อร์ฟุบลงไปบนหน้าอกของกุยเชียนอี ออกแรงทุบหน้าอกของกุยเชียนอี “ท่านลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ท่าน ลุกขึ้นมาสิ…ลุกขึ้นมา…ท่านปู่กุย”
เธอยังคงฟุบอยู่บนหน้าอกของกุยเชียนอี กำปั้นน้อยทุบลงไปทีละกำปั้น…ทุบลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรง “ท่านปู่กุย ท่านปู่กุย…ท่านปู่กุย…”
“ท่านปู่กุย…ข้าจะไม่ยอมให้ท่านตาย”
ทันใดนั้นหลงเอ๋อร์ก็กำหมัดแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมารวบรวมพลังทั้งร่างร้องเรียก “ออกมาสิ! ออกมาสิ ออกมา ฉันรู้ว่านายอยู่ ออกมาสิ นายชนะแล้ว ออกมา นายชนะแล้ว…ออกมาสิ…”
แต่รอบด้านกลับว่างเปล่าไม่มีใครสักคน ไม่ว่าเธอจะร้องเรียกอย่างไรแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครปรากฏตัว สีหน้าของหลงเอ๋อร์ซีดขาว เธอก้มหน้าลงอย่างหมดหวัง “นายออกมาสิ…นายชนะแล้ว…ทำไมถึงยังไม่ออกมา…ออกมาสิ…”
เสียงฝีเท้าสองเสียงที่แตกต่างกันดังขึ้นด้านหน้าของหลงเอ๋อร์
เธอเงยหน้าขึ้นมา ที่อยู่ตรงหน้าก็คือเจ้าของสมาคมและคุณหนูสาวใช้
“คุณหนูหลง คุณเรียกหาผมเหรอครับ” ลั่วชิวพยักหน้าเล็กน้อยพูดเบาๆ ว่า “มีเรื่องอะไรเหรอครับ”
หลงเอ๋อร์เช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างแค้นเคือง เธอกัดฟันและพูดว่า “นายชนะแล้ว อย่าทำเป็นถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ กุยเชียนอี…ฉันไม่มีคำขออื่น ขอเพียงนายช่วยเขาได้ก็พอ”
“ได้ตามที่คุณต้องการ” เจ้าของสมาคมลั่วยิ้มเล็กน้อย
ตอนนี้หลงเอ๋อร์มองคนหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก เธอพูดอย่างมึนงงว่า “นาย…นายตกลงแล้วงั้นเหรอ”
“ในเมื่อเป็นคำร้องขอจากลูกค้า ทำไมผมจะไม่ตกลงล่ะ” ลั่วชิวถามด้วยความแปลกใจ “ผมเคยพูดแล้วว่าพวกเราจะไม่ปฏิเสธคำขอของลูกค้า”
“แต่…” หลงเอ๋อร์มองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ ริมฝีปากขยับเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมา พูดว่า “เดิมทีฉันคิดว่าอย่างน้อยนายก็ต้องลบหลู่ฉันสักหน่อย ฉันเองก็เตรียมพร้อมสำหรับการถูกนายลบหลู่แล้ว แต่…แต่ทำไม”
ลั่วชิวพูดว่า “ทำไมคุณหนูหลงถึงคิดว่าผมจะลบหลู่คุณล่ะ”
หลงเอ๋อร์หันหน้าหนีกัดฟันพูดว่า “ก็…ก็ตั้งแต่ตอนแรก ฉันก็คิดจะทำลายพวกนาย ฉันไม่เชื่อนาย…นายไม่แค้นงั้นเหรอ”
“แค้นเหรอ” ลั่วชิวส่ายหน้าพูดว่า “เรื่องนี้น่าเบื่อเกินไป อีกอย่าง คุณหนูหลงก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรผม กลับกันตัวคุณเองกับเสียเปรียบ ไม่ใช่งั้นเหรอ”
หลงเอ๋อร์อ้าปาก ไม่เข้าใจความคิดของเจ้าของสมาคมผู้นี้ แต่ในตอนที่สบสายตากับอีกฝ่ายก็หยุดคำพูดที่คิดจะพูดออกมาทันที
เขา…ไม่มีความคิดที่จะลบหลู่ตนเองจริงๆ ในดวงตาก็ยิ่งไม่มีร่องรอยของความแค้นหรือความเสแสร้งแกล้งทำเลย
เขา…อยู่เพื่ออะไรกันแน่
หลงเอ๋อร์ส่ายหน้าและมองลั่วชิว “ต้องการ…ต้องการอะไรแลกเปลี่ยน”
ลั่วชิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดว่า “เช่นนั้นก็ต้องดูที่คุณหนูหลงแล้ว…ว่าต้องการให้ช่วยคุณกุยผู้นี้ถึงระดับไหน”
หลงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ฉันต้องการให้เขามีชีวิตขึ้นมา ไม่สนว่าจะต้องแลกเปลี่ยนกับอะไร”
คิดไม่ถึงว่าเจ้าของสมาคมลั่วจะส่ายหน้าและพูดว่า “คุณหนูหลง การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ของคุณ ผมคิดว่าทางพวกเราไม่สามารถขายให้คุณได้”
หลงเอ๋อร์ชะงัก พูดอย่างโมโหว่า “นาย…นายต้องการจะลบหลู่ฉันจริงๆ เมื่อครู่นี้ยังพูดอย่างน่าฟัง สุดท้ายแล้วก็ยัง…ทำไมถึงไม่สามารถขายให้ฉันได้ หรือว่าวิญญาณของฉันที่เป็นมังกรแท้จริง มีราคา…มีราคาไม่เพียงพองั้นเหรอ”
“จิตวิญญาณของมังกรแท้จริงเป็นสิ่งล้ำค่าที่ประมาณมิได้จริงๆ ถ้าหากมีโอกาสทางร้านก็ต้องการอย่างแน่นอน” แต่ลั่วชิวกลับส่ายหน้าและพูดว่า “แต่เพราะคุณกุยผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่…ในเมื่อยังไม่ตายดังนั้นคำขอของคุณหนูหลงก็ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้”
“อะไรนะ” หลงเอ๋อร์ชะงักอีกครั้ง “นายพูดว่า…กุยเชียนอี ยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ”
เจ้าของสมาคมลั่วยิ้มและพูดว่า “แน่นอน คุณหนูหลงที่เป็นมังกรแท้จริง…หรือไม่เคยได้ยินว่าคำว่าลมหายใจเต่างั้นหรือ คุณกุยผู้นี้เพียงแค่หยุดลมหายใจไว้ชั่วคราวเพื่อทุ่มเทรักษาพิษในร่างกายเท่านั้น ถึงพิษนี้จะร้ายแรงมากแต่ก็ยังไม่สามารถเอาชีวิตของคุณกุยได้”
หลงเอ๋อร์…หลงซีรั่วจ้องเขม็งไปบนร่างกายอันแข็งทื่อของกุยเชียนอี
ชั่วขณะนั้นเธอก็เหมือนถูกกระตุ้นขึ้นมายกเท้าเหยียบบนหัวของกุยเชียนอีและร้องคำรามว่า “กุยเชียนอี! เจ้าไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เจ้าบ่าวเลวถึงกับกล้าทำให้ข้า ทำให้ข้า…”
มังกรแท้จริงแห่งแผ่นดินเทพสะอื้นเล็กน้อย “…ทำให้ข้าเป็นห่วงถึงขนาดนี้”
เจ้าไม่เป็นอะไรนั้นดีจริงๆ ท่านปู่กุย