บทที่ 951 หน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย
บทที่ 951 หน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย
ในตอนที่เซี่ยหนานพูด เธอเอียงใบหน้าเล็กน้อย เป็นมุมเดียวกับที่เสี่ยวเฉ่ามองเสี่ยวเถียนพอดี
อาจารย์จ้าวจากมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงเหลือบมาเห็นพอดี “อาจารย์เซี่ยคะ พอคุณกับคุณครูเสี่ยวซูหันข้างแบบนี้หน้าเหมือนอย่างกับพี่น้องเลยค่ะ”
คนพูดนั่งอยู่ตรงข้ามทั้งสองพอดี
อาจารย์ข้าง ๆ ก็มองด้วยเหมือนกัน
“จริงด้วย ถ้ามองตรง ๆ ไม่ค่อยเหมือนเนอะ แต่ถ้ามองจากข้าง ๆ เหมือนกันเปี๊ยบเลย”
เหมือนกันเปี๊ยบ?
เสี่ยวเถียนเริ่มอยากเห็นบ้าง จึงวิ่งไปยืนดูจากอีกฝั่ง
เสี่ยวเฉ่ามองตามน้อง จนกระทั่งเด็กสาวไปถึงกลับไม่สามารถมองเห็นมุมที่อาจารย์ว่าได้อีกแล้ว
“พี่เสี่ยวเฉ่าหันมาทำไมคะ? หันกลับไปหน่อยหนึ่ง”
เสี่ยวเถียนเร่งเร้า
เซี่ยหนานบอก “เลิกวุ่นวายได้แล้ว ยังไม่รีบไปรับแขกอีก ปล่อยเสี่ยวเฉ่าไว้ที่นี่แหละ”
เสี่ยวเถียนเดินไปทำงานด้วยความเสียใจ
คนในโต๊ะรู้จักกันหมดยกเว้นเสี่ยวเฉ่า พวกเขาจึงพูดคุยอย่างเป็นกันเองมากขึ้น
“อาจารย์เซี่ยไม่ได้เป็นพี่น้องกับครูเสี่ยวซูใช่ไหมคะ?” อาจารย์จ้าวรู้สึกว่าทั้งสองคนคล้ายกันจริง ๆ
“ใช่ที่ไหนกันละคะ! พ่อแม่ฉันจากไปเป็นตั้งสามสิบกว่าปีแล้วค่ะ แถมครูเสี่ยวซูเองดูเหมือนเพิ่งอายุยี่สิบกว่า ๆ เท่านั้นนะ” เซี่ยหนานปิดปากหัวเราะ
“ครูเสี่ยวซู ปีนี้อายุเท่าไรแล้วคะ?” อาจารย์ตู้ถาม
“ปีนี้อายุยี่สิบสี่ค่ะ” เพราะอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาร้ายจึงเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยหนานเงยหน้ามองโดยไม่รู้ตัว ในตอนนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นสีหน้าแข็งทื่อของเธอเลย
สายตามองใบหน้าด้านข้างของเสี่ยวเฉ่าที่มีความคล้ายคลึงกับตัวเอง
หรือว่า…
แต่เธอไม่กล้าคิดต่อ จะเป็นไปได้ยังไงกัน?
ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้
“ยี่สิบสี่เองหรือ! มีครอบครัวหรือยังจ๊ะ?” อาจารย์ตู้ไม่รู้ว่าเซี่ยหนานกำลังตกใจอยู่จึงถามต่อ
“ยังเลยค่ะ ฉันเพิ่งเรียนจบมาได้สองปีเองค่ะ อยากจะสอนนักเรียนมาตั้งแต่ยังเด็กแล้วน่ะค่ะ”
เสี่ยวเฉ่าเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงช่างนุ่มนวลและน่าฟังมาก เป็นเสียงที่ใครฟังก็ชอบ
“ไม่แปลกใจเลยที่ได้มาอบรมในเมืองหลวงตั้งแต่ยังสาว ๆ ถือว่าเป็นครูที่เก่งมากเลยนะ” อาจารย์จ้าวเอ่ยชม “แต่เรื่องส่วนตัวจะผัดผ่อนไม่ได้เหมือนกันนา ช่วงอายุทองของสาว ๆ มีไม่นานหรอกนะ”
เสี่ยวเฉ่าเอ่ยขอบคุณอย่างนอบน้อม
หลังจากนั้นหัวข้อก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น
หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แม้จะรับมือได้ตามปกติ แต่ความจริงแล้วเธอเป็นกังวลมาก
แล้วตอนนี้อาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจเรื่องของเธออีกแล้ว จึงสบายใจไปอีกเปลาะ
เธอยินดีทำตัวให้กลืนไปกับอากาศมาก ๆ ไม่อยากเป็นที่สนใจเลย
เซี่ยหนานมองหญิงสาวข้างกายเป็นครั้งคราว
“เสี่ยวเฉ่าลองชิมอันนี้ดูสิ อร่อยมากเลยนะ”
“เสี่ยวเฉ่า เมนูนี้เป็นอาหารจานเด่นของร้านเลยนะ ลองดูว่าชอบหรือเปล่า!”
ไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยหนานก็คอยบริการข้าวปลาอาหารให้คนข้างกายไม่หยุด ทั้งยังดูแลเธออย่างดี
เสี่ยวเฉ่าปลื้มใจมาก แต่ยังนึกกลัวอยู่ว่าคนเมืองกรุงจะดูแคลนคนบ้านนอกแบบตนหรือเปล่า
ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะอบอุ่นและมีน้ำใจต่อกันขนาดนี้
หญิงสาวเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น
“เธอเก่งมากเลยนะ ได้คิดจะเรียนต่อบ้างหรือเปล่า?” เซี่ยหนานถาม
เสี่ยวเฉ่าตกใจ ก่อนยิ้มเขิน ๆ “เสี่ยวเถียนแนะนำให้ฉันเรียนต่อระดับบัณฑิตค่ะ แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะสอบได้”
“ลองดูสิ ไม่มีใครเกิดมาเก่งทุกอย่างหรอก ฉันว่าเธอเก่งมากเลยนะ”
เซี่ยหนานยิ้มให้กำลังใจ “ถ้ามีปัญหาอะไร มาหาฉันได้เสมอเลยนะ”
อะไรนะ?
หญิงสาวมองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
คนที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกยังแนะนำให้เธอเรียนระดับบัณฑิตเลยนะ?
หรือควรจะลองจริง ๆ ?
เซี่ยหนานหยิบปากกากระดาษออกมาจดข้อมูลลงไปแล้วยื่นให้
“อันนี้เป็นที่อยู่กับเบอร์โทรศัพท์จ้ะ”
เสี่ยวเฉ่ารับมาด้วยความสับสน
แค่กินข้าวด้วยกันมื้อเดียวก็สนิทขนาดนี้เลยหรือ?
เสี่ยวเถียนบังเอิญเดินมาเห็นเหตุการณ์นี้พอดี
ถึงอาจารย์เซี่ยหนานจะเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน แต่ปกติท่านไม่ได้เป็นพวกกระตือรือร้นกับคนอื่น ๆ ขนาดนี้นี่นา?
อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันด้วยนะ
แต่การที่พี่เสี่ยวเฉ่าเป็นที่ชื่นชอบของเธอก็นับว่าโชคดีแล้วละ
เพราะเสี่ยวเฉ่าไม่รู้จักใครในเมืองหลวงเลย นอกจากครอบครัวตัวเอง
ตอนนั้นเสี่ยวเถียนเห็นครูอวี่พอดี
เหมือนว่าครูเขาจะยังไม่แต่งงานเลยนะ ไม่รู้ว่ามีคนรักหรือยัง ลองแนะนำให้เขารู้จักดีไหม?
แต่ถ้าพี่เสี่ยวเฉ่าไม่สอบระดับบัณฑิตและต้องกลับบ้าน ก็ลำบากกับการหาคนรักที่นี่อีกนะเพราะมันไกลเกิน
ช่างเถอะ ยังไงพี่เขาก็ต้องอบรมที่โรงเรียนนั้นอยู่แล้ว ถ้าสองคนนี้กำหนดให้เกิดมาคู่กันจริงก็ไม่ต้องห่วง
ในตอนนั้นเองที่ครูอวี่เอ่ยทัก
“สาวน้อย สวยวันสวยคืนเชียวนะ ทำไมไม่กลับไปเยี่ยมที่โรงเรียนบ้างเลยล่ะ?”
ท่านฉีกยิ้มกว้าง เมื่อก่อนเสี่ยวเถียนเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนน่ะ
ตอนนั้นเธอไม่รู้จะเลือกอะไรด้วยซ้ำ ทีแรกยังคิดว่าจะไปเรียนเตรียมทหารหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าจะสอบเข้าคณะภาษาจีนของมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงเสียอย่างนั้น
ตอนทราบข่าวเขาเสียใจมากที่ต้องเสียต้นกล้าดี ๆ ไป
“สวัสดีค่ะครูอวี่ หนูไม่ว่างนี่นา ว่าไปพี่สาวหนูจะไปอบรมที่โรงเรียนอยู่หลายเดือนเลยค่ะ ฝากครูอวี่ช่วยดูแลด้วยนะ” เสี่ยวเถียนยิ้มแล้วชี้ไปทางเสี่ยวเฉ่า
ครูอวี่กล่าว “ไม่แปลกใจเลยที่เห็นเธอแล้วรู้สึกคุ้น ๆ ที่แท้ก็เป็นครูที่มาเข้าร่วมอบรมที่โรงเรียนเรานี่เอง”
ทีแรกก็คิดว่าเขารู้สึกไปเอง ที่แท้ก็เคยเจอกันมาก่อนนี่เอง แต่มันแค่ครั้งเดียวเองเลยจำไม่ได้
“ไม่ต้องห่วง ไว้ใจครูได้เลย” แต่รู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไรจึงขยายความ “สภาพแวดล้อมโรงเรียนเราดีมาก ไม่มีใครรังแกครูที่มาอบรมใหม่แน่นอน”
เสี่ยวเถียนพยักหน้ารับ
“วันนี้ที่บ้านเธอกำลังยุ่งกันอยู่ เดี๋ยวเราไปก่อนนะไว้มาหาใหม่วันหลัง” ผู้อำนวยการหลี่เอ่ยรากับผู้อาวุโส
เสี่ยวเถียนส่งพวกเขาทั้งสองคนแล้วโบกมือลา
แขกเหรื่อหลายคนทั้งคนเข้าคนออก เสี่ยวเถียนต้องคอยจัดแจงพวกเขาทีละคน