เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 964 พลัดพรากได้ยังไง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 964 พลัดพรากได้ยังไง

บทที่ 964 พลัดพรากได้ยังไง

คนส่วนใหญ่ไม่คิดอยู่ต่อเมื่อเห็นภรรยาของฉางจิ่วโมโห

ถึงจะอยากดูเอาสนุก แต่เราต้องใช้ชีวิตร่วมกันในหมู่บ้านต่อนะ

ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ชีวิตของพวกเขาในอนาคตก็คงจบไม่สวยแน่

โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านซูฉางจิ่ว

ถึงเขาจะไม่มีอำนาจเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังเป็นผู้นำของเรา

ไม่นานผู้ชมทั้งหมดก็ทยอยกันกลับ

เสี่ยวเถียนมองออกไปนอกบ้านยังเห็นคนเดินเพ่นพ่านอยู่

เธอเห็นก็รู้แล้วว่ายังมีคนไม่ไปกัน

คงจะรอฟังอยู่ที่ไหนสักแห่ง

“ลุงฉางจิ่ว เข้าบ้านไปคุยดีกว่าไหมคะ?” เสี่ยวเถียนแนะนำ

ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นยังไง อย่าให้คนอื่นรู้ท่าจะดีกว่า

ต่อให้ไม่ยอมแค่ไหน พวกเขาก็ทำได้เพียงตัดสินใจอย่างใจเย็นเท่านั้น

ภรรยาฉางจิ่วเข้าใจดี สุดท้ายก็ทำได้แค่ตอบรับเท่านั้น

ทั้งสี่คนกลับเข้ามาในบ้าน

ฝั่งหนึ่งเป็นเจ้าของบ้าน อีกฝั่งเป็นเซี่ยหนาน

เสี่ยวเถียนเห็นแล้วปวดหัวนัก

ตอนนี้เธอไม่สามารถเลือกฝั่งได้ จึงทำได้แค่ยืนให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ

“เธอเป็นลูกของฉัน!”

ภรรยาฉางจิ่วพูดตรง ๆ ความคิดชัดเจน

แววตาเธอแดงก่ำ ราวกับว่าถ้าเซี่ยหนานพูดอีกว่าอยากได้ลูกคืน เธอจะเข้าไปจิกหน้าทันที

เสี่ยวเถียนรู้ว่าคุณป้าเป็นคนเก่ง แต่ไม่เคยเห็นท่านทำตัวรุนแรงแบบนี้มาก่อน

“คุณป้า…”

เด็กสาวอยากจะพูด แต่เซี่ยหนานห้ามเอาไว้

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเสี่ยวเถียน อยู่เฉย ๆ”

เซี่ยหนานรู้สึกขมขื่นในใจ แต่มันก็เป็นความผิดตนไม่ใช่หรือ?

จะดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวไม่ได้เด็ดขาด

เสี่ยวเถียนเป็นเด็กในหมู่บ้านนี้นะ

ภรรยาฉางจิ่วมองเซี่ยหนาน พอได้ยินเสียงใจดีนั้นก็รู้สึกโกรธไม่ลง

“คุณกลับไปเถอะ ไม่ว่าจะพูดอีกกี่ครั้งเสี่ยวเฉ่าก็เป็นลูกของฉันค่ะ แล้วจะเป็นตลอดไปด้วย”

แม้จะยืนกราน แต่น้ำเสียงอ่อนลงมาก

“พี่สะใภ้ ฉันไม่คิดจะขโมยลูกไปจากคุณหรอกค่ะ แค่อยากรู้ว่าเสี่ยวเฉ่า…”

ก่อนหน้าที่จะมาหนานหลิ่งตนอยากได้ลูกกลับมาจริง ๆ ทว่าความคิดนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว

บอกได้เลยว่าสองสามีภรรยาคู่นี้รักเสี่ยวเฉ่าจริง ๆ

ถ้าอย่างนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือปล่อยลูกไปใช่ไหม?

ถึงจะเสียใจ แต่ก็สบายใจที่ลูกสบายดี

เสี่ยวเถียนแปลกใจ

อาจารย์อยากเดินทางมาที่นี่มาก ๆ แน่นอนว่าต้องอยากได้ลูกกลับไปอยู่แล้ว

แต่คำพูดเมื่อครู่ทำให้เสี่ยวเถียนคิดว่าท่านมีความตั้งใจแบบนั้นจริง ๆ

สองสามีภรรยาประหลาดใจมาก

ทว่ายังไม่ปักใจเชื่ออยู่ดี

ถ้าไม่คิดจะแย่งลูกกลับไป แล้วจะลำบากถ่อมาถึงนี่ทำไม?

พวกเขามองเซี่ยหนานอย่างระแวดระวัง ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีอุบายอื่นซ่อนไว้

“พี่ซู พี่สะใภ้ ขอแค่ลูกสาวฉันยังมีชีวิตอยู่ดีในโลกใบนี้ฉันก็พอใจแล้วค่ะ”

ใบหน้าของเซี่ยหนานเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ตนอยากได้ลูกกลับมาจริง ๆ แต่อีกใจก็ไม่อยากทำร้ายเขา

ถ้ายังยืนกรานในความคิดของตัวเองอยู่ คงได้ทำร้ายทั้งสองสามีภรรยาผู้ใจดีตรงหน้า และเสี่ยวเฉ่าไปด้วย

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเห็น

“เธอไม่ได้โกหกใช่ไหม?” ภรรยาฉางจิ่วสงสัย

เซี่ยหนานส่ายหัว “ฉันพูดจริง ๆ ค่ะ พวกคุณเลี้ยงเธอมาอย่างดี ชั่วชีวิตนี้ขอแค่รู้ว่าเขาเป็นลูกฉันจริง ๆ รู้ว่าเขาเก่งมากแค่ไหน แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”

เซี่ยหนานเอ่ยด้วยความจริงใจ ไร้ความคิดอยากจะพาลูกสาวกลับสู่อ้อมอก

เธอจะเห็นแก่ตัวไม่ได้

ในฐานะคนเป็นแม่ต้องคิดถึงความรู้สึกลูกด้วย

จู่ ๆ บรรยากาศก็เงียบสงัด

หลังจากนั้น ภรรยาฉางจิ่วก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“เราเก็บเสี่ยวเฉ่าได้ใกล้ ๆ ปากทางเข้าโรงพยาบาลเมื่อยี่สิบปีก่อน”

“ตอนนั้นเราเพิ่งเสียลูกสาวไป ฉันออกจากที่นั่นมาด้วยความรู้สึกว่างเปล่า และได้แต่นั่งกอดผ้าห่มร้องไห้บนรถเข็น”

“เดินออกไปได้ระยะหนึ่งจู่ ๆ ก็เห็นสุนัขคาบกระเป๋าอยู่กลางถนน”

“ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง”

“พ่อเสี่ยวเฉ่าคิดว่าฉันหูฝาด แต่ตอนนั้นฉันได้ยินเสียงจริง ๆ เขาก็เลยไล่สุนัขตัวนั้นไปแล้วเก็บกระเป๋ากลับมาให้”

“เสี่ยวเฉ่าโชคดีมากที่ไม่โดนสุนัขตัวนั้นคาบไประหว่างทาง”

“เราไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใคร ตอนเราเจอเธอก็คอยตามหาจากแถว ๆ นั้นอยู่นาน เราอยู่ดึกมากไม่ได้เพราะต้องเดินกลับบ้านอีก เลยพาเด็กกลับไปด้วย”

“เราพยายามสอบถามแล้วละ แต่ไม่มีข่าวคราวว่ามีคนกำลังตามหาเด็กคนนี้เลย”

ภรรยาฉางจิ่วเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง

แม้จะเป็นน้ำเสียงราบเรียบ แต่สำหรับเซี่ยหนานแล้วเหมือนมีฟ้าผ่าลงมา

ลูกสาวไม่ได้โดนคนลักพาตัวไป แต่โดนสุนัขคาบไปหรือ?

หากไม่ได้สองคนใจดีตรงหน้า ป่านนี้ลูกสาวเธอก็โดนกินไปแล้วใช่ไหม?

เซี่ยหนานตัวสั่นสะท้านเมื่อคิดภาพลูกสาวเกือบตาย เธอยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น

ริมฝีปากพึมพำเบา ๆ ก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

คนที่ทำตัวเย็นชามาตลอดกลับร้องไห้โฮออกมาโดยที่ไม่สนภาพลักษณ์ใด ๆ

ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงเสียที

เธอคิดว่ามีคนเอาลูกไปตอนหมดสติ

แต่ใครจะรู้เล่าว่าจะได้ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตจากสุนัขเอาไว้

เสี่ยวเถียนไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเฉ่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้ตอนแบเบาะ

เธอเองก็ร้องไห้เช่นกัน

“น้องสาวหยุดร้องเถอะ มันผ่านไปแล้ว เราต้องมองไปข้างหน้านะ ตอนนี้เสี่ยวเฉ่าไม่เป็นไรแล้วละ” ภรรยาฉางจิ่วปลอบ

เซี่ยหนานคุกเข่าอีกรอบ และโขกหัวให้อีกสามครั้ง

“เซี่ยหนานเป็นหนี้ชีวิตพวกพี่เหลือเกินค่ะ!”

“ฉันเลี้ยงเสี่ยวเฉ่ามาเอง เขาเป็นลูกของฉัน เธออย่าทำแบบนี้เลย!”

ภรรยาฉางจิ่วรีบดึงอีกฝ่ายลุกขึ้นยืน

ตนเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี แต่กับเรื่องแบบนี้ยอมทนไม่ได้จริง ๆ!

——————————————————-

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท