เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 968 สองสะใภ้

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 968 สองสะใภ้

บทที่ 968 สองสะใภ้

ดูก็รู้ว่าเถียนเสี่ยวเหอไม่ใช่คนแบบนั้น

ตอนนี้เจ้าตัวกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน เพียงเพราะมีคนมาตอบแทนบุญคุณ เขาจะต้องเอาของดีมาให้แน่นอน

และเธอต้องเอากลับไปให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ต่อให้สิ่งนั้นจะเป็นของซูเสี่ยวเฉ่าก็ตาม

เธอต้องหาทางเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ อย่างน้อยเราก็ต้องเอี่ยวด้วยสักหน่อย

เถียนเสี่ยวเหอกลอกตาไปมา

เซี่ยหนานเคยตกระกำลำบากมาหลายปี มีหรือจะอ่านความคิดของอีกฝ่ายไม่ออก

ไม่นึกเลยว่าสองสามีภรรยาจะได้สะใภ้แบบนี้มา

ไม่รู้คนแบบนี้เคยรังแกเสี่ยวเฉ่าบ้างหรือเปล่า

เถียนเสี่ยวเหอยังไม่รู้ตัวเลยว่าไปกระตุ้นต่อมเซี่ยหนานเข้าให้แล้ว

เธอยังเอาแต่คุยจ้อเรื่องตัวเองเป็นคนสอนเสี่ยวเฉ่าให้ช่วยเหลือคนอื่นไม่หยุด แทบจะพูดเลยว่าถ้าไม่ได้ตน เสี่ยวเฉ่าก็คงไม่ทำเรื่องพวกนี้หรอก

เสี่ยวเถียนทนฟังไม่จนต้องเอ่ยปาก “พี่สะใภ้ พี่เสี่ยวเฉ่าฝากของขวัญมาให้ลูกพี่ด้วยค่ะ”

ถ้าหยุดพูดไม่ได้ก็เปลี่ยนเรื่องไปตรง ๆ เลย

เถียนเสี่ยวเหอไม่ชอบเสี่ยวเถียนมาก เธออยากเปิดร้าน แต่อีกฝ่ายขอส่วนแบ่ง ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย

พอเห็นสะใภ้หลี่จู้จื่อได้ดิบได้ดีอยู่ในอำเภอก็เกิดความอิจฉา

ทั้งยังได้ยินว่านางทำเงินได้เยอะเลยด้วย

น่าเสียดายมาก แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะรับผิดนะ

เธอหลอกตัวเองต่อว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเสี่ยวเถียนทั้งหมด

พอเวลาผ่านไปเธอก็ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เสี่ยวเถียนเป็นคนผิด ถ้าให้สูตรอาหารมาแต่แรกป่านนี้รวยเละแล้ว

สมองของคนประเภทนี้เรียบง่ายมาก เป็นประเภทความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดตัวเราเท่าเส้นผม

เพราะแบบนั้นเถียนเสี่ยวเหอจึงหันขวับไปจ้องเขม็ง

พูดจาไม่มีมารยาท!

“ของของลูกฉัน แต่ตัวเองไม่ยอมเอาออกมานี่คิดจะฮุบไว้หรือยังไง?”

เสี่ยวเถียนพูดไม่ออก “…”

ช่างมัน อย่าไปสนใจคนแบบนี้เลย ไม่งั้นอกแตกตายกันพอดี

เด็กสาวเดินเข้าบ้านไปหยิบเสื้อผ้าและปากกาที่พี่สาวฝากมาให้

มันเป็นเสื้อผ้าครบชุดคุณภาพดี มีราคายี่สิบสามสิบหยวน ซึ่งเป็นเงินเดือนเสี่ยวเฉ่าครึ่งเดือน

จากนั้นก็ตามด้วยรองเท้ายางให้พี่ชาย

เถียนเสี่ยวเหอมองของที่ได้แล้วรู้สึกพอใจ แม้รองเท้าจะดูทันสมัย แต่ไม่ใช่ของดีอะไร เลยไม่ชอบเท่าไร

ทว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ถือว่าไร้ประโยชน์กับแม่เสี่ยวเฉ่าพวกเลี้ยงเสียข้าวสุกหรอกนะ

รู้จักซื้อเสื้อผ้าให้ลูกเธอด้วย

ตอนเห็นเสี่ยวเถียนรูดซิปกระเป๋าสีหน้าพลันเปลี่ยนทันที

“เอาออกมาอีกสิ เก็บกลับไปทำไมล่ะ?”

เสี่ยวเถียนมองกลับไปเงียบ ๆ

“แล้วจะเอาออกมาทำอะไรล่ะคะ?”

“ของไง กระเป๋าใบตั้งใหญ่ ทำไมเอาให้ฉันนิดเดียวเอง?”

“ที่พี่เขาให้มาก็เยอะแล้วนะคะ” เสี่ยวเถียนกลอกตา

“แล้วไม่มีของให้พี่สะใภ้ที่แสนลำบากแบบฉันบ้างเลยหรือ?” เถียนเสี่ยวเหอเบิกตากว้าง

เสี่ยวเถียนส่ายหัว

“ก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นพวกเนรคุณ ของสักชิ้นให้พี่สะใภ้ที่อุตส่าห์เลี้ยงมันมายังไม่มีเลย”

ขณะกำลังจะเปิดฉากด่า ก็โดนแม่สามีสวนกลับ

“เถียนเสี่ยวเหอ ถ้าคิดจะมาโหยหวนก็กลับบ้านไปซะ พ่อแม่เสี่ยวเฉ่ายังยืนหัวโด่อยู่นี่ ถึงตาเธอดูแลเขาแล้วหรือยังไง?”

ด้วยนิสัยของเถียนเสี่ยวเหอคงไม่มีทางยอมหรอก

แต่จู่ ๆ ก็นึกได้ว่ายังมีคนนอกอยู่ด้วย เธออาจจะหวังโชคลาภจากอีกฝ่ายได้นิดหน่อย

สะใภ้สาวยิ้มประจบ “ขอโทษนะ แค่พูดเฉย ๆ น่ะ อย่าถือสาเลย!”

เซี่ยหนานขมวดคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร

เรื่องชาวบ้าน ตนไม่สามารถแสดงความเห็นได้

“สะใภ้รอง เธอไม่พอใจของพวกนี้หรือยังไง? มีน้องสามีบ้านไหนซื้อให้ทั้งเสื้อผ้าครบชุดและปากกาให้ไหมล่ะ? ปากกาดูไม่ใช่ของราคาถูก ๆ เลยนะ? ไอหยา! มีรองเท้ายางด้วย ของดีเลยนะเนี่ย ก่อนหน้านี้ไปหาดูที่สหกรณ์มาแต่ของกลับหมดเสียแล้ว”

ปกติแล้วเมื่อก่อนคนสร้างปัญหาจะเป็นจางไฉ่อวิ๋น ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้าน

แต่เธอเป็นคนที่รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ หลายปีก่อนก็ทำได้ไม่แย่

แต่ช่วงหลังเถียนเสี่ยวเหอกำเริบเสิบสานมากขึ้นเรื่อย ๆ พอเห็นทรัพย์สมบัติของพ่อแม่โดนอีกฝ่ายทำลายก็ไม่อยากแพ้

จึงสร้างเรื่องกับเขาด้วย ตอนนี้ชาวบ้านหมายหัวกันไว้แล้วว่าเป็นพวกสะใภ้น่าปวดหัว

เสี่ยวเถียนไม่อยากเสวนากับใครทั้งนั้น เพราะไม่อยากเข้าไปเอี่ยวในปัญหาครอบครัวด้วย

“พี่ไฉ่อวิ๋น พี่เสี่ยวเฉ่าซื้อของให้ลูกพี่ด้วยนะคะ เข้าไปหยิบในบ้านกับหนูก็ได้ค่ะ”

ว่าจบก็เดินเข้าไปทันที

จางไฉ่อวิ๋นมองน้องสะใภ้ ก่อนจะตามเสี่ยวเถียนเข้าไป

เธอเหลือบมองเซี่ยหนานเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

ผู้หญิงคนนี้ดูร่ำรวยมากเลย ไม่รู้ทำไมถึงมาหากันที่บ้าน

แต่ไม่เคยได้ยินเลยว่าบ้านเรามีญาติรวย ๆ กับเขาด้วย

ใครจะไปรู้ล่ะ ก่อนหน้านี้ลำบากมากเลยแต่ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว

อย่าไปสนใจดีกว่า ดูอย่างบ้านเสี่ยวเถียนกับบ้านหลี่จู้จื่อสิ รวยเอา ๆ ไม่ใช่หรือไง?

ดูการแต่งตัวของเสี่ยวเถียนที่เหมือนกับผู้ใหญ่แล้วก็รู้เลยว่าร่ำรวยจริง ๆ

เซี่ยหนานมองสะใภ้ทั้งคนของบ้านนี้ ไม่รู้จะพูดอะไรดี

โชคดีนะที่เสี่ยวเฉ่าเป็นผู้หญิง ถ้าแต่งงานก็ต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยกัน สองคนนี้คงไม่ได้เข้ามายุ่งด้วยแน่

ตอนนี้เริ่มคิดแล้วว่าขอให้ลูกอยู่ในเมืองหลวงดีไหม ให้ดีที่สุดคืออยู่ห่าง ๆ จากสะใภ้ไม่ได้เรื่องพวกนี้ดีกว่า

แต่สองสามีภรรยาคงไม่เห็นด้วย

ทว่าเซี่ยหนานไม่ได้เป็นห่วงแค่เรื่องนี้นะ ถ้าเสี่ยวเฉ่าต้องอยู่ในมณฑลชีวิตคงลำบากแน่ ๆ

ต้องส่งของกลับไปให้ที่บ้านขนาดนี้ เงินเดือนทั้งเดือนจะพอกินไหม?

แถมคนที่บ้านไม่รู้จักขอบคุณอีก คิดแต่ว่าให้น้อย ๆ

ไว้ค่อยลองปรึกษาพี่เขาดู เผื่อจะให้เรียนต่อที่เมืองหลวงหรือทำอย่างอื่นได้หรือเปล่า

จางไฉ่อวิ๋นฉลาดกว่าสะใภ้รองเล็กน้อย ตอนเดินตามเข้าไปในบ้านก็ยิ้มถามก่อนเลย

เสี่ยวเถียนบอกแค่ว่าเซี่ยหนานมาขอบคุณที่เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิตเขาไว้ และขอบคุณที่สองสามีภรรยาเลี้ยงลูกได้ดี

ถึงจะถามอยู่นานกลับไม่ได้คำตอบที่ต้องการ สุดท้ายก็ไม่เสียเวลาแล้วเอ่ยชมเสี่ยวเถียนแทน

——————————————————-

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท