บทที่ 971 ไม่เคยถอนขนไก่
อาหารของหออีหมิงจะได้คุณย่าซูเป็นคนจัดการ แต่อาหารเหล่านี้มีความพิเศษตรงที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกเฉียงเหนือเอาไว้ และเราจะมุ่งเน้นรสชาตินี้เป็นหลัก
ซึ่งพ่อครัวแม่ครัวที่จ้างมาทำรสชาติแบบนี้ได้ยากมาก
แต่คนในหมู่บ้านไม่ค่อยมีคนเหมาะ ๆ เลย ถ้าเลือกมาสักคนก็อาจจะเรื่องเยอะไปอีก และยิ่งถ้าไม่ระวังอาจกลายเป็นศัตรูก็ได้
ย่ากลัวว่าพวกเขาจะเกิดความแคลงใจขึ้นระหว่างกัน เลยต้องหาคนนอกมาแทน
ภรรยาฉางจิ่วจุดประกายความคิดขึ้นมา
เธอไม่เคยมีความคิดจะออกไปจากหมู่บ้านเลยด้วยอายุที่มากแล้ว จึงกลัวว่าคนอื่นจะขบขันเอา
แต่เธอในตอนนี้ทนกับลูกสะใภ้ทั้งสองคนไม่ไหวจริง ๆ
คงจะดีถ้าได้ไปอยู่ที่อื่นสักสองสามปี
ปีนี้จะอายุห้าสิบแล้วนะ เธอแต่งงานตอนสิบแปด มีหลานแล้วด้วย อีกทั้งคนโตก็อายุเก้าขวบแล้ว
ถ้าไม่คิดใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และมัวแต่เอาเวลามาทะเลาะกับพวกสะใภ้ อะไร ๆ ก็คงสายไป
แต่เธอก็กลัวอีกว่าถ้าไปอยู่ที่อื่นจะหากินลำบาก เลยไม่กล้าไปไหน
พอคิดถึงตรงนี้ ความคิดก่อนหน้านั้นก็สลายหายไปทันที
ตอนนี้หมู่บ้านทำธุรกิจอยู่ ตาแก่ก็เป็นผู้ใหญ่บ้าน เราคงจากไปเฉย ๆ ไม่ได้หรอก!
ช่างเถอะ คงเป็นชะตากรรมของเราแหละ
ซูฉางจิ่วไม่รู้ว่าภรรยาคิดจะออกจากหมู่บ้านไปทำงานที่อื่น
“ขอแค่พวกเธอไม่รังเกียจก็พอแล้ว รีบกลับบ้านกัน ให้ลุงเขาเชือดไก่กับกระต่ายแล้วกัน เดี๋ยวป้าถอนขนเอง”
ก่อนออกมาทำงาน ภรรยาฉางจิ่วเตรียมข้าวของรอไว้อยู่แล้ว
ซูฉางจิ่วตอบรับ
เขากำลังคิดอยู่ว่า ‘เสี่ยวเถียนหาของป่ากลับมาเยอะแยะขนาดนี้ได้ยังไง?’
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินคนบอกว่าเสี่ยวเถียนได้รับพรจากทวยเทพด้วย แต่ไม่เคยเชื่อ แล้วตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าท่าจะจริง
เมื่อก่อนเราไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่พอนโยบายผ่อนคลายก็เลยมีความคิดนี้อยู่บ้าง
แต่เขาเป็นคนมีเหตุผล รู้ว่าอะไรควรไม่ควรถาม
เด็กคนนี้โชคดี บ้านซูก็เก็บเป็นความลับเราจะไปถามก็ไม่ได้หรอก
พวกเขาเดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
ภรรยาฉางจิ่วตักน้ำใส่กะละมังแล้วให้เซี่ยหนานกับเสี่ยวเถียนล้างไม้ล้างมือก่อน
พวกเขาขึ้นเขากันมา ต่อให้ระวังก็ยังเปื้อนดินกับโคลนอยู่ดี
หลังจากล้างอะไรเสร็จก็ถึงตาเจ้าของบ้านทั้งสอง พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนน้ำใหม่ แต่ใช้ต่อกัน
แม้จะมีแม่น้ำสายเล็กอยู่ข้างหมู่บ้าน แต่ทุกปีจะเกิดภัยแล้งน่ะ
ชาวบ้านเลยชินกับการประหยัดน้ำ
จากนั้นภรรยาฉางจิ่วถึงค่อยเอาไปล้างทำควรสะอาด
แล้วค่อยเอาไปตากแห้ง
ซูฉางจิ่วเอาไก่ไปเชือดหลังบ้าน
พอเดินกลับมา ภรรยาต้มน้ำร้อนรอไว้แล้ว
เขาวางมันลงอ่าง แล้วเทน้ำร้อนลงไปเตรียมถอนขน
เสี่ยวเถียนเดินมาหา “ลุงฉางจิ่ว ขนไก่พวกมันค่อนข้างสวยเลยค่ะ หนูถอนเอามาทำลูกขนไก่ดีกว่า”
ลูกขนไก่ที่เด็กผู้หญิงในชนบทเล่นกันทำมาจากขนไก่
และไก่ป่าตัวนี้เป็นตัวผู้ ขนเลยสวยเป็นพิเศษ
เสี่ยวเถียนเห็นแล้วสนใจแต่แรกเลย
ถึงจะไม่ได้ตีขนลูกไก่เก่งมาก แต่ขนไก่ตัวนี้ก็สวยจริง ๆ
เธอเลยทนไม่ไหวแล้วถอนเอามาทำลูกขนไก่เสียเลย
ซูฉางจิ่วกับเซี่ยหนานมองเด็กสาวด้วยความสนใจ
“ตอนเด็ก ๆ หนูเคยเล่นอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้เล่นมานานหลายปีแล้ว”
ในชีวิตครั้งก่อน ตั้งแต่พ่อแม่เสียไปเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้อยู่ในหัวเธอเลย
เธอต้องอยู่กับพี่ชายพี่สะใภ้ ชีวิตมีแต่งาน และการโดนด่าที่ไม่รู้จักจบสิ้น
ยี่สิบกว่าปีผ่านไป เธอรู้สึกคิดถึงชีวิตที่ไร้กังวลจริง ๆ
“อาจารย์เซี่ย ถ้าทำลูกขนไก่เสร็จแล้วเรามาเล่นกันนะ เอาไปให้พี่เสี่ยวเฉ่าด้วย” เสี่ยวเถียนยิ้ม
“แขนขาฉันไม่ไหวแล้ว เธอเล่นเถอะ ฉันดูอยู่เฉย ๆ ดีกว่า”
เด็กคนนี้ทั้งประพฤติดี ทั้งฉลาด นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าโง่เซียวหย่วนหยางถึงได้รังแกเสี่ยวเถียน
แต่ดีตรงที่เสี่ยวเถียนโชคดีมาก ไม่ใช่ว่าเซียวหย่วนหยางทำไม่สำเร็จหรอก แต่ยังกลายเป็นคนโดนแทนอีก
“ขนคอสวยดีนะ แต่น้อยไปหน่อย ไม่งั้นคงเอามาทำไม้ปัดขนไก่แล้ว”
ซูฉางจิ่วเริ่มสนใจเหมือนกัน เลยถอนขนไก่ด้วย
“ก็จริงนะ ป้าจำได้ว่าเมื่อก่อนบ้านเสี่ยวเถียนมีอยู่ตัวหนึ่ง สวยแบบนี้เลยด้วย เวลาเสี่ยวเฉ่ากลับมาจะบอกเสมอเลยว่ามันสวย” ภรรยาฉางจิ่วร่วมวงด้วยเหมือนกัน
เสี่ยวเถียนจำได้ว่าเมื่อตอนนั้นเราหาไก่หากระต่ายมาได้เพียบเลย พอเอามาให้คุณย่าทำไม้ปัดขน
แต่ตอนนี้ไก่มีแค่ตัวเดียวเลยน้อยไปหน่อย ไม่เป็นไร เอาแค่นี้ก็พอ
“งั้นพวกเราถอนก่อนแล้วกัน กลับไปค่อยทำไม้ปัดขนไก่เล่น”
ภรรยาฉางจิ่วกล่าว “เด็กคนนี้ ยังจะเอามันมาเล่นได้อีกหรือ?”
เธอถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะ ไม่เคยจับไม้ปัดขนไก่ด้วยซ้ำ!
“ได้ค่ะ หรือจะเอามาทำเป็นของกระจุกกระจิกแขวนไว้สวย ๆ งาม ๆ ก็ได้นะคะ ทำเป็นภาพวาดก็ได้ สวยมากเหมือนกัน”
“ความคิดดีจัง แต่ฉันได้ยินว่าเหมือนเขาจะทำพวกสัตว์คุ้มครองด้วยใช่ไหม ไม่รู้ไก่ป่าเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่านะ”
เสี่ยวเถียนนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
เหมือนว่ากฎหมายสัตว์ป่าคุ้มครองจะมีผลบังคับใช้ช่วงปลายปี 80 นะ ไก่ป่าก็คงรวมอยู่ในนั้นด้วยใช่ไหม
ว่ากันตรง ๆ ก็คือถ้าช่วงสองปีมานี้ ครัวเรือนก็ยังจับไก่ป่าเอามากินได้อยู่นะ
ไว้ค่อยว่ากัน กินของอร่อยก่อนดีกว่า
เสี่ยวเถียนตั้งใจจะถอนด้วยตัวเอง แต่ผู้เป็นลุงห้ามเอาไว้
ซูฉางจิ่งทำตามที่เด็กสาวขอ ดึงขนสวย ๆ ออกมาแล้วเก็บเอาไว้
เสี่ยวเถียนเอามามัดรวมกันอย่างระมัดระวัง
ปกติขนไก่ป่ามีน้อยอยู่แล้ว แต่เธอหาในร้านค้าได้ ค่อยซื้อเพิ่มแล้วกัน
สองสามีภรรยาง่วนกับการทำอาหาร ส่วนแขกทั้งสองรู้สึกละอายใจที่นั่งอยู่เฉย ๆ
เลยช่วยล้างผักและจุดไฟ