บทที่ 999 มีเรื่องเกิดขึ้น
บทที่ 999 มีเรื่องเกิดขึ้น
เสี่ยวเถียนไม่รู้จะพูดอะไร
พี่สามโง่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
พี่เสี่ยวเฉ่าอายุเยอะแล้ว การจะหาผู้ชายเหมาะ ๆ ก็ยาก เพราะอย่างนั้นเขาควรจะให้เธอได้สานสัมพันธ์หน่อยสิ
ซูซางกงจูงซูเสี่ยวเฉ่ากลับไปโต๊ะใหญ่ เด็กสาวจึงทำได้แค่เข้าไปทักทายกู้เฉิงเซวียนแทน
ชายหนุ่มในตอนนี้ดูอารมณ์ไม่ดี
หรือเสี่ยวเฉ่าจะมีคนรักอยู่แล้ว?
“เสี่ยวเถียน เขาคือคนรักของเสี่ยวเฉ่าหรือ?” กู้เฉิงเซวียนไม่แน่ใจ
เด็กสาวส่ายหัว “คนนั้นคือพี่สามของหนูค่ะ เขาโตมากับพี่เสี่ยวเฉ่าน่ะ เห็นเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ เลย”
คำอธิบายของเธอไม่ได้มีปัญหาตรงไหน
กู้เฉิงเซวียนพลันฉีกยิ้มกว้าง
ที่แท้ก็พี่น้อง งั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
มีพี่ชายตั้งหลายบ้านที่ปกป้องน้องสาว
ซูซานกงเห็นน้องเล็กยืนคุยกับชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหา
“เสี่ยวเถียน มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยหรือ?”
จากนั้นก็มองกู้เฉิงเซวียนด้วยสายตาระมัดระวัง
ความรู้สึกแรกคือเจ้านี่ต้องเป็นพวกผลาญเงินพ่อเงินแม่ ไม่ใช่คนดีแน่นอน จะปล่อยให้สาวน้อยผู้ไร้ประสบการณ์ทางโลกโดนหลอกไม่ได้
กู้เฉิงเซวียนยิ้มเรียบ ๆ ก่อนจะหันไปเล่นกับหลานชาย
เสี่ยวเถียนเอ่ยด้วยความโมโห “ไม่มีให้คุยแล้วค่ะ”
ทุกอย่างพังไปหมดแล้ว ยังเหลืออะไรให้พูดอีกล่ะ?
เด็กสาวไม่อยากยอมรับเลยจริง ๆ ว่าคนไม่ได้เรื่องแบบนี้จะเป็นพี่สามของเธอเอง
ซูซานกงสับสน น้องเล็กเป็นอะไรเนี่ย?
อยู่ดีไม่ว่าดีกลับโมโหเสียอย่างนั้น
เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!
เฮ้อ ยิ่งโตยิ่งอารมณ์รุนแรงขึ้นสินะ
แล้วใครใช้ให้ตามใจจนเคยตัวล่ะ?
อยากหงุดหงิดก็หงุดหงิดไป!
ชายหนุ่มเกาจมูก ก่อนจากไปยังไม่วายหันมามองตาขวางใส่กู้เฉิงเซวียนอีกรอบ
ชุยถงหลานมองความสัมพันธ์ของหนุ่มสาว แต่มีหรือที่จะมองไม่ออก
“เธอชอบผู้หญิงคนนั้นหรือ? ได้ยินว่าเจ้าตัวมาจากตะวันตกเฉียงเหนือนี่ อบรมที่เมืองหลวงไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็กลับแล้วนะ!”
ถึงหญิงสาวจะเป็นคนดี แต่ยังไงต้องเตือนสักหน่อย เพราะเธอไม่ใช่คู่ครองที่ควรแต่งงานด้วยหรอกนะ
กู้เฉิงเซวียนยิ้ม “ถ้าแต่งได้ บ้านเราจะไม่มีวิธีย้ายเธอมาเชียวหรือครับ?”
ชุยถงหลานถึงกับอึ้งกิมกี่ “…”
ก็จริงนะ ด้วยความสามารถของตระกูลกู้เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหา
“ไว้ไปซื้อของขวัญให้สหายเสี่ยวเฉ่าดีกว่า พี่ว่าผมซื้ออะไรดีครับ?”
เพราะเขาไม่เข้าใจรสนิยมของสาว ๆ น่ะ
ชุยถงหลานยิ้ม “เครื่องประดับก็ได้นะ สร้อยคอ กำไล สร้อยข้อมืออะไรก็ว่าไป แต่อย่าเอาราคาสูงก็พอ”
เธอเอ่ยเตือน เพราะรู้จักน้องสามีดี และรู้ด้วยว่าเจ้าตัวใจกว้างขนาดไหน
แล้วถ้าซื้อของแพงให้ เสี่ยวเฉ่าอาจปฏิเสธที่จะรับมัน
กู้เฉิงเซวียนอยู่กินนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็จากไป
หออีหมิงตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง พอออกจากร้านได้ก็เจอร้านเครื่องประดับเปิดใหม่อยู่หลายแห่ง
ตอนกู้เฉิงเซวียนกลับมาอีกรอบ งานเลี้ยงก็ยังคงดำเนินอยู่
ซูเสี่ยวเฉ่าผ่านมาดื่มฉลองที่โต๊ะพอดี
กู้เฉิงเซวียนหยิบกล่องขนาดเล็กออกมาแล้วใส่ในมือหญิงสาว
“สหายเสี่ยวเฉ่า นี่เป็นของขวัญแสดงความยินดีครับ”
หญิงสาวตกใจกับการกระทำไม่คุ้นเคย เธอจึงถอยหลังกรูด
“ไม่เอาหรอก ๆ ฉันรับไว้ไม่ได้ค่ะ” เธอรีบปฏิเสธจนเกือบทำเครื่องดื่มหก
“ไหน ๆ ผมก็มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้แล้ว ยังไงก็ต้องแสดงความยินดีสิครับ” กู้เฉิงเซวียนยิ้มออกมา “อีกอย่างผมรู้สึกเสียใจจริง ๆ ที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บในวันนั้น ถือเสียว่าเป็นการขอโทษแล้วกันนะ”
ซูเสี่ยวเฉ่ายังคงยืนกรานปฏิเสธ
กู้เฉิงเซวียนจึงเอ่ยต่อ
“ถ้าคุณปฏิเสธแสดงว่ายังไม่ยกโทษให้กันสินะ ผมเสียใจมากนะ”
ชายหนุ่มดูเจ็บปวดมาก
แต่ซูเสี่ยวเฉ่าไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง จึงทำได้แค่เพียงรับมันมาถือไว้เท่านั้น
ซูซานกงง่วนกับการต้อนรับแขกอยู่ แต่พอหันมาอีกทีก็เห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกันอีกแล้ว
กู้เฉิงเซวียนมอบของขวัญให้จริง ๆ ถึงจะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกรำคาญใจมาก
ทำไมยังมอบของขวัญให้อีกล่ะ?
เขาเคยได้ยินมาว่าหนุ่มเมืองกรุงชอบมอบของให้สาวงาม
ไม่ได้การ ต้องไปเตือนเสี่ยวเฉ่า อย่าให้เธอโดนหลอก
ด้วยนิสัยที่เชื่อฟังมาแต่เด็กจึงโดนหลอกได้ง่ายมาก ๆ
เสี่ยวเถียนเห็นพี่ชายจะเข้าไปสร้างเรื่องอีกรอบก็รีบห้ามเอาไว้
“พี่สาม ทำอะไรเนี่ย?”
“จะไปหาเสี่ยวเฉ่า เจ้านั่นมันดูไม่ใช่คนดีเลย”
“พี่สาม พี่เสี่ยวเฉ่าโตแล้วนะ!”
พี่เสี่ยวเฉ่าโตแล้ว?
ประโยคเดียวทำซูซานกงรู้สึกแย่ด้วยความเสียใจอย่างมาก
จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วตัวเองคิดยังไงกันแน่
ชายหนุ่มที่นึกเสียใจเดินขึ้นไปชั้นบน
มีแค่ซูเสี่ยวเฉ่าเท่านั้นที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
งานเลี้ยงจบลงอย่างมีความสุข
เซี่ยหนานอุ่นใจมากที่ได้ฟังเสี่ยวเฉ่าเรียกตนว่าแม่บุญธรรม
ในใจคาดหวังว่าลูกจะมีความสัมพันธ์กับกู้เฉิงเซวียน และถ้าได้แต่งงานกันในเมืองหลวง เธอคงได้อยู่กับลูกนานขึ้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมา กู้เฉิงเซวียนกระตือรือร้นมากขึ้น และมักปรากฏตัวในสถานที่ที่มีซูเสี่ยวเฉ่าเสมอ
หญิงสาวพยายามหลบเลี่ยง
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ ไล่ตามไม่หยุดจนมาถึงบ้านซู
ซูซานกงหงุดหงิดมาก
เสี่ยวเถียนมองสีหน้าพี่ชายแล้วรู้สึกสับสน
แต่พอถามดูเจ้าตัวก็ไม่ตอบ
แต่ช่วงนี้เธอไม่ค่อยมีเวลาให้สนใจหรอก
เพราะที่โรงงานมีเรื่องเกิดขึ้น และจำเป็นต้องจัดการด้วย
เนื่องจากสูตรอาหารที่พัฒนาขึ้นใหม่โดนคนอื่นขโมยไป
นักวิจัยใช้เวลานานมากกว่าจะศึกษาเสร็จ
สูตรอาหารเหล่านี้เพิ่งจะเข้าสู่กระบวนการผลิตได้ไม่นาน และยังไม่ทันหารายได้เลย กลับโดนคู่แข่งชิงไปเสียแล้ว
สำหรับโรงงาน เรื่องนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ทุกคนในบ้านโมโหมาก มีเพียงเสี่ยวเถียนที่สงบใจมากที่สุดแล้ว
เธอมั่นใจว่าจะตามหาหนอนบ่อนไส้เจอและขับไล่มันออกไปได้สำเร็จ
เพื่อจัดการปัญหานี้ เด็กสาวจำต้องลาเรียนแล้วไปโรงงาน
อันที่จริง เธอยอมรับไม่ได้หรอกนะ
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก
ที่ห่วงคือถ้าหาตัวหนอนบ่อนไส้ไม่เจอ แล้วคนคนนั้นยังอยู่ในโรงงานต่อไป ในอนาคตพวกเธอคงลำบากแน่