บทที่ 1020 ไปเดตกันตามลำพัง
บทที่ 1020 ไปเดตกันตามลำพัง
เสี่ยวเถียนเป็นคนที่พูดปุ๊บทำเลย คืนนั้นจึงร่างภาพเพื่อออกแบบหออีหมิงขึ้นใหม่ โดยอ้างอิงจากร้านอาหารใหญ่ ๆ ที่เคยเห็นในชาติก่อน
เพราะไม่ได้ทำเป็นร้านเล็ก ๆ แต่แรกเลยต้องทำการใหญ่
ช่วงนี้เห็นว่ามีโรงงานร้างขายอยู่ด้วย
แต่เธอยังลังเลเพราะค่าที่สูงมาก
แต่ถ้าเทียบกับราคาในอนาคตเธอก็ยังเอาทุนมาคืนได้อยู่ดี
เสี่ยวเถียนตัดสินใจว่าถ้าต่อรองราคาได้จะลองดู แต่ถ้าไม่ได้ก็เอาราคาตามนั้นแหละ
ตอนนี้มีเงินอยู่ ไม่ได้เป็นปัญหา
แต่เรื่องนี้ไม่สามารถตัดสินได้ในข้ามคืนต้องวางแผนอย่างรอบคอบเท่านั้น
เหตุผลหลัก ๆ คือ ฉืออี้หย่วนมีเวลาอยู่จีนน้อยมาก
เธอต้องสานสัมพันธ์กับพี่เขาและคริสติน่าก่อน
ด้วยความที่เธอกับพี่อี้หย่วนเป็นเพื่อนเล่นแต่เด็กเลยไม่คิดว่าจะได้พัฒนาความสัมพันธ์แบบคนรัก
แต่กลายเป็นว่ามันลึกซึ้งมาก
แต่ว่าฉืออี้หย่วนอยู่แค่ไม่กี่วันและต้องกลับไปเรียนต่อ
เธอลังเลที่จะปล่อยมือไปจึงพยายามใช้เวลาด้วยกันให้ได้มากที่สุด
ส่วนคริสติน่าเป็นคนชอบเผชิญหน้า ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปและยืนกรานที่จะเกาะติดกับเสี่ยวเถียน
ตามมาด้วยซูเสี่ยวซื่อที่อยากสานสัมพันธ์ด้วย
หลายวันนี้เขาไม่ได้ใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หลังจากพยายามไม่หยุดในที่สุดก็เซ็นสัญญากับคริสติน่าได้
ชายหนุ่มเห็นใบสัญญาแล้วดีใจแทบบ้า
ถึงสองปีมานี้จะมีการสนับสนุนการลงทุนอย่างคึกคัก แต่ในความเป็นจริงผู้ที่สามารถร่วมมือกับชาวต่างชาติได้ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐวิสาหกิจ และจะรวมอยู่ในวิสาหกิจรวมหมู่*[1]
เพราะอย่างนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับบริษัทเอกชนที่จะร่วมมือกับนักธุรกิจต่างชาติ
แต่ห้างร้านหรงฟาของเขาทำได้ นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะ?
หมายความว่าหรงฟาจะพัฒนาไปสู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคตข้างหน้านี้เอง
แม้จะร่วมมือกับแค่ห้างร้านเฉย ๆ แต่ถือว่าเป็นกลไกสำคัญสำหรับตลาด ณ ปัจจุบันเลย
สินค้านำเข้าจะเป็นสินค้าที่น่าดึงดูดใจของคนยุคนี้มาก
ถ้าใช้กลเม็ดนี้ ซูเสี่ยวซื่อเชื่อว่าการเอาชนะคู่แข่งที่เพิ่งเกิดย่อมทำได้ง่ายแน่นอน
รูปแบบธุรกิจของห้างสรรพสินค้าหรงฟาโดนหลาย ๆ ห้างร้านที่เพิ่งเปิดตัวช่วงนี้คัดลอกไปเยอะมาก กว่าสิบร้านที่เปิดตัวในเมืองหลวงด้วยชื่อที่แตกต่างกัน พอเข้าร้านไปเหมือนคัดลอกแล้ววางอย่างไรอย่างนั้น
และสิ่งนี้ทำให้เขาได้รับผลกระทบมาก เลยวิตกกับเรื่องนี้อยู่
แต่ไม่คิดเลยว่าจู่ ๆ คุณคริสติน่าจะปรากฏตัวในยามนี้
ด้วยการติดต่อสื่อสารทำให้อีกสามคนที่เหลือสานสัมพันธ์กันได้
กลับมาที่เรื่องของฉืออี้หย่วน ความเอาใจใส่ของเขาที่มีต่อเสี่ยวเถียนทำให้หญิงสาวทนแทบไม่ไหว
แต่เพื่อได้ใช้เวลากับเพื่อนตนยอมกินอาหารหมาวันละหนึ่งกำมือ
ช่างเถอะ แค่ไม่กี่วันเท่านั้นละ ต่อให้กินก็เอา เธอตัดสินใจแล้ว!
ในไม่ช้าธุระของคริสติน่าก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เที่ยวบินกลับเยอรมนีคือพรุ่งนี้บ่าย
คุณย่าซูไม่อยากให้พวกเขากลับเลย แต่ไม่รู้ว่าไม่อยากจากสาวต่างชาติที่เรียกตนว่าคุณย่าหรือฉืออี้หย่วนที่เลี้ยงมาแต่เด็กกันแน่
หญิงชราจึงตัดสินใจทำของอร่อย ๆ ไว้เพียบ เพื่อที่จะได้เอาไปกินที่นู่น
หมูตุ๋นอีกหลากหลายรสชาติจากโรงงานเสี่ยวเถียน
พวกเนื้อตากแห้งเพื่อให้เสี่ยวหย่วนแบกเอาไป
แล้วก็มีซอสเนื้อด้วย
“สะใภ้สามเตรียมหน่อยนะ ฉันเป็นห่วงเจ้าเสี่ยวหย่วนจังเลย”
“เตรียมพวกบะหมี่ด้วยไหมคะแม่ เด็ก ๆ จะได้เอาไปทำกินเองที่นู่น”
“เราส่งตามหลังไปก็ได้นะ จะปล่อยให้เขาลำบากไม่ได้หรอก”
“ก็จริงค่ะ ใครว่าต่างประเทศดีนักหนานะ ดูเสี่ยวหย่วนสิ ไม่เห็นเป็นอย่างที่เขาว่าเลย”
สองแม่สะใภ้สนทนาขณะเตรียมอาหาร
ถึงฉืออี้หย่วนจะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่บ้านซูที่จิตใจอ่อนไหวล่วงรู้ได้ว่าเด็กคนนี้ลำบากแน่ ๆ
ในฐานะผู้ใหญ่เราไม่ห่วงอย่างอื่นนอกจากเรื่องอาหารการกินหรอกนะ
แต่การจะส่งไปได้อย่างราบรื่นไหมนะคุณย่าไม่คิดหรอก เพราะเชื่อว่าคุณคริสติน่าจะต้องมีหนทางแน่นอน
เพราะเจ้าตัวยังเอาของขวัญมาฝากได้เลย
การที่หญิงชราจะคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในที่สุดฉืออี้หย่วนก็พาเสี่ยวเถียนไปเดตตามลำพังได้
พวกเขาไปดูหนังด้วยกัน
บรรยากาศเหมาะกับวัยรุ่นมาก
แต่เสี่ยวเถียนก็สับสนนิดหน่อยตอนโดนคนพี่จับมือออกจากโรงหนัง
ทำไมจู่ ๆ ก็จับ?
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยทำ แต่จุดประสงค์ในช่วงเวลานั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกันน่ะสิ
เธอรู้ชัดว่า เมื่อก่อนมันเป็นความรู้สึกบริสุทธิ์ แต่ตอนนี้กลับอธิบายความรู้สึกได้ไม่ชัดเจนเท่าไร
เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ รู้ว่าในวันนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน
แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคืออะไร
ขณะเดินกลับบ้าน ฉืออี้หย่วนหยุดฝีเท้าก่อนหันมามองเด็กสาวด้วยสายตามั่นคง
“พี่อี้หย่วน พี่มองหนูแบบนี้…”
เสี่ยวเถียนรู้สึกเขินอายเล็กน้อยตอนโดนมอง
เขามองด้วยสายตาร้อนแรงแบบนั้นได้ยังไง?
ฉืออี้หย่วนปัดผมคนตรงหน้าไปด้านหลัง
“ไม่รู้ตัวเธอก็โตขึ้นแล้วนะ!”
โตหรือ?
มันก็ต้องโตหรือเปล่า?
แต่พอบอกว่าโตก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา
เรายังไม่บรรลุนิติภาวะเลย
เด็กสาวขบคิดในใจแม้จะสับสนก็ตาม
“เสี่ยวเถียน พี่ชอบเธอ ชอบมาตั้งแต่เด็กเลย” คนเป็นพี่จับใบหน้าให้หันมามองกัน
เธออยากเสตามองไปทางอื่น แต่โดนอีกฝ่ายบังคับเอาไว้
“ได้ยินที่พี่บอกหรือเปล่า?”
“ได้ยินแล้วค่ะ…” เธอพยายามพยักหน้าแต่โดนจับเอาไว้
“แล้วเธอชอบพี่ไหม?”
คำพูดที่ดูล่อลวงทำให้ตนรู้สึกว่าเหมือนเป็นสัตว์ร้ายเลย
แม้น้องจะโตแล้วแต่ยังเป็นผู้เยาว์อยู่
และตอนนี้เราก็ทำแบบนั้นอยู่ด้วย
ถ้าบ้านซูรู้เรื่องโดยเฉพาะซูซื่อเลี่ยง เขาโดนฉีกทึ้งแน่นอน
แต่ถ้าไม่พูดตอนนี้จะให้ไปพูดตอนไหน?
ใช้เวลาตั้งปีกว่าถึงจะได้กลับ ถ้าไม่ชัดเจนก็คงไม่สบายใจ
[1] วิสาหกิจรวมหมู่ คือ การทำธุรกิจในประเทศที่มีการรวมหมู่ภายใต้สังกัดที่แตกต่างกัน เช่น รัฐวิสาหกิจที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ทางกระทรวงจะคอยดูแลโดยตรง ขนาดกลางจะอยู่ในหน่วยงานกระทรวงระดับมณฑลหรือจังหวัด และขนาดเล็กจะอยู่ในความดูแลของวิสาหกิจรวมหมู่