ตอนพิเศษ 4 ได้พบแล้วสามครั้ง
ตอนพิเศษ 4 ได้พบแล้วสามครั้ง
ในสภาพแวดล้อมเช่นตอนนั้นที่เผชิญหน้ากับโจรห้าหกคน นางกลับไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ถึงขนาดยังขวางอยู่ตรงหน้าสาวใช้ของตนเสียด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดว่านางไม่มีทักษะการต่อสู้ใดๆ สักนิด แต่กลับสู้ไม่ถอยเลยแม้แต่น้อย พยายามทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับกลุ่มโจร
หญิงสาวเช่นนี้ช่างทำให้คนประทับใจได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่หลานเฉิงก็หัวเราะออกมาเบาๆ นั่งลงตรงด้านหลังโต๊ะหนังสืออีกครั้ง ฝ่ามือเท้าคางมองหนานหนานแล้วกล่าว “แม่นางผู้นั้นไม่เลวเลยจริงๆ”
สีหน้าของหนานหนานเปลี่ยนเป็นมืดมนลงทันใด มือที่อยู่ข้างกายก็กำแน่นเล็กน้อย
ผ่านไปครู่ใหญ่ก็กล่าวด้วยเสียงทุ้ม “นางเป็นของข้า”
เย่หลานเฉิงฉีกยิ้มในทันใด ยิ้มอย่างภาคภูมิใจยิ่งนัก “โอ้ ในที่สุดก็ยอมรับแล้วหรือ?”
“เจ้า…”
“ตอนนั้นที่อยู่ตำหนักของเสด็จแม่ เจ้าเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา ข้าก็นึกว่าเจ้าจะยอมยกนางให้ข้าเสียแล้ว” เย่หลานเฉิงกล่าวอย่างสนใจยิ่ง ค่อยๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
หนานหนานขมวดคิ้ว ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ถอนหายใจอย่างอธิบายไม่ได้ กล่าวพลางส่งเสียงฮึดฮัด “ในเมื่อเจ้าไม่ได้สนใจนาง เหตุใดต้องให้เนี่ยนเนี่ยนไปดูนางด้วย?”
“ต่อไปนางอาจจะได้เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเนี่ยนเนี่ยน เจ้าเอ็นดูเนี่ยนเนี่ยนเพียงนั้น ข้าก็ต้องถามความเห็นของเนี่ยนเนี่ยนน่ะสิ” เย่หลานเฉิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “อีกอย่าง ข้าเองก็อยากรู้นัก ว่าหญิงสาวที่ทำให้เจ้าตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบนั้นเป็นคนอย่างไรกันแน่”
หนานหนานเหลือบมองเขา เดินหน้ามาสองสามก้าว นั่งลงบนบัลลังก์มังกรตัวใหญ่ของเขา
“ใครบอกเจ้าว่าตอนที่เราพบนางตรงชานเมืองเมื่อครั้งก่อน เป็นครั้งแรกที่พวกข้าพบกัน?”
เย่หลานเฉิงขยับไปข้างๆ ให้หนานหนานนั่งสบายขึ้นหน่อย ได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสนอกสนใจยิ่งกว่าเดิม “ทำไมหรือ พวกเจ้าเจอกันตั้งนานแล้วหรือ?”
“ตอนที่นางเกิดมา เป็นท่านแม่ข้าที่ช่วยทำคลอดให้”
เย่หลานเฉิงเบิกตากว้าง จ้องมองหนานหนานอย่างไม่อยากเชื่อ
เช่นนั้นแล้วคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลาน เป็นท่านน้าชิงที่ทำคลอดให้หรือ? เป็นไปได้อย่างไร? คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลานอายุสิบหกปีนี้ สิบหกปีก่อน ตอนนั้นท่านน้าชิงก็อยู่ที่เมืองหลวงแล้ว และไม่เคยบอกเลยว่าทำคลอดให้ใคร
ถ้าเกิดเรื่องเช่นนั้นจริง เขาก็ต้องพอจำได้บ้างจึงจะถูก อย่างไรนั่นก็เป็นถึงตระกูลหลาน
เพียงแต่ว่า เมื่อเห็นท่าทางของหนานหนานที่พูดอย่างมั่นใจ ก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเป็นแน่
“เช่นนั้นแล้ว พวกเจ้าก็มีดวงชะตาต้องกันจริงๆ น่ะสิ” เย่หลานเฉิงถอนหายใจ บุพเพสันนิวาสของหนานหนานถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วหรือ?
“อืม” หนานหนานหยิบพู่กันบนโต๊ะขึ้นมาอย่างสบายๆ วางไว้ในมือแล้วหมุนไปมา
จริงๆ แล้ว การพบกันครั้งก่อนที่ชานเมืองถือเป็นครั้งที่สามที่เขาและหลานสุ่ยชิงได้พบกัน นอกจากครั้งนั้นก็มีเมื่อสิบหกปีก่อนที่นางเกิด ส่วนอีกครั้งหนึ่งก็คือสองเดือนก่อนหน้านี้
ตอนนี้เขามีฐานะเป็นผู้นำของอวี้เฟิงถัง ซึ่งในกองกำลังไม่มีใครมีฝีมือเทียบเท่า ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการจัดการเรื่องต่างๆ ของเขายังรวดเร็วเฉียบขาดเหมือนเย่ซิวตู๋ขึ้นทุกวัน นับว่ามีความมั่นคงอยู่ในอวี้เฟิงถัง กลายเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงในอวี้เฟิงถัง
แต่ก็ยังมีคนเก่าคนแก่บางคนที่เคยติดตามผู้นำหนิง ที่ไม่พอใจที่เขาได้รับหน้าที่สำคัญตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อกระทำการใดก็มักจะเป็นตัวถ่วงของเขา
โดยเฉพาะตั้งแต่หนานหนานกลายเป็นผู้นำ ก็มักจะส่งคนไปทำภารกิจพิเศษบางอย่างอย่างลับๆ
อย่างเช่นว่า หลังจากเย่หลานเฉิงกลายเป็นฮ่องเต้ ก็จะถูกลอบสังหารอย่างไร้เหตุผล หรือไม่ก็จะมีข้าราชการ บัณฑิต หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ที่ทำสิ่งชั่วร้าย รังแกชาวบ้าน แต่ไม่สามารถจัดการอย่างเปิดเผยได้ ซึ่งหนานหนานจะนำกำลังคนไปลอบสังหารคนเหล่านี้ด้วยตนเอง
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ในนั้นจะเป็นคนที่เขาไม่ถูกชะตาและอยากจะออกกำลังมือเท้าเสียบ้าง
แต่ด้วยเหตุนี้นี่เอง คนเก่าคนแก่เหล่านั้นก็ยิ่งมีข้ออ้างมาโจมตีเขา
สองเดือนก่อนหน้านั้น หนานหนานกำลังอยู่ระหว่างภารกิจจัดการหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ชอบเด็กสาวและกระทำการอุกอาจ การกระทำของคนผู้นี้โหดเหี้ยมชั่วร้ายนัก แต่กลับไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดๆ ของอาณาจักรเฟิงชาง ไม่สามารถประกาศความผิดของเขาให้โลกรู้และลงโทษเขาได้
ดังนั้นจึงทำได้เพียงจัดการอย่างลับๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าคนเก่าแก่คนหนึ่งที่เคยติดตามผู้นำหนิงจะรู้แผนการเข้า คนผู้นั้นเอาความไปบอกเชื้อพระวงศ์ผู้นั้น ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อของอวี้เฟิงถัง แต่ก็ทำให้เชื้อพระวงศ์ผู้นั้นเตรียมตัว รวมกำลังยอดฝีมือพเนจรมาที่จวนมากมาย
เพียงหนานหนานเข้าไปในจวนเขา ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศในจวนนั้นผิดปกติ จึงตัดสินใจล้มเลิกแผนการทันที หมุนกายเดินจากไป
เพียงแต่ตอนที่จากมาบังเอิญชนเข้ากับชายร่างเล็กคนหนึ่ง ชายผู้นั้นดูอ่อนแอบอบบาง แต่เมื่อถูกชนจนถอยไปสองก้าวแล้ว กลับปีนขึ้นไปบนขอบประตูอย่างมั่นคง ถึงขนาดเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
เพียงมองแวบเดียว หนานหนานก็รู้ว่าชายคนนี้เป็นหญิงที่แต่งตัวเป็นชาย เห็นได้ชัดว่ามีใบหน้างดงามนัก แต่กลับใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนเสียจนทั้งหน้าดูหยาบกระด้าง และไม่รู้ว่านางพยายามมากเพียงใด จึงทำให้ตนเองดูแบนราบ ไร้ซึ่งลักษณะของหญิงสาวอย่างสิ้นเชิง
หญิงที่ปลอมเป็นชายผู้นี้ก็คือหลานสุ่ยชิง
เดิมทีหนานหนานจะจากไป เขาไม่สนใจเลยว่าเหตุใดนางจึงต้องแต่งตัวเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นปานสีแดงที่หลานสุ่ยชิงเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายก็หยุดฝีเท้า
ในหัวเขาสว่างวาบขึ้นมาทันที ฉายภาพเด็กที่เกิดในบ้านร้างเมื่อสิบหกปีก่อน ตรงข้อศอกนั้นก็มีปานแดง ทำให้ภาพความประทับใจลึกซึ้งบังเกิดขึ้น
จากนั้นหนานหนานจึงได้อยู่ต่ออย่างไม่รู้ตัว อยากจะดูว่านางจะทำสิ่งใดกันแน่ หากนางเป็นคนในตระกูลของเชื้อพระวงศ์ผู้นั้น ก็ช่างเป็นเรื่อง… น่าเสียดายจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าที่หลานสุ่ยชิงแต่งตัวเช่นนี้ กลับเป็นเพราะบุตรสาวของแม่นมของนางถูกคนจับเข้ามาในจวนเป็นหนึ่งในเด็กสาวที่เชื้อพระวงศ์ผู้นั้นจะเล่นด้วย
หลานสุ่ยชิง… ต้องการจะช่วยนาง
หนานหนานคิดว่าเป็นไปไม่ได้ อย่าว่าแต่ในจวนนี้มีผู้อารักขาอยู่แต่เดิม ตอนนี้ยังมีผู้พเนจรยอดฝีมือมารวมตัวกันอีก นางเป็นหญิงคนหนึ่งที่ต่อสู้ไม่เป็น อยากจะช่วยคนหรือ? ไม่มีทางหรอก
แต่นาง… ก็ยังช่วยคนออกมาได้ ถึงขนาดโจมตีในจุดที่คาดไม่ถึง ทั้งยังให้ผู้อื่นรับเคราะห์แทน
อืม ใช่แล้ว เขาก็คือ ‘ผู้บริสุทธิ์’ ที่ต้องรับเคราะห์แทนผู้นั้น
สุดท้ายแล้วเขาก็ลงมือกับจวนนั้น แต่ก็เพราะเหตุนั้น แผนของเขาจึงได้สำเร็จลงได้
เป็นการจับพลัดจับผลูให้นางช่วยคนออกมาได้ ส่วนเขาก็ทำภารกิจสำเร็จ
อืม แค่ต้องออกแรงมากหน่อยเท่านั้น
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบ หลานสุ่ยชิงกลับไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเขาผู้นี้ ในความทรงจำของนางนั้นอาจจะเป็นเพียงคนมีน้ำใจและโอหังที่นางบังเอิญได้พบ… ระหว่างการช่วยชีวิตคนก็เท่านั้นกระมัง?
นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันหลังจากเติบโต ถึงแม้ไม่ใช่การตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ แต่ก็ทำให้หนานหนานประทับใจได้อย่างลึกล้ำ
ส่วนครั้งนั้นที่ปลอมตัวออกไปข้างนอกกับเย่หลานเฉิงแล้วบังเอิญพบหลานสุ่ยชิงที่ชานเมือง เขาได้เห็นจี้ที่นางถืออยู่ จึงมั่นใจว่านางคือเด็กเมื่อตอนนั้น
แต่ก็เป็นเพราะแผนการถูกเปลี่ยนแปลงเมื่อสองเดือนก่อนที่ทำให้หนานหนานโกรธมาก เดิมทีก็ให้อภัยเหล่าคนเก่าคนแก่นั้นเพราะเห็นแก่ผู้นำหนิง แต่เมื่อถึงตอนนี้แล้ว ผลประโยชน์ที่คนเหล่านี้ได้รับก็ควรจบลงเช่นกัน
เขาเริ่มทำการปฏิวัติภายในอวี้เฟิงถังอย่างโจ่งแจ้ง จัดตั้งระบบชุดหนึ่งขึ้น ทุกคนที่ฝ่าฝืนจะมีจุดจบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้นช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเขาจึงยุ่งเป็นพิเศษ สถานการณ์ในอวี้เฟิงถึงจึงมีการเปลี่ยนแปลง ดูผิดปกติจากทุกครั้งไป
แต่เขาคิดว่าภาพการณ์เช่นนี้ ไม่นานก็จะจบลงแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อ่อ ที่แท้ก็เป็นแผนแงะปากหนานหนานของหลานเฉิงนี่เอง
น่าลุ้นนะคะคู่นี้ มีชะตาร่วมกันมาตั้งแต่ฝ่ายหญิงเกิด แถมยังเคยเจอกันสามครั้งแล้ว
ไหหม่า(海馬)
————————————————————-