อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 6 นางต้องไป

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 6 นางต้องไป

ตอนพิเศษ 6 นางต้องไป

เยียนจือมองกระดาษสีเหลืองถูกย้อมด้วยหมึกสีดำ ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา

นางสับสนอย่างมาก เหตุใดจึงพูดเรื่องเหล่านี้ตอนคุณหนูคัดลายมือด้วยนะ นางรู้ดีว่ากว่าคุณหนูจะฝึกคัดลายมือได้นั้นไม่ง่ายเลย นายท่านและฮูหยินใหญ่ไม่อนุญาตให้คุณหนูอ่านหนังสือหรือคัดลายมือ ดังนั้นแม้แต่พู่กัน หมึก หรือจานฝนหมึกก็ล้วนไม่ซื้อให้นาง

c

ตอนนี้พู่กันในมือคุณหนูและจานฝนหมึกนั้น ล้วนเป็นฮูหยินที่ออกเงินส่วนตัวของตน ให้แม่นมหูแอบออกไปซื้อมาให้คุณหนู

ทว่าแม้แต่กระดาษวาดภาพเอาไว้คัดลายมือก็ยังไม่มี ดังนั้นคุณหนูจึงทำได้เพียงใช้กระดาษห่อที่เอาไว้ห่อยาให้ฮูหยินมาคลี่ออกแล้วใช้คัดลายมือ

แต่ดูตอนนี้สิ ต้องมาถูกทำลายเพราะคำพูดไม่กี่คำของนาง

“คุณหนู…” เยียนจือใกล้จะร้องไห้ออกมา “ขอโทษเจ้าค่ะ”

หลานสุ่ยชิงได้สติกลับมา เห็นกระดาษบนโต๊ะที่ถูกหมึกย้อมก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร อย่างไรก็ฝึกได้พอสมควรแล้ว”

นางเก็บพู่กันและกระดาษ นำจานฝนหมึกเก็บใส่กล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เช็ดมือ นั่งลงตรงข้างหน้าต่าง

เยียนจือยืนอยู่ด้านหลังนาง เห็นว่านางไม่กล่าวอะไรเลย ก็ยิ่งเสียใจแทบทนไม่ไหว

หลานสุ่ยชิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย จริงๆ แล้ว…ที่เยียนจือพูดก็มีเหตุผลอยู่

อาการป่วยของมารดานางลากยาวมาเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าหมอที่ท่านพ่อและท่านย่าเชิญมาจะถือว่าไม่ใช่หมอเถื่อน แต่เมื่อเทียบกับหมอหลวงในวัง ไปจนถึงพวกหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นแล้ว ยังถือว่าห่างชั้นกันอยู่มาก

ท่านแม่กินยาไปมากก็ยังไม่เห็นดีขึ้น ช่วงนี้ก็ยิ่งอาการทรุดลง

หมอปีศาจ หมอปีศาจ หมอปีศาจ!!

สองคำนี้โจมตีเข้าใส่สมองของหลานสุ่ยชิงครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่ามันแทรกซึมเข้าไปอย่างลึกซึ้งอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อก่อนไม่มีช่องทาง ไม่มีวิธีจะได้พบซิวหวางเฟยเลยจริงๆ ที่ตำหนักอ๋องซิวก็มีการคุ้มกันแน่นหนา นางไม่สามารถลักลอบเข้าตำหนักอ๋องซิวได้เหมือนตอนที่แอบเข้าไปในจวนของเชื้อพระวงศ์คนชั่วที่ชอบเล่นกับเด็กสาวเมื่อคราวนั้นได้

ตอนนี้เป็นโอกาสอันหาได้ยากที่จะได้พบซิวหวางเฟยอย่างเปิดเผย จะปล่อยไปได้อย่างไรเล่า?

นางไม่รู้ว่าซิวหวางเฟยนิสัยเป็นอย่างไร เพียงแต่ได้ยินว่านิสัยของหมอปีศาจนั้นแปลกประหลาดมาก ดังนั้นก็ไม่แน่ใจว่านางจะลงมือรักษาให้คนไร้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างพวกนางหรือไม่

แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร นี่ก็ถือเป็นโอกาสระดับแนวหน้า

ขอเพียงได้พบซิวหวางเฟย นางก็ถือว่าพอมีความหวังอยู่บ้าง

ถึงแม้ ถึงแม้ซิวหวางเฟยจะไม่เต็มใจรักษาให้ท่านแม่ของนาง แต่ก็ขอเพียงนางแนะนำตนเล็กน้อย บอกนางว่าใช้วิธีเช่นไรจึงจะทำให้ท่านแม่สบายขึ้นหน่อย ให้อาการดีขึ้นเล็กน้อย สำหรับนาง นี่ก็ถือว่าดีแล้ว

เยียนจือเห็นว่าแววตาคุณหนูของตนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตั้งแต่ตอนแรกที่ดูครุ่นคิด จนถึงตอนท้ายที่ดูหนักแน่น และสุดท้ายก็เปล่งประกาย ราวกับว่าคนทั้งคนดูมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น ในใจก็ยิ่งเป็นกังวล

นางไม่เคยเดาความคิดของคุณหนูได้ มีบางครั้งก็เห็นชัดๆ ว่านางพูดจาง่ายดาย แต่บางครั้งเวลากระทำการอันใด ก็จะทำให้นางตกใจและชื่นชมอย่างมาก

เช่นครั้งก่อนที่คุณหนูบุกไปช่วยบุตรสาวของแม่นมออกมาด้วยตัวคนเดียว นางที่มารู้เรื่องทีหลังก็ตกใจเสียจนเหงื่อตกไปทั้งร่าง

เรื่องเช่นนี้ เป็นเรื่องที่คุณหนูแห่งตระกูลร่ำรวยควรกระทำหรือ? ใครจะไปกล้าเพียงนั้น กลับไปถึง ไปถึงที่ที่อันตรายเช่นนั้นแล้วช่วยคนออกมาได้ หากนายท่านและฮูหยินใหญ่รู้เข้า ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นคุณหนูมีใจคิดถึงพวกเขาเหล่านั้น รักใคร่และปกป้องพวกเขาเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวของตนเช่นนั้น เยียนจือก็รู้สึกซาบซึ้งมาก ราวกับว่าเพื่อคุณหนูแล้ว ต่อให้ต้องฉีกร่างของตนเป็นชิ้นๆ ก็ทำได้อย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้เห็นคุณหนูเงียบไปเพราะคำพูดตน ในใจของนางก็เจ็บปวดอย่างมากเหลือเกิน

ผ่านไปครู่ใหญ่ เยียนจือรู้สึกว่าท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นมืดแล้ว นางก็เอ่ยปากออกมาเบาๆ “คุณ คุณหนู ท่าน หากท่าน ท่านไม่ยอมไปจริงๆ เช่นนั้นเราก็ไม่ไปดีหรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่ ข้าต้องไป” หลานสุ่ยชิงยืนขึ้น มองดวงอาทิตย์ตกด้านนอก กล่าวด้วยเสียงหนักแน่นอย่างมาก

นางไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบในจวนหลาน หลายปีมานี้ นางเองก็เข้าใจความลำเอียงของท่านพ่อและท่านย่า นางไม่หวังให้พวกเขามาเป็นห่วงหรือรักใคร่นางมากนัก

แต่ท่านแม่กลับเป็นญาติเพียงคนเดียวที่นางต้องปกป้องแล้ว หากแม้แต่ท่านแม่เองก็ตายจากไป แรงผลักดันของนางก็คงจะหายไปด้วย

ดังนั้น ต่อให้ไปที่ตำหนักอ๋องซิว ก็ไม่แน่ว่าจะได้พบหวางเฟย ไม่แน่ว่าจะทำให้ซิวหวางเฟยมารักษาให้ท่านแม่ได้ ไม่แน่ว่าจะได้รับคำแน่นำจากนางบ้าง

หากไม่ไปก็จะไม่มีความหวังเลยแม้แต่นิด แต่ถ้าไป ก็อาจจะพอมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง

ถึงแม้จะมีเพียงน้อยนิด แต่นางก็อยากลองเสี่ยงดู

แววตาของเยียนจือเป็นประกายขึ้นมา คุณหนูจะไปจริงๆ หรือ?

แต่ต่อจากนั้น ไหล่ของนางก็ลู่ตกลงอีกครั้ง “ทว่า ทว่าเมื่อครู่คุณหนูบอกว่า นายท่านกับฮูหยินใหญ่อาจจะไม่ให้คุณหนูไปก็ได้นี่เจ้าคะ”

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคุณหนูรอง คุณหนูสามที่คอยเป่าหูนายท่านและฮูหยินใหญ่อยู่ด้วย

พวกนางอิจฉาในความงามของคุณหนูมาโดยตลอด หากให้คุณหนูไป พวกนางจะต้องคิดว่าถูกคุณหนูแย่งความสนใจไป ทำลายความใฝ่ฝันของพวกนาง

ดังนั้นจะต้องมีการต่อต้านคุณหนูอย่างมากเป็นแน่

หลานสุ่ยชิงยิ้ม “เจ้าบอกว่าในเทียบเชิญมีชื่อข้าด้วยไม่ใช่หรือ? ในเมื่อมีชื่อข้า เช่นนั้นข้าก็ต้องไป”

“แต่ว่า…”

“หากท่านพ่อและท่านย่าไม่อยากให้ข้าไป ก็คงหาข้ออ้างได้ไม่กี่ข้อเท่านั้น เมื่อก่อนก็ใช่ว่าจะไม่เคยมี”

เยียนจือเม้มปาก จริงด้วย เมื่อก่อนก็มีคุณหนูตระกูลขุนนางส่งเทียบเชิญคุณหนูตระกูลหลานให้ไปร่วมงานเลี้ยง แต่นายท่านและฮูหยินใหญ่ไม่ยอมให้คุณหนูไป หากไม่บอกว่าคุณหนูป่วย ก็บอกว่านางมีธุระ หลายครั้งหลังจากนั้น เหล่าคุณหนูตระกูลขุนนางก็ไม่ได้ส่งเทียบเชิญให้นางอีก

เพียงแต่เมื่อก่อนนี้ ความสนใจของคุณหนูล้วนอยู่ที่ตัวฮูหยิน เหล่าคุณหนูตระกูลขุนนางพวกนั้นก็ทำได้เพียงผูกมิตรกับคุณหนูรองและคุณหนูสาม คุณหนูของพวกนางก็ไม่ได้สนใจมากนัก ล้วนแล้วแต่ให้เป็นตามความประสงค์นายท่านและฮูหยินใหญ่

ครั้งนี้คุณหนูมุ่งมั่นมากบอกว่าจะต้องไป หรือว่าในใจมีแผนอันใดอย่างนั้นหรือ?

เพียงเยียนจือคิดถึงตรงนี้ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย “เช่นนั้นคุณหนูคิดจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”

“งานเลี้ยงชมดอกบัวจะมีเมื่อใดหรือ?”

“อ้อ มะรืนนี้เจ้าค่ะ” เวลากระชั้นไปเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพราะกระชั้น จึงทำให้หลายคนรู้สึกว่างานเลี้ยงนี้เป็นงานที่ซิวหวางเฟยจัดขึ้นเพื่อฝ่าบาทหรือไม่ก็หนานซื่อจื่อ

แววตาของหลานสุ่ยชิงเป็นประกาย ยิ้มออกมา “รอให้ถึงมะรืนนี้ เจ้าก็จะรู้เอง จริงสิ แม่นมกลับมาหรือยัง?”

“น่าจะกลับมาแล้วเจ้าค่ะ หลังจากนางส่งบุตรสาวไปชนบทแล้ว ก็น่าจะได้เวลากลับถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม เจ้าเรียกแม่นมมาหาข้าที ข้ามีเรื่องอยากให้พวกเจ้าช่วย”

เยียนจือตอบรับในทันใด “เจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

หลานสุ่ยชิงยืนขึ้น แววตามองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังลานเล็กๆ ด้านนอก ลมหายใจก็สงบลงมาก

งานเลี้ยงชมดอกบัวที่ตำหนักอ๋องซิว นางจะไปแน่ ถึงแม้…จะมีคนมากมายไม่หวังให้ตนไป นางเองก็จะปรากฏตัวที่หน้าประตูตำหนักอ๋องซิวอย่างสมศักดิ์ศรีในฐานคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลาน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

นางต้องมีแผนแหละ ไม่งั้นจะช่วยเด็กสาวคนนั้นออกมาจากจวนคนชั่วโดยไม่โดนจับได้ได้อย่างไร

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท