อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 34 ท่านแม่นั่นแหละคือหมอปีศาจ

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 34 ท่านแม่นั่นแหละคือหมอปีศาจ

หมายเลข ‘สาม’?

ลูกจ้างชะงักไปเล็กน้อย แม่นางอวี้ไม่อนุญาตให้ใส่หมายเลขหนึ่งและหมายเลขสามลงไปในกล่องมิใช่หรือ? เถ้าแก่เนี้ยคิดจะทำอะไร? เหตุใดเขาถึงรู้สึกได้ว่าเถ้าแก่เนี้ยกำลังขุดหลุมฝังตัวเองนะ?

ทว่าแม้ภายในใจจะคิดเช่นนี้ แต่เมื่อสบสายตาอันโหดเหี้ยมของจินหลิวหลี เขาก็หดตัววิ่งออกไป

เป็นเพราะความประหม่า จึงชนเข้ากับต้าอู่ที่กำลังยกอาหารมาให้

อีกฝ่ายรีบหมุนตัว เขย่งปลายเท้าบนพื้น ฝ่ามือดันเข้าที่เสาข้าง ๆ เข่าทั้งสองข้างย่อลง คุ้มกันเหยือกสุราและจานอาหารที่อยู่บนถาด ก่อนหันมาตำหนิ “ทำอะไรของเจ้า? ถึงรีบร้อนด้วยความประมาทเช่นนี้ อาหารนี่เถ้าแก่เนี้ยเป็นคนสั่ง หากตกแตกระวังจะถูกเถ้าแก่เนี้ยสับ”

“อ้า ขอโทษขอรับ ๆ” ลูกจ้างคนนั้นรีบขอโทษขอโพย ก่อนจะหมุนกายวิ่งออกไปไกล

ต้าอู่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ ก่อนจะยกอาหารขึ้นไปที่ห้องพิเศษชั้นสองอย่างระมัดระวัง

เถ้าแก่เนี้ยบอกไว้ว่าอาหารนี้ต้องส่งให้แขกที่มีแผนเหล่านั้นกิน เพื่อป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นว่างเกินไปและทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ในเมื่อมีความคิดเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นออกเงินสักหน่อยก็สมควรแล้ว

ต้าอู่กำลังครุ่นคิด เขาก็หันมาเคาะประตูห้องพิเศษที่อยู่ตรงหน้า

อวี๋จั้วหลินขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด ครั้นได้ยินเสียงเคาะประตูจึงชะงักเล็กน้อย ถามเสียงทุ้มต่ำไปว่า “ใคร?”

“นายท่าน เถ้าแก่เนี้ยของเราให้ข้าน้อยนำอาหารมาให้ขอรับ ถึงอย่างไรพวกเราก็ยังไม่รู้ว่าหมอปีศาจต้องใช้เวลารักษานานแค่ไหน มิอาจปล่อยให้ลูกค้ารอจนท้องหิวได้”

อวี๋จั้วหลินหมดความอดทนแล้ว “ข้าไม่ต้องการ เจ้าเอาออกไปเถอะ”

“นายท่าน นี่…นี่เป็นสิ่งที่เถ้าแก่เนี้ยกำชับไว้ ข้าน้อยต้องส่งให้ถึงมือขอรับ หากท่านไม่เปิดประตู ข้าน้อยคงกลับไปรายงานต่อเถ้าแก่เนี้ยมิได้ คงทำได้เพียงแค่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้องของท่าน” ต้าอู่ยิ้มตาหยี ในน้ำเสียงนั้นไม่ได้แฝงด้วยความลำบากใจแม้แต่น้อย

อวี๋จั้วหลินใบหน้าแข็งทื่อ เขาไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไรทั้งสิ้น แต่ก็มิอาจปล่อยให้เสี่ยวเอ้อของร้านยืนรออยู่หน้าประตูได้ มิเช่นนั้นคงได้นำความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นมาให้

เขาเม้มปาก ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามา

ต้าอู่แย้มยิ้ม ดูเหมือนว่าจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะยอมประนีประนอมตั้งแต่แรก เขานำอาหารทั้งหมดวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างระมัดระวังและคล่องแคล่ว จากนั้นก็ยื่นมือมาตรงหน้าอวี๋จั้วหลิน “ลูกค้า ยี่สิบตำลึงขอรับ”

อวี๋จั้วหลินชะงัก จ้องมองกับข้าวสองอย่างและหนึ่งน้ำแกงบนโต๊ะ สีหน้าพลันบิดเบี้ยวดูมิจืดทันใด เขาแย้มยิ้มเสียงเย็นชา “อาหารของโรงเตี๊ยมฝูหลงไม่แย่ไปกว่าโรงเตี๊ยมใหญ่ในเมืองหลวงเลยนะ”

ต้าอู่ยังคงยืนมือแย้มยิ้ม “ข้าน้อยไม่เคยไปเมืองหลวง และไม่ทราบว่าโรงเตี๊ยมใหญ่เป็นเช่นไร แต่ราคาอาหารนี้เถ้าแก่เนี้ยเป็นคนตั้งราคาไว้ หากท่านไม่พอใจ ข้าน้อยจะไปเรียกเถ้าแก่เนี้ยให้ขึ้นมาอธิบายกับท่านเองขอรับ”

ครั้นกล่าวจบ ต้าอู่ก็ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างภายในห้องพิเศษ อ้าปากพูด “เถ้า…”

อวี๋จั้วหลินหน้าถอดสี เขารีบดึงอีกฝ่ายกลับเข้ามา ยัดเงินใส่มืออีกฝ่ายพลางขบฟันแน่น “ออกไป”

ต้าอู่เห็นเงินมาอยู่ในมือแล้วก็ไม่ได้สนใจทัศนคติที่ไม่ดีของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ก่อนจะเดินยิ้มออกจากห้องพิเศษไป พลิกเงินที่อยู่ในมือ แย้มยิ้มเสียจนดวงตาแทบมองไม่เห็น

แม่นางอวี้ช่างมีวิธีจริง ๆ ทราบว่าลูกค้าตระกูลนี้รักษาหน้าตาที่สุด ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งยาก แค่เสียงดังขึ้นหน่อยก็ยอมประนีประนอมแล้ว

จุ๊ ๆ ไม่รู้ว่าลูกค้าในห้องพิเศษห้องอื่นจะจัดการง่ายเช่นนี้หรือไม่…

เพียงแต่แม่นางอวี้ไม่ได้ให้เข้าไปจัดการกับห้องพิเศษจวนโม่ น่าแปลกชะมัด จวนโม่มีความลึกลับขนาดนั้นจริงหรือ? แม้แต่แม่นางอวี้ก็ยังไม่อยากยั่วโมโหให้ขุ่นเคือง?

แต่เถ้าแก่เนี้ยสั่งให้นำอาหารเข้าไปส่งในห้องพิเศษทุกห้อง

ต้าอู่ก้มหน้าลงครุ่นคิด เขาคิดว่าเงินของตนเองอยู่ที่เถ้าแก่เนี้ยทั้งหมด คิดว่านี่เป็นโอกาสหาเงินที่หาได้ยาก คิดว่าต้องปฏิบัติกับลูกค้าในโรงเตี๊ยมอย่างเสมอภาค คิดว่า…เอาเถอะ เขาเองก็สงสัยเช่นกันว่าคนจวนโม่เป็นใครกันแน่

ครั้นหันกลับมา เขาก็รีบยกอาหารและสุราเข้าไปในห้องพิเศษทีละห้อง น่าแปลกนัก นอกจากอวี๋จั้วหลินที่เริ่มต้นด้วยความยากลำบาก ห้องพิเศษอื่น ๆ ต่างดูเหมือนอยากกำจัดเขาออกไปให้เร็วที่สุด ไม่แม้แต่จะมองอาหาร ให้เงินเขาแล้วก็สั่งให้เขาออกไปทันที

เขาอุตส่าห์คิดหาข้ออ้างสารพัดสารเพ คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน

เขายกกล่องอาหารชุดสุดท้าย มายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพิเศษหมายเลขสาม และยกมือเคาะประตู

เสียงที่อยู่ด้านในดังออกมาอย่างรวดเร็ว “ใคร?”

เสิ่นอิงขมวดคิ้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงรายงานดังขึ้นในทันที

“ลูกค้า ข้าน้อยมาส่งอาหารขอรับ” ต้าอู่กลั้นหายใจ ด้วยมีแรงกดดันไร้รูปร่างแผ่ออกมากดดันเขาจนร่างกายเกร็งไปทั้งตัว

ภายในห้อง หนานหนานที่กำลังหิวจนทรมานถึงกับหูผึ่ง พริบตาต่อมาก็กระโดดลอยตัวขึ้นจากพื้น และพุ่งตัวไปที่ประตูอย่างรวดเร็วราวลูกกระสุนปืนใหญ่ “ในที่สุดก็มีของกินแล้ว ในที่สุดก็มีของกินแล้ว!”

โม่เสียนกลัวว่าเขาจะวิ่งชน จึงรีบมาขวางเขาไว้ “ช้าหน่อย ให้เขานำอาหารเข้ามาแล้วเจ้าค่อยกิน”

ระหว่างที่พูด ก็หันไปส่งสายตาให้เหวินเทียน อีกฝ่ายจึงเปิดประตูยื่นมือออกไปรับกล่องอาหาร “เอามาให้ข้า”

“ลูกค้า สามสิบตำลึงขอรับ” ต้าอู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขารู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าราวกับตั้งใจปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้หัวใจของเขาถึงกับหนักอึ้ง

สามสิบตำลึง?

หนานหนานพูดเสียงสูง “นี่มันรีดไถกันชัด ๆ อาต้าอู่ คิดไม่ถึงเลยนะว่าแม้แต่ข้าท่านก็รีดไถกันได้ลงคอ ท่านอิจฉาความงามดุจบุปผาสวรรค์และความน่ารักของข้า ถึงได้แอบเก็บเงินกับข้าลับหลังท่านป้าจินใช่หรือไม่? ข้าหิวแล้วแถมยังต้องรอนานขนาดนี้กว่าจะนำอาหารออกมาส่ง ตอนนี้ยังมาเก็บเงินจากข้าอีก ข้าเศร้าเหลือเกิน หัวใจของข้าแตกสลาย แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว”

“หนานหนาน???” ต้าอู่เงยหน้าด้วยความตกตะลึง ก็พบว่าเด็กน้อยกำลังแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่ในอ้อมกอดของโม่เสียน เขารู้สึกประหลาดใจเสียจนพูดไม่ออก หนาน…หนานหนานมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? แม่นางอวี้รู้หรือไม่? หรือว่าจะถูกลักพาตัว?

ไม่ ไม่ถูก สมองของต้าอู่เกิดความคิดนับร้อยพันแวบผ่านอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็นึกถึงแม่นางอวี้ที่บอกว่าไม่ให้นำอาหารมาส่งที่ห้องพิเศษหมายเลขสาม ในที่สุดก็เกิดความชัดเจนภายในใจ

“พวกเจ้า รู้จักกัน?” โม่เสียนมองหนานหนาน ก่อนจะมองต้าอู่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเฉียบคม

ต้าอู่มุมปากกระตุกวูบ กัดฟันตอบไปว่า “ถือ ถือว่ารู้จักขอรับ”

“อะไรคือถือว่ารู้จัก?” หนานหนานไม่พอใจอย่างมาก ในที่สุดก็ดิ้นจนหลุดออกจากอ้อมกอดของโม่เสียน เขาเดินไปหยิบกล่องที่อยู่ตรงหน้าเหวินเทียน หลังจากเห็นกับข้าวสองอย่างและหนึ่งน้ำแกง ใบหน้าก็ดำอึมครึมลง “นี่ให้ข้ากินหรือ? อาต้าอู่ ท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างโหดร้าย ท่านแม่ของข้าเล่า? ท่านแม่ของข้าไปไหน ข้าจะไปฟ้องท่านแม่”

ต้าอู่พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว เขาไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้เป็นใครกันแน่ อีกอย่าง บุรุษที่นั่งอยู่ขอบหน้าต่างหันหลังให้ตนเองโดยไม่พูดจาคนนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นนายท่านของพวกเขาด้วย

เหวินเทียนเห็นหนานหนานโกรธและเริ่มหาตัวอวี้ชิงลั่ว เสียงโวยวายของเขาคาดว่าคงได้เรียกคนจากห้องพิเศษอื่นให้มาดู จึงรีบย่อตัวปลอบใจ “แม่ของเจ้าไปหาหมอปีศาจ อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว เจ้ากินก่อนเถอะ ข้าจะให้พวกเขานำของอร่อย ๆ มาเพิ่มให้อีก”

ไปหาหมอปีศาจ?

หนานหนานเบิกตาโต ทำท่าทางกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความมึนงง จากนั้นก็เริ่มชี้หน้าเหวินเทียนหัวเราะร่า “ฮ่า ๆๆๆๆ ไปหาหมอปีศาจ? ท่านแม่ของข้านั่นแหละคือหมอปีศาจ นางจะไปหาตนเองหรือ? ฮ่า ๆๆๆๆ ท่านลุงเหวิน ท่านนี่ตลกดีนะ ฮ่า ๆๆ ท่านแม่ของข้าไปหาตัวเอง ฮ่า ๆๆๆ”

…………………………

สารจากผู้แปล

ท่านแม่มาเก็บลูกชายไปด่วน ๆ ค่ะ ลูกชายท่านเผยไต๋ให้คนอื่นแล้ว

ไหหม่า (海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท