อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 72 กลับไปนอน

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 72 กลับไปนอน

ตอนพิเศษ 72 กลับไปนอน

หนานหนานสะอึก เขามองขวดในมือ จากนั้นมองตาของหลานสุ่ยชิง แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “นี่เป็นผลงานชิ้นเอกที่น่าเบื่อของท่านแม่ข้า”

ดังนั้นในอนาคตสุ่ยชิงจะได้อยู่ห่างจากแม่ของเขา

แม้ว่าความจริงแล้ว คนที่ทำยานี้จะเป็นเถาเหวินฮั่น ศิษย์คนรองของหมอเฒ่าฉยงซานก็ตาม

มันเป็นของขวัญลามกที่เขาได้มาตอนที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น คนผู้นั้นบอกให้เขาไปเริ่ม อืม ไปลองล่าเนื้อ เพื่อแลกกับยาพิษสองสามขวดจากเขา ซึ่งหนานหนานไม่เคยปฏิเสธของขวัญจากผู้อื่น ดังนั้นเขาจึงรับยาของเถาเหวินฮั่นไว้ แต่ไม่ได้ให้ยาพิษแก่เขา

เถาเหวินฮั่นไม่พอใจมาก จนไม่ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาหลายปีแล้ว

ตอนแรกเขาเก็บยานี้ไว้ในตู้ แต่เมื่อเขามาหาหลานสุ่ยชิงในวันนี้ และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่างทาง เขาก็พบว่าหลานสุ่ยชิงดูเหมือนจะกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่

จู่ ๆ ความคิดนี้ก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา เขาจึงกลับไปหยิบขวดยา แล้วนำมายื่นให้ตรงหน้านางอย่างตื่นเต้น

มุมปากของหลานสุ่ยชิงกระตุก สมแล้วที่หวางเฟยได้ชื่อว่าเป็นหมอปีศาจ แนวทางการคิดค้นยาของนาง… แปลกมาก

นางถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดกับหนานหนานว่า “ข้าเข้าใจแล้ว จะเริ่มลงมือเมื่อใด?”

“ปกติไท่ฮูหยินมักจะเข้านอนเมื่อใด?”

“ยามซวี” หลานสุ่ยชิงตอบ “แต่ช่วงนี้ไท่ฮูหยินนอนไม่ค่อยหลับ จึงน่าจะดึกกว่านั้น”

หนานหนานพยักหน้า ลูบคางแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เลือกช่วงยามไฮ่แทน”

มันดึกกว่าเวลาเข้านอนตามปกติของไท่ฮูหยินถึงหนึ่งในสี่ชั่วยาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจินซื่อคุ้นเคยกับกิจวัตรประจำวันของไท่ฮูหยิน และจงใจใช้ประโยชน์จากการนอนหลับของไท่ฮูหยิน เพื่อคิดจะแอบติดต่อกับรองเจ้ากรมหลาน

แต่จากข้อมูลของหลานสุ่ยชิง ช่วงนี้ไท่ฮูหยินอาจจะนอนไม่หลับจนถึงยามซวี และต่อให้นางจะผล็อยหลับไป แต่ก็คงหลับไม่สนิทเกินไป

ยังเร็วเกินไปอยู่ หนานหนานชำเลืองมองอนุหลัว

อนุหลัวเข้าใจทันที แล้วถอยกลับไปที่ห้องชั้นในเงียบ ๆ

หลานสุ่ยชิงเหลือบมองหนานหนาน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อะไร เจ้ามีแผนอื่นอีกหรือ?”

“ข้างกายไท่ฮูหยิน น่าจะมีคนของเจ้าแฝงตัวอยู่”

หลานสุ่ยชิงหันหน้าไปเงียบ ๆ ชายคนนี้ฉลาดและน่ากลัวมาก นางจะไม่ขัดใจเขาอีกในอนาคต ไม่เช่นนั้นนางคงต้องทนทุกข์ทรมานมากเป็นแน่

อืม ไม่ขัดใจเขาแน่นอน

หลานสุ่ยชิงถอนหายใจ แล้วพยักหน้า

หนานหนานโน้มตัวไปข้างหูนาง แล้วกระซิบบางอย่าง

ดวงตาของหลานสุ่ยชิงค่อย ๆ เป็นประกาย และพยักหน้าเล็กน้อย…

หนึ่งในสี่ชั่วยามผ่านไป

เรือนโยวหราน

ไฉ่ซินวิ่งเข้าไปในเรือนโยวหรานด้วยใบหน้าซีดเผือด และชนเข้ากับแม่นมซ่งที่กำลังออกมาจากห้องของไท่ฮูหยิน

แม่นมซ่งขมวดคิ้วดุ “เจ้ากำลังทำอะไร จะรีบอะไรนักหนา?”

“ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” ไฉ่ซินตอบ แต่นางไม่รู้ว่าจะวางมือวางเท้าไว้ตรงไหนดี นัยน์ตาก็เหม่อลอยเหมือนไม่มีสติ

แม่นมซ่งขมวดคิ้วทันที เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่นางพูด

เมื่อดึงไฉ่ซินที่กำลังจะวิ่งหนีกลับมาได้ เสียงของนางก็ดังขึ้นเล็กน้อย “บอกข้ามาให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น”

ไฉ่ซินกำลังจะร้องไห้ ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย จนกระทั่งแม่นมซ่งหยิกนาง นางจึงจับมือของแม่นมซ่งไว้ด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูก แล้วพูดว่า “แม่นม ทำอย่างไรดี? จะทำอย่างไรดี?”

“บอกข้ามาให้ชัดเจน ทำอย่างไรอะไร?”

“ข้า” ไฉ่ซินสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นกัดฟันเล่า “ไท่ฮูหยิน ไท่ฮูหยินสั่งให้คนเย็บเสื้อคลุมให้นายท่านไม่ใช่หรือ? บ่าว บ่าวจึงจะนำมันไปให้นายท่านคืนนี้ ช่วงนี้นายท่านพักผ่อนในเรือนของอนุฉี บ่าวจึงไปหาอนุฉี คาดไม่ถึงว่าอนุฉีจะหลับไปแล้ว สาวใช้คนสนิทของอนุฉีบอกว่านายท่านไปหาฮูหยินรองที่ห้องพระ บ่าวจึงไปที่ห้องพระ คาดไม่ถึงเลยว่านายท่านกับและฮูหยินรองกับอนุจินที่อยู่ในนั้นจะกำลัง ทำ…ทำเรื่องอย่างว่าเจ้าค่ะ”

“ทำเรื่องอย่างว่าหรือ?” แม่นมซ่งตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ตั้งสติทันที สีหน้านางเปลี่ยนไปมาก นางมองไฉ่ซินด้วยความไม่เชื่อ “เจ้า เจ้าพูดจริงหรือ?”

“อืม.. ข้า ข้ากลัวมาก ไม่นึกเลยว่านายท่านจะทำเช่นนั้นในห้องพระของไท่ฮูหยินจริง ๆ… แม่นมซ่ง ทำอย่างไรดี? ถ้าไท่ฮูหยินรู้เรื่องนี้เข้า เกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่”

แม่นมซ่งยังคงตกตะลึง ใบหน้าของนางซีดเผือด แล้วจู่ ๆ นางก็โมโห

แต่ก่อนที่นางจะทันได้พูดอะไร จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากภายในห้อง

สีหน้าแม่นมซ่งเปลี่ยนไป นางรีบเปิดม่าน จากนั้นหัวใจนางก็แทบจะกระเด็นออกมาด้วยความตกใจ

ไม่รู้ว่าไท่ฮูหยินตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ในขณะนี้มาอยู่ห่างจากนางเพียงก้าวเดียว ใบหน้าถมึงทึงนั้นดูเหมือนขยายใหญ่ขึ้น ดูน่ากลัวและแปลกประหลาดสุดจะพรรณนา

ทันใดนั้นสายตาเฉียบคมของไท่ฮูหยินก็จับจ้องไปยังศีรษะของไฉ่ซิน ไฉ่ซินรีบคุกเข่าลงขณะตัวสั่นเทาด้วยความตกใจ “ไท่ ไท่ฮูหยิน”

“ที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ?” ไท่ฮูหยินกำหมัดแน่น แล้วจ้องมองศีรษะของไฉ่ซินด้วยสายตาดุดัน

ไฉ่ซินพยักหน้า “บ่าว บ่าวเห็นจริง ๆ เจ้าค่ะ”

“ไป ไปที่ห้องพระกัน” ไท่ฮูหยินถีบไฉ่ซินอย่างแรง ก่อนจะหันหลังเดินออกไปข้างนอก

แม่นมซ่งรีบวิ่งเข้าไปหยิบเสื้อคลุมในห้องของไท่ฮูหยินออกมา แล้วช่วยประคองไท่ฮูหยินที่กำลังโกรธจัด ให้เดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

ไฉ่ซินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากพื้น แล้วตามไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พวกนางจากไป ร่างสองร่างก็ลงมาจากต้นไม้หนาทึบในสนาม

หนานหนานกอดเอวของหลานสุ่ยชิงไม่ยอมปล่อย เขาหันหน้ามองนางด้วยรอยยิ้ม “เจ้าฉลาดนัก ข้าคิดว่าเจ้าจะให้ไฉ่เฟิงไปรายงาน”

ไฉ่เฟิงเป็นคนของนาง

หลานสุ่ยชิงพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เมื่อพบว่าไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการได้ นางก็เหยียบเท้าเขาด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่ามือของหนานหนานคลายออกแล้ว จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไฉ่เฟิงทำงานอย่างใจเย็นมาตลอด ถ้าจู่ ๆ นางออกไปปรากฏตัวต่อหน้าแม่นมซ่ง ด้วยอาการตื่นตระหนกเช่นนี้ ก็จะถูกสงสัยได้ง่าย”

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เจ้าบอกให้ไฉ่เฟิงแสร้งทำเป็นป่วย แล้วให้ไฉ่ซินไปส่งเสื้อให้รองเจ้ากรมหลานแทนใช่หรือไม่?”

“อืม เหตุการณ์วันนี้ก็เป็นเรื่องอื้อฉาว ถ้าพ่อของข้าโกรธคนไปแจ้งข่าวก็อาจจะฆ่าทิ้งได้ แน่นอนว่าข้าจะไม่ปล่อยให้คนของข้าต้องเจอเรื่องเช่นนั้น” หลานสุ่ยชิงพูดด้วยความเย้ยหยัน “อีกทั้งถ้าไม่ใช่เพราะความทะเยอทะยานเกินควรของไฉ่ซิน นางก็คงไม่หลงกลหรอก”

ไฉ่ซินถึงวัยที่จะออกเรือนแล้ว ไท่ฮูหยินเคยคิดจะให้นางแต่งงานกับคนรับใช้ แต่ไฉ่ซินไม่เต็มใจนัก เมื่อเห็นจินซื่อไต่เต้าจากนางบำเรอจนได้ตำแหน่งปัจจุบัน นางก็รู้สึกอิจฉามากและค่อย ๆ คิดแผนการ

แต่ว่ารูปลักษณ์นางดูธรรมดาเหลือเกิน มันจึงเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะดูโดดเด่นเข้าตารองเจ้ากรมหลาน

ดังนั้นนางจึงเป็นคนที่มีความสุขที่สุดเช่นกัน เมื่อจินซื่อถูกลงโทษให้อยู่ในห้องพระ โดยคิดว่าในที่สุดนางก็มีโอกาสใกล้ชิดรองเจ้ากรมหลานแล้ว

แต่ตอนนี้รองเจ้ากรมหลานได้หันกลับไปสนใจอนุฉีอีกครั้ง เพราะแผนการของหลานสุ่ยชิง

ไฉ่ซินจึงรู้สึกไม่พอใจ แต่อนุฉีนั้นรังแกได้ง่ายมากเมื่อเทียบกับจินซื่อ นางจึงยังคงมีความหวังอยู่ในใจ

เมื่อไฉ่เฟิงขอให้นางไปพบกับรองเจ้ากรมหลานในวันนี้ นางก็รีบตอบตกลงทันทีอย่างร่าเริง แต่เมื่อนางไปถึงประตูเรือนของอนุฉี ก็ได้ยินสาวใช้พูดอย่างเย่อหยิ่งว่ารองเจ้ากรมหลานไปหาฮูหยินรอง

ใช่แล้ว สาวใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนนั้นในเรือนของอนุฉีเป็นคนของจินซื่อ

ไฉ่ซินถูกกระตุ้น จึงรีบวิ่งไปที่ห้องพระโดยไม่พูดอะไรสักคำ และทันได้เห็นฉากที่พวกเขาจงใจให้นางเห็น

“ตอนนี้จะทำอะไรต่อ?” แผนการเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะได้เห็นไท่ฮูหยินโกรธจัด หนานหนานหันไปมองหลานสุ่ยชิง แล้วถามนาง

“กลับไปนอน”

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หนานหนานโยนความผิดให้แม่อีกแล้วนะ

จวนหลานได้บันเทิงก็คราวนี้แหละ เล่นทำกันในห้องพระเลย

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท