อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 79 ให้ของเป็นหลักประกัน

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 79 ให้ของเป็นหลักประกัน

จินหลิวหลีตกใจจนสะดุ้งโหยง นางหันมองซ้ายแลขวา โชคดีที่ไม่มีใครเห็นเขา จึงรีบดึงเขาไปที่มุมข้าง ๆ

“เจ้ามาได้อย่างไรกัน?”

โม่เสียนถึงกับหมดคำพูด สายตามองไปยังตำแหน่งของห้องที่อวี้ชิงลั่วอยู่ พูดด้วยความจริงจังว่า “คนเหล่านั้นมิใช่คนธรรมดา”

จินหลิวหลีเลิกคิ้วขึ้น กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ข้ารู้ คนของอาณาจักรหลิวอวิ๋นมิใช่หรือ”

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว เหตุใดแม่นางอวี้ยังคิดจะรักษาเขา? หากไปยั่วโทสะคนของราชวงศ์ คงได้เกิดปัญหาอย่างมาก” โม่เสียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่านางทำท่าทางไม่เห็นด้วย จึงลังเลว่าควรเปิดเผยตัวตนของนายท่านให้พวกนางรู้ดีหรือไม่ ถึงอย่างไรต่อให้พวกเขาไม่แยแส แต่ตอนนี้ลงเรือลำเดียวกับนายท่านแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องพิจารณาแทนนายท่านสักหน่อยสิ

จินหลิวหลีจนปัญญา “ข้าไม่ได้เป็นคนรักษา เจ้าเองก็รู้จักนิสัยของชิงลั่วดี นางอยากรักษาหรือฆ่าใคร เช่นนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของนางทั้งหมด ข้าห้ามไม่ได้หรอก”

“เจ้า…” โม่เสียนเกิดความร้อนใจ ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงกดน้ำเสียงลง “แม่นางจิน รบกวนเจ้าช่วยเข้าไปบอกแม่นางอวี้หน่อย หากพัวพันกับคนเหล่านี้ จะเกิดปัญหากับนายท่าน”

คนของราชวงศ์อาณาจักรหลิวอวิ๋นมีประวัติความเป็นมาค่อนข้างใหญ่โต หากมีคนรู้ว่าแม่นางอวี้เป็นคนรักษาพวกเขา และตรวจสอบจนพบว่าแม่นางอวี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายท่าน เกรงว่าคงได้ใส่ร้ายนายท่านว่าร่วมมือกับศัตรูเพื่อก่อกบฏเป็นแน่

ดูเหมือนว่าจินหลิวหลีจะไม่เคยเห็นท่าทางจริงจังและระมัดระวังเช่นนี้ของเขา เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าอย่างไร้ความหวัง ถึงอย่างไรนางก็คิดว่า ต่อให้นางไปบอกนังเด็กอวี้ชิงลั่วนั่น คาดว่าอีกฝ่ายก็คงไม่หยุดอยู่ดี

เรื่องที่นางตัดสินใจ ใครก็หยุดนางไม่ได้แล้วกระมัง

โม่เสียนเห็นว่านางตอบตกลง จึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

จินหลิวหลีเห็นท่าทางนั้นก็อยากจะหัวเราะออกมา ท่าทางดูเหมือนจะเห็นอกเห็นใจเขามาก จากนั้นจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องเมื่อครู่

บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างตึงเครียด โดยเฉพาะบุรุษผู้นั้นมีสายตาแทบไม่ละออกจากอวี้ชิงลั่วเลย เพราะเกรงว่านางจะทำเรื่องบางอย่างจนเกิดอันตรายกับนายท่าน

เขาเห็นท่าทางนั้นก็อยากจะออกเสียงเตือนนางเสียเหลือเกิน ทว่าก็เข้าใจถึงนิสัยของสตรีที่อยู่ตรงหน้าว่าค่อนข้างหยิ่งยโส หากเขาพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดยั่วโทสะให้นางไม่พอใจ อาจทำให้นายท่านของเขาตกอยู่ในอันตรายได้

ด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงแค่เม้มปากแน่นรับกับความเสี่ยงนี้ ถึงอย่างไรหากสตรีผู้นี้สร้างปัญหาให้นายท่านจริง ๆ ถึงเวลานั้นก็ต้องฝังนางลงไปด้วย

จินหลิวหลีไม่ได้สนใจเขา นางเดินไปข้าง ๆ อวี้ชิงลั่ว ก่อนจะกระซิบข้างหูอีกฝ่ายถึงเรื่องที่โม่เสียนฝากให้นางมาบอก

อวี้ชิงลั่วได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาเบา ๆ “เจ้าไปบอกเขา ตอนนี้โทสะของข้าที่มีต่อเย่ซิวตู๋ยังมีอยู่เต็มท้อง”

ความหมายก็คือ นางไม่คิดจะฟังเขา

พูดจบนางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินไปข้าง ๆ คนไข้เพื่อดูอาการของเขา คิ้วขดขมวดเข้าหากัน เพราะนางเห็นว่ามือและหน้าของเด็กคนนั้นกลายเป็นสีคล้ำแล้ว หนังตาก็ตกด้วย แขนขาเย็นเฉียบ น้ำเสียงแหบพร่า ปัสสาวะก็ไม่มีแล้ว แม้แต่ชีพจรก็จับไม่โดน เหงื่อไหลโซมกาย ลิ้นฝ้าเป็นสีม่วง ทั้งหมดนี้อยู่ในขั้นวิกฤติอย่างสมบูรณ์

ก็จริง อหิวาตกโรคเป็นโรคที่เกิดขึ้นเร็ว และเสียชีวิตได้ง่าย

นางไม่สนใจคนอื่น ๆ ภายในห้องแล้ว หันหน้ากลับมาและหยิบกระเป๋าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พกติดตัวออกมา หลังจากกางออกก็หยิบเข็มออกมาสองเล่ม แทงเข็มลงบนจุดชวีฉือ(1) และจุดเหว่ยจง(2)

เจียงอวิ๋นเซิงและบุรุษผู้นั้นก้าวเท้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกัน แต่กลับพบว่าทั้งสองจุดนั้นมีเลือดสีดำไหลออกมา ต่างก็พากันตกใจ และเกิดความตึงเครียดขึ้น

อวี้ชิงลั่วกลับไม่หยุดพัก นางหันไปสั่งเจียงอวิ๋นเซิงว่า “ท่านหมอเจียง เจาะเลือดของคนที่อยู่ข้าง ๆ โดยยึดจากวิธีของข้า”

“หา?” เจียงอวิ๋นเซิงชะงัก เมื่อเห็นว่าอาการของคนไข้ที่เป็นผู้ใหญ่ก็วิกฤต เขาจึงไม่สนใจอะไรมากไปกว่านี้ รีบเจาะเลือดตามวิธีวินิจฉัยโรคของอวี้ชิงลั่วที่ทำเมื่อครู่ทันที

จนกระทั่งมาตรการฉุกเฉินสิ้นสุดลง อวี้ชิงลั่วจึงวางมือ รีบเขียนใบสั่งยาอันประกอบด้วย หวงฉิน(3) จือจื่อ(4) โต้วฉื่อ(5) หวงเหลียน(6) จู๋หรู(7) อี้อี๋เหริน(8) ป้านเซี่ย(9) ฉานสื่อ(10) หลูเกิน(11) ใยบวบ และอู๋จูอวี๋(12) จากนั้นจึงหมุนกายยื่นรายชื่อให้กับบุรุษผู้นั้น กำชับว่า “กินยาต้มหลังจากยาเย็นลงแล้ว”

บุรุษผู้นั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าและรีบออกไป

เจียงอวิ๋นเซิงที่อยู่อีกข้างหนึ่งถอนหายใจออกมา ยังไม่ทันให้เขาได้ยกมือซับเหงื่อ ข้างหูก็ได้ยินเสียงของอวี้ชิงลั่วดังขึ้น “ท่านหมอเจียง เผายาฆ่าเชื้อ นี่คงไม่ต้องให้ข้าสอนท่านหรอกกระมัง”

นางไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้ไปป่วยมาจากที่ใด แต่โดยปกติแล้วอหิวาตกโรคจะมาจากการอยู่ในสภาพแออัดและมลพิษทางน้ำ เพียงแต่ไม่ทราบว่าต้นตออยู่ในเมืองหลวงหรือไม่

แต่ท่านหมอเจียงเป็นหมอมีชื่อเสียงในเมืองหลวง เรื่องเหล่านี้เขาน่าจะทราบว่าต้องจัดการอย่างไร

ครั้นเจียงอวิ๋นเซิงได้ยิน สีหน้าก็กลายเป็นจริงจังขึ้นหลายส่วนโดยพลัน เขารีบออกไปสอบถามราชองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกทันที พวกเขาอาจสัมผัสผู้คนและสิ่งของ หรือสถานที่ที่ไปรับเชื้อมา หลังจากนั้นจึงกำชับคนที่อยู่ในโรงหมอให้รีบนำโกฐน้ำเต้า(13) ยินเฉิน(14) และอื่น ๆ ที่สามารถนำมาเผาทำเป็นยาฆ่าเชื้อได้ไปกำจัดเชื้อโรคทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวง

อวี้ชิงลั่วดูอาการของคนไข้อีกครั้ง พบว่าบุรุษเมื่อครู่นำเด็กจ่ายยากลับมาแล้ว หลังจากคนไข้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้กินยาเข้าไปแล้ว เส้นชีพจรก็ดูเหมือนจะคงที่ขึ้นเล็กน้อย ไม่อาเจียนและขับถ่ายแล้ว จึงลุกขึ้นยืนและพูดกับคนผู้นั้น

“ทางที่ดีที่สุดคือเผารถม้าที่พวกเขานั่งมา รวมถึงเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการติดเชื้อ นำไปเผาทิ้งให้หมด ของที่ไม่สามารถเผาได้ วางตากแดดให้มาก ใบเทียบยาที่ข้าให้เจ้าเมื่อครู่ วันพรุ่งก็ให้พวกเขาดื่มต่อไป”

บุรุษผู้นั้นมองเห็นความสามารถของนางแล้ว เมื่อเห็นอาการของนายท่านทั้งสองดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก ก็เกิดความดีใจ รีบยกมือคารวะเพื่อขอบคุณ “แม่นาง บุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ข้าน้อยมิกล้าลืมเลือน หากแม่นางมีสิ่งใดต้องการความช่วยเหลือ ข้าน้อยยินดีที่จะทำให้โดยไม่มีข้อกังขา”

อวี้ชิงลั่วช่วยชีวิตไว้ถึงสองคน ที่รออยู่ ก็เพื่อฟังคำพูดนี้ของเขามิใช่หรือ?

นางเม้มปากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนส่ายหน้ากล่าวว่า “ตอนนี้ข้ายังไม่มีอะไรให้เจ้าต้องช่วยเหลือ เช่นนั้นเจ้าให้ของสำหรับเป็นหลักค้ำประกันมาให้ข้าสักชิ้นสิ กลับไปหากข้าต้องการความช่วยเหลือ ข้าจะได้ใช้สิ่งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

บุรุษผู้นั้นชะงักไปครู่หนึ่ง แอบประหลาดใจไม่น้อย

เขาคิดว่าการที่สตรีผู้นี้ส่ายหน้าเมื่อครู่จะหมายถึงจรรยาบรรณของหมอ ไม่ต้องการให้พวกเขาชดใช้เสียอีก คิดไม่ถึงเลย…

บุรุษผู้นั้นมุมปากกระตุกกึก รีบหยิบแผ่นป้ายเล็ก ๆ สีเหลืองทองออกมายื่นบนมือของนาง กล่าวเสียงขรึม “โปรดแม่นางรับสิ่งนี้ไว้ ถือเป็นคำสัญญาของข้าน้อย ข้าน้อยแซ่ฉีชื่อจ้านขอรับ”

อวี้ชิงลั่วมองของชิ้นนั้นที่เป็นงานฝีมือประณีตและดูดีเป็นอย่างมาก พกติดตัวก็ไม่ได้รู้สึกหนักอะไร จึงรู้สึกมีความสุขหลายส่วน พยักหน้าและพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ตกลง อ๊ะ จริงสิ ถือโอกาสนี้จ่ายเงินค่ารักษาด้วยเลย”

ฉีจ้านถึงกับตัวแข็งทื่อ แต่ที่นางพูดก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินไป จึงหยิบธนบัตรออกมาสองใบและจ่ายให้นาง

อวี้ชิงลั่วยิ้มจนดวงตาหยีเป็นเส้นตรง นางรับธนบัตรไว้และอธิบายข้อควรระวังบางอย่างกับเขา จากนั้นจึงออกจากห้องไปพร้อมกับจินหลิวหลี

ฉีจ้านชะงักงัน ตอนที่เขาได้สติกลับมาอีกครั้ง ด้านนอกก็ไม่เห็นเงาของพวกนางแล้ว จึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะลืมถามชื่อของแม่นางคนนั้นไปเสียสนิท

“ฉี…ฉีจ้าน” ระหว่างที่กำลังหงุดหงิด จู่ ๆ ก็มีเสียงแหบพร่าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านบนเตียงดังขึ้นหนึ่งเสียง

………………………………………………………………………………………………………………………

(1) จุดชวีฉือ (曲池) หากงอข้อศอก ตำแหน่งนี้จะอยู่บริเวณรอยบุ๋มของข้อศอกด้านนอก

(2) จุดเหว่ยจง (委中) จุดกึ่งกลางบริเวณขาพับ

(3) หวงฉินหรืออึ่งงิ้มในภาษาแต้จิ๋ว เป็นรากของต้นไม้ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scutellaria baicalensis มีสรรพคุณขับพิษ ลดความร้อนชื้นในร่างกาย สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินเพราะจะทำให้แท้งลูก

(4) จือจื่อ กี้จือ หรือผลพุดจีน เป็นผลของต้นพุดซ้อนจีน

Gardenia jasminoides Ellis เป็นตัวแต่งสีเหลืองในน้ำเก๊กฮวย มีสรรพคุณระบายความร้อนและขับพิษ

(5) โต้วฉื่อ เป็นถั่วเหลืองหรือถั่วดำที่หมักกับเชื้อราดำ สรรพคุณลดความกระวนกระวายและแผ่กระจายความร้อน

(6) หวงเหลียนหรืออึ่งน้อยในภาษาแต้จิ๋ว เป็นเหง้าของต้น Coptis chinensis มีสรรพคุณขับพิษ ขับร้อน รักษาอาการท้องเสีย

(7) จู๋หรู หรือขุยไม้ไผ่ เกิดจากการขูดผิวด้านในปล้องไผ่ออกมาแล้วนำไปตากให้แห้ง มีสรรพคุณขับความร้อน แก้อาเจียน

(8) อี๋อีเหริน หรือลูกเดือย เป็นธัญพืชชนิดหนึ่งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coix lacryma-jobi L.var.mayuen (Roman.) มีสรรพคุณลดความร้อน แก้อ่อนเพลีย ขับพิษ ขับฝีหนอง

(9) ป้านเซี่ย คือหัวแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinellia ternata ( Thunb.) Breit. มีสรรพคุณขับเสมหะ แก้อาเจียน ลดอาการอึดอัดหายใจไม่ออก

(10) ฉานสื่อหรือมูลหนอนไหม เป็นอุจจาระของหนอนไหมที่เก็บได้ในช่วงระยะไหมหลับครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 3 แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เก็บเศษซากของใบหม่อนออก มีสรรพคุณลดอาการท้องเสียอาเจียนรุนแรง ลดอาการปวดศีรษะ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดปวด

(11) หลูเกิน หรือรากต้นอ้อ เป็นรากแห้งของต้นอ้อ มีสรรพคุณขับร้อน กระตุ้นการสร้างของเหลวในร่างกาย แก้กระหายน้ำ ลดอาการปวดบวม

(12) อู๋จูอวี๋ เป็นช่อผลแห้งใกล้แตกของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Euodia rutaecarpa (Juss.) Benth. หรือ Euodia rutaecarpa (Juss.) Benth.var.officinalis (Dode) Huang หรือ Euodia rutaecarpa (Juss.) Benth.var. bodinieri(Dode) Huang มีสรรพคุณขับความเย็น ลดอาการปวด ลดอาการขย้อนหรืออาเจียน หยุดอาการท้องร่วง

(13) โกฐน้ำเต้าหรือต้าหวง เป็นพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rheum palmatum L. มีสรรพคุณขับพิษ ปรับสมดุลเลือด ลดพิษไข้

(14) ยินเฉิน เป็นพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia scoparza Waldst.et Kit. หรือ Artemisia capillaris Thunb . ใช้ภายนอกจะมีสรรพคุณฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ รักษาโรคสะเก็ดเงิน ใช้ภายในจะมีสรรพคุณรักษาโรคดีซ่าน ลดอาการร้อนชื้นในร่างกาย

สารจากผู้แปล

ไปรักษาโรคให้ศัตรูของนายท่านเย่เสียแล้ว จะเป็นการหาเรื่องเข้าตัวหรือเปล่าเนี่ย

เจ้าหนุ่มแซ่ฉีคนนั้นให้ของอะไรกับชิงลั่วกันนะ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท