เทพสงครามอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 43

ตอนที่ 43

บทที่ 43 ไม่ได้เล่นกันอย่างนี้สักหน่อย
“คำอธิบาย? แกคิดว่าแกเป็นอะไรเหรอ? คู่ควรกับการที่ฉันต้องมาอธิบายอะไรให้แกด้วยเหรอ?”
หลัวเสียนจ้องเย่เทียนอย่างโหดเหี้ยม “แกเป็นคนแรกที่กล้ามาหาเรื่องกับฉันที่นี่! ฉันจะแจ้งตำรวจ เก่งมากก็รอดูได้ แกเตรียมกินข้าวคุกตลอดชีวิตเถอะ!”
ได้ยินคำนี้หลินขุยก็มีสีหน้าไร้วิญญาณ อดทนไม่ไหวอีกแล้ว ยื่นมือออกไปแย่งโทรศัพท์มา บีบเบา ๆ!
เพล้ง!
IPhone X ใหม่เอี่ยมอ่องกลายเป็นผุยผงในทันที ปลิวไปตามลม!
“ผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างคุณคิดว่าตัวเองเก่งมากจริง ๆ สินะ?” หลินขุยโมโหจนหน้าเขียว
เขาเป็นถึงพยัคฆ์ร้ายเป่ยเย่ เจอคนต่ำทรามหน้าเนื้อใจเสือมานับไม่ถ้วน
แต่คนแบบที่ไม่สามารถใช้เหตุผลด้วยได้อย่างหลัวเสียนนี่ เขาเพิ่งจะได้เจอเป็นครั้งแรก
“แกจะทำอะไร?” หลัวเสียนอึ้งไปพักหนึ่งถึงจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง จากนั้นจึงเอ่ยปากด่าหลินขุยในทันที
“นี่เป็นโทรศัพท์ที่ฉันเพิ่งจะซื้อมาใหม่เชียวนี้ IPhone X รู้จักไหม? ต่อให้เอาแกไปขายก็ยังชดใช้ไม่ได้!”
“ต้าจวิน แกจะแกล้งตายไปจนถึงเมื่อไหร่?” ตอนนี้หลัวเสียนเหมือนกับหมาบ้าตัวหนึ่งที่จับคนไหนได้ก็กัดคนนั้น
“ยังไม่รีบไปตามคนมาอีก แกไม่เห็นเหรอว่าฉันโดนรังแกอยู่น่ะ?”
ต้าจวินหัวเราะเจื่อน ๆ สองครั้ง ตอนนี้ถึงได้ลุกขึ้นมาจากพื้น หวาดกลัวหลินขุยมาก “เจ๊หลัว นี่… คุณดูสิ โทรหาผู้อำนวยการดีไหมครับ?”
“โทรไปทำหอกอะไร!” หลัวเสียนจ้องเขาตาเขม็ง “รอผู้อำนวยการมา สถานสงเคราะห์ก็โดนเจ้าสองคนนี้ถล่มเละหมดแล้ว รีบไปตามคนมา ถ้าหากวันนี้พวกเขายังสามารถเดินออกไปได้ ต่อไปแกก็ไสหัวออกไปได้เลย!”
ต้าจวินหน้าซีด ทำได้เพียงไปตามคนมาอย่างช่วยไม่ได้
แต่เขาเพิ่งจะเดินออกมาจากสถานสงเคราะห์ รถมินิบัสที่ผ่านการดัดแปลงคันหนึ่งก็ขับเข้ามาในสถานสงเคราะห์อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ จอดอยู่ตรงหน้าหลัวเสียนพอดี
ประตูรถเปิดออก คนขับรถดูอายุเพิ่งจะประมาณยี่สิบกว่า ๆ สักลายมังกรหนึ่งตัวลงบนแขน คาบบุหรี่อยู่ในปาก ย้อมผมหลากสี มองดูก็รู้ว่าเป็นวัยรุ่นชั้นต่ำ
“แม่งเอ๊ย อากาศเหี้ยอะไรวะเนี่ย ร้อนชิบหายเลย ที่เหี้ย ๆ แบบนั้น แอร์สักตัวก็ไม่มี ทั้งเหม็นทั้งสกปรก เจ้าพวกนี้อยู่กันได้ยังไง”
หนุ่มวัยรุ่นด่าสะเปะสะปะพลางเปิดประตูรถตรงกลาง “ยังไม่รีบลงมาอีก แม่งเอ๊ย แต่ละคนเหม็นอย่างกับขี้ จะให้กูเหม็นจนตายไปเลยใช่ไหม?”
พอเห็นฉากนี้แล้ว หลินขุยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
แต่กลับรู้สึกว่าอากาศรอบ ๆ เย็นลงอย่างฉับพลัน หันกลับไปก็เห็นสีหน้าของเย่เทียนอึมครึมจนถึงที่สุด
เงาร่างเล็ก ๆ ทยอยกันออกมาจากรถทีละคน ๆ หลังจากที่หนุ่มวัยรุ่นตะโกน
คนที่โตที่สุดในบรรดาพวกเขามีอายุประมาณหกขวบ คนที่เด็กสุดแม้แต่เดินก็ยังเดินได้ไม่มั่นคง
เดินตามกันลงมาจากรถทีละคน ๆ
หลินขุยนิ่งไปในทันที จากนั้นความโกรธอย่างไม่มีที่สิ้นสุดก็พุ่งออกมาจากใจ
พวกนี้น่าจะเป็นพวกเด็ก ๆ ของสถานสงเคราะห์แล้วล่ะ
เพียงแต่ว่าพวกเขาในตอนนี้หน้าตามอมแมมกันทุกคน แทบจะมองรูปลักษณ์ของพวกเขาไม่ออกเลย
เสื้อผ้าบนตัวแค่มองก็รู้ว่าเก็บมา ทั้งสกปรกทั้งขาด อยู่ในที่ไกล ๆ ยังได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว!
แถมยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ในมือถือถุงพลาสติกเก่า ๆ ขาด ๆ ด้านในมีผลไม้หลากหลายแบบที่คนกินเหลือเอาไว้ หรือของเล่นที่เด็กคนอื่นเล่นจนพังจนเอาไปทิ้ง
แต่พวกเขากลับมองเห็นเป็นทรัพย์สมบัติ ซ่อนเอาไว้ในอกแน่น ๆ กลัวว่าจะมีใครมาแย่งเอาไป
เห็นฉากนี้แล้ว ถึงแม้ว่าหลินขุยจะเป็นผู้ชายหยาบ ๆ แต่เขาก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาทันที แทบจะมีน้ำตาไหลออกมา
ต่อให้พวกเขาเป็นเด็กกำพร้า แต่ก็เป็นเด็กที่น่าสงสาร เป็นคนที่ยังมีชีวิต!
ตอนนี้กลับประสบกับสวัสดิการแบบนี้
หลินขุยกำหมัดแน่น โกรธอยู่ในใจ เก็บกดไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
“แม่งเอ๊ย ชักช้าอืดอาดอยู่ทำไม? ยังไม่รีบอีก?”
บนรถมินิบัส คนที่ออกมาคนสุดท้ายเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุเกือบจะสี่ขวบ มือกำถุงพลาสติกแน่น เพียงเพราะแค่เธอเดินช้าไปไม่กี่ก้าว กลับโดนหนุ่มวัยรุ่นตบจนตกลงจากรถ
ร่างเล็ก ๆ กระแทกกับพื้น เจ็บจนหน้าตาเหยเก กลับไม่ร้องออกมาสักแอะ
ลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง เช็ดน้ำตาอย่างชำนาญ
“แกยังมีหน้ามาร้องอีก? แกช้าทุกครั้งเลย สมควรแล้วที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่!”
ชายวัยรุ่นจ้องเด็กหญิงตาเขม็ง กลับเห็นเด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตากลมโตจ้องเขาตาไม่กะพริบ
ไม่กล้าพูดอะไร กลับใช้การกระทำคัดค้าน
“แกยังกล้าจ้องฉัน?” หนุ่มวัยรุ่นโมโหขึ้นมาทันที “ไม่อยากกินข้าวเย็นแล้วหรือไง?”
ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นจะตบเธอสักที!
เด็กหญิงกลัวจนหลับตาปี๋ น้ำตาอาบอยู่บนใบหน้า เป็นคราบไปทั้งหน้า!
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงเยียบเย็นดังขึ้น หลินขุยมาอยู่ด้านหน้าหนุ่มวัยรุ่นในเวลาแค่พริบตาเดียว จับมือของวัยรุ่นชายที่กำลังจะกระทบเด็กหญิงได้ทันเวลา!
“แกเป็นใคร? ไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่ามาแส่ไม่เข้าเรื่อง!”
หนุ่มวัยรุ่นจ้องมองหลินขุย คิดจะเก็บมือขวากลับไป แต่มือของหลินขุยเป็นเหมือนกับคีมเหล็ก ถึงแม้เขาจะใช้แรงทั้งหมด ก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“แม้แต่กับเด็กก็ยังลงมือได้ ต่ำยิ่งกว่าสัตว์!”
หลินขุยกัดฟัน ดวงตาดุร้ายมองตรงไปยังวัยรุ่นหนุ่ม ในใจเกิดความคิดที่จะฆ่า
“อาขุย ปล่อยเขาไว้ก่อน!”
หลินขุยทนต่อไปอีกไม่ไหว เขากำลังจะแตะออกไป แต่เสียงเย็นชาของเย่เทียนส่งออกมากะทันหัน หลินขุยจึงกัดฟัน พลังที่ขาหายไปกว่าครึ่ง!
วัยรุ่นหนุ่มกำลังโมโห กลับถูกหลินขุยเตะทีเดียวปลิวออกไป เขากุมท้องเอาไว้ แม้แต่หายใจยังหายใจไม่ออก หน้าเขียวจนถึงขั้นสุด!
หลินขุยร้อง ‘เฮอะ’ เสียงเย็นครั้งหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณท่านแนะนำให้ไว้ชีวิตเขาเอาไว้ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นศพไปแล้ว
“เสี่ยวคัง แกไม่เป็นไรนะ?” หลัวเสียนยังไม่ทันได้พูด พอเห็นฉากนี้เข้า ใบหน้าก็ร้อนรน รีบรุดหน้าเข้าไปพยุงหนุ่มวัยรุ่นเอาไว้
หลัวหย่งคังเป็นลูกชายของน้องสาวของเธอ เทียบกับต้าจวินไม่ได้ ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ เธอคงอธิบายไม่ได้
“แม่มันเถอะ ป้ารอง เจ้าหมอนี่มันเป็นใคร?”
ไม่ง่ายเลยกว่าที่หนุ่มวัยรุ่นจะหายใจได้ทัน สายตาที่มองไปยังหลินขุยเต็มไปด้วยความพยาบาท
“เสี่ยวคัง แกกลับมาพอดี เจ้าสองคนนี่ตั้งใจจะมาก่อเรื่องที่นี่ รีบเรียกพวกของแกมา วันนี้จะต้องทำลายพวกมันให้ได้!”
หลัวเสียนเห็นว่าหลัวหย่งคังไม่มีปัญหาอะไร ก็ลอบถอนหายใจออกมา
แต่เธออยากจะฆ่าเย่เทียนกับหลินขุยสองคนนั่นนัก
เพราะพวกเขามองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรได้เห็น!
“แม่งเอ๊ย กล้ามาก่อเรื่องที่นี่? อยากตายหรือไง?”
หลัวหย่งคังจ้องหลินขุยอย่างโหดเหี้ยม เตะเมื่อกี้ไม่เบาเลยสักนิด
“แกกล้าเตะฉัน? วันนี้ฉันจะต้องตัดขาแกให้ได้”
ว่าแล้วหลัวหย่งคังที่โมโหจนกล้าทำได้ทุกอย่างก็หยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาจากเอวทันที แทงเข้าไปทางหลินขุยตรง ๆ
“รนหาที่ตาย!”
บนใบหน้าของหลินขุยไม่มีความเคลื่อนไหวใดใดเลยสักนิด ยื่นมือขวาออกมาหนีบกริชเอาไว้อย่างแม่นยำ
ออกแรงเบา ๆ กริชก็มาอยู่ในมือของเขาแล้ว
“เจ้าสิ่งนี้ไม่ได้เล่นกันอย่างนี้สักหน่อย!”
หลินขุยร้อง ‘เฮอะ’ เสียงเย็น ความเย็นสบายในคำพูดนั้นกลับทำให้หลัวหย่งคังมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง!
“แก แกคิดจะทำอะไร?”
พอหลัวหย่งคังสำนึกได้ก็ถอยหลังไปสองก้าว แต่หลินขุยกับกดเอาไว้อย่างไม่ยินยอม
“คิดจะทำอะไร? แน่นอนว่าต้องสอนแกว่ามันเล่นกันยังไงน่ะสิ!”
ว่าแล้วก็จับบ่าของหลัวหย่งคังไว้ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตาด้วยพลังอันรุนแรงจนไม่อาจป้องกันได้ กริชที่อยู่ในมือก็ปักลงมาพร้อมกัน
“อ๊ากกกก!”
หลังจากหลัวหย่งคังร้องอย่างน่าเวทนาออกมา หูขวาของเขาโดนก็หลินขุยแทงทะลุ เลือดสด ๆ ของเขาไหลไปทั่ว
คุณท่านบอกว่าให้ไว้ชีวิตเขาเอาไว้ แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามทำลายหูของเขา!

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

Status: Ongoing

เขตชายแดนประเทศหลงประสบกับการรุกราน ผู้รุกรานมีมหาอำนาจตะวันตกคอยหนุนหลังอยู่ผ่านการฟันฝ่าสู้รบมา10ปี ความวุ่นวายในเขตชายแดนถูกกวาดล้างเย่เทียนกลายเป็นจอมพลสี่ดาวที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งประเทศหลงถูกองค์กรกลยุทธ์การรบโลกพิจารณาและคัดเลือกเป็นหนึ่งในสิบมหาเทพสงครามของยุคใหม่ในขณะเดียวกัน กลับสู่บ้านเกิด ล้างอธรรมให้เพื่อน ตามหาพื้นเพประสบการณ์ในชีวิตของตน เรียกความยุติธรรมคืนให้กับแม่!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท