ตอนที่ 282 โดนทำร้าย
ในฐานะน้องสาว นางอาจจะไม่จำเป็นต้องแก้แค้นยามที่เห็นพี่ชายมีคนรัก แต่ในฐานะอนุภรรยาของอวี๋จั้วหลินที่เห็นสามีของตนในเวลานี้มีจิตใจอยู่กับสตรีอีกคน ไหนเลยที่นางจะไม่รู้สึกโกรธแค้น?
มากไปกว่านั้น สตรีผู้นี้คือผู้ที่อวี๋จั้วหลินโปรดปรานรักใคร่มาตลอดหกปี มาวันนี้กลับตกอยู่ในน้ำมือของอวี้ชิงลั่ว
อวี๋จั้วหลินค่อย ๆ หรี่ตาลงมองพิจารณาหลี่หรานหร่าน
ฮูหยินใหญ่เองก็ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนที่นางไปเยือนเรือนของหลี่หรานหร่านเพื่อไปดูแลอาการอาเจียนของนาง ก็บังเอิญได้ยินเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเข้า นางกำลังไม่พอใจและสาปแช่งด่าทอแม่นางชิงด้วยความขุ่นเคือง จนฮูหยินใหญ่รู้สึกได้ขึ้นมาทันทีว่าผู้ที่ปล่อยข่าวลือนั้นคือหลี่หรานหร่าน
ตอนที่แม่นางชิงและเสนาบดีฝ่ายขวาปรากฏตัวขึ้นที่จวนตระกูลอวี๋ แท้ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีเพียงแค่คนของจวนตระกูลอวี๋เท่านั้นที่รับรู้ ถึงอย่างไรหากแม่นางชิงจะเสื่อมเสียชื่อเสียง หลี่หรานหร่านก็คือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่นางจะทำเรื่องเช่นนี้ขึ้น
แววตาของฮูหยินใหญ่นั้นค่อย ๆ เปลี่ยนไป และมองดูหลี่หรานหร่านด้วยความรู้สึกโกรธเคือง
หลี่หรานหร่านรู้ว่าแม่นางชิงผู้นั้นเอ่ยเพียงไม่กี่คำก็ได้ผลักนางมาถึงขอบหน้าผา เพียงความผิดพลาดครั้งเดียว ก็ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว
หญิงสาวตกประหม่าเป็นอย่างมาก อยากจะหัวเราะออกมากลบเกลื่อนสักสองสามครั้ง แต่ลำคอของนางนั้นราวกับมีอะไรอุดกั้นเอาไว้ แม้แต่จะส่งเสียงออกมานั้นก็ยังยากลำบาก
ปลายนิ้วเรียวของอวี้ชิงลั่วค่อย ๆ สัมผัสคิ้วของตนขณะมองการแสดงออกของทุกคน มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย และหัวเราะออกมาเบา ๆ “เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องที่จริงจังเช่นนี้แล้ว ฮูหยินใหญ่ ท่านชายอวี๋ก็อาการดีขึ้นมาบ้างแล้ว ให้คนมาช่วยพาเขากลับไปพักผ่อนที่ห้องเสียเถิด ไม่เช่นนั้นอาการป่วยอาจจะทรุดหนักกว่าเดิม จะไม่ถือว่าได้ไม่คุ้มเสียหรอกหรือ?”
ฮูหยินใหญ่หัวเราะออกมา นางพยักหน้าเพื่อให้หลี่หรานหร่านประคองอวี๋จั้วหลินกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
หลี่หรานหร่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่อวี๋จั้วหลินกลับไม่สามารถตัดใจจากอวี้ชิงลั่วได้ ทว่าเมื่อเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของอวี้ชิงลั่ว ชายหนุ่มก็รู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ และลังเลที่จะจากไปกับหลี่หรานหร่าน
เมื่อคนได้จากไปแล้ว อวี้ชิงลั่วจึงเอ่ยกับฮูหยินใหญ่ขึ้นอย่างเขินอาย “ฮูหยิน ข้าต้องขออภัยจริง ๆ เมื่อครู่ที่ข้านั้นได้เอ่ยไปนั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้มีเจตนาที่จะสงสัยคุณหนูอวี๋ แต่ว่า…เมื่อมองดูคุณหนูอวี๋ได้ยินคำพวกนั้นแล้วรู้สึกว่านางไม่มีความสุขเลย ทั้งยังมีสีหน้าเปลี่ยนไปอีกด้วย นางต้องโทษข้าแน่ ๆ ฮูหยินใหญ่ เมื่อกลับไปแล้ว ขอรบกวนท่านอธิบายต่อคุณหนูอวี๋สักหน่อยเถิด”
“แม่นางชิงช่างถ่อมตนนัก” ฮูหยินใหญ่ได้ยินหญิงสาวเอ่ยขึ้นเช่นนี้ จึงรู้สึกพอใจต่ออวี้ชิงลั่วเป็นอย่างมาก และเนื่องด้วยคำอธิบายของอวี้ชิงลั่ว นางจึงเข้าใจว่าหลี่หรานหร่านคือผู้ที่แพร่ข่าวลือ ด้วยเหตุนี้ฮูหยินใหญ่จึงรู้สึกโกรธหลี่หรานหร่านเป็นอย่างมาก
“แม่นางชิงช่างมีจิตใจงดงาม หรานหร่านจะต้องเข้าใจ ข้ารู้ว่าสองวันมานี้เจ้าได้รับแรงกดดันมากมาย ไม่ต้องเป็นกังวล เจ้าจะผ่านมันไปได้”
“อื้ม” อวี้ชิงลั่วยิ้มขึ้น นางช่างว่าง่ายเสียจริง
แต่นั่นเป็นเพียงแค่รอยยิ้มที่ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม เห็นจะมีเพียงเยว่ซินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางเท่านั้นที่สามารถสังเกตได้
คุณหนูนั้นเยี่ยมยอดจริง ๆ เอ่ยขึ้นเพียงไม่กี่คำก็สามารถทำให้สีหน้าของหลี่หรานหร่านนั้นเปลี่ยนแปลงได้ สมควรแล้วที่นางต้องกลัดกลุ้ม เมื่อก่อนผู้ใดใช้ให้นางมารังแกคุณหนูกันเล่า
เยว่ซินพึมพำอยู่ในใจไม่หยุดหย่อน นางเพียงแค่ไม่รู้ว่า การดำเนินการของอวี้ชิงลั่วนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
เนื่องจากฮูหยินใหญ่ได้พิจารณาแล้วว่าหลี่หรานหร่านมีเจตนาไม่ดี ในส่วนของอวี๋จั้วหลินนั้น ในตอนกลับไปและได้ฟังคำแก้ตัวทั้งน้ำตาของหลี่หรานหร่าน ชายหนุ่มก็จะมีปมขึ้นภายในใจ เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยถูกปลูกลงไปแล้ว ไหนเลยจะกำจัดมันออกไปได้ง่าย ๆ?
การที่อวี้ชิงลั่วมายังจวนตระกูลอวี๋ในครั้งนี้ทำให้รู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเวลารับประทานอาหาร หลังได้เห็นใบหน้าของหลี่หรานหร่านค่อย ๆ บวมแดงขึ้นมา นางก็รู้สึกเหมือนกับรูขุมขนทั่วทั้งร่างกายถูกเปิดออก ความกลัดกลุ้มที่อันแน่นภายในจิตใจในช่วงที่ผ่านมาได้หายไป
หลี่หรานหร่านได้อธิบายไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่านางจะถูกทุบตี ถึงแม้ว่าหน้าตาที่ดูน่าเวทนาจะทำให้ผู้คนรู้สึกสงสาร แต่เวลาบนโต๊ะอาหารนั้น จิตใจของอวี๋จั้วหลินยังคงอยู่กับอวี้ชิงลั่ว ฮูหยินใหญ่ไม่ได้มีสีหน้าที่ดีต่อหลี่หรานหร่านเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดต้องเอ่ยปากบอกให้นางกลับไปรับประทานที่ห้องของตน เพื่อไม่ให้ใบหน้าอมทุกข์ของนางส่งผลกระทบต่ออรรถรสในการกินอาหารของผู้อื่น
ประโยคนี้อวี้ชิงลั่วทำได้แค่เพียงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของการมาเยือนที่จวนแห่งนี้ก็ได้บรรลุแล้ว อาหารเองก็ได้กินแล้ว เรื่องราวต่อจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของหลี่หรานหร่านแล้ว
และวันนี้ขณะกลับไปยังตำหนักอ๋อง อวี้ชิงลั่วก็มีความสุขไปตลอดทาง
เหวินเทียนที่ควบคุมรถม้าก็คิดขึ้นว่าหากตนสามารถทำให้นายท่านของตนนั้นใช้โอกาสนี้กลับมาได้ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะกลับมาคืนดีกันเหมือนแต่ก่อน
แต่เมื่อคิดดูแล้ว คนที่ทำให้แม่นางอวี้นั้นมีความสุขนั้นคืออวี๋จั้วหลิน หากนายท่านรู้เข้า เกรงว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองอาจจะมีมากกว่าเดิม
“แม่นางอวี้ ข่าวลือนั้นหลี่หรานหร่านเป็นคนทำใช่หรือไม่? เจ้ารู้ได้เช่นไร?” เหวินเทียนกระชับบังเหียน บังคับให้รถแล่นช้าลง และเอ่ยถามขึ้น
เยว่ซินเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “หา? หลี่หรานหร่านเป็นผู้ที่ปล่อยข่าวลือหรือ? ผู้ใดกล่าว กล่าวตอนไหน?”
เหวินเทียนกรอกตา ความชาญฉลาดของแม่นางอวี้และสาวใช้ผู้นี้นั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน แม่นางอวี้เอ่ยขึ้นต่อหน้าชายหนุ่มผู้นั้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เยว่ซินกลับเหมือนอยู่ภายนอกสถานการณ์
เหวินเทียนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าโม่เสียนชอบเยว่ซินจากอะไร เขารู้สึกว่าท่าทางโง่เขลาของนางดูน่ารังแกเช่นนั้นหรือ?
เหวินเทียนนึกขึ้นแล้วก็คิดว่านี่เป็นเหตุผลที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด ถ้าหากว่าเยว่ซินนั้นฉลาดเหมือนกับแม่นางอวี้ เช่นนั้นแล้วก็คงไม่ง่ายเลย ดูจากสถานการณ์ของนายท่านกับแม่นางอวี้ตอนนี้สิ
“ข้าเพียงแค่สับสนเท่านั้น” อวี้ชิงลั่วกำลังอารมณ์ดี นางจึงค่อย ๆ อธิบายออกมา “ข้าเพิ่งจะมาเมืองหลวงได้ไม่นาน และในเมืองหลวงแห่งนี้ ศัตรูของหมอปีศาจมีเพียงแค่เวยเยวี่ยนโหวผู้เดียวเท่านั้น ตอนนี้จวนตระกูลโหวไม่สามารถปกป้องตนเองได้แล้ว และไม่มีทางที่จะวางแผนมาจัดการข้าได้ แน่นอนว่าสามารถตัดออกไปได้ ในส่วนของคนอื่น ๆ ที่ต้องการจะทำร้ายข้านั้นเห็นจะมีเพียงไม่กี่คน และหลี่หรานหร่านเป็นผู้ที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด ในเมื่อมาร่วมรับประทานอาหารเย็นวันนี้ แน่นอนว่าข้าไม่ต้องการที่จะกลับมามือเปล่า จึงลองดู คาดไม่ถึงว่า…ผลจะออกมาค่อนข้างดีทีเดียว”
ผู้ต้องสงสัยรายใหญ่อีกคนคือเหมิงกุ้ยเฟย แต่ด้วยสถานะของนางนั้นทำให้มีหลายด้านต้องพิจารณา และไม่สามารถลากเสนาบดีฝ่ายขวาลงน้ำได้
“ตอนนี้ก็พบคนร้ายตัวจริงแล้ว แม่นางอวี้จะทำเช่นไรต่อไป? ส่งตัวหลี่หรานหร่านให้ทางการหรือไม่ ข่าวลือในตอนนี้เริ่มรุนแรงขึ้นแล้ว และไม่สามารถยอมรับได้”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วและยิ้มออกมา “ต่อให้ส่งตัวหลี่หรานหร่านให้ทางการ ข่าวลือก็ไม่สามารถหยุดลงได้แล้ว”
“เช่นนั้น จะทำเช่นไร?” เยว่ซินเอ่ยถามด้วยความกังวล
อวี้ชิงลั่วยักไหล่ หญิงสาวพิงหมอนและเอ่ยขึ้น “วันพรุ่งนี้เจ้าก็จะรู้เอง”
……………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เตรียมตัวแตกแล้วหนึ่ง โดนกำจัดเงียบๆ แบบไม่รู้ตัวแน่ ๆ นังหรานหร่าน
ไหหม่า(海馬)