เทพสงครามอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 25-26

ตอนที่ 25-26

บทที่ 25 อธิบาย
ไม่มีใครคาดถึงเลย ไอ้หนุ่มน้อยที่ไม่โดดเด่นตรงหน้านี้ คนบ้านนอกในสายตาของพวกเขานี้
คาดไม่ถึงว่าแค่ระหว่างที่พลิกฝ่ามือเท่านั้น ก็ทำลายตระกูลจ้าวไปแล้ว!
ในเวลาเพียงแค่ห้านาที ก็ทำให้ตระกูลจ้าวล้มละลาย!
ในความตกใจที่เกิน ทุกคนมีข้อสงสัยเดียวกัน
เย่เทียน ยังมีสถานะอะไรอีก?
เพราะว่า พวกเขาเห็นบนใบหน้าของเย่น่า ได้เห็นความตกตะลึงที่เหมือนกันด้วย!
สุดท้าย เย่เทียนได้วางแก้วชาลง ลุกยืนขึ้นอย่างเบาๆ!
“นาย ขอโทษเสี่ยวน่า!”
น้ำเสียงที่ธรรมดา แต่กลับเถียงอะไรไม่ออกเลย
“นับประสาอะไร? ฉัน.……”
ปั้ง!
จ้าวหยางยังพูดไม่จบ กลับโดนตบกระเด็นบินออกไปโดยตรง!
น้ำเลือดและฟัน อ้วกเต็มพื้นไปหมด!
“นาย,นาย……”
จ้าวหยางตกใจอย่างสุดขีด เขาได้สัมผัสถึงความอาฆาต ในบนตัวของเย่ทียน!
ส่วนโจวหมิงฮุยกับซุนเหวินนั้น ตกใจจนวิญญาณหลุดลอยออกไปนานแล้ว!
“นายยังมีโอกาสครั้งสุดท้าย ไม่อย่างนั้น ฉันไม่สนว่านายจะให้คุณได้รับผลเหมือนหูเฉวียนไป!”
บูม!
เมื่อเสียงจบลง หัวสมองของหลายคนเหมือนดั่งจะระเบิดแตกอย่างนั้นแหละ!
คำพูดของเย่เทียนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรที่ยอมรับว่า ตระกูลหู ก็ล้มลงอยู่ในมือของเขา!
และชายหนุ่มผู้เป็นเหมือนเทพในปากของจ้าวหยางนั้น ก็คือเย่เทียน!
โจวหมิงฮุยอ่อนไปทั้งร่าง เกือบตกใจจนเป็นลมไป
นึกถึงคำโอ้อวดต่อหน้าเย่เทียน นึกถึงคำพูดที่เคยพูด
โจวหมิงฮุยแทบอดไม่ไหวตบปากตัวเอง!
ที่แท้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวเองก็เป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น!
ตอนนี้เขากลับโชคดี ถ้าหากเมื่อกี้ล่วงเกินมากไปล่ะก็ ผลที่ตามมา จะแย่กว่าจ้าวหยางไหม?
“นี่ นาย ฉัน……”
ภายใต้ความกลัวในลึกๆ คำพูดของจ้าวหยางกลับพูดวกไปวนมา
ก็ว่าล่ะ ไม่แปลกใจเลย!
ขณะตระกูลหูก็ยังดับในมือของเย่เทียน อย่าว่าแต่ตระกูลจ้าวเลย?
จ้าวหยางอดไม่ไหวที่จะบีบคอตัวเองให้ตายไปเลย
เป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเพราะความใคร่ชั่วขณะ กลับรุกรานถึงท่านพระองค์ใหญ่นี้!
ตระกูลจ้าว ดับไปอย่างนี้เลยเหรอ!
จ้าวหยางรู้สึกเสียใจมาก แต่น่าเสียดาย ก็ไร้ประโยชน์แล้ว!
“น่าน่า.……ไม่ไม่ คุณหนูเย่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันมีความผิด ฉันขอโทษ ก้มหัวกราบ ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ ขอร้องคุณ……”
เสียงของจ้าวหยางมีเสียงร้องไห้ด้วย ก้มหัวร้องขออ้อนวอนเย่น่าไม่หยุด
กับความเย่อหยิ่งและครอบงำเมื่อกี้ ทั้งสองสิ่งแตกต่างกันทั้งสองอย่าง
เย่น่ารู้สึกกระสับกระส่ายไม่รู้ต้องทำยังไง ได้แต่มองไปที่เย่เทียน!
เย่เทียนมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เอียงหัว สายตามองไปที่โจวหมิงฮุยและซุนเหวิน
“เย่ คุณเย่ ก่อนหน้านี้เป็นพวกเราเองที่ผิด คุณเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเอื้ออารี ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ!”
ได้สัมผัสถึงสายตาที่เย็นชาของเย่เทียน โจวหมิงฮุยและซุนเหวินสีหน้าซัดขาวทันที รีบร้องขอชีวิตทันที
เย่เทียนไม่ได้ตอบอะไร สายตามองไปที่เย่น่า
“เสี่ยวน่า จะฆ่าหรือจะไว้ชีวิต คุณตัดสินใจเองนะ!”
โจวหมิงฮุยกับซุนน่าถึงกับใจสั่น รีบมองไปที่เย่น่า ด้วยสายตาที่อธิษฐาน
เย่น่าลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็ส่ายหัว
“พี่เย่เทียน ฉันว่าช่างมันเถอะ ยังไงซะก็ยังไม่เกิดเรื่องอะไร!”
“ใช่ๆ เสี่ยวน่าพูดถูก คุณก็คิดว่าพวกเราเป็นตดที่คุณตดออกมาก็พอ!”
“คุณวางใจได้ ต่อไปถ้าพวกเราเจอคุณกับเสี่ยวน่า จำต้องเดินอ้อมให้แน่!”
สองคนรีบขอร้องไว้ชีวิต เมื่อเย่เทียนเห็นแล้ว ก็ปิดปากไปทันที
“ต่อไป ฉันไม่ต้องการให้ใครมาทำไม่ดีต่อเสี่ยวน่า ไม่อย่างนั้น……”
ปั้ง!
ไม่มีสัญญาณใดๆ จู่ๆแก้วน้ำที่อยู่ใกล้โจวหมิงฮุยก็ระเบิดออก
ทำให้เขาตกใจจนนั่งลงกับพื้นอย่างเต็มก้น
ส่วนซุนเหวินนั้น ตกใจกลัวจนร้องไห้นานแล้ว!
ทั้งเหตุการณ์เงียบสงบไม่มีเสียง มีแค่ซุนเหวินที่มีเสียงสะอื้นเบาๆ
“ไปเถอะ ฉันส่งคุณกลับบ้าน!”
เย่น่าตอบเสียงอืมไปทีหนึ่ง อยู่ตรงหน้าเย่เทียน ก็เหมือนเด็กน้อยที่ทำความผิด
เพิ่งยกเท้าขึ้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เมื่อเย่น่ากำลังรับสายขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้”
เห็นเธอเป็นอย่างนี้ เย่เทียนก็ขมวดคิ้ว: “เกิดอะไรขึ้น?”
เย่น่าวางสายลง สีหน้าดูลุกลี้ลุกลนมาก: “คนของตระกูลหลินได้ยกโลงศพของหลินฮุยมาหาถึงบ้าน ว่า ให้คุณให้คำอธิบายหน่อย!”
“คำอธิบาย?”
เย่เทียนฮัมเสียงเบา ดวงตาเปร่งประกายสารสำคัญออกมาที่ไม่เหลืออะไร!
เมื่อขยับเท้า ร่างกายลวงตาชั่วขณะ แค่ในชั่วพริบตา ก็ไม่เห็นเงาอะไรแล้ว
ฟู่!
โจวหมิงฮุยและทั้งสามคนหนังศีรษะเริ่มชา รู้สึกแค่ว่าได้เดินผ่านนรกมาหนหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเย่เทียนได้จากไปแล้ว ความรู้สึกที่หวาดกลัวนั้น ก็ยังคงอยู่ไม่ไปไหน
“เย่จิ้งซาน รีบส่งตัวไอ้เด็กเวรเย่เทียนนั้นออกมา ไม่อย่างนั้น ฉันจะฝังศพทั่วทั้งตระกูลเย่ไปพร้อมกันเลย!”
ตรงประตูทางเข้าของตระกูลเย่ ถูกคนล้อมรอบอย่างแน่นหนา
อยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ มีโลงศพดำหนึ่งโลง มีความรู้สึกน่ากลัวมาก
ข้างโลงศพ ผู้นำตระกูลหลินหลินกว่างเซิน ก็คือพ่อของหลินฮุย ดวงตาบวมแดง กัดฟันแน่น
ที่อยู่ข้างกายเขา คือหลินเสว่ที่โศกเศร้าเสียใจมาก สวีเทียนหมิงก็ประหลาดใจอยู่ด้านข้าง!
ตรงหน้าโลงศพ หลินกว่างฝูน้องชายแท้ๆของหลินเซิน กำลังตะโกนด่าตระกูลเย่อย่างเสียงดัง!
“เย่จิ้งซาน คุณมันไอ้คนขี้ขลาด ทำไมไม่กล้าออกมาแล้ว?”
“เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะเผาบ้านไม่ดีนี้ด้วยไฟ?”
เสียงดังเอี๊ยด!
ตะโกนด่าไปสิบกว่านาที สุดท้ายประตูของตระกูลเย่ก็เปิดออก เย่จิ้งซานก้าวออกมาคนเดียว!
“หลินกว่างเซิน หลินกว่างฝู นี่พวกคุณหมายความว่าอะไร?”
หลินกว่างฝูหัวเราะเย็นชา: “คุณตาบอดรึไง? ลูกเลี้ยงของคุณเย่เทียน ช่างกล้ามานัก กล้าฆ่าหลานของฉันอย่างโหดเหี้ยม คุณจะไม่ให้คำอธิบายหน่อยเหรอ?”
เย่จิ้งซานตอบด้วยเสียงเย็นชา: “คำอธิบาย? หลานของคุณมันสมควรตาย คุณอยากได้คำอธิบายอะไร?”
ตระกูลหลิน ก่อนหน้านั้นแม้กระทั่งครอบครัวอันดับสามก็นับไม่ได้
แต่ลูกสาวคนโตในบ้าน ก็คือพี่สาวของหลินกว่างเซิน กลับถูกหยางไห่ซานจับจองไว้ เข้าร่วมกับตระกูลหยาง
เดิมคิดว่าตระกูลหลินจะเติบโตได้เพราะสิ่งนี้ แต่เพิ่งแต่งเข้าไปไม่นาน ก็ป่วยตายซะแล้ว
ตระกูลหลินพึ่งได้เพียงศักดิ์ศรีที่คงอยู่เพียงน้อยนิด ที่จะคงอยู่ต่อไป
จนมาถึงเมื่อหนึ่งปีก่อน จู่ๆหลินเสว่ก็หมั้นกับคุณชายรองของตระกูลสวี ถึงได้รับความกระตุ้นจากตระกูลสวีจนกลายเป็นครอบครัวอันดับสาม
อาศัยอำนาจของตระกูลสวี แสดงอำนาจไปทุกที่ ได้สร้างความขุ่นเคืองอย่างมากระหว่างคนและเทพ
ดังนั้น สำหรับตระกูลหลิน โดยธรรมดาแล้วเย่จิ้งซานย่อมไม่มีสีหน้าที่ดีอยู่แล้ว
“เย่จิ้งซาน คุณอย่าหาเรื่องตายนะ! ให้เวลาคุณห้านาที รีบเรียกเย่เทียนออกมารับโทษ ไม่อย่างนั้น ตระกูลเย่ของคุณก็ไม่มีความจำเป็นอยู่ต่ออีก”
หลินกว่างฝูมองไปที่สวีเทียนหมิงที่อยู่ด้านหลังไปแวบหนึ่ง มีความมั่นใจมาก
“เพียงแค่คุณเนี่ยนะ? ยังไม่เหมาะสมหรอก!”
เย่จิ้งซานฮัมด้วยเสียงเย็นชา: “รีบไสหัวไปซะ ตระกูลเย่เราไม่ต้อนรับพวกคุณ!”
พูดจบ หันหลังแล้วจะกลับไป กลับเห็นสวีเทียนหมิงก้าวขึ้นมาก้าวหนึ่ง พูดเบาๆ
“ผู้นำเย่ ช่างน่าเกรงขามมากเลยนะ!”
เย่จิ้งซานหยุดเดิน สีหน้ากลับดูไม่ดีในชั่วขณะ
“คุณชายใหญ่สวี!”
ตระกูลเย่ เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลสวี เทียบไม่ได้กับมดเลย
เพียงแค่คำพูดเดียวของตระกูลสวี ก็สามารถทำให้ตระกูลเย่กลับมาฟื้นฟูไม่ได้อีก!
สวีเทียนหมิง หึ่ม ไปทีหนึ่ง: “ตระกูลสวี มีคุณชายเพียงหนึ่งท่านเท่านั้น!”
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุด ก็คือการแยกแยะระหว่างคุณชายใหญ่และคุณชายรอง!
ในใจเย่จิ้งซานเริ่มสั่น เลือกได้แต่ความเงียบ
“เย่จิ้งซาน เย่เทียนได้ฆ่าน้องเขยฉัน เรื่องนี้ ยังไงๆ ก็ต้องมีคำอธิบาย!” สวีเทียนหมิงพูดอย่างเย็นชา
“ไม่ก็ ส่งตัวเย่เทียนออกมา! ไม่ก็ คนของตระกูลเย่คุณ คุกเข่าก้มกราบน้องเขยฉันที่นี่!”
สวีเทียนหมิงหัวเราะเย็นชา เย่เทียนพูดเสียงดังและไม่อาย ให้คนของตระกูลสวีนั้นไปกราบไหว้ที่หลุมศพของสวีเทียนเฉิง!
และตอนนี้ เขาก็จะให้คนของตระกูลเย่ ทั้งหมดก้มลงอยู่ตรงหน้า

บทที่ 26 คนของตระกูลสวี ไสหัวไป!
สวีเทียนหมิง เป็นถึงคุณชายของตระกูลสวี อยู่ที่หรงเฉิงย่อมมีชื่อเสียงเป็นธรรมดา!
ทุกการกระทำ ล้วนได้รับความสนใจจากทุกคนทั้งนั้น
ตอนนี้ออกหน้าแทนตระกูลหลินอย่างนี้ ก็ต้องได้รับคำสั่งจากท่านหญิงตระกูลสวี
ดูอย่างนี้แล้ว ตระกูลเย่ จะมีภัยมากกว่าเรื่องดี!
“คุณชายสวี เสี่ยวเทียนไม่ได้อยู่ตรงนี้ พวกคุณคงต้องมาเสียเที่ยวแล้ว” เผชิญหน้ากับสวีเทียนหมิง เย่จิ้งซานไม่กล้าปฏิบัติเหมือนที่ทำกับหลินกว่างฝู
“ฉันรู้!” สวีเทียนหมิงฮัมเสียงไปทีหนึ่ง: “เย่เทียนเป็นลูกของคุณ ลูกไม่รักดีเป็นความผิดของพ่อ เย่เทียนทำความผิด ตระกูลเย่คุณไม่มีความรับผิดชอบเลยหรือยังไง?”
พูดไป คำพูดสวีเทียนหมิงเย็นชาลง: “เย่เทียนไม่อยู่ คนของตระกูลเย่ก็ออกมาคุกเข่ากันก่อน คุกเข่าจนกว่าเย่เทียนจะมา!”
สีหน้าของเย่จิ้งซานนิ่งลงทันที
สวีเทียนหมิงไม่อย่าพูดไร้สาระ ส่งสายตาหนึ่ง หลินกว่างฝูเข้าใจในทันที แล้วกลับมาเย่อหยิ่ง สุขุมอีกครั้ง
“เย่จิ้งซาน ไม่ได้ยินที่คุณชายสวีพูดรึไง? ยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก?”
หลินกว่างฝู หึ่ม เสียงเย็นชาทีหนึ่ง: “ไม่เพียงแค่คุณ และยังมีคนของตระกูลเย่ทั้งหมด รวมทั้งภรรยาและลูกสาวของคุณ แม้เป็นเพียงแค่ผู้เฝ้าประตู ก็ต้องคุกเข่า! คุกเข่าจนกว่าเย่เทียนจะมา! ไม่อย่างนั้น ตระกูลเย่ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ต่อไปแล้ว”
ถูกคนชี้จมูกด่า เย่จิ้งซานโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว แต่ก็สามารถแค่ระงับความโกรธไว้ ไม่พูดสักคำ
ถ้าหากมีแค่ตระกูลหลิน เขาก็ไม่ได้กลัว
แต่ตระกูลสวี แข็งแกร่งจนให้คนสิ้นหวัง!
“เย่จิ้งซาน ให้หน้าคุณ คุณยังไม่รักษาหน้าอีก? ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันช่วยคุณได้!”
เห็นเย่ซานไม่แม้แต่จะขยับ หลินกว่างฝูตะโกนด้วยความโกรธไปที ยกเท้าขึ้นแล้วถีบไปที่หัวเข่าของเขา!
“ถ้าคุณถีบลงไปล่ะก็ เท้าคู่นี้ก็จะไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป”
เสียงที่เย็นชาได้ดังขึ้น ร่างของเย่เทียนปรากฏอย่างไม่มีสัญญาณ ทั้งให้ทุกคนตกใจหมดเลย
“คุณอา คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เย่เทียนมองไปที่เย่จิ้งซาน สายตาเย็นชาน่ากลัว
เย่จิ้งซานส่ายหัวเล็กน้อย ตามด้วยถอนหายใจยาวๆ: “เสี่ยวเทียน นายไม่ควรมา!”
เย่เทียนย่อมรู้ความหมายของเขาอยู่แล้ว
“วางใจได้ ตรงนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง!”
“คุณคือเย่เทียนที่ฆ่าหลานชายฉัน?” หลินกว่างฝูได้รับสัญญาณทางสายตาจากสวีเทียนหมิง ตั้งคำถามตำหนิเย่เทียนก่อน
เย่เทียนไม่ได้ตอบ ม่านตาที่เย็นชากวาดไปทั่วทั้งที่เกิดเหตุ!
“คนของตระกูลสวี ไสหัวไป!”
ฟู่!
ทุกคนกลับสูดลมหายใจเย็นไปที
ไม่พูดอะไร กลับให้คนของตระกูลสวีส่ายหัวไป เย่เทียนนี้ เย่อหยิ่งจริงๆ
สวีเทียนหมิงถูกจ้องมองด้วยเย่เทียน ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เย่เทียนนี้ ก็ยังหยิ่งผยองอย่างนี้ นึกว่าคนของตระกูลสวีจะรังเกง่ายๆงั้นเหรอ?
“ช่างกล้ามาก!” หลินกว่างฝูรู้ดี นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเอาใจของตระกูลสวี ชี้ไปที่จมูกของเย่เทียนด่ากราดขึ้นมา
“ไอ้หนุ่ม คุณพูดกับคุณชายสวียังไง? ยังไม่รีบ……”
ซั่ว!
เห็นแค่นิ้วชี้ของเย่เทียนลูบไปเบาๆ
เสียงฟู่ทีหนึ่ง มือขวาของหลินกว่างฝูถูกหักออกอย่างเป็นระเบียบ!
“อ๊าก มือของฉัน ไอ้บ้าเย่เทียน อ๊าก……”
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้หลินกว่างฝูล้มลงอยู่ที่พื้น มีเสียงกรีดร้องเหมือนฆ่าหมูออกมา
เห็นแค่เลือดที่ท่วมอยู่บนร่างกายเขา ดูแล้วน่ากลัวมาก!
“เย่เทียน คุณแน่มาก.……”
ป้าบ!
สวีเทียนหมิงเพิ่งจะเริ่มพูด ก็โดนเย่เทียนตบกระเด็นอยู่บนพื้นแล้ว
ทุกคนต่างตกตะลึงมาก!
เย่เทียนนี้ กล้าที่จะลงมือกับคุณชายใหญ่ของตระกูลสวี?
ไม่กลัวตายจริงๆเหรอนั่น?
“สวีเทียนหมิง ฉันยังจะเก็บนายไว้เพื่อไปสำนึกผิดต่อสวีเทียนเฉิง!”
เย่เทียนมองข้ามหลินกว่างฝูไปโดยตรง สายตามองไปที่สวีเทียนหมิง
“ดังนั้น ไสหัวไป!”
สวีเทียนหมิงจับแก้มไว้ โกรธจนตัวสั่น
ภายใต้สายตาทุกคน กลับถูกเย่เทียนตบจนกระเด็นออก
ศักดิ์ศรีที่เขาเป็นคุณชายของตระกูลสวี เกรงว่าจะพังลงในครั้งนี้แล้ว
“เย่เทียน คุณอย่าได้ใจไป ลำพังแค่คุณคนเดียว คิดว่าเป็นศัตรูกับทั้งหรงเฉิงเลยรึยังไง?” สวีเทียนหมิงบีบคำพูดออกมาจากซอกฟัน
สายตาของเย่เทียนเย็นลงทันที
“ฉันไม่สนหรอกขอเก็บดอกเบี้ยก่อนละกัน!”
พูดไป จ้องไปที่ข้อมือของสวีเทียนหมิง ยกเท้าขึ้นกำลังจะเหยียบลงไป
“ชายหนุ่ม ถ้าให้อภัยได้โปรดปล่อยวางไป! ไม่อย่างนั้น จะหาไฟใส่ตัวเองได้!”
จู่ๆก็มีเสียงคนแก่ดังขึ้น ตามมาด้วยรอยฝีเท้าที่เงียบนิ่ง สายตาที่ชั่วร้ายหนึ่ง ชายชราใบหน้าที่แก่เดินเข้าไปตรงเย่เทียนอย่างเบาๆ
ดูๆชายชราแล้วน่าจะเจ็ดสิบปีได้ แต่ร่างกายกลับแข็งแรงมาก
แต่ว่าสายตาที่ชั่วร้ายทำให้คนรู้สึกอยู่ไม่สุข!
“คุณปู่ใหญ่? คุณปู่ใหญ่รีบช่วยผมเร็ว รีบจัดการกับไอ้เด็กเวรนี่!”
สีหน้าสวีเทียนหมิงดูมีความสุข ดูเหมือนจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มาช่วย!
คนของตระกูลหลินก็เช่นกัน สวีเว่ยเฟิงปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเอง
เพียงแค่เย่เทียนคนเดียว ความกังวลคืออะไร?
“มีเสียงดังรบกวน!”
เย่เทียนหึ่มเสียงเบาๆ มองข้ามสวีเว่ยเฟิงไป เท้าขวาเหยียบลงไปอย่างแรง
กรอก!
ตามด้วยเสียงกรีดร้องของสวีเทียนหมิง มือขวากลับเย่เทียนเหยียบจนหัก!
“เทียนหมิง.……”
หลินเสว่อุทานออกมา ตกใจจนน้ำตาไหลออกมา
กลัวภายใต้ความโกรธของเย่เทียน จะฆ่าสวีเทียนหมิงไปพร้อมกันด้วย
ส่วนคนของตระกูลสวีนั้น แต่ละคนตัวสั่นไปหมด
ไม่กล้าเงยหน้า!
“หึ่ม ชายหนุ่ม ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
สวีเว่ยเฟิงเสียงต่ำนิ่ง ด้วยความโกรธที่สุดขีด
สายตาจ้องตรงไปที่เย่เทียน เหมือนผู้ที่อยู่เหนือกว่า
อยากใช้แรงอำนาจกดดันเย่เทียน เพื่อให้ตัวเองดำเนินการต่อได้
“ตรงนี้ไม่มีที่ให้คุณพูด!”
จู่ๆสายตาของเย่เทียนก็หันไป ม่านตาที่เย็นชาจ้องไปที่สวีเว่ยเฟิง
สวีเว่ยเฟิงรู้สึกแค่ว่าเย็นไปทั้งตัว ถูกแรงอำนาจบนตัวเย่เทียนทำให้ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว
“สมควรตาย!”
สายตาที่น่ากลัวมาก ถึงแม้จะเป็นเขา ก็ไม่สามารถรับมันได้!
ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เป็นใครกันแน่?
“ไอ้หนุ่ม กล้าท้าทายพลังของตระกูลสวี นายนี่มันหาเรื่องตายจริงๆ!”
ว่าไป มือล้วงลงไปเบาๆ
หัวปืนสีดำๆ ชี้ไปที่หว่างคิ้วของเย่เทียนพอดี
“ได้ยินว่านายเก่งมาก? ตอนนี้ เป็นสมัยที่อาวุธมาแรง แม้แต่จุดนี้คุณจะไม่รู้ได้ยังไง?”
สวีเว่ยเฟิงหัวเราะเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยคำเยาะเย้ย!
สวีเทียนหมิงทนความเจ็บปวดที่รุนแรง สายตาเต็มไปด้วยความเกลียด
เย่เทียน ถึงแม้ว่านายจะเก่า ยังสามารถหลบกระสุนได้งั้นเหรอ?
นายตายแน่!
“คุณสามารถลองดูได้!”
เสียงของเย่เทียนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เงียบจนน่ากลัว!
สวีเว่ยเฟิงสายตาเย็นชาขึ้นทันที!
ปั้ง!
เสียงปืนดังขึ้น ผู้คนต่างตกใจหมด ตามด้วยหัวเราะที่เย็นชา
กำลังจะดูภาพตายของเย่เทียน แต่ตรงหน้าไม่มีแม้แต่เงาของเย่เทียน?
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทุกคนต่างมึนงงหมด!
สวีเว่ยเฟิงขมวดคิ้ว รู้ว่าลางไม่ดี รีบหันหลังทันที กลับเห็นเย่เทียนยืนอยู่ด้านหลังอย่างไม่มีทีท่าว่าเป็นอะไร
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
สวีเว่ยเฟิงตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปหมด ภายใต้ความเร่งรีบและพลุกพล่านนั้น เพิ่งจะยกปืนขึ้น จู่ๆมือก็ปวดแสบขึ้น ปืนที่อยู่ในมือกลับไปอยู่ที่มือเย่เทียนแล้ว!
“ของสิ่งนี้ ไม่ได้เล่นอย่างนี้ซะหน่อย!”
เสียงของเย่เทียนค่อนข้างขี้เล่น
ขยับมือเล็กน้อย บดบีบไม่กี่ครั้ง ปืนดีๆ กลับกลายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆไปแล้ว!
สายตาของทุกคนเบิกกว้างทันที เห็นแค่มือทั้งคู่ของเย่เทียนขยับแค่ครู่เดียว แค่เวลาในชั่วขณะเท่านั้น กลับทำให้กลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง!
อัศจรรย์มาก!
ปั้ง!
เสียงปืนที่ดังขึ้นกะทันหัน ทำให้ทุกคนตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด
กระสุนที่เย็นเฉียดผ่านหน้าผากของสวีเว่ยเฟิงไป ทิ้งรอยเลือดที่ละเอียดไว้!
สีหน้าของสวีเว่ยเฟิงซีดขาวขึ้นมาทันใด อ่อนตัวไปทั้งร่าง
อีกแค่นิดเดียว หัวของเขาก็จะระเบิดออก!
เย่เทียนคนนี้ ฝีมือที่รวดเร็วมาก
“เย่ คุณเย่ ผู้น้อยสวีเว่ยเฟิง!มาในครั้งนี้ จะมา……คือจะมาสร้างสันติภาพกับคุณ……”
สวีเว่ยเฟิงถูกมำให้ตกใจไม่เบา ได้แต่เอ่ยปากออกไปอย่างหัวแข็ง เสียงก็ยังสั่นไปด้วย!
“คุณท่านวางใจ ตระกูลสวีสามารถส่งตัวสวีเทียนหมิงกับหลินเสว่ให้คุณท่านไปจัดการ และรับประกันว่า.……”
“ถ้าคุณยังพูดอีกคำ ฉันรับประกันว่าคุณจะไม่เห็นพระอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้อีก!”
คำพูดของเย่เทียนมีความเยือกเย็นอยู่ด้วย ออกแรงที่มือ ปืนพกสีดำกลายเป็นกองเศษเหล็กไปแล้ว!
สวีเว่ยเฟิงใจสั่นขึ้น กล้าแต่ปิดปากอย่างเชื่อฟัง
ตอนนี้กลัวแล้ว อยากร้องขอชีวิต?
ฝันไปเถอะ!
หนี้เลือด ต้องชำระด้วยเลือด!
ทุกคนต่างกังวลไม่กล้าพูด!
ภายในใจที่กลัวที่สุด ก็คือสวีเทียนหมิง!
คุณปู่ใหญ่สวีเว่ยเฟิง เป็นถึงผู้ก่อตั้งของตระกูลสวี เป็นราชาผู้แข็งแกร่งของโลกใต้ดินในหรงเฉิงของสมัยก่อนหน้า!
ถึงแม้ว่าคุณย่าของตัวเองมาพบเจอ ก็ต้องขันว่าพี่ชายด้วยความเคารพ!
แม้จะไม่ได้ให้เห็นหน้ามาหลายปี แต่ชื่อเสียงก็ยังคงอยู่!
แต่ในตอนนี้ แม้แต่เขา ก็ไม่สามารถทำให้เย่เทียนตกใจได้!
หรือว่าตระกูลสวี ต้องถูกล้มล้างเพราะคนคนเดียวที่ตายไปแล้วงั้นเหรอ?
สวีเทียนหมิงกัดฟันไว้ ในใจไม่พอใจอย่างมาก!
เย่เทียนได้สติกลับมา กวาดสายตามองไปอีกครั้ง!
“คนของตระกูลสวี ไสหัวไป!”

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

Status: Ongoing

เขตชายแดนประเทศหลงประสบกับการรุกราน ผู้รุกรานมีมหาอำนาจตะวันตกคอยหนุนหลังอยู่ผ่านการฟันฝ่าสู้รบมา10ปี ความวุ่นวายในเขตชายแดนถูกกวาดล้างเย่เทียนกลายเป็นจอมพลสี่ดาวที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งประเทศหลงถูกองค์กรกลยุทธ์การรบโลกพิจารณาและคัดเลือกเป็นหนึ่งในสิบมหาเทพสงครามของยุคใหม่ในขณะเดียวกัน กลับสู่บ้านเกิด ล้างอธรรมให้เพื่อน ตามหาพื้นเพประสบการณ์ในชีวิตของตน เรียกความยุติธรรมคืนให้กับแม่!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท