ตอนที่ 347 คนที่ถูกทอดทิ้ง
ตอนที่ 347 คนที่ถูกทอดทิ้ง
อวี้ชิงลั่วแค่นหัวเราะด้วยสีหน้าอึมครึม เดิมทีนางไม่ได้คิดจะสร้างปัญหาให้หลี่หรานหร่านเร็วเช่นนี้ เพียงแต่เมื่อสองวันก่อน ตนกลับไปเจอกับอวี้เจี้ยนต๋าโดยไม่ทันตั้งตัว แม้จะเคยเตือนไม่ให้เขาพูดออกไป แต่ก็มิอาจรับประกันได้ว่าเรื่องตัวตนของนางจะไม่รั่วไหล
อีกอย่างหลี่หรานหร่านผู้นี้ก็เป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้นางก่อน
เยว่ซินเดินตามอยู่ด้านหลังนาง ก่อนหน้านี้บนรถม้า คุณหนูได้สั่งให้นางลงมือทำบางอย่าง เพียงแค่คิดนางก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
เรือนของหลี่หรานหร่านอยู่ห่างจากเรือนของอวี๋จั้วหลินไม่ไกล อวี้ชิงลั่วพาเยว่ซินเดินมาได้ไม่นาน ก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูเรือนของหลี่หรานหร่านแล้ว
หญิงเฒ่าที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ด้านนอกเห็นนางเดินมา นางทราบว่าอวี้ชิงลั่วเป็นแขกคนสำคัญของฮูหยินใหญ่และนายน้อย มิควรสร้างความขุ่นเคือง นางจึงหมุนกายวิ่งเข้าประตูเพื่อไปรายงานด้านในทันที
อวี้ชิงลั่วหลุบสายตาพลางยกยิ้มเบา ๆ นางเท้าก้าวเดินเข้าไปด้านใน โดยไม่สนใจท่าทางของหญิงเฒ่าอีกคนที่ทำท่าจะยกมือขึ้นมาขวาง
“คุณหนูอวี๋ คุณหนูอวี๋? ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่? เมื่อครู่ข้าเห็นสีหน้าของท่านดูเขียว ๆ ราวกับว่าร่างกายไม่ค่อยสดชื่นนัก จึงบอกฮูหยินใหญ่และแวะมาดูอาการของคุณหนูอวี๋”
อวี้ชิงลั่วพูดพลางก้าวเท้าเดินเข้ามาด้านใน นางเป็นคนมีฝีมือ หากหญิงเฒ่าผู้นั้นคิดจะรั้งก็คงรั้งไว้ไม่อยู่
เมื่อสิ้นเสียงกล่าว นางก็เดินมาถึงหน้าประตูห้องแล้ว
สุ่ยเหวินเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม “แม่นางชิง ท่านมาที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ? คุณหนูของเรากำลังพักผ่อนอยู่เจ้าค่ะ”
“พักผ่อนแล้วรึ?” เท้าของอวี้ชิงลั่วชะงักไปเล็กน้อย เพียงแต่สีหน้านั้นกลับดูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก “ล้มป่วยอีกแล้วงั้นสิ? เฮ้อ เช่นนั้นข้ายิ่งต้องเข้าไปดู จะปล่อยให้คุณหนูอวี๋เป็นอะไรไปมิได้”
ระหว่างที่อวี้ชิงลั่วพูด นางก็ยื่นมือผลักสุ่ยเหวินออกไป
สุ่ยเหวินรู้สึกชาที่บริเวณข้อศอก ยังไม่ทันได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่าอวี้ชิงลั่วแหวกม่านเดินเข้าไปในห้องแล้ว
นางถึงกับตกใจ รีบก้าวเท้าเดินตามเข้าไป ทว่าอวี้ชิงลั่วได้มายืนอยู่ตรงหน้าต่างของหลี่หรานหร่านแล้ว
“คุณหนูอวี๋ ให้ข้าจับชีพจรให้เถิด” อวี้ชิงลั่วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงของนางอย่างเป็นธรรมชาติ
หลี่หรานหร่านส่ายหน้า ท่าทางดูเหมือนจะอ่อนแอจริง ๆ “ขอบคุณแม่นางชิงสำหรับความหวังดี ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่เมื่อวานพี่ใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงเกิดความกังวลใจ ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ตอนนี้รู้สึกง่วงนอนก็เท่านั้น ไม่ได้รู้สึกไม่สบาย”
แม้ในใจจะลอบขบฟันอยากกำจัดอวี้ชิงลั่วโดยเร็ว ทว่ายังต้องแสดงท่าทางภายนอกให้ดูเป็นปกติ หลี่หรานหร่านก้มศีรษะลงเล็กน้อย ปิดซ่อนนัยน์ตาเหี้ยมโหด แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
อวี้ชิงลั่วแย้มยิ้มขึ้นมา “คุณหนูอวี๋ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องคุณชายอวี๋ ข้าเห็นสีหน้าของคุณหนูไม่ค่อยดีนัก ข้าจึงเป็นกังวลใจ คุณชายอวี๋เป็นห่วงน้องสาวอย่างท่านเช่นนี้ ก็ย่อมทะนุถนอมท่านเป็นอย่างมาก หากคุณหนูอวี๋เป็นอะไรขึ้นมา คุณชายอวี๋ย่อมปวดใจ”
หลี่หรานหร่านแค่นเสียงแหบแห้ง มือที่วางอยู่ใต้ผ้าห่มลอบกำเข้าหากันจนแน่น เมื่อครู่เขาขับไล่นางเสียชัดเจนขนาดนั้น หรือว่าสตรีโง่เขลาผู้นี้กลับฟังไม่ออก?
“หากคุณหนูอวี๋…เอ๋ ข้าขอเรียนท่านว่าหรานหร่านได้หรือไม่?” อวี้ชิงลั่วไม่มองสีหน้าของนาง และยังคงพูดอย่างร่าเริงว่า “ถึงอย่างไรพวกเราก็ถือว่าคุ้นเคยกันแล้ว หลังจากนี้ บางที…ความสัมพันธ์อาจจะดียิ่งกว่านี้ คงไม่ต้องเรียกกันให้ห่างเหินเกินไป เช่นนั้น ข้าเองก็เรียกท่านแบบเดียวกับคุณชายอวี๋ก็แล้วกัน…น้องสาว”
อวี้ชิงลั่วพูดพลางก้มหน้า ท่าทางของนางดูสุดแสนจะเหนียมอาย
หลี่หรานหร่านได้เห็นท่าทางเหล่านั้นก็เกิดอาการไฟสุมทรวง นางเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาฉายแววเคร่งขรึมวาบผ่าน น้ำเสียงก็เย็นชาลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ “แม่นางชิงเรียกข้าว่า…”
“ตอนนี้น้องสาวก็เรียกข้าว่าพี่สาวเถิด คำเรียกอื่น…หลังจากนี้ หลังจากนี้ค่อยเปลี่ยนก็ยังได้” อวี้ชิงลั่วไม่รอให้นางกล่าวจบ ก็พูดแทรกนางทันที
หลี่หรานหร่านกำมือแน่น คำเรียกอื่น? คำเรียกอื่น? หรืออวี้ชิงลั่วคิดจะเป็นพี่สะใภ้ของนางจริง ๆ? สตรีผู้นี้ช่างไร้ยางอายถึงขีดสุดนัก จนถึงตอนนี้อวี๋จั้วหลินก็ยังไม่เคยพูดอะไร นางทำเช่นนี้ไม่กลัวตนเองจะเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออย่างไร?
เยว่ซินที่ยืนอยู่ด้านหลังอวี้ชิงลั่วเหลือบเห็นมุมปากของหลี่หรานหร่านขึงตึง ในใจก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมา หากหลี่หรานหร่านผู้นี้อาละวาดก็จะอยู่ในท่าทางเช่นนี้ หากนางอาละวาดขึ้นมาจริง ๆ เช่นนั้นก็คงไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าใครก็ต้องทุกข์ทรมานกันถ้วนหน้า
คุณหนูเจ้าคะ ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าจะทำเช่นนี้?
“น้องสาว” อวี้ชิงลั่วกลับทำราวกับกลัวไฟยังลุกโหมไม่มากพอ จึงเติมน้ำมันเพิ่มเข้าไปอีก “พี่ไม่เคยมีสหายเลย ได้เจอกับน้องสาวครั้งแรกกลับรู้สึกสนิทสนมราวกับเป็นสหายเก่าแก่มานาน หลังจากนี้พวกเราก็สามารถพูดคุยกันให้มาก ๆ ได้แล้ว… รอ… รอให้คุณชายอวี๋พูดกับท่านพ่อและท่านแม่ของพี่เรื่องงานแต่งเมื่อใด หลังจากนี้พวกเรา… ก็จะ… ก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว พี่บอกน้องสาวตรง ๆ เลยนะ เป็นเรื่องยากเหลือคณาที่จะได้เห็นบุรุษรูปงามที่โดดเด่นอย่างคุณชายอวี๋ ท่านพ่อและท่านแม่ของพี่ย่อมต้องชอบเขาเป็นแน่”
เยว่ซินกลั้นขำจนตัวสั่นระริก คุณหนูพูดเช่นนี้… ไร้ยางอายถึงขีดสุดจริง ๆ ทั่วทั้งเมืองหลวง ยังจะมีสตรีที่ยังไม่หมั้นหมายคนใดที่มีความกล้าหาญพูดจาเช่นนี้?
ทว่าหลี่หรานหร่านกลับโกรธจนเนื้อตัวสั่นเทา สตรีผู้นี้เป็นหญิงสำส่อนจริง ๆ พูดเช่นนี้โดยไม่กลัวจะถูกจับใส่กรงถ่วงน้ำ บุรุษแบบจั้วหลินจะชอบนางได้อย่างไรกัน?
อวี้ชิงลั่วกลับทำราวกับอ่านใจนางได้ว่ากำลังคิดสิ่งใด จึงกล่าวเสริมหนึ่งประโยคว่า “เมื่อครู่คุณชายอวี๋บอกว่าจะแต่งตั้งสถานะให้พี่ จนถึงตอนนี้พี่ยังใจเต้นตึกตักไม่หาย”
หลี่หรานหร่านรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า เงยหน้ามองนางโดยพลัน “ท่านพูดว่าอะไรนะ? ท่านบอกว่าจั้วหลินจะแต่งตั้งสถานะให้ท่าน?” นางรู้ว่าอวี๋จั้วหลินคิดอย่างไรกับแม่นางชิง แต่คิดไม่ถึงว่าความคิดนี้จะเป็นจริงได้รวดเร็วเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงเลย ข่าวลือที่ปล่อยออกไปในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้อวี๋จั้วหลินห่างเหินสตรีผู้นี้ แต่กลับ…ทำให้พวกเขาทั้งสองคนตัวติดกันยิ่งกว่าเก่า ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
“ใช่แล้ว ทั้งยังพูดต่อหน้าฮูหยินใหญ่ด้วยนะ แม้ว่าข้าจะเป็นเด็กน้อย แต่คำพูดเช่นนี้ ก็ทำให้รู้สึกเขินอายอยู่เหมือนกัน” อวี้ชิงลั่วยังคงก้มหน้าก้มตา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นสายตาของนาง ทว่าปากกลับพูดไม่หยุดพัก “แค่ได้เห็นคุณชายอวี๋ก็ทราบแล้วว่าเป็นบุรุษรักเดียวใจเดียว บอกว่าจะแต่งตั้งสถานะให้พี่ อนาคตก็จะไม่ให้นางมีสตรีผู้ใดอีก แต่พี่เชื่อ ต่อให้พี่เป็นแค่บุตรีของตระกูลธรรมดา คุณชายอวี๋ก็คงไม่มีอนุภรรยา อันที่จริงหากให้พูดแล้ว พี่เองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล หากคุณชายอวี๋มีสตรีอื่น พี่ก็คงใจกว้างต่อเขาด้วย แต่ว่า พี่ชายน้องชายเหล่านั้นของพี่ ต่อให้ปล่อยคุณชายอวี๋ไป ก็คาดว่าคงจะฆ่าสตรีนางอื่นทิ้ง”
หลี่หรานหร่านสูดลมหายใจเข้าปอด สถานะของนาง? ใช่แล้ว ฮูหยินใหญ่เคยพูดไว้ มีความเป็นไปได้สูงยิ่งที่สตรีผู้นี้คือองค์หญิง
ในเมื่อเป็นองค์หญิง หากราชบุตรเขยมีอนุภรรยา มิเท่ากับเป็นการตบหน้าราชวงศ์หรอกหรือ?
หากอวี๋จั้วหลินแต่งงานกับสตรีผู้นี้ เช่นนั้นนาง…ก็คงเป็นได้แค่คนที่ถูกทอดทิ้ง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เรื่องปั่นคนอื่นไว้ใจชิงลั่วได้เลยค่ะ รอดูตอนฉีกหน้ากากนังหรานหร่านนะคะ
ไหหม่า(海馬)