ผู้ที่ทำให้ฉันวุ่นวายใจ ฆ่า!
ผู้ที่ทำให้ฉันกังวลใจ ฆ่า!
ผู้ที่ขัดใจฉัน ฆ่า!
…
เมื่อเสาศํกดิ์สิทธิ์พุ่งลงมา มันมีน้ำหนักถึงหนึ่งหมื่นชั่งสามารถทำลายทุกอย่างได้
ดาวอสุราเป็นสถานที่ที่อาชญากรถูกส่งตัวไป ไม่มีอารยธรรมหรือความสงบเรียบร้อยที่นี่ กฎหมายที่โหดร้ายของป่าคือทุกสิ่ง คนอ่อนแอเป็นอาหารสำหรับคนเข้มแข็ง
ในเวลานี้เฟิงหลินเลือกที่จะละทิ้งเหตุผลและศีลธรรมของเขา ไม่มีสิ่งรบกวนในใจเขาเข้าสู่สภาวะที่สมบูรณ์แบบ
กฎถูกกำหนดโดยผู้ที่แข็งแกร่ง ผู้อ่อนแอทำได้เพียงทำตาม
เขาจะฆ่ามนุษย์แล้วยังไง?
ผู้เชี่ยวชาญคืออะไร?
ผู้เชี่ยวชาญไม่เพียงแต่มีอำนาจอยู่ยงคงกระพัน แต่ยังต้องมีสถานะที่อยู่ยงคงกระพันด้วย
ตราบใดที่สภาพจิตใจของเขาไม่ถูกรบกวน จะมีศัตรูในโลกได้ยังไง?
เมื่อเสาโลหะตกลงมาผู้คนในสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ก็รู้สึกราวกับว่าวันโลกาวินาศมาถึงแล้ว จิตสังหารที่ออกมาจากเฟิงหลินกลืนพวกเขาด้วยความเย็นที่ซึมเข้ากระดูก พวกเขาไม่มีทางต้านทาน
“แกสมควรตาย!” ชายหนุ่มหน้ากลมที่มีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด สะบัดตัวออกเป็นอิสระจากพลังจิตของเฟิงหลิน ใบหน้าของเขาดุร้ายและคำราม “ส่งพลังทั้งหมดของพวกแกมาให้ฉัน!”
คนที่อยู่ข้างหลังขยับ ถ่ายโอนพลังงานไปยังร่างกายของเขา พลังพันธุกรรมจากพวกเขาทั้งหมดได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน สถานะพลังชีวิตของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความผันผวนทำให้เกิดแสงที่โค้งงอและทำให้พื้นที่รอบตัวเขามีประกายระยิบระยับ
สถานะ 110, 120, 130 … การรวมพลังทำให้สถานะพลังของเขาทะลุขีดจำกัด 100 สำหรับผู้บ่มเพาะหว่างดวงดาว มันยังคงเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่แม้แต่เฟิงหลินยังรู้สึกกดดัน เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความสามารถนี้คืออะไร
“เชิงเทินจักรวรรดิเทวะ!” ชายหนุ่มหน้ากลมคำราม ฝ่ามือของเขาแผ่ออกไปด้านข้าง คลื่นพลังงานหมุนตัวออกมาเผยให้เห็นเชิงเทินรูปพระจันทร์เสี้ยวที่อยู่เหนือพวกเขา
บูมม!
กำแพงดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เสาโลหะกระแทกอย่างหนักและการโจมตีครั้งนี้ของเฟิงหลินก็ล้มเหลว ไม่สามารถแยกกำแพงออกจากกัน ความสามารถนี้เปรียบเหมือนกำแพงที่แท้จริงของจักรวรรดิเทวะที่อยู่เหนือดวงดาว มนุษย์จะสร้างความเสียหายกับมันได้ยังไง?
“เฟิงหลินก่อนหน้านี้ที่แกโจมตีเราได้สำเร็จเพราะการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แกคิดว่าแกจะยังมีโอกาสครั้งที่สองอีกหรือไง?ต่อหน้าสิ่งนี้ การโจมตีทั้งหมดของแกจะเปล่าประโยชน์ จะดีกว่าถ้าแกเลิกพยายาม…” ชายหนุ่มหน้ากลมพึงพอใจราวกับว่าเขาชนะการต่อสู้ไปแล้ว
“โอ้?” เฟิงหลินยิ้มอย่างเย็นชา เขาไม่สามารถฟังคนพูดจาไร้สาระได้อีกต่อไป เขาคว้าเสาศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น และตะโกนว่า “ขยาย!”
ในขณะที่เสียงของเขาดังขึ้น เสาโลหะก็ขยายขนาด เฟิงหลินส่งพลังวิญญาณออกไป ตัดสินรูปแบบและขนาดของเสา
มันสามารถกลายเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาที่หนุนทั้งทวีปหรืออาจเป็นเพียงเข็มปักขนาดเล็กราวกับเส้นผมบางซ่อนอยู่ในหูของเขา
ยิ่งรูปแบบยิ่งใหญ่เฟิงหลินยิ่งต้องพลังวิญญาณมากนั้น
เมื่อพิจารณาจากพลังวิญญาณของเฟิงหลินในปัจจุบัน เขาจึงไม่สามารถทำให้เสาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในรูปแบบของเสาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นได้ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนมันเป็นกระบองที่หนาและยาวกว่าสิบเมตรก็ยังเป็นไปได้ พลัง20ตันบดขยี้ลงมาอย่างเผด็จการ การกระทำมักหนักกว่าคำพูด
แคร่ก แคร่กก ~
กระบองเหล็กบดขยี้เข้ากับเชิงเทินจนเกิดเสียงแตก
สีหน้าของชายหนุ่มหน้ากลมบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง รอยร้าวเหมือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นบนกำแพง รอยแตกขยายอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วเท่าระเบิด
การโจมตีนี้จากเฟิงหลินล้วนอัดแน่นในกระบองเหล็ก ไม่มีอะไรรั่วไหลมาแม้แต่น้อย
“หนีเร็ว!” โชคดีที่กำแพงกันไว้ได้ชั่วครู่ ทำให้พวกเขารีบหนีไปคนละทิศคนละทางได้ทัน
“ค่ายกลรังสีหกเหลี่ยม!” กลุ่มของศัตรูยืนอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน มือของพวกมันก่อเป็นท่าทาง พลังงานพันธุกรรมที่ไหลออกมาจากร่างกายเชื่อมต่อถึงกันในหกจุดที่แตกต่าง
รังสีแสงทั้งหกจากหกมม สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่แตกต่างกันหกชนิด – แสง ความมืด ดิน ไฟ ลมและน้ำ!
แสงศักดิ์สิทธิ์สามารถชำระล้าง ความมืดสามารถกลืนกิน ดินคือแรงโน้มถ่วง ไฟที่ลุกโชติช่วง น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ลมสามารถกัดกร่อน … พลังงานที่แตกต่างกันเหล่านี้ผสมเข้าด้วยกันเป็นวังวนพลังงานยักษ์ที่ให้ความรู้สึกโกลาหล
เฟิงหลินเข้าไปใกล้ช้าๆ ในทันทีพลังงานจากวังวนก็สาดใส่เขา เขารู้สึกราวกับว่ามีเข็มหนึ่งพันเล่มแทงผิวหนังด้วยพลังที่สามารถเจาะกระดูกของเขาได้
พลังงานเหล่านี้ไม่ธรรมดา มีสัญญาณของพลังศักดิ์สิทธิ์ภายใน แม้ว่าเฟิงหลินจะมีความสามารถของยีนลิงหิน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานสิ่งนี้ได้เป็นเวลานาน
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือความจริงที่ว่ายีนในตำนานที่พวกมันปลุกขึ้นมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และแต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญในพลังงานชนิดเดียวเท่านั้น กระนั้นพวกเขากลับสามารถหลอมรวมพลังงานเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบอันศักดิ์สิทธิ์บีบอัดมันไว้เป็นหนึ่งเดียว
พลังเช่นนั้นเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะระดับสูงขั้นกลางที่มีพลังชีวิตกว่า500 มันสามารถข่มเฟิงหลินได้
เสาโลหะของเฟิงหลินหมุนตัวในอากาศปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนา ในขณะที่พลังงานแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
มันไม่รู้ว่ากระบองเหล็กไร้ขอบเขตนี้คือสมบัติเกรดใด แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตกค้างมาจากอารยธรรมโบราณ มันย่อมไม่อ่อนแอ
มีความลับที่ลึกซึ้งยิ่งซ่อนอยู่ข้างใน แต่เฟิงหลินไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากพลังในปัจจุบันของเขา
เสาโลหะดูเหมือนจะคงกระพันต่อความเสียหายทุกรูปแบบ พลังของกระบองเขาก่อตัวเป็นสิ่งคุ้มกายรอบเขา พลังงานเหล่านี้ไม่อาจเข้าใกล้เขาได้เลย
“เป็นฐานการบ่มเพาะที่ทรงพลังนัก ดูเหมือนว่าพลังของแกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ขโมยข้อมูลของสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์เรา!” ดวงตาของชายหนุ่มหน้ากลมเต็มไปด้วยความระวัง
อัตราการเติบโตของเฟิงหลินเร็วเกินไป ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากในบันทึกของ บริษัทยาไจแอนท์ มันเหมือนกับว่าเฟิงหลินเป็นคนละคน อย่างน้อยที่สุดสถานะพลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า
ภายในระยะเวลาอันสั้นเฟิงหลินทำได้ยังไง?
หากพวกเขาไม่สามารถจัดการเฟิงหลินได้ในวันนี้ มันจะเท่ากับพวกเขาปล่อยเสือกลับภูเขา การจัดการเขาในอนาคตคงยากยิ่งขึ้น
“หอกราชาเทพ!” เขาตะโกนอีกครั้ง กระแสพลังงานวนก่อตัวเปลี่ยนไป คนอื่นติดตามการเรียกของเขาและรวมพลังงานไว้ในจุดเดียว ทำให้พวกเขาสามารถสร้างและปราบซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นครู่หนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น พลังงานควบแน่นเป็นหอกสีดำ
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังลั่นไปทั่วหอก แหวกบริเวณนั้น เฟิงหลินยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมไม่ขยับ ผิวของเขาไหม้เกรียมและร่างกายมีบาดแผล แม้แต่เสื้อผ้าของเขาก็ถูกเผาไหม้เป็นถ่าน
“กองกำลังของเราเป็นสิ่งที่แกไม่อาจจินตนาการได้ หลังจากผ่านพิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์ ยีนของเราก็คล้ายคลึงกันและพลังงานที่เราผลิตออกมาก็สามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ ด้วยการสนับสนุนของค่ายกลรังสีหกเหลี่ยม เราเทียบเท่ากับพระเจ้า! แกเป็นเพียงมนุษย์และแกต้องการที่จะกบฏต่อพระเจ้า ถ้าแกยอมจำนนต่อเราอย่างเชื่อฟังเราก็จะไว้ชีวิตแก “ชายหนุ่มหน้ากลมพูดอย่างสุขุมราวกับเป็นเทพผู้สูงส่ง จ้องมองมนุษย์ที่ไม่สำคัญ
“แกบอกว่าพวกแกคือพระเจ้าเหรอ?” เฟิงหลินหัวเราะเยาะเย้ย เขาเอียงศีรษะและจ้องมองที่หอก จากนั้นเขาก็ถามคำถามแปลก ๆ ว่า “ค่ายกลเต่าหัวหดนี้เทียบกับสวรรค์ได้ด้วย?”
“หือ?” สายตาของชายหน้ากลมหรี่แคบลง เขาไม่รู้ว่าเฟิงหลินหมายถึงอะไร แต่ความรู้สึกไม่สบายใจกลับเกิดขึ้นในใจของเขา
เฟิงหลินฝังเสาของเขาลงบนพื้น จากนั้นเขาก็รวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดลงไป ทำให้มันพุ่งออกมาเหมือนกระแสน้ำ
“ขยาย ขยาย ขยาย!” เสาโลหะเป็นเหมือนหน่อไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่เจอฝนและขยายตัวเร็วมาก
20 เมตร, 30 เมตร, 40 เมตร …
ขณะที่เสาโลหะขยายตัว ค่ายกลที่กังขังเฟิงหลินไว้ก็ไม่อาจแบกรับวัตถุขนาดใหญ่นี้ได้ แรงกดดันที่เกิดจากการขยายตัวของกระบองเลห็กบังคับให้พื้นที่ในค่ายกลต้องเปลีย่น
เสาโลหะเป็นเหมือนเสาหลักสวรรค์ที่สามารถยกสวรรค์ได้
บูม!
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ค่ายกลแตกเหมือนกระจก
ท้องฟ้า…
ถึงกับแยก!