“ โอ้พวกนายเองเหรอ?” เมื่อเห็นทั้งสิบเอ็ดคนนี้ เฟิงหลินก็หรี่ตาลงและรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
สี่คนในนี้เขารู้สึกคุ้นหน้ามาก พวกเขาคือกลุ่มสี่คนที่มาชวนเฟิงหลินเข้าร่วมทีมก่อนหน้านี้
คนกลุ่มนี้ดูมีเจตนาชั่วร้าย พฤติกรรมก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้ออ้าง พวกเขาเป็นเหมือนกิ้งก่าที่เปิดเผยสีที่แท้จริง พวกเขาล้อมรอบเฟิงหลิน ดูเหมือนจะรอเขาอยู่นานแล้ว
“เฟิงหลิน แกคิดว่าจะสามารถหนีได้?แม้ว่าแกจะหนีไปได้สักพักหนึ่งแต่ก็จะไม่สามารถหนีไปได้ตลอดกาล! ในที่สุดแกก็ต้องตกอยู่ในมือของเรา” ชายหนุ่มหน้ากลมยิ้ม เขาเป็นเหมือนเสือที่จ้องมองเหยื่อของมัน
คนเหล่านี้ล้วนมีท่าทีก้าวร้าว เฟิงหลินหัวเราะเยาะเย้ยอย่างมั่นใจว่าสิ่งที่เขาเลือกก่อนหน้านั้นถูกต้องแล้ว
ผู้ที่ตั้งใจดีจะไม่มา ผู้ที่มาแน่นอนว่าไม่ดี
โชคดีที่เขารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติก่อนหน้านี้และไม่ได้เข้าร่วม ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะโดนอะไรบ้าง?
หากปราศจากกลอุบายเล็กๆน้อยๆ เหล่านั้น หากพวกเขาปะทะกันใครจะกลัวใครกันแน่?
เฟิงหลินไม่กังวลเลย ในความเป็นจริงเขารู้สึกอยากรู้มากกว่า
เขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครมากนักและไม่ได้ตั้งใจสร้างศัตรู ทำไมคนเหล่านี้ถึงเล็งเป้ามาที่เขา
จากกับดักก่อนหน้านี้ ที่พวกเขามาเชิญชวนให้เฟิงหลินเข้าร่วม จนมาถึงการซุ่มโจมตีในตอนนี้ พวกเขาตั้งใจ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!
“ทำไมพวกแกถึงต่อต้านฉัน?” เฟิงหลินถามด้วยความอยากรู้
“แกลืมสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไง?” ชายหนุ่มหน้ากลมหัวเราะเยือกเย็น
เฟิงหลินเงียบ เขาไม่รู้ว่านี่หมายถึงอะไร
“ในเมื่อแกจำไม่ได้ ฉันจะเมตตาและให้คำแนะนำ มันถึงเวลาที่แกจะคืนกระสวยอวกาศที่แกชิงไป” เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ พวกเขาก็มองเฟิงหลินเหมือนงูพิษ
“พวกแกมาจากสังคมชาวอารยัน?” สายตาเฟิงหลินเปล่งประกายด้วยความเย็นชา เขาตระหนักได้ในทันที
ก่อนหน้านี้เขายึดข้อมูลของบริษัทยาไจแอนท์ทั้งหมดมา ในที่สุดศัตรูของเขาก็ติดตามเขามาจนได้
เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็พบว่ารูปร่างหน้าตาและความสูงของคนเหล่านี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นของเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สิ่งเดียวที่พวกเขามีร่วมกันคือสีผิว ผมและดวงตา เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ได้รับพิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นมนุษย์ไข่
“ไม่เลว” รอยยิ้มน่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม “เฟิงหลิน แกคิดว่าเราไม่รู้สิ่งที่แกทำกับบริษัทยาไจแอนท์ของเรา?ข้อมูลทั้งหมดถูกบันทึกและส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่ พวกเราสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ถือเป็นขุมกำลังสำคัญในจักรวาล แกคิดว่าเรามีบริษัทเพียงสาขาเดียวคือบริษัทยาไจแอนท์ในระบบสุริยจักรวาลหรือไง?นั่นเป็นเพียงบริษัทผลิตและปรุงยาทางพันธุกรรมองค์กรเรา ทุกคนในที่นี้เป็นทีมต่อสู้ที่แท้จริง เรามีผู้บ่มเพาะระดับสูงหลายคน “
คำพูดของเขาเต็มไปด้วยน้ำเสียงคุกคาม แต่เฟิงหลินดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ “ไม่จำเป็นต้องทำให้ฉันกลัว ถ้าพวกแกมีพลังมากจริงตอนที่กองทัพปฏิวัติของดาวอังคารโจมตี พวกแกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?”
ชายหนุ่มหน้ากลมนิ่งงันในความเงียบ เขาต้องการที่จะโต้แย้ง แต่ดูเหมือนกลัวว่าอาจจะรั่วไหลข้อมูลสำคัญบางอย่างและในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไร
เฟิงหลินเข้าใจ
ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสังคมชาวอารยันอันบริสุทธิ์เกินกว่าจินตนาการของผู้คนเหล่านี้ เขารู้จักธรรมชาติของคนพวกนั้นดีมาก
สังคมอารยันเลือดบริสุทธิ์เป็นเป้าหมายของการโดนคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาไม่กล้าเผยตัวในที่สาธารณะ
“แกต้องการอะไร? เฟิงหลินสงบนิ่งเหมือนเดิม
ชายหนุ่มเดินไปรอบๆ จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย”เฟิงหลินถึงแม้ว่าแกจะยึดสมบัติของสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ของเราไป แต่ตราบใดที่แกคืนกระสวยบินตอนนี้และเข้าร่วมกับเรา กลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน เราจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต ถ้าไม่อย่างนั้นละก็…”
(กลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของแก?)
เฟิงหลินหัวเราะโดยไม่ปกปิดความรังเกียจของเขา “เข้าร่วมสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์? ทรยศบรรพชนของฉันและกลายเป็นมนุษย์ไข่?”
คำพูดของเขาเหมือนดาบแทงทะลุเข้าไปในจุดที่เจ็บปวดของหัวใจของคนเหล่านี้
สีหน้าของชายหนุ่มร้ายกาจอย่าง “ในเมื่อแกเลือกปฏิเสธฉัน ก็อย่าโทษว่าฉันไร้ความปราณี แกล้าที่จะเป็นปฏิปักษ์กับสังคมชาวอารยันเลือกบริสุทธิ์ของเราเอง! ฉันจะทำให้แกไม่ได้ตายอย่างสงบ หลังจากพวกเราฆ่าแกเสร็จแล้ว ฉันจะตามล่าครอบครัวของแก! “
คำพูดของเขาโหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยการคุกคามครอบครัวของเฟิงหลิน
เขาต้องการดูว่าเฟิงหลินจะดื้อรั้นได้สักแค่ไหน
ทุกคนต้องรู้จักคำว่าเสียใจหากพวกเขากล้าที่จะเป็นศัตรูกับสังคมอารยันเลือดบริสุทธิ์ของพวกเขา
บูม!
เมื่อชายคนนี้รู้สึกพอใจในความงี่เง่าของตัวเอง เฟิงหลินก็คำราม พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นพร้อมกับพายุฝนคลั่ง
คนเหล่านี้รู้สึกราวกับว่าหัวใจโดนก้อนหินขนาดมหึมากดทับ พวกเขาไม่มีทางต้านทาน
อันตราย!
อันตรายมาก!
ชายหนุ่มหน้ากลมรู้สึกกลัวในหัวใจ
เฟิงหลินกระโดดขึ้นไปในอากาศคล้ายกับเทวดาจากสวรรค์ที่ลงมาสู่โลกมนุษย์ เขายินดีและไม่รังเกียจที่จะต่อสู้กับพวกเขาทั้งๆที่เขามีคนเดียว
นิ้วของเขาเหมือนกรงเล็บกวาดไปรอบๆตัว มือของเขาคล้ายกับมือของพระเจ้าควบคุมชีวิตและความตายของมนุษย์ พลังวิญญาณของเขาแข็งกร้าว… ทุกอย่างปะทุออกมาเป็นแรงกดดัน
พลังของเฟิงหลินเหนือกว่าคู่ต่อสู้มาก พวกมันไม่มีโอกาสได้หายใจ
นี้…
(ไม่มีทางหลบเลี่ยง!)
ชายหนุ่มหน้ากลมรู้สึกราวกับว่าสวรรค์ลงทัณฑ์ เขาไม่มีทางที่จะหนีไปได้ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าพลังของเฟิงหลินจะน่ากลัวขนาดนี้
ที่เส้นแบ่งระหว่างชีวิตและความตาย เขาโหยหวนด้วยความโกรธและจับเพื่อนคนหนึ่งใกล้ๆเขา โดยสัญชาตญาณโดยโยนคนที่โชคร้ายนั้นมาหาเฟิงหลิน
คนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด กะโหลกศีรษะของเขาถูกจับโดยนิ้วของเฟิงหลิน วินาทีที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเฟิงหลิน เสียงแตกพลันดังขึ้นเมื่อหัวกะโหลกของเขาถูกบีบอย่างแรง
เมื่อเฟิงหลินปล่อยมือ กระดูกของคนคนนั้นก็แหลกเละแล้ว คนโชคร้ายคนนั้นนอนราบบนพื้น กลิ่นอายของเขาค่อยๆอ่อนลงเรื่อย ๆ
ในตอนนี้เฟิงหลินสามารถทำให้โลหะแตกเหมือนโคลนได้เพียงมือสัมผัส ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับกระดูกมนุษย์ที่เปราะบาง
แม้ว่าเฟิงหลินจะต้องเชื่อฟังกฎไม่ฆ่าผู้สมัครสอบโดยตรง แต่คนๆนี้พิการไปแล้ว ในสภาพแวดล้อมที่ชั่วร้ายของดาวอสุราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกเกี่ยวกับชะตากรรมของเขา
แม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ความตายกลับดีเสียยิ่งกว่า!
คนพวกนี้ซุ่มโจมตีเฟิงหลิน แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือ หนึ่งในพวกเขาก็ตายไปแล้ว
บนสนามรบอสุรา ถ้าไม่มีคนตามสนามรบนี้จะยังคงมีชื่อว่า ‘อสุรา’ ได้ยังไง?
เหมือนกับการกดสวิตช์ ความคิดของเฟิงหลินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเขาทิ้งประเด็นทางศีลธรรมทั้งหมดออกไป หัวใจของเขาชัดเจนมากขึ้น
รัศมีทั้งหมดของเขาเปลี่ยนไป เขาเป็นเหมือนเทพปีศาจ เหมือนเหวและนรกลึกไร้ขอบเขตเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
สีหน้าของชายหนุ่มหน้ากลมเปลี่ยนไป เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าสิ่งที่เขาทำได้ปล่อยมังกรร้ายออกมา
“เฟิงหลิน แกโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!แกไม่กลัวว่าสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ของเราจะแก้แค้นเลยหรือไง?” เขาพูดด้วยความโกรธ
“แก้แค้น?” เฟิงหลินยื่นหน้าไปสำรวจคนกลุ่มนี้ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มทันที “โอ้ ฉันลืมบอกแกว่าฉันไม่เคยโดนข่มขู่มาก่อน เมื่อมีคนพยายามที่จะขู่ฉัน ฉันจะกำจัดแหล่งที่มาของอันตรายที่เป็นไปได้ทั้งหมดทันที พอศัตรูตาย พวกมันก็จะทำอะไรฉันไม่ได้ ฉันอาจใช้โอกาสนี้ส่งพวกแกทั้งหมดไปสู่นรก กำจัดปัญหาทั้งหมดในอนาคต!
“แก … ” การแสดงออกของชายหนุ่มรอบเปลี่ยนไปอย่างมาก
เฟิงหลินไม่ต้องใส่ใจให้เสียเวลา เขายกมือขึ้นขณะที่ตะโกน “ลุกขึ้น!”
พื้นดินสั่นสะเทือนเมื่อพลังวิญญาณไร้รูปร่างของเขาทำให้พื้นลอยขึ้น หลังจากนั้นสิ่งสกปรกและดินก็ไหลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ห่อหุ้มมนุษย์ไข่และจับพวกเขาไว้ในเปลือกหอยที่ทำมาจากดิน
“ลงมือเลย! ถ้ามันไม่ตาย เราก็ต้องตาย!” ชายหนุ่มหน้ากลมกรีดร้อง ส่งสัญญาณให้คนในกลุ่มลงมือ
คลื่นเพลิง!
กระบี่น้ำแข็ง!
ปืนใหญ่อากาศ!
…
คนเหล่านี้ได้ปลดปล่อยพลังทางพันธุกรรมของพวกเขาตามลำดับ ระเบิดเปลือกดิน
อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะได้ยินดี เสาศักดิ์สิทธิ์ก็กวาดไปทางพวกเขาแล้ว
พลังของเสาศักดิ์สิทธิ์ยากจะอธิบาย มันเหมือนกับขุนเขาที่กดทับลงมา สามารถทำลายได้ทุกสิ่ง
เสียงเยือกเย็นดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา เหมือนเสียงเทพเจ้าแห่งความตายประกาศตัดสินโทษแก่มนุษย์
“ตาย!”