ตอนที่ 511 หนีตามกัน
ตอนที่ 511 หนีตามกัน
เก้าอี้ข้างหลังเขาพลิกคว่ำและกระแทกกับพื้น
เย่ฮ่าวหรานจ้องมองนางด้วยใบหน้าซีดเผือด ท่าทางของเขาเกรี้ยวกราดยิ่งนัก เขาพยายามหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับโทสะที่ระเบิดออกมา
จากนั้นไม่นานเย่ฮ่าวหรานก็บีบนิ้วของนาง สีหน้าของเขาตึงเครียดขณะถามนางทีละคำ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ในความคิดของเจ้า ข้าเป็นคนเช่นไร? เป็นคนที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อบัลลังก์งั้นหรือ?”
จินหลิวหลีมองหน้าของเขาอย่างแน่วแน่ และเมื่อนางเห็นความผิดหวังและความเจ็บปวดในดวงตาของเขา นางก็ตกใจและรีบส่ายหัว “ไม่ใช่ ท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ในสายตาของนางนั้น นางเชื่อว่าเขาไม่ได้เลวร้าย เย่ฮ่าวหราน… เขาจะยอมทำทุกสิ่งเพื่อฆ่าพี่ชายของตน และได้มาซึ่งตำแหน่งนั้นได้อย่างไร?
“ขอโทษ”
นางหลับตาลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เย่ฮ่าวหรานจ้องศีรษะของนางเป็นเวลานาน และในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียงและถามอย่างช่วยไม่ได้ “บอกข้าทีว่าเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจู่ ๆ เจ้าถึง…”
“แล้วถ้ามีคนอยากให้ท่านนั่งในตำแหน่งนั้นเล่า? หากคนผู้นั้นเต็มใจจะช่วยท่านขจัดอุปสรรคทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า แล้วให้ท่านได้ตำแหน่งนั้นเล่า?”
เย่ฮ่าวหรานตกตะลึงและจับมือนาง “เจ้าหมายถึงอะไร? เจ้ากำลังพูดถึงใครอยู่?”
จินหลิวหลีเม้มปากและเบือนหน้าหนี “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเซียวเฟยคิดอะไรกับท่าน?”
ม่านตาของเย่ฮ่าวหรานหดตัวลงกะทันหัน เซียวเฟยหรือ? สตรีผู้นั้น นางจะทำเช่นนั้นหรือ? ให้ตายสิ ก่อนหน้านี้ว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางเลย นางเป็นพระสนมของเสด็จพ่อและเป็นได้เท่านั้น ผ่านไปหลายปีแล้วนางยังไม่เข้าใจอีกหรือ
“เจ้าเองก็รู้ใช่หรือไม่” จินหลิวหลีมองดูท่าทางของเขาต่อไป เมื่อเห็นสีหน้าไม่แน่ใจระคนขุ่นเคืองใจของเขา นางก็รู้ว่าชายผู้นี้ตระหนักดีถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ของเซียวเฟย
เย่ฮ่าวหรานเงยหน้าขึ้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จ้องนางด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว “แล้วเจ้าเล่า? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารู้สึกอย่างไรกับเจ้า?”
จินหลิวหลีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วนางก็หลบสายตาเขา จะดีหรือไม่หากนางหายไปเลย?
“หลีเอ๋อร์ อย่าวิ่งหนี” ท่าทางของเย่ฮ่าวหรานเย็นชาและแข็งกร้าว จนจินหลิวหลีก็รู้สึกมึนงงและไม่สบายใจเล็กน้อย นางรู้สึกว่าคราวนี้เย่ฮ่าวหรานตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ปล่อยนางไป
เย่ฮ่าวหรานก็เป็นเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความเย็นชาอยู่เสมอ… และหวาดกลัวเล็กน้อย
ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดมิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และในตอนเย็นอวี้ชิงลั่วก็มาที่ลานนอกเรือนของจินหลิวหลีอีกครั้ง
หญิงชราที่เฝ้าประตูกล่าวว่าท่านอ๋องแปดเสด็จเข้าไปในตอนเช้า และยังคงไม่ออกมาเลย
อวี้ชิงลั่วรู้ว่าทั้งสองต้องมีเรื่องราวมากมายที่ต้องพูดคุยกัน ดังนั้นนางจึงไม่รบกวนพวกเขา และเพียงแค่ให้คนนำอาหารเข้าไปให้
อย่างไรก็ตาม… ภายในเที่ยงวันถัดไป เย่ฮ่าวหรานก็ยังไม่ออกมา
อวี้ชิงลั่วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่ว่าเขาจะมีเรื่องพูดกันเยอะเพียงใด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่แต่ข้างในห้อง โดยไม่ออกมาข้างนอกเลย นางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยจึงตัดสินใจไปเคาะประตู โดยคิดจะอ้างว่าต้องมาตรวจอาการของจินหลิวหลี แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวจากในห้องเลย
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็ผลักเปิดประตูเข้าไปทันที
ทว่าในวินาทีต่อมา เมื่อนางเห็นห้องที่ว่างเปล่า นางก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก
แล้วคนล่ะ? จินหลิวหลีหายไปไหน? เย่ฮ่าวหรานหายไปไหน?
อวี้ชิงลั่วเดินเข้าไปในเรือนและค้นหาทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงใต้เตียง แต่ก็ไม่พบใครเลย ผ้าห่มเย็นชืดแสดงให้เห็นได้ชัดว่าคนในห้องหายตัวไปนานแล้ว
แม่นมเซียวตามนางเข้ามาในห้อง และเมื่อนางเห็นจดหมายบนโต๊ะ นางก็มีลางสังหรณ์ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นางรีบส่งจดหมายนั้นให้อวี้ชิงลั่ว“องค์หญิง แม่นางจินคงจะทิ้งสิ่งนี้ไว้เพคะ”
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจเข้าลึก และเปิดจดหมายออกอย่างรวดเร็ว ‘ชิงลั่ว, เย่ฮ่าวหรานกับข้าจากไปแล้ว พวกเราจะไปเดินทางร่อนเร่ไปให้สุดหล้าฟ้าเขียว’
“บ้าที่สุด หนีตามกันงั้นหรือ?” อวี้ชิงลั่วโยนจดหมายลงกับพื้น และนางก็เริ่มรู้สึกปวดหัว
ให้ตายสิ เย่ฮ่าวหรานบอกอะไรนาง? ถึงทำให้จินหลิวหลีที่ปฏิเสธเขามาโดยตลอดยอมหนีไปด้วย
อวี้ชิงลั่วไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี จินหลิวหลีถือว่าบรรลุผลในเชิงบวก แต่ปัญหาคือเย่ฮ่าวหรานเป็นองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นคือนางเพิ่งลักพาตัวองค์ชายและหนีออกไป อีกทั้งยังลักพาตัวเขาที่ตำหนักท่านอ๋องซิวด้วย แล้วเย่ซิวตู๋จะอธิบายกับฮ่องเต้อย่างไร?
อวี้ชิงลั่วมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้ทำโดยเจตนา นางบอกให้นางทำหลาย ๆ อย่างก่อนที่จะแก้แค้น และตอนนี้นางก็ทิ้งปัญหาใหญ่ไว้ให้ด้วยการไม่พูดอะไรสักคำ
“องค์หญิง เราควรทำอย่างไรต่อไปหรือเพคะ?”
แม่นมเซียวยังนึกถึงสถานะของเย่ฮ่าวหราน การหนีตามกันไปครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยจริง ๆ
อวี้ชิงลั่วหยิบจดหมายขึ้นมาอีกครั้ง และเดินออกไปอย่างช้าๆ “เย่ซิวตู๋อยู่ที่ไหน?”
“เสด็จเข้าไปในวังทันทีเมื่อถึงรุ่งสางเพคะ” แม่นมเซียวตอบด้วยเสียงแผ่วเบา
“เขาไปทำอะไรในวัง?” เช้ามาก ตอนนั้นนางน่าจะยังหลับอยู่
แม่นมเซียวโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของนาง และพูดเบา ๆ ว่า “ท่านอ๋องตรัสว่าในเมื่อทราบแล้วว่าเซียวเฟยเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จึงไม่อาจทิ้งความหายนะนี้ไว้ได้ แต่เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้องค์หญิงมาออกหน้าแทน เนื่องจากเหมิงกุ้ยเฟยต้องการใช้มือขององค์หญิงสังหารคน ท่านอ๋องจึงต้องการให้ดาบนั้นคืนสนองเหมิงกุ้ยเฟย เพื่อไม่ให้องค์หญิงต้องเข้าไปพัวพันเพคะ”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงครู่หนึ่ง และมุมปากของนางก็อดกระตุกไม่ได้ แม้ว่าการจากไปของจินหลิวหลีและเย่ฮ่าวหรานจะทำให้นางปวดหัว แต่นางก็ยังมีเย่ซิวตู๋ที่คิดถึงนางอยู่เสมอคอยอยู่เคียงข้าง และนางก็ยังมีความสุขมาก
ดูเหมือนว่าต้องรอจนกว่าเขาจะกลับมาจึงจะพูดเรื่องเย่ฮ่าวหรานได้ อย่างไรก็ตามการไม่เจอสองคนนั้นตอนนี้ก็ถือว่าดี มิฉะนั้นนางต้องฆ่าพวกเขาแน่
อวี้ชิงลั่วบีบจดหมายในมือของนาง และขอให้แม่นมเซียวปิดประตู โดยแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาสองคนยังคงอยู่ที่นั่นในขณะนี้ จากนั้นนางก็กลับไปที่ตำหนัก
ขณะนี้เย่ซิวตู๋กำลังนั่งอยู่ในอุทยานหลวงด้วยใบหน้าสงบ และมองดูคลื่นน้ำที่อยู่ข้างหน้าเขา
“พี่ห้า” เย่ฮ่าวถิงยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นเวลานาน แต่เขาก็ยังไม่เอ่ยคำใดออกมา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและเริ่มพูดก่อน
เย่ซิวตู๋ตอบกลับว่า “อืม” คำเดียว นิ้วของเขาลูบโต๊ะหินเบา ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็หันกลับมามองน้องชายที่มีพ่อและแม่คนเดียวกัน
“พี่ห้า ท่านเรียกข้าออกมา เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เขาตกใจมากเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ เย่ซิวตู๋ก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักอี๋ซิ่งวันนี้ เขารู้ว่าพี่ห้าไม่ค่อยได้เข้ามาในวัง และน้อยครั้งมากที่จะเข้ามาในตำหนักอี๋ซิ่ง
เมื่อสักครู่นี้เขากำลังยุ่งกับการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักร และกำลังจะไปยังตำหนักของเสด็จแม่อย่างสบายอารมณ์
แต่ตอนที่เขาเพิ่งเข้าประตูมา เขาก็ถูกเรียกออกมาด้วยคำพูดสองสามคำ
พี่ห้าเสด็จมาที่ตำหนักอี๋ซิ่ง เพื่อมาหาเขางั้นหรือ?
“คราวที่แล้วเจ้ารู้เรื่องอาฝูมากเพียงใด?”
เย่ฮ่าวถิงตกตะลึง เรื่องในตอนนั้น เขาและเสด็จแม่กำลังสืบสวนอยู่ เรื่องบางอย่างถูกมองข้ามไปอย่างลับ ๆ แต่เสด็จแม่กล่าวว่าแม้ว่าจะมีการสอบสวนเรื่องนี้มากขึ้น ก็จะถูกระงับไว้ชั่วคราวอยู่ดี เป็นการดีที่จะปล่อยพี่ห้าและอวี้ชิงลั่วจัดการกันเอง
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เหมิงกุ้ยเฟยพูด เย่ฮ่าวถิงก็ทำอะไรไม่ถูก เขาหลับตาลงและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าไม่มีความเห็น”
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คู่อ๋องแปดกับหลิวหลีนี่ไวไฟจัง หนีตามกันแล้ว
ใครอยู่เบื้องหลังกันแน่เนี่ย ซับซ้อนเหลือเกิน
ไหหม่า(海馬)