อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 523 หมายถึงเรื่องนี้

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 523 หมายถึงเรื่องนี้

ตอนที่ 523 หมายถึงเรื่องนี้

“กระดานซักผ้าอยู่ในห้องซักผ้า” ไม่สิ เย่ซิวตู๋แอบสบถในใจ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะพูด

หนานหนานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจับมือเขาแล้วหันหลังเตรียมวิ่ง “เช่นนั้นก็ไปห้องซักผ้าเพื่อเอามันมา”

“จะเอากระดานซักผ้ามาทำอะไร?”

หนานหนานยังคงเดินหน้าต่อไป เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็เหลือบมองพ่อด้วยสายตาดูถูก “ท่านช่างโง่เขลา เมื่อทำให้ท่านแม่โกรธ ก็ย่อมต้องรับโทษ… คุกเข่าบนกระดานซักผ้าดีหรือไม่? หรือว่าแบกไม้หนามดีกว่า? ท่านพ่อ มีไม้หนามอยู่แถวนี้หรือไม่? ถ้าแบกไว้บนหลังจะเจ็บหรือเปล่า?”

คุกเข่าหรือ? คุกเข่าบนกระดานซักผ้าเนี่ยนะ? นั่นไม่ใช่ของสำหรับซักผ้าหรือ? จะเอาไปใช้ทำเรื่องแผลง ๆ เช่นนั้นได้อย่างไร?

เย่ซิวตู๋ทำสีหน้าหมดคำจะพูดและเหนื่อยใจ จากนั้นเขาก็ดึงหนานหนานกลับมา

“หนานหนาน บอกพ่อก่อนว่าเหตุใดแม่ของเจ้าถึงโกรธเจ้า?”

ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ หนานหนานก็ก้มศีรษะลงและดูอ่อนแอ ใบหน้าของเขาหันไปทางกำแพง ขณะพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิดว่า “ในที่สุดวันนี้ท่านแม่ก็รู้ว่าข้าทำอะไรไปบ้าง”

“เอ๊ะ?”

“ข้าฝึกวิทยายุทธ์กับท่านปู่ลู่” หนานหนานพูด แล้วหันมามองเย่ซิวตู๋ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะทิ้งระเบิด “ท่านปู่ลู่ผู้นั้นดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเผ่ามองโกเลีย”

รูม่านตาของเย่ซิวตู๋หดตัวลงทันที เขาคว้าไหล่ของหนานหนานให้หันกลับมา “มองโกลหรือ? เขาสอนวิทยายุทธ์ให้เจ้าหรือ?

“นี่ ท่านพ่อ เขาเป็นคนขอร้องข้าเอง ไม่ใช่ข้าขอร้องเขา” หนานหนานกล่าวย้ำ โชคดีที่ตอนนั้นเขาปรึกษากับท่านปู่ลู่ไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงถือเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้

เย่ซิวตู๋หรี่ตาลง และลางสังหรณ์ที่เลวร้ายก็เข้ามาในหัวของเขา

หัวหน้าของชาวมองโกลสอนวิทยายุทธ์ให้หนานหนานเป็นการส่วนตัว และให้หนานหนานปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เป็นไปได้หรือไม่ว่า… เขารักหนานหนาน และต้องการให้หนานหนานกลับไปที่เผ่ามองโกเลียด้วย

ให้ตายเถอะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชิงเอ๋อร์จะมีอารมณ์เกรี้ยวกราดถึงเพียงนี้ นางรักหนานหนานมากที่สุด นางจะยอมให้คนมาทำร้ายเขาได้อย่างไร?

แม้แต่ตัวเขาเองก็จะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

เหตุใดลูกชายของเขาต้องดำเนินชีวิตตามความคิดและความต้องการของคนอื่น? เหตุใดเด็กน้อยต้องถูกกดดันด้วย?

และยังมีเรื่องอื่นอีกมากมาย…

เย่ซิวตู๋จับมือหนานหนานราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็วางนิ้วลงบนข้อมือของเด็กชาย วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมาก ปลายนิ้วของเขารู้สึกเหมือนถูกไฟลวก เขาจึงรีบหดนิ้วกลับทันที

นี่เป็นความจริง เป็นความจริง!!

แม้ว่าเย่ซิวตู๋จะไม่เข้าใจสภาพร่างกายของหนานหนานอย่างละเอียดเหมือนที่อวี้ชิงลั่วเข้าใจ แต่เขาก็รู้ว่ากำลังภายในที่แข็งแกร่งในร่างกายของเขา ไม่เหมาะสำหรับให้เด็กเล็กมาแบกรับ

หากไม่ระวังก็เป็นไปได้มากว่าหนานหนานจะถูกโจมตี และผลที่ตามมาในตอนนั้นก็จะย่ำแย่เหนือจินตนาการ

“หนานหนาน!!” เย่ซิวตู๋มีสีหน้ามืดมนมาก จนหนานหนานอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อมองเห็น และเขาก็ห่อไหล่เล็กน้อย

“ท่านพ่อ ข้ารู้ตัวว่าข้าผิด” เขาสำนึกผิดแล้ว ดังนั้นอย่าดุเขาเลย แค่ความโกรธของแม่ก็น่ากลัวมากแล้ว ถ้าพ่อโกรธอีก เขาจะหนีออกจากบ้าน

เย่ซิวตู๋รู้สึกปวดหัวมากเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารและขี้ขลาดของเขา และทนไม่ได้ที่จะทำให้เขาต้องรู้สึกแย่ไปกว่านี้ เขารู้ว่าเด็กชายต้องทนทุกข์ทรมานมากตั้งแต่เกิดมา และเขาก็รู้สึกผิดเสมอที่ไม่สามารถดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ แล้วในตอนนี้เขาจะตำหนิเขาได้ลงคอได้อย่างไร

“ต่อไปเจ้าอย่าได้ทำเช่นนี้อีก” ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก้มลงอุ้มร่างเล็ก ๆ อันอ่อนนุ่มของเขาขึ้นมาแล้วกระซิบว่า “พ่อรู้ดีว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก เจ้าอาจจะทนกำลังภายในนี้ได้ บางทีคุณอาจทนได้ แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องการให้ลูกเอาร่างกายตัวเองไปเสี่ยง รู้หรือไม่?”

หนานหนานพยักหน้าอย่างจริงจัง เขารู้ว่าปู่ลู่เตือนเขาเรื่องความเสี่ยงแล้ว และดูเหมือนว่าทุกวันนี้เลือดในกายของเขากำลังจะเดือดปุด ๆ และพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง จนแม้กระทั่งในตอนที่เขานอนหลับ บางครั้งเขาก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขากำลังลุกเป็นไฟ

เขายืนกรานจะฝึกต่อเป็นเวลาสองวัน โดยปู่ลู่บอกว่าเขาจะสามารถดูดซับมันได้ในไม่ช้าและไม่มีปัญหาร้ายแรง เขาจึงรู้สึกโล่งใจ

เขาไม่คิดจะบอกให้พ่อแม่รู้ แต่เขาคาดไม่ถึงว่า… คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต

“ท่านพ่อ ข้าคิดว่าเราไปเอาไม้หนามกันดีกว่า” หนานหนานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็ตัดสินใจได้ “กระดานซักผ้าดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรมาก ข้าจะขอให้ลุงเสิ่นไปหาไม้หนามท่อนใหญ่ ๆ มาให้พวกเราคนละอัน”

“เดี๋ยวก่อน” เย่ซิวตู๋ต้องการจะหยุดเขา แต่เมื่อได้ยินดังนั้น มุมปากของเขาก็กระตุก “เหตุใดพ่อต้องใช้มันด้วย?”

หนานหนานเป็นคนทำผิดไม่ใช่หรือ? แล้วเหตุใดเขาต้องมาแบกไม้หนามด้วย

หนานหนานเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน และพูดอย่างจริงจังว่า “แน่นอนว่าท่านต้องแบกมันด้วย เมื่อสักครู่นี้ท่านถูกท่านแม่ไล่ออกจากห้อง ซึ่งหมายความว่าท่านก็ทำให้ท่านแม่โกรธด้วยเช่นกัน”

อย่าคิดว่าเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่แม่พูด เห็นได้ชัดว่าคำพูดเหล่านั้นมุ่งเป้าไปที่พ่อคนเดียว

“ท่านพ่อ หาไม้หนามมาสักสามท่อนกันเถอะ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงควรจะแบกสักสองท่อน ส่วนข้ายังเด็กอยู่และเพิ่งถูกท่านแม่ลงโทษด้วยสายตาไปแล้ว ข้าจึงได้แบกน้อยลงอีกหน่อย อีกอย่างคือไม้หนามของข้าก็ควรจะสั้นด้วย เพราะข้ายังเด็กอยู่ จึงต้องคำนึงถึงเรื่องรูปร่างของข้าด้วย”

หนานหนานพยักหน้าขณะพูด หลังจากหยุดไปชั่วคราว เขาก็พูดต่อ

“อ้อ แล้วถ้าท่านแม่อยากจะเอาหนามแทงข้าจริง ๆ ท่านพ่อต้องมายืนขวางหน้าข้านะรู้ไหม? ไม่เช่นนั้นหากข้าได้รับบาดเจ็บ ท่านก็จะรู้สึกเป็นทุกข์ ทุกข์กายยังดีกว่าทุกข์ใจนะ ท่านเห็นด้วยหรือไม่?”

เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้วอย่างหมดคำจะพูด เมื่อสักครู่นี้เขาสงสารเด็กน้อยจนบอกตัวเองว่าอย่าโกรธเขาเลย แต่ตอนนี้เขาดูร่าเริงขึ้นมาก และกล้าที่จะต่อรองกับเขาเช่นนี้เลยหรือ? มาคุยเรื่องนี้กับเขาเนี่ยนะ?

เรื่องไม้หนามเนี่ยนะ?

เพียงแค่เย่ซิวตู๋นึกถึงสิ่งนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

หนานหนานหลุดออกจากอ้อมแขนเขาแล้ว และเริ่มจับมือเขาเดินออกไปข้างนอกอีกครั้ง

แต่ในขณะที่คนตัวเล็กและตัวใหญ่เพิ่งเดินไปถึงประตูตำหนัก พวกเขาก็เห็นร่างหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้แต่ไกล

ทันทีที่เขาเห็นเย่ซิวตู๋ เขาก็คุกเข่าลงบนพื้นและพูดว่า “องค์ชายโปรดประทานอภัย กระหม่อมทำได้ไม่ดีพอพ่ะย่ะค่ะ”

เย่ซิวตู๋ตกใจทันที เมื่อมองฉินซงที่กำลังรู้สึกผิดตรงหน้าเขา ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ผุดขึ้นในใจของเขา

“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่? ใครทำร้ายเจ้าจนเป็นแผลเช่นนี้?”

ฉินซงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเหลือบมองหนานหนาน เมื่อเห็นว่าเย่ซิวตู๋ไม่มีเจตนาที่จะปกปิด เขาจึงก้มศีรษะลงทันที เพียงแค่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาก็รู้สึกว่าอธิบายได้ยากแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หลับตาและตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “กระหม่อมกับอวี๋จั้วหลินได้ต่อสู้กัน…”

เขาหยุดไปชั่วคราว แล้วรีบรายงานสาเหตุและผลของเหตุการณ์ในวันนี้ทั้งหมด และสุดท้ายก็พูดด้วยความละอายว่า “กระหม่อมสมควรตาย องค์ชายโปรดประทานอภัยให้กระหม่อมด้วยเถิด”

เย่ซิวตู๋ตกตะลึง คำพูดของฉินซงทำให้ใบหน้าเฉยเมยของเขากลายเป็นเคร่งเครียดมาก

ให้ตายเถอะ ปรากฏว่าสิ่งที่ชิงเอ๋อร์พูดเมื่อสักครู่นี้หมายถึงเรื่องนี้!!!

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หนานหนานความคิดดีนะคะ เอากระดานซักผ้ามาคุกเข่าเพื่อท่านแม่หายโกรธ รืเปล่านะ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท