ตอนที่ 593 เก็บข้าวของ
ตอนที่ 593 เก็บข้าวของ
บนโต๊ะมีสมุดบัญชีเล่มเล็กที่เย่หลานเฉิงวางเอาไว้เมื่อสักครู่นี้ ซึ่งหนานหนานกลัวเหลือเกินว่าแม่ของเขาจะรู้ว่าเขามีเงินส่วนตัว
หนานหนานรีบหันกลับไปเก็บสมุดบัญชีเล่มเล็ก แต่อวี้ชิงลั่วได้เดินเข้าประตูมาแล้ว หากเขายังเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก็แสดงว่า…ที่นี่อาจเหลือเงินไม่เกินสามร้อยตำลึง
เด็กน้อยเม้มปากแล้วแสร้งทำเป็นนั่งบนเก้าอี้อย่างสงบ ขณะเอียงตัวไปบังสมุดเล่มน้อยอย่างระมัดระวัง
อวี้ชิงลั่วเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าเย่หลานเฉิงอยู่ที่นี่ด้วย นางก็ชะงักไปครู่หนึ่งถามว่า “พวกเจ้ากำลังคุยอะไรกัน?”
“เอ่อ เมื่อครู่นี้ข้าเห็นหนานหนานถือจี้ทองคำอยู่ จึงถามเขาว่า…”
“ใช่แล้ว หว่านเฟยมอบจี้ทองคำให้ข้า เมื่อพวกเราเห็นจี้ทองคำนี้ก็คิดถึงท่านอาแปดทันที เมื่อสักครู่นี้พวกเราจึงคุยกันเรื่องท่านอาแปด” หนานหนานขัดจังหวะเย่หลานเฉิงทันที แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ท่านอาแปดอยู่ในคุก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในฐานะหลานชายสุดรักสุดหวงของท่านอาแปด พวกเราจึงเป็นห่วงว่าเขาจะมีอาหารและเสื้อผ้าเพียงพอหรือไม่ กำลังลำบากหรือไม่ หรือกำลังเศร้าเพราะเรื่องหว่านเฟยหรือไม่”
เย่หลานเฉิงเม้มปากเล็กน้อย และรู้สึกเสียใจมาก เขาไม่ได้ตั้งใจจะบอกท่านน้าชิงเรื่องเงินส่วนตัวของหนานหนาน เหตุใดหนานหนานต้องลุกลี้ลุกลนถึงเพียงนี้ด้วย? ทันทีที่พูดเรื่องเงิน เขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข
หนานหนานกระแอมเบา ๆ และกลอกตาไปมา
เย่หลานเฉิงทำอะไรไม่ถูก ช่างเถิด ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหนานหนานหมกมุ่นเรื่องเงินทองมาก
“ท่านน้าชิงมาหาหนานหนานมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ขอรับ?”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า “มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น”
นางเพิ่งออกมาจากห้องตำราของเย่ซิวตู๋
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด เย่หลานเฉิงก็ลุกจากเก้าอี้อย่างเชื่อฟังทันที แล้วเงยหน้าขึ้น “เช่นนั้นท่านน้าชิงก็มาคุยกับหนานหนานเถิด เขาค่อนข้างกังวลเรื่องท่านอาแปดมาก ข้ายังมีตำราอีกสองบทต้องอ่าน ต้องขอตัวกลับไปก่อนนะขอรับ”
อวี้ชิงลั่วยิ้มให้เขา แล้วสั่งให้แม่นมเซียวที่อยู่ข้างหลังนางถือร่มไปส่งเขากลับ
จนกระทั่งแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากมุมทางเดิน นางก็เม้มปากแล้วหันกลับมา
หนานหนานยัดสมุดบัญชีเล่มน้อยลงใต้โต๊ะขณะที่นางไม่ทันได้สนใจ ทันทีที่เขาหันกลับมา เขาก็เห็นมารดาตนนั่งมองหน้าเขาอยู่
เขาทำหน้ามุ่ยด้วยความหงุดหงิด ตอนนี้ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะยังไม่เร็วพอ ท่านแม่ต้องเห็นแล้วเป็นแน่
เฮ้อ เขาควรจะ… สารภาพเพื่อลดหย่อนโทษดีกว่า
หลังจากคิดได้เช่นนั้น หนานหนานก็จำใจยื่นมือเล็ก ๆ ไปใต้ผ้าปูโต๊ะ ขณะใกล้จะหยิบถึงก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาของอวี้ชิงลั่ว “หนานหนาน ตอนนั้นเจ้าบอกว่าเหมิงลู่ให้เหรียญตรากับเจ้าไว้ใช่หรือไม่?”
มือที่ยื่นออกไปของหนานหนานชะงักทันที เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็ชักมือกลับเงียบ ๆ นัยน์ตาของเขาฉายแววสงสัย…เมื่อสักครู่นี้ท่านแม่ไม่เห็นหรือว่าเขาแอบซ่อนบัญชีเล่มน้อยเอาไว้?
“หนานหนาน?”
“เอ๊ะ?” หนานหนานสะดุ้งเฮือก แล้วรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับอวี้ชิงลั่ว ก่อนจะกระแอมเสียงดัง แล้วตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “โอ้ ใช่แล้ว ท่านปู่ลู่ให้เหรียญตรานั่นไว้เมื่อคราวที่แล้ว ท่านแม่มีอะไรหรือขอรับ?”
ท่าทางของอวี้ชิงลั่วดูคาดเดาได้ยาก นางอดไม่ได้ที่จะบีบนิ้วตัวเองเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ยืนขึ้นแล้วเดินช้า ๆ ไปที่หน้าต่าง ก่อนพูดเบา ๆ ว่า “พวกเราจะไปเยือนเผ่าเหมิง”
ทันใดนั้น หนานหนานที่ยังคงจดจ่ออยู่กับสมุดบัญชีเล่มน้อยก็ตกใจ เขากระโดดลงจากเก้าอี้ทันที แล้วถามด้วยความประหลาดใจ “ไปเผ่าเหมิงหรือ? ท่าน ท่านแม่ ท่านไม่ได้บอกหรือว่าห้ามไปที่นั่น?”
ท่านแม่ไม่กังวลหรือว่าหลังจากไปเยือนเผ่าเหมิงแล้ว ท่านปู่ลู่จะฝึกเขาต่อไปในฐานะผู้สืบทอด? นางขัดขวางไม่ให้เขาติดต่อกับท่านปู่ลู่ไม่ใช่หรือ?
เหตุใดนางจึงเป็นฝ่ายเริ่มเสนอให้ไปเผ่าเหมิงด้วยตัวเอง?
อวี้ชิงลั่วลูบหว่างคิ้วของตน แน่นอนว่านางไม่ต้องการไปที่นั่น นางยังคงกังวลเรื่องเหมิงลู่ และนางยังคงโทษเขาจนถึงตอนนี้ แต่ว่า…
“แม่นมเก๋อของเจ้า ตอนนี้นางอยู่ในเผ่าเหมิง และ… อาจตกอยู่ในอันตราย”
ทันใดนั้นรูม่านตาของหนานหนานก็เบิกกว้างขึ้น เขารีบคว้าแขนเสื้อของอวี้ชิงลั่ว แล้วปีนขึ้นไปบนหลังของนาง ก่อนถามอย่างกระตือรือร้นว่า “ท่านรู้แล้วหรือว่าแม่นมเก๋ออยู่ที่ใด? ท่านแม่ ท่านแม่ เป็นความจริงหรือนี่? แม่นมเก๋ออยู่ในเผ่าเหมิงจริงหรือ? เช่น เช่นนั้นรีบไปกันเถิด”
อวี้ชิงลั่วแทบจะหายใจไม่ออกเพราะเขา อารมณ์กังวลของนางก็ถูกเขารบกวนเช่นกัน นางหันกลับไปจ้องเขาอย่างโกรธเคือง “ลงมาจากหลังแม่”
“เอ๊ะ” หนานหนานรีบลงจากหลังของอวี้ชิงลั่วอย่างเชื่อฟัง ไม่รู้สึกหรือว่าเขาตัวเล็ก จึงไม่สะดวกที่จะยืนบนพื้นเพื่อพูดคุยกับท่านแม่? ทว่าผู้เป็นแม่ไม่รู้จะเอาใจเขาอย่างไร นางจึงคุกเข่าลงเพื่อคุยกับเขาในระดับสายตา
อย่างไรก็ตาม หนานหนานก็ยังคงมีความสุขมาก ที่ในที่สุดก็ค้นพบที่อยู่ของแม่นมเก๋อหลังจากทำงานหนักมาครึ่งปี
เขารีบวิ่งกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าของเขา และเริ่มหยิบเสื้อผ้าทั้งหมดข้างในออกมาพับทีละตัว
“ท่านแม่ ดูเหมือนว่าชุดหล่อ ๆ ของข้าจะอยู่กับท่าน ดังนั้นท่านต้องนำมันไปด้วย”
“ท่านแม่ เราต้องนำเงินไปเท่าไหร่? เอ่อ เอาเถิด อย่างไรเสียเงินทั้งหมดก็อยู่กับท่าน ท่านตัดสินใจเองแล้วกัน แค่อย่าปล่อยให้ข้าหนาวเหน็บและหิวโหยก็พอ”
“ท่านแม่ ข้าไม่มีผงไข่มุกแล้ว ท่านช่วยแบ่งให้ข้าบ้างสักนิดเถิด ข้าต้องการจะทามันก่อนไปเจอแม่นมเก๋อ”
“ท่านแม่ ดูเหมือนว่าเดือนนี้ข้าจะมีของเยอะขึ้นมาก ทุกอย่างล้วนเป็นของสำคัญหมด หากจะทิ้งไปก็เสียดาย จึงอาจต้องหากล่องใหญ่สักสองใบมาใส่มัน ใช่แล้ว ใช้เกวียนสักเล่มสำหรับขนของของข้าดีกว่า”
“ท่านแม่…”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก ขณะมองดูร่างเล็ก ๆ ของเขาโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วพยายามแข็งใจไม่เตะก้นเขาสักที นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ แล้วพูดทีละคำ “แม่ไม่ได้บอกว่าให้ไปตอนนี้”
ก้นที่ส่ายไปมาของหนานหนานหยุดลง ทั้งร่างของเขาหยุดนิ่ง หัวที่ยุ่งเหยิงของเขาหันกลับมาทันที ก่อนจะรีบเข้ามาถามด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ? เราจะไม่ไปกันตอนนี้หรอกหรือ? เราไม่ได้รีบหรอกหรือขอรับ?”
รีบสิ รีบแน่นอน ทว่า…
“บัดนี้เย่ฮ่าวหรานยังอยู่ในคุก และไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะจัดการกับเขาอย่างไร ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ย่อมไม่อาจออกไปได้”
ยิ่งไปกว่านั้นคือนางยังมีข้อตกลงกับหว่านเฟย ดังนั้นเย่ฮ่าวหรานจะต้องปลอดภัย แม้ว่าเย่ซิวตู๋จะเป็นคนที่พยายามช่วยเย่ฮ่าวหรานสุดความสามารถ แต่อย่างน้อยนางก็ต้องเห็นว่าเขาออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อน เพื่อทำตามสัญญา
นอกจากนี้ อาการปัจจุบันของจินหลิวหลีก็ยังไม่ได้ดีขึ้นมาก
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นางเห็นได้ชัดว่าจินหลิวหลีเงียบมากขึ้น และยิ่งนางฟื้นขึ้นมาแล้ว ความคิดบางอย่างก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เย่ฮ่าวหรานไม่เคยมาปรากฏตัวเลย ดังนั้นนางคงจะเดาอะไรบางอย่างได้ แม้ว่าคนรับใช้ในตำหนักอ๋องซิวจะไม่ได้ปริปาก แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดความคิดของจินหลิวหลีได้
บาดแผลบนร่างกายของนางเพิ่งเปิดออกอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อวานนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากความเครียด
เมื่อเห็นว่าจินหลิวหลีเป็นเช่นนี้ อวี้ชิงลั่วก็ไม่สามารถปล่อยนางไปได้เลย และเป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งนางออกไปจากเมืองหลวงตอนนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกประเด็นหนึ่ง – นางไม่รู้จะอธิบายเรื่องไปเผ่าเหมิงกับเย่ซิวตู๋อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานอย่าร้อนตัวสิ ท่านแม่ไม่ได้มายึดเงินสักหน่อย
ไหหม่า(海馬)
………………………………………………………………………….