อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 629 มีชายคนหนึ่งเข้ามา

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 629 มีชายคนหนึ่งเข้ามา

ตอนที่ 629 มีชายคนหนึ่งเข้ามา

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วก็เห็นเด็กน้อยถูกคนอุ้ม แล้วจับโยนออกมาจากประตูร้านอาหารที่ชื่อว่า ‘หอมรัญจวน’

“เป็นเด็กเป็นเล็กริอ่านมาร่ำสุราที่นี่ เจ้าดื่มสุราได้อย่างไร? ไป ๆๆ อย่ามาเกะกะขวางทางแถวนี้” ชายที่สวมเสื้อผ้าเหมือนเถ้าแก่เจ้าของร้านขมวดคิ้วแล้วโบกมือไล่เด็กน้อยตรงหน้าเขา แววเหยียดหยามฉายชัดในดวงตาเบิกกว้าง

“ข้าไปขวางทางเมื่อใด? เจ้ากำลังเลือกปฏิบัตินะรู้หรือไม่? ข้าจะบอกให้ว่าข้าอุตส่าห์เข้ามาทางประตูหลังเพื่อรักษาหน้าเจ้า ฮึ่ม คิดว่าพวกเจ้าจะหยุดข้าได้ด้วยการจับข้าออกมาจริง ๆ หรือ?” หนานหนานเชิดหน้ายกปลายจมูกเล็กๆ ขึ้นเล็กน้อย และคำพูดของเขาก็หยิ่งผยองนัก

เจ้าของร้านจ้องมองเขาด้วยสายตาดุดัน “เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้? เชื่อหรือไม่ว่าถ้ากลับเข้าไปอีก ข้าจะฟาดเจ้าด้วยไม้?”

หนานหนานตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้าก็ลองดูสิ”

“เจ้า…” เจ้าของร้านสะอึกไปครู่หนึ่ง แล้วกัดฟันหันไปพูดกับเสี่ยวเอ้อที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาว่า “คอยขวางเขาไว้ อย่าให้เข้ามาได้อีก หากเขาจะเข้ามาดื่มสุราของแขกอีก เจ้าตีเขาไปเลยก็ได้ โชคร้ายยิ่งนัก”

เสี่ยวเอ้อมองไปที่หนานหนาน แล้วพยักหน้าและยืนขวางประตู

หนานหนานปัดฝุ่นบนตัวออก ก่อนหันหลังกลับเตรียมจะเข้าไปข้างในอีกครั้ง แต่หลังจากเดินไปได้สองก้าว คนคนหนึ่งก็พลันมาขวางหน้าเขาไว้ เขาชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้นด้วยความโมโห “รีบหลีกไปให้พ้นทางนายน้อยผู้นี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะ… แม่ ท่านแม่หรือ?”

หนานหนานตกใจจนก้าวถอยหลังไปสามสี่ก้าว จากนั้นก็สงบสติอารมณ์ แล้วมองอวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

วินาทีต่อมาเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มพูดเหลวไหลด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านแม่ ช่างบังเอิญจริง ๆ ข้าแค่มาสอบถามว่าแม่นมเก๋ออยู่ที่ไหน ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าทำงานหนักเพียงใด เหงื่อออกท่วมตัวไปหมดแล้ว แต่ว่า เฮ้อ ผู้คนที่นี่แย่มาก ไม่เพียงแต่ไม่มีเบาะแสเท่านั้น พวกเขายังดูถูกข้าว่าตัวเล็กและโยนข้าออกมา ท่านคิดว่าพวกเขาเป็นบ้าหรือไม่?”

อวี้ชิงลั่วยืนกอดอกมองลงไปที่… เจ้าตัวเล็กผู้มอมแมมตรงหน้านาง คิ้วของนางแทบจะขมวดเป็นปม

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ฝืนใจชี้ไปที่เขา แล้วถามว่า “เจ้า เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ตอนที่เจ้าออกมาเมื่อเช้าก็ยังดูเรียบร้อยอยู่เลยไม่ใช่หรือ?”

ผ่านไปแค่สองชั่วโมง แต่ผมของเขากลับยุ่งเหยิง เสื้อผ้าสกปรก แขนเสื้อขาดวิ่น และใบหน้าดำมอมแมมจนแทบมองไม่เห็นดวงตาที่กลอกไปมาคู่นั้น หากเมื่อสักครู่นี้นางไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเขา นางก็คงจำเขาไม่ได้

ไม่แปลกใจเลยที่เถ้าแก่จะโยนเขาออกมาจากร้านอย่างไร้ความปรานี แต่งตัวเช่นนี้เข้าไปในร้านอาหารย่อมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เถ้าแก่มองเพียงแวบเดียวก็คงเข้าใจว่าเขาเป็นขอทาน

หนานหนานก้มหน้ามองตัวเองตามสายตาของแม่ที่จ้องมองเขา จากนั้นกลอกตาสองครั้ง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่อวี้ชิงลั่ว

“ท่านแม่ เรื่องมันยาว พูดถึงเรื่องนี้แล้ว นี่เป็นผลจากการที่ข้าทำงานอย่างหนัก เพื่อสืบหาที่อยู่ของแม่นมเก๋ออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งบุกน้ำลุยไฟ ถูกคนไล่ฟัน ร้องไห้ตั้งไม่รู้กี่รอบ วุ่นวายมากจนข้าจะกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว ท่านดูเถิด ข้ามอมแมมถึงนี้ก็เพราะทำงานหนักมาก…”

อวี้ชิงลั่วยกมือขึ้นขัดจังหวะพูดของเขา แล้วถามประชด “แล้วเจ้าพบอะไรบ้าง?”

“…” หนานหนานเกาศีรษะ แล้วชำเลืองมองเสี่ยวเอ้อที่กำลังยืนฟังหูผึ่งอยู่ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม พร้อมเม้มปากนิ่งเงียบ

อวี้ชิงลั่วตะคอกด้วยความหงุดหงิด “วันนี้เจ้าดื่มสุราไปกี่ชาม?”

“…ไม่ถึงชาม” แล้วเขาก็ถูกไล่ออกมา เมื่อเห็นแม่เดินไปข้างหน้า หนานหนานก็รีบตามไป เมื่อไปถึงตรอกที่ไม่มีคนอยู่ เขาก็จับมือแม่แล้วพูดว่า “ท่านแม่ ข้าได้สอบถามดูแล้ว และดูเหมือนว่าไม่มีคนสกุลเก๋อในบรรดาคนเหมิง ข้าจึงคิดว่าแม่นมเก๋อไม่น่าจะใช้สกุลเก๋อมาตั้งแต่แรก”

“อืม” อวี้ชิงลั่วก็คิดเช่นกัน

หนานหนานเม้มปาก แล้วถอนหายใจ “เมืองของชาวเหมิงใหญ่มาก การค้นหาแม่นมเก๋อก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร ท่านแม่ ข้ายังคิดว่าน่าจะคุยกับท่านพ่อตั้งแต่แรก มีอีกคนย่อมมีอีกแรง”

พวกเขาสองคนไม่มีการติดต่อใด ๆ กับชาวเหมิงมาก่อน ดังนั้นการตามหาใครสักคนจึงเป็นเรื่องยากมาก

มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก นางสะบัดมือออกแล้วปัดมืออย่างแรง

หนานหนานโกรธ “ท่านแม่ ท่านดูถูกข้าอีกแล้ว”

“เจ้าสกปรกเกินไป วันนี้เจ้าไปเกลือกกลิ้งโคลนมาหรือ?”

“…” หนานหนานทำแก้มป่อง เขาไม่ได้ไปเกลือกกลิ้งโคลน แต่… “ข้าเผลอไปเหยียบหางสุนัขเข้า สุนัขตัวนั้นดุมาก มันวิ่งไล่ข้าไปสองช่วงตึก”

หนานหนานยืนเท้าเอว แล้วพูดด้วยความโกรธเคือง

อวี้ชิงลั่วหันหน้าหนี แล้วขมวดคิ้วพูดอย่างหงุดหงิด “เจ้ามีวิทยายุทธ์ อย่าบอกนะว่าเจ้าลืม”

“ข้าจะลืมได้อย่างไร?” หนานหนานหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะอธิบายเสียงดังราวกับกำลังพยายามกลบเกลื่อนความผิด “ข้าทำเช่นนั้นเพราะข้าต้องการปกปิดวิทยายุทธ์ของข้า ไม่เช่นนั้นหากคนเห็นว่าเด็กน้อยเช่นข้ามีพลังมาก สามารถบินข้ามกำแพงได้ แล้วจะไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่นหรือ? ถึงตอนนั้นคิดว่าคนเหล่านั้นจะทำอะไรข้าหรือขอรับ?” อาจจะถูกจับไปขายก็ได้

ความจริงแล้วขณะที่เขากำลังถูกสุนัขวิ่งไล่ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง และนึกอยากจะเปรียบเทียบว่าตนหรือสุนัขที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่า โดยไม่ต้องใช้วิทยายุทธ์ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเผลอสะดุดล้มลง

อวี้ชิงลั่วไม่ต้องการพูดอะไรอีกต่อไป นางเงยหน้าขึ้นและเห็นโรงเตี๊ยมที่ตนพักอยู่ไม่ไกล จึงรีบก้าวเดินเข้าไป

หนานหนานรีบเช็ดหน้าแล้วเดินตามไปติด ๆ เพื่อไม่ให้โดนเถ้าแก่จับโยนออกมาอีก

ทั้งสองเดินขึ้นไปชั้นบน หนานหนานยกยิ้ม แล้วเปิดประตูอย่างนอบน้อม

“ท่านแม่ ระวังธรณีประตูนะขอรับ”

อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้นอย่างหงุดหงิด แล้วผลักเขาเข้าไปข้างใน แล้วเดินตามไป

ทว่าขณะที่นางหันหลังกลับไปปิดประตู จู่ ๆ เหมิงหลัวอวี้ก็วิ่งเข้ามากอดเอวนางอย่างกระวนกระวาย “ท่านน้าชิง”

“เกิดอะไรขึ้น?” อวี้ชิงลั่วรู้สึกประหลาดใจ เมื่อวางนิ้วลงบนข้อมือของนางก็พบว่าแขนของนางเย็นเฉียบ ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติมาก

เหมิงหลัวอวี้หายใจเข้าลึก ๆ แต่เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ท่านน้าชิง มีชายคนหนึ่งเข้ามาเมื่อสักครู่นี้”

อวี้ชิงลั่วตกใจและรีบถามว่า “เมื่อไหร่ เขาทำอะไรกับเจ้าหรือไม่?”

“เมื่อ เมื่อสักครู่นี้ เขาไม่ได้ทำอะไรข้าเลย แต่เขายืนมองข้านานจนข้ากลัว…” กลัวว่าฮูหยินใหญ่จะพบนางแล้ว

อวี้ชิงลั่วรีบปล่อยมือเหมิงหลัวอวี้ แล้วพูดกับหนานหนานอย่างจริงจังว่า “คอยเฝ้านางไว้ เดี๋ยวแม่กลับมา”

จากนั้นนางก็รีบหันหลังกลับลงไปชั้นล่าง

เพียงแต่ว่าในห้องโถงชั้นล่างนั้น นอกจากคนที่กำลังรับประทานอาหารและพูดคุยกันไม่กี่โต๊ะแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดแปลกไปเลย

นางชะงักไป ก่อนเดินไปหาเถ้าแก่เพื่อถามว่า “เมื่อสักครู่นี้มีคนเข้าไปในห้องที่ข้าอยู่หรือไม่?”

!!

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ไปกินเหล้าก็บอกมาเถอะ อย่ามาอ้างว่าตามหาแม่นมเก๋อเลย

ใครเข้าห้องชิงลั่ว?

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท