อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 647 มีตาหามีแววไม่

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 647 มีตาหามีแววไม่

ตอนที่ 647 มีตาหามีแววไม่

อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปากครู่หนึ่ง คนพวกนี้ช่างโลกแคบเสียจริง เพียงเพราะนางเป็นสตรี ก็ไม่เชื่อว่านางเป็นหมอแล้วหรือ?

“เจ้ามาอีกแล้วหรือ เจ้าคิดจริงหรือว่าตนเป็นหญิงแล้วพวกข้าจะไม่กล้าลงมือ?” คนรับใช้จวนเหมิงมองนางอยู่ครู่หนึ่งอย่างพิจารณา ถึงแม้จะคิดว่านางงามมากและทำไม่ลง แต่คนผู้นี้ดูท่าทางจะเสียสติ มาที่จวนเหมิงของพวกเขาทั้งวันเพื่อบอกว่าตนเป็นหมอ เพียงครั้งสองครั้งก็แล้วไป ตอนนี้กลับหนักข้อขึ้นทุกที

อวี้ชิงลั่วเชิดคางขึ้นเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “ข้าต้องการพบอูเหมี่ยนเซิง”

“สามหาว ชื่อของท่านรองอู เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?”

อวี้ชิงลั่วค่อนข้างสุดจะทน ช่างเถอะ นางไม่อยากจะเถียงกับคนรับใช้พวกนี้แล้ว มีตาหามีแววไม่

“เจ้ารีบไปเสีย หากยังไม่ไป ก็อย่าหาว่าเราไม่เกรงใจ” คนรับใช้เฝ้าประตูผู้นั้นยกตะบองในมือขึ้นมาแล้วกล่าวขู่

อวี้ชิงลั่วก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง “ข้าบอกว่าข้ามาพบอูเหมี่ยนเซิง”

“เจ้านี่พูดดีๆ ไม่ชอบ ต้องให้ใช้กำลังสินะ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลยจริงๆ” คนรับใช้ผู้นั้นก็โมโหแล้ว อากาศร้อนเช่นนี้ หญิงผู้นี้ยังจะมาสร้างปัญหาให้พวกเขาอีก ถ้าหากไม่สอนบทเรียนให้เสียบ้าง คงจะคิดว่าพวกเขาคุยด้วยง่ายๆ สินะ

คนผู้นั้นกล่าวจบก็เรียกสองคนที่อยู่ข้างหลัง จะให้มาที่นี่เพื่อลงมือกับอวี้ชิงลั่ว

อวี้ชิงลั่วมุ่นคิ้ว ทำมือเป็นกรงเล็บ คว้าตะบองจากชายคนนั้นในทันที เล็งไปที่ขาของเขาแล้วโจมตี

“อึก…”

“หญิงผู้นี้มีฝีมือ ก่อความวุ่นวาย รีบไปตามผู้อารักขา”

อวี้ชิงลั่วกลอกตา ก่อความวุ่นวายหรือ นี่ยังจะโยนความผิดให้นางอีก เข้าใจอันใดผิดหรือไม่?

เหลือคนรับใช้จวนเหมิงสองคนที่เริ่มถอยหลังกลับไป วิ่งขลุกๆ กลับเข้าไปในประตูจวน

แต่คนผู้นั้นยังไม่ทันเข้าไป ก็เห็นคนคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน

ทั้งสองคนตะลึงไป จากนั้นก็ดีใจ รีบวิ่งตรงไปข้างหน้า นิ้วชี้มายังอวี้ชิงลั่วแล้วกล่าว “ท่านรองอูขอรับ คนผู้นั้นก่อความวุ่นวายขอรับ”

อูเหมี่ยนเซิงมองตามไปยังทิศทางนิ้วของเขา คิ้วที่เดิมทีขมวดอยู่ก็คลายลงในทันที เขารีบยกชายผ้าแล้วเดินลงบันไดไป กล่าวอย่างมีความสุข “แม่นางถัง เจ้ามาแล้ว”

คนรับใช้สองสามคนนั้นเบิกตากว้าง มองดูท่าทางมีความสุขของอูเหมี่ยนเซิง

อวี้ชิงลั่วเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ยักไหล่แล้วชี้ไปยังคนรับใช้ที่กำลังตกตะลึง กล่าว “ข้ามาตั้งนานแล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่พวกเขาคิดว่าข้ามาก่อความวุ่นวาย”

ฝีเท้าของอูเหมี่ยนเซิงหยุดลง หันศีรษะในทันที มองพวกเขาสองสามคนพร้อมกล่าวอย่างโมโห “แม่นางถึงเป็นแขกของผู้อาวุโสสกุลเยว่ เหตุใดพวกเจ้าจึงพูดเรื่องไร้สาระแล้วทำให้แขกต้องขุ่นเคืองได้ อีกเดี๋ยวข้าจะบอกผู้อาวุโสสกุลเยว่เรื่องนี้” เขาไม่ใช่นายท่านของจวนนี้ จึงไม่มีสิทธิ์จัดการกับพวกเขา

แต่แม่นางถังเป็นคนที่เขาโน้มน้าวมาให้ช่วยรักษาเหมิงหรงอย่างยากลำบาก หากนางไม่พอใจแล้วกลับไปในทันที เขาจะต้องจัดการกับพวกเขาเป็นแน่

คนรับใช้สองสามคนนั้นหน้าซีด หวาดกลัวเล็กน้อย รีบตรงเข้ามาขอร้อง

อูเหมี่ยนเซิงเห็นพวกเขาเหมือนจะไปสร้างความรำคาญให้อวี้ชิงลั่วอีกครั้งก็โบกมือ ให้พวกเขาหลบไปอยู่ด้านหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มพูดกับอวี้ชิงลั่วด้วยรอยยิ้ม “แม่นางถัง เชิญทางนี้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่รออยู่ด้านในพักใหญ่แล้ว”

อวี้ชิงลั่วพยักหน้า มองคนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างแล้วหัวเราะเบาๆ ค่อยๆ เดินเข้าประตูไป

เหลือเพียงสองคนนั้นที่มองหน้ากันด้วยสีหน้าซีดเผือด

จวนของผู้อาวุโสสกุลเยว่นั้นใหญ่มาก ห้องโถงต่างๆ คดเคี้ยว ดูแล้วหรูหรากว่าจวนท่านอ๋องของเย่ซิวตู๋ประมาณหนึ่ง

แต่ก็จริงอยู่ อายุของเย่ซิวตู๋ยังน้อย ไม่เคยสนใจการตกแต่งจวน ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังอยู่ที่จวนไม่กี่ปี ในจวนเองก็ไม่มีหญิงสาวเลยสักคน จะเอามาเทียบกับจวนของผู้อาวุโสสกุลเยว่ที่มีรากฐานมาหลายสิบปีคงไม่ได้

อูเหมี่ยนเซิงมองดูสีหน้าของนางเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าไม่มีความผันผวนทางอารมณ์บนใบหน้าของนางเลย เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบประหลาดใจ จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่นั้นถูกบูรณะมาอย่างหรูหราสวยงามเกินจะหาใดเปรียบ ใครๆ ที่ได้มาต่างก็มีความตื่นตาตื่นใจอยู่ในแววตาทั้งนั้น

ได้ยินที่ผู้อาวุโสสกุลเยว่บอกว่า ลูกศิษย์สองคนของหมอเฒ่าฉยงซานนั้น ก็ยังตื่นตาตระการใจกับห้องโถงโอ่อ่านี้เช่นกัน แม้แต่ลูกศิษย์คนโตของหมอเฒ่าฉยงซานที่นิ่งสงบ แววตาของเขาก็ยังคงเป็นประกายเช่นกัน

แต่ดูเหมือนว่าแม่นางถังผู้นี้จะคุ้นเคยกับมัน เหมือนว่าจวนของผู้อาวุโสสกุลเยว่เช่นนี้ ถือว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่อันใดสำหรับนาง

แม่นางผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่นะ

อวี้ชิงลั่วติดตามอูเหมี่ยนเชิงอย่างสงบ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็หยุดอยู่ตรงหน้าหอกลางน้ำที่ชื่อว่า ‘เย่เซ่อ’

“แม่นางถังโปรดรอตรงนี้ ข้าจะเข้าไปคุยกับผู้อาวุโสสกุลเยว่แล้วจะกลับมา”

“เจ้าค่ะ” อวี้ชิงลั่วพยักหน้า หันศีรษะไปมองศาลาสามชั้นตรงหน้าตน

ที่นี่ช่างเงียบสงบห่างไกลผู้คน ลมพัดเย็น อากาศดี ดูแล้วเหมาะจะเป็นสถานที่สำหรับการพักฟื้นจริงๆ

ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง ผู้อาวุโสสกุลเยว่รักเหมิงหรงอย่างสุดซึ้ง ใช้พื้นที่สวนที่คนกล่าวกันว่าเป็นที่พักของอดีตฮูหยินเปลี่ยนให้เป็นสถานที่สำหรับพักฟื้นของบุตรชาย

“เจ้าเป็นใคร?”

ขณะที่อวี้ชิงลั่วละสายตากลับมา ก็ได้ยินน้ำเสียงอันหยาบคายดังมาจากด้านหลัง

นางตกใจ หันหน้าไป ก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นนาย คนหนึ่งเป็นบ่าว หญิงที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้จ้องมองนางอย่างไม่พอใจ

“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่?”

อวี้ชิงลั่วมองสาวใช้ผู้นั้น เลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถาม “พวกเจ้าต่างหากเป็นใคร ก่อนจะถามคำถามผู้อื่น ก็ควรแนะนำตนเองก่อนไม่ใช่หรือ”

“สามหาว ใครให้เจ้าหยาบคายกับฮูหยิน?”

อวี้ชิงลั่วเข้าใจในทันที ทั้งจวนของผู้อาวุโสสกุลเยว่นี้ คนที่จะถูกคนรับใช้เรียกว่าฮูหยินได้ มีเพียง… เหมิงเคอภรรยาของเหมิงหรง และยังเป็นผู้หญิงที่สั่งฆ่าเหมิงหลัวอวี้อีกด้วย

เพียงแต่นางเข้าใจมาตลอดว่าสตรีจิตใจโหดเหี้ยมผู้นี้ที่ดูแลทั้งจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ควรจะเป็นคนที่ท่าทางสง่างามและมีพลัง

คิดไม่ถึง หญิงงามจากตระกูลร่ำรวยเช่นนี้ นิสัยจะไม่เข้ากับภาพลักษณ์กันเอาเสียเลย

ไม่แปลกใจเลย แม้แต่คนอย่างผู้อาวุโสสกุลเยว่ ก็ยังมองไม่เห็นความชั่วร้ายที่อยู่ในใจลึกๆ ของนางได้

“เจ้าคือเหมิงเคอหรือ?” อวี้ชิงลั่วถามเสียงเบา

“เจ้ามันหน้าไม่อาย เจ้า…” สาวใช้เห็นนางพูดจาไม่เกรงใจ ก็โกรธเสียจนแทบจะพุ่งเข้าใส่

เหมิงเคอกลับยกมือโบก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ปี้เอ๋อร์อย่าหยาบคายสิ แม่นางผู้นี้มายืนอยู่หน้าหอนี้ได้ ก็ย่อมเป็นแขกของจวน แม่นาง ปี้เอ๋อร์ไม่รู้เรื่องรู้ราว โปรดได้อย่าโกรธเคืองนางเลย”

อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมา แน่ล่ะ เด็กห้าขวบอย่างเหมิงหลัวอวี้ จะมาประมือกับฮูหยินใหญ่ผู้นี้ได้อย่างไร

“ข้าไม่โต้เถียงกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่แล้ว เป็นเพียงของไร้ค่าเท่านั้นนี่” อวี้ชิงลั่วกล่าวเบาๆ

สีหน้าของเหมิงเคอแข็งทื่อไปในทันที แต่ต่อมาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง “ขอบคุณสำหรับความใจกว้างของแม่นาง ปี้เอ๋อร์ ยังไม่ขอโทษแม่นางอีกหรือ”

ปี้เอ๋อร์เบิกตากว้าง จ้องมองอวี้ชิงลั่วอย่างเกลียดชัง

เหมิงเคอกล่าวเร่งเร้า “ปี้เอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าเสียมารยาทกับแม่นางผู้นี้ คนในจวนของเรา ถึงแม้จะเป็นคนรับใช้ ต่างก็ประพฤติตัวในกฎเกณฑ์ ปกติข้าตามใจเจ้ามากไปอย่างนั้นหรือ เจ้าจึงทำให้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง ยังไม่รีบขอโทษอีก”

อวี้ชิงลั่วมองปี้เอ๋อร์แล้วยิ้ม ในหูได้ยินเสียงฝีเท้าของอูเหมี่ยนเซิงและผู้อาวุโสสกุลเยว่ดังแว่วมา

!!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ได้เจอคนทำร้ายน้องอวี้แล้ว ชิงลั่วจะทำยังไงต่อดี

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท