ตอนที่ 707 โจมตีอย่างโหดเหี้ยม
ตอนที่ 707 โจมตีอย่างโหดเหี้ยม
หัวใจของอวี้ชิงลั่วเต้นไม่เป็นจังหวะ มือของนางมีเหงื่อเย็นผุดซึมออกมาทันที
แม่นมเฝิงตายแล้ว แล้วชิวเอ๋อร์…
หงเย่ก็หน้าถอดสีเช่นกัน ทั้งสองคนรีบวิ่งไปที่ประตูโดยไม่สนใจแม่นมเฝิง
ทันทีที่พวกนางเข้าไป ดาบคมกริบก็ตวัดโจมตีตรงหน้าทันที หงเย่รีบเบี่ยงตัวหลบ แล้วดึงกระบี่ที่นางพกไว้ออกมาจากเอว ก่อนจะเข้าโรมรันกับคนผู้นั้นอย่างดุเดือด
อวี้ชิงลั่ววิ่งผ่านพวกเขาเข้าไปข้างใน เหงื่อผุดออกมาจากหน้าผากของนาง
นางสัญญาว่าหากเถี่ยชิวเอ๋อร์ช่วยนาง นางก็จะช่วยให้ได้พบกับเสี่ยวอวี้ หากอะไรเกิดขึ้นกับนางจะทำอย่างไร?
ทางเดินใต้ฝ่าเท้าของนางช่างซับซ้อน บ่งบอกว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่เห็นคุณค่าหลานสาวคนนี้ ซึ่งทำให้นางพึงพอใจมาก
แต่ตอนนี้นางเกลียดเรือนหลังใหญ่เช่นนี้มาก นางเดินวนไปมาก็ยังไม่พบใครเลย
อวี้ชิงลั่วก้าวเท้าเร็วขึ้น รู้สึกว่าความเสียใจใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของนางคือการไม่ได้ฝึกวิชาตัวเบา
จู่ ๆ ก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู
อวี้ชิงลั่วรู้สึกโล่งใจ แล้วรีบวิ่งไปยังแหล่งที่มาของเสียงทางด้านซ้าย
“ปัง” ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกนางเตะเปิดออก เมื่อนางดึงสติกลับคืนมาได้ นางก็เห็นเถี่ยชิวเอ๋อร์นอนอยู่บนพื้น พร้อมกับรอยแผลยาวจากคมดาบบนหลังของนาง เมื่อนางเปิดประตูเข้าไป ชายชุดดำกำลังพลิกตัวชิวเอ๋อร์ให้นอนหงาย แล้วจรดมีดสั้นลงไปที่ใบหน้าของนาง
อวี้ชิงลั่วตกใจมาก นี่เป็นการทำลายใบหน้าของนางเพื่อไม่ให้ใครจำนางได้
เมื่อได้ยินเสียง ชายชุดดำก็หันหน้ามามองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่ว เขาก็ทำได้เพียงทิ้งเถี่ยชิวเอ๋อร์ไว้ข้างหลังชั่วคราว แล้วกระโจนเข้าไปหานางโดยไม่พูดอะไรสักคำ
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วเย็นชา นางหลบการโจมตีของเขาด้วยการก้มศีรษะลง มือขวาของนางกลายเป็นกรงเล็บที่จับข้อเท้าของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วจับเหวี่ยงกระแทกอย่างแรง
ชายชุดดำตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งขณะหมุนตัวอยู่กลางอากาศ ก่อนปลิวไปกระแทกมุมห้องอย่างแรง
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเถี่ยชิวเอ๋อร์ ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่านางเป็นอย่างไรบ้าง? นางต้องรีบกำจัดชายชุดดำให้เร็วที่สุด แล้วรีบไปดูอาการของชิวเอ๋อร์
เมื่อเห็นว่านางกำลังเสียสมาธิ ชายชุดดำก็พุ่งเข้ามาหานางโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วกางมือไปที่ใบหน้าของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วก้มหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนยกเท้าขวาขึ้นเตะไปที่เป้ากางเกงของชายชุดดำสุดแรง
เป็นการลองวิธีต่อสู้กับศัตรูที่ได้ผลชะงัดนัก
ชายชุดดำอาจจะไม่เคยเจอวิธีต่อสู้ที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนขณะต่อสู้กับสตรี อีกทั้งอวี้ชิงลั่วยังออกแรงเต็มร้อย เหงื่อเย็นจึงผุดซึมออกมาจากหน้าผากของเขาทันที
ทันใดนั้นเข็มเงินสามเล่มก็ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วของอวี้ชิงลั่ว แล้วพุ่งเข้าไปปักร่างกายของเขาอย่างแม่นยำ
ชายชุดดำร้องออกมา จากนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายของตนแข็งทื่อ แล้วหมดสติไป
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วรีบวิ่งไปอยู่ข้างเถี่ยชิวเอ๋อร์
เมื่อนางเห็นเลือดสีแดงสดเจิ่งนองอยู่บนพื้นใต้ร่างของเด็กน้อย นางก็รู้สึกหนาวสะท้านในหัวใจทันที เมื่อนางใช้นิ้วจับชีพจร นางก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ
วินาทีต่อมา นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
โชคดีที่แม้ชีพจรจะเต้นอ่อนมาก แต่ก็ยังมีสัญญาณของการมีชีวิต
อวี้ชิงลั่วรีบพลิกตัวเถี่ยชิวเอ๋อร์อย่างระมัดระวัง แล้วห้ามเลือดให้นางก่อน
จนกระทั่งนางเห็นว่าเลือดหยุดไหลแล้ว นางจึงอุ้มเด็กน้อยด้วยความยากลำบาก แล้ววางนางลงบนเตียงเล็ก ๆ ด้านข้าง ก่อนจะป้อนยาเข้าไปในปากเด็ก จากนั้นจึงเริ่มรักษานางต่อด้วยความระมัดระวัง
เสียงของการต่อสู้กันดังอยู่ด้านนอกประตู และดูเหมือนว่ามีแนวโน้มจะขยับเข้ามาใกล้บริเวณนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วตึงเครียด นางไม่ได้เอ่ยคำใดแม้สักคำ แต่นิ้วของนางกำลังเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
เถี่ยชิวเอ๋อร์คงรู้สึกเจ็บจากการพยายามห้ามเลือด นางร้องครวญครางออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ก่อนลืมตาขึ้นช้า ๆ เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วก็ร้องไห้ออกมาทันที
“ท่านน้าชิง…”
“จุ๊ ๆ ไม่ต้องพูด เงียบเสีย น้าจะช่วยทำแผลให้ ประเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”
เถี่ยชิวเอ๋อร์น้ำตาไหลตลอดเวลา นางยังเป็นเพียงเด็กอายุห้าขวบ แม้จะถูกพ่อแม่ลงโทษอยู่บ่อยครั้ง แต่นางก็ไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้
“เจ็บมากเลย”
ความรู้สึกร้อนผ่าวบนแผ่นหลังทำให้นางตัวสั่นสะท้านหลายครั้ง ราวกับว่าถูกแส้จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่า
อวี้ชิงลั่วรู้สึกหดหู่มากเมื่อเห็นเด็กน้อยเป็นเช่นนั้น นางจึงได้แต่ใส่ยาต่อไปและพูดปลอบนาง “ท่านน้าชิงรู้แล้ว แต่ผงยาสลบของข้ายังอยู่ในเย่เซ่อ สถานการณ์ของเจ้าเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าไม่มีเวลาไปรับยา อดทนหน่อยนะ แล้วเจ้าก็จะหาย ตกลงหรือไม่?”
ยาสลบหมดเร็วมากและนางก็ยุ่งเกินกว่าจะปรุงขึ้นใหม่ นางทำได้เพียงใช้ผงยาสลบจากคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสกุลเยว่ และย่อมไม่ได้นำมันออกมาหลังออกมาจากเย่เซ่อแล้ว
“…อืม” แม้มันเจ็บปวดแสนสาหัส แต่เถี่ยชิวเอ๋อร์ก็กัดริมฝีปากแน่นอย่างเชื่อฟัง หลังจากได้ยินคำพูดของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วเห็นว่าริมฝีปากสีซีดของนางถูกกัดจนเป็นสีน้ำเงินช้ำ นางจึงรีบมองไปทางอื่น แล้วจดจ่อกับบาดแผลบนหลังของนาง และรีบรักษาอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้นอกประตูทวีความรุนแรงมากขึ้น และเข้ามาใกล้มากขึ้น
เถี่ยชิวเอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ร่องรอยความตื่นตระหนกก็ฉายในดวงตา อดทนต่อความเจ็บปวดและรีบพูดว่า “ท่านน้าชิง มีคนร้าย ท่านหนี ไป ไป โอ๊ย…”
มันเจ็บจริงๆ เจ็บกว่าตอนที่ข้อเท้าแพลงมาก
“อย่าเพิ่งปริปากเลย” อวี้ชิงลั่วไม่ได้ไม่อยากเสียสมาธิ แต่นางรู้ว่าสถานการณ์กำลังเลวร้าย
ฟังจากเสียงการเคลื่อนไหวแล้ว ดูเหมือนว่ามีคนมากกว่าสองคนกำลังต่อสู้กัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหงเย่ต้องรับมือกับชายชุดดำมากกว่าในตอนแรก
แน่นอนว่าวินาทีต่อมา หลายคนก็เข้ามาในห้อง
ชายชุดดำคนหนึ่งมีดวงตาเฉียบคม เมื่อเห็นว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่ และเห็นว่าอวี้ชิงลั่วกำลังรักษานาง เขาก็ขมวดคิ้วทันที แล้วจ่อดาบเข้าหาทั้งสอง
ทันทีที่เถี่ยชิวเอ๋อร์หันมามอง นางก็เห็นแสงเย็นของดาบชี้มาที่พวกนาง จึงอุทานออกมาทันทีว่า “ท่านน้าชิง ระวัง”
ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วเต็มไปด้วยความโกรธ นางหันหลังไปทันที มีดสั้นที่ปรากฏอยู่ในมือของนางถูกขว้างไปยังชายชุดดำ
ชายชุดดำนึกเย้ยหยัน แล้วใช้ดาบขวางมีดสั้นที่ลอยมา
อวี้ชิงลั่วใช้ประโยชน์จากความเบี่ยงเบนความสนใจของเขา แส้ยาวเรียวพลันปรากฏในมือของนาง ก่อนเล็งไปยังคอของชายชุดดำแล้วรัดแน่น
นางไม่ค่อยได้ใช้แส้ มันคืออาวุธที่จินหลิวหลีถนัด ทว่าในบรรดาทักษะป้องกันตัวมากมายที่จะช่วยนางได้ จินหลิวหลียังได้สอนทักษะการใช้แส้ให้อีกด้วย
ชายชุดดำชะงักไปครู่หนึ่ง เขาคาดไม่ถึงว่าอวี้ชิงลั่วจะเคลื่อนไหวเร็วถึงเพียงนี้
ทันทีที่นางดึงมือออก ชายชุดดำก็ตอบสนองไม่ทันท่วงที และกระแทกเข้ากับตู้เตี้ยข้าง ๆ เข็มเงินในมือของอวี้ชิงลั่วพุ่งไปปักกลางหน้าผากของเขาทันที ทำให้ชายชุดดำเอนฟุบลงอย่างรวดเร็วและสลบไป
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็เห็นสถานการณ์ในห้องอย่างชัดเจน มีชายชุดดำอีกสองคนกำลังต่อสู้กับหงเย่อยู่
เหมิงเคอผู้นี้ยินดีทุ่มเงินทั้งหมดเพื่อฆ่าเด็กที่ไม่มีแม้แต่แรงจะฆ่าไก่ นางจ้างชายชุดดำฝีมือดีหลายคน
อวี้ชิงลั่วต้องการก้าวเข้าไปช่วยหงเย่ แต่บาดแผลของเถี่ยชิวเอ๋อร์เพิ่งได้รับการรักษาไปเพียงครึ่งเดียว ดังนั้นนางจึงไม่อาจรอช้าได้
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปอยู่ข้างเถี่ยชิวเอ๋อร์ และแน่นอนว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์ก็หมดสติไปอีกครั้งเนื่องจากความเจ็บปวดรุนแรงจากบาดแผล
ขณะที่หงเย่และอวี้ชิงลั่วไม่มีเวลามาคิดฟุ้งซ่าน มีสายตาคู่หนึ่งนอกหน้าต่าง กำลังจ้องมองสถานการณ์ข้างในอย่างใกล้ชิด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เจ้าของดวงตาก็แวบผ่านหน้าต่างไป
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครมาซุ่มดูอีกล่ะเนี่ย จะเข้ามาช่วยหรือเข้ามาทำร้ายซ้ำเติม?
ไหหม่า(海馬)